บทที่ 180 เริ่มการปรุงยา[รีไรท์]
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พระอาทิตย์เริ่มตกลงสู่ผืนดิน
บนภูเขาเฉียนหลงในฤดูหนาว ภายในดวงตาของผู้คนเต็มไปด้วยความมัวเมา ในโลกแห่งยุทธภพการดื่มไวน์ดี ๆ พร้อมบรรยากาศแบบนี้ถือว่าไม่เลวนัก แม้ว่าพวกเขาจะดื่มไปมากมาย แต่ก็ทำอะไรจอมยุทธ์แบบพวกเขาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ตอนนี้มันก็สายมากแล้ว ถึงเวลาที่งานเลี้ยงจะต้องเลิกรา ฉู่ชวิ๋นไปส่งพวกเขาลงจากภูเขาแห่งนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้เขาพอใจไม่น้อย
ฉู่ชวิ๋นรู้ว่าแม้คนเหล่านี้จะไม่ใช่เพื่อน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็จะไม่เป็นศัตรูกับคฤหาสน์ตระกูลฉู่
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขารู้สึกขอบคุณวิชากระบี่ของฉู่ชวิ๋นมากที่ทำให้พวกเขาพัฒนาตัวเองไปได้อีกขั้น แถมพวกเขายังได้เห็นสำนักสวรรค์ฟ้าต้องอับอายนับว่าหาดูได้ยากจริง ๆ
ตอนนี้จิตใจของ ฉู่ชวิ๋นเขาไม่ได้ต้องการถอนรากถอนโคนสำนักสวรรค์ฟ้าที่มีเบื้องหลังยาวนานกว่าหลายศตวรรษเท่านั้น แต่เขายังอยากให้พวกมันถูกตราหน้าไปอีกหลายพันปี
หัวใจของฉู่ชวิ๋นนั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขารู้ดีว่ามันเป็นสิ่งที่อันตรายและแย่มากที่จิตใจเต็มไปด้วยความอาฆาตแบบนี้มันจะทำให้เขาพัฒนาได้ช้ากว่าปกติ แต่เขาไม่อยากเป็นเซียนที่ทำเป้าหมายไม่สำเร็จ
เขาแค่อยากอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขก็เท่านั้นเอง!!!
ระหว่างทางลงภูเขา เด็กสาวมองมาที่เขาพร้อมกับเงยศีรษะแล้วพูดว่า “ฉันไม่เคยชอบใครมาก่อนเลย นายเป็นคนแรก” ฉู่ชวิ๋นนิ่งเงียบ เขาไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดีเพราะเขาไม่เก่งในเรื่องแบบนี้จริง ๆ
ดวงตาของเด็กคนนั้นเยือกเย็นและจากนั้นเธอก็แสร้งทำเป็นปกติ “ช่างมันเถอะ ฉันรู้ว่ามีคนมากมายที่ไม่ชอบฉัน และนายก็เป็นหนึ่งในนั้น”
ฉู่ชวิ๋นชะงักอยู่ครู่หนึ่ง “การชอบแบบที่เธอต้องการ ฉันไม่สามารถมอบให้เธอได้ แต่ฉันชอบบุคลิกของเธอนะ แถมร่างกายเธอก็ดูดีด้วยนับว่าเป็นจิตวิญญาณหนึ่งในพันที่น่าสนใจทีเดียว” ดวงตาที่ดูเศร้าสร้อยของเด็กสาวเริ่มมีสีสัน เธอหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
“สามารถทำให้ฉู่ชวิ๋นชอบได้ มันมากพอที่จะทำให้คนจำนวนไม่น้อยอิจฉาเลยทีเดียว”
ฉู่ชวิ๋นหัวเราะเบา ๆ แต่ไม่ได้ตอบอะไร เมื่อถึงเชิงเขาแล้วทุกคนก็จากไป คนเหล่านั้นบอกกับเขาก่อนออกเดินทางว่าเมื่อเขาปีนขึ้นไปที่ภูเขาเซวียนฉี พวกเขาจะไปรวมตัวกันเพื่อเป็นกำลังใจให้
งานฉลองเปิดคฤหาสน์ตระกูลฉู่จึงสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ กระบวนการนี้ค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย แต่ในตอนจบนั้นฉู่ชวิ๋นค่อนข้างพอใจ
วันถัดมา
ฉู่ชวิ๋นขอให้หลงอ๋าวและคนอื่น ๆ เดินทางไปที่ภัตตาคารป่าไผ่สีม่วงสักพักแล้วรอรับข่าวอยู่ที่นั่น เพราะเขาต้องการที่จะเริ่มการปรุงยา
การปรุงยาไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่ถ้าเตาที่ปรุงยานี้ระเบิดมันจะระเบิดทั้งภูเขาเฉียนหลงจนได้รับผลกระทบทั้งหมด
หากเตาปรุงยาระเบิด พลังของมันนั้นจะไม่ต่ำกว่าระเบิดมิสไซล์เลยทีเดียว หลังจากทุกคนออกไป มีเพียงฉู่ชวิ๋นเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่บนภูเขาเฉียนหลง
เตาสูงเกือบครึ่งร่างของเขาตั้งอยู่กึ่งกลางของลานกว้าง ฉู่ชวิ๋นคว้าหินวิญญาณปลอมขึ้นมาและวาดไปมาเหมือนมีด แกะสลักกลายเป็นลวดลายที่เรียบง่ายและลึกลับ
เขาไม่ได้อยู่ในขั้นปราณแรกเริ่ม เลยไม่สามารถสร้างไฟต้นกำเนิดขึ้นมาได้ เลยสามารถใช้ได้เพียงวิธีนี้เท่านั้น
“วิชา เก้ามังกรเพลิงสุริยัน!”
หลังจากเตรียมเสร็จฉู่ชวิ๋นก็มายืนอยู่ข้างเตาหลอมและใส่วัตถุดิบทั้งหมดลงไปในหม้อปรุงยา
“มังกร!”
นิ้วชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าอากาศ อากาศเกิดการบิดเบี้ยว
ตู้มมมม … !
มังกรไฟหลายร้อยตัวพุ่งขึ้นไปบนฟ้า อากาศที่เจอกับความร้อนเกิดการระเบิดขึ้น พื้นที่โดยรอบกลายเป็นพื้นที่สุญญากาศทันที
“ตั้งขบวน!” ฉู่ชวิ๋นยื่นมือออกไปพร้อมกับโบกสะบัดเป็นท่าทางที่งดงาม
วู้ว…!
มังกรไฟหลายร้อยตัวพุ่งตรงไปที่เตาหลอม พวกมันม้วนตัวเกิดเปลวไฟที่น่าหวาดหวั่นออกมาและเริ่มแผดเผาเตาหลอมการปรุงยาขั้นหนึ่ง!
มังกรไฟหลายร้อยตัวยังคงแผดเผาต่อไปนานกว่าสามชั่วโมง ในเวลานี้เตาหลอมถูกหล่อเหมือนแมกมาและอุณหภูมิก็สูงมากจนน่ากลัว
การปรุงยาขั้นที่สอง!
หญ้าสีเขียวทั้งหมดที่มีดวงตาสีเขียวจาง ๆ ถูกโยนเข้าไปในเตาสีแดง หญ้าวิญญาณถูกเผาเป็นเถ้าโดยไม่จมลงไปก้นเตา เศษเถ้าลอยออกจากเตาปรุงยา น้ำหยดใสๆ ลอยวนอยู่ในเตาเกิดแสงสีเขียวเปล่งประกายเต็มไปด้วยชีวิตชีวา สายพันธุ์หนึ่งของหญ้าวิญญาณ น้ำอมฤตถูกใส่ลงไปในเตาหลอมสีแดง
ในเวลานี้ เตาสีแดงนั้นเปรียบเสมือนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวและสารที่สกัดจากหญ้าวิญญาณและน้ำอมฤตกลายเป็นละอองน้ำที่ถูกฉีดพ่นด้วยแสงสว่างจนมันส่องสว่างราวกับดวงดาว
แก่นแท้ของการปรุงยาชนิดนี้ยังไม่ใช่สภาวะที่บริสุทธิ์ที่สุด มันยังคงต้องได้รับการขัดเกลาอีกมาก
มังกรไฟหลายร้อยตัวถูกพัดผ่านและสิ่งที่สกัดออกมาได้นั้นถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับสิ่งสกปรกที่ถูกชำระให้บริสุทธิ์
แต่ในขั้นตอนของการดับไฟและการชำระให้บริสุทธิ์นั้นใช้เวลาทั้งวัน
วันรุ่งขึ้น ในตอนเที่ยงมันเป็นเวลาที่เต็มไปด้วยหยางอัดแน่นที่สุดในวันนั้น ฉู่ชวิ๋นหยิบก้อนหินสีแดงขนาดเท่ากำปั้น ซึ่งได้มาจากประตูทองและวาดไปมาเหมือนมีดหนึ่งจังหวะ ก้อนหินสีแดงก็ถูกตัดออกจากกัน ก้อนหินสีแดงที่ถูกตัดถูกโยนลงไปในเตาสีแดง
หลังจากผ่านไปครึ่งก้านธูป ก้อนหินนั้นก็กลายเป็นกลุ่มก้อนเลือดสีแดง
ขั้นต่อไปคือการควบแน่นซึ่งเป็น…
ขั้นตอนที่สาม!
ขั้นตอนนี้ต้องเข้มงวดที่สุดในการควบคุมองค์ประกอบของยาอายุวัฒนะ
แต่มันไม่ได้ยากสำหรับเขา เพราะเขาเป็นปรมาจารย์การปรุงยาเมื่อตอนที่เขาอยู่ในโลกแห่งเซียน แถมตอนนี้เขาได้ฝึกฝนอีกเป็นครั้งที่สอง เขาก็ยังเดินในเส้นทางที่เคยผ่านมาแล้วทำให้การควบคุมลมปราณของเขาก็เกือบจะสมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีเส้นไหมวิญญาณซึ่งเขาได้ใช้การปรุงยาเช่นกัน
เส้นไหมวิญญาณจำนวนมากปรากฏขึ้น เหมือนงูขาวที่เลื้อย ๆ ไปรอบ ๆ ตัวฉู่ชวิ๋น นิ้วทั้งห้าของฉู่ชวิ๋นสะบัด เส้นไหมจำนวนมากเคลื่อนลงสู่เตาหลอมจากนั้นก็แผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ละเส้นหุ้มรอบหยดของแก่นยาที่ถูกสกัดไว้ ฉู่ชวิ๋นควบคุมแต่ละเส้นของไหมอย่างระมัดระวังเพื่อให้ผ่านไปสู่ขั้นต่อไป ทุก ๆ มิลลิเมตรที่เส้นไหมเคลื่อนที่ไปมา หน้าผากของฉู่ชวิ๋นก็ชุ่มไปด้วยหยดของเหงื่อ
ยาเหล่งเช่าเป็นยาที่ช่วยทะลวงเส้นลมปราณ เป็นเรื่องยากมากที่จะรวมเข้าด้วยกันวัตถุดิบเพื่อสร้างเป็น ยาอายุวัฒนะ
นี่เป็นกระบวนการที่ยาวนานซึ่งต้องมุ่งความสนใจและสมาธิอย่างเต็มที่ หากประมาทเลินเล่อเด็ดขาด ไม่งั้นสารสกัด
ที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้จะระเหยและกระจายไปตามเปลวเพลิงแล้วการปรุงยาจะล้มเหลวทันที!!
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยศักดิ์ศรีของฉู่ชวิ๋นหายไป แม้แต่ลมหายใจของเขาก็หยุดนิ่ง เขาไม่กล้าหายใจต่อ
สารสกัดที่กำลังกลั่นนั้นถูกผลักดันด้วยเส้นไหมที่เคลื่อนไปมาเพียงไม่กี่มิลลิเมตรทุก ๆ ชั่วโมง
ผ่านไปสองวันแล้วตอนนี้สารสกัดเหล่านี้เกือบจะรวมเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ ขั้นต่อไปคือการรวมตัวกันซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด!!!!
ดวงตาของฉู่ชวิ๋นหรี่แคบลงเล็กน้อย ไม่นานดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย มือของเขาสะบัดไปมาและจากนั้นเขาก็ประกบเข้าด้วยกันพร้อมคำรามเสียงดัง “จงหลอมรวม”
ทหารวิญญาณปรากฏตัวรอบ ๆ เหมือนพวกเขาได้รับคำสั่งสำคัญพวกเขาไปพร้อม ๆ กันผลักสารสกัดเหล่านี้เข้าด้วยกันอย่างรุนแรง
ตู้มม!
สารสกัดหลายสิบหยดถูกหลอมรวมเข้าด้วยกันและเส้นด้ายจำนวนมากก็ถูกรวมเข้าไปอย่างรวดเร็วและถูกกดทับ เพื่อสร้างลูกบอลสารสกัดขนาดเท่ากำปั้น
ในช่วงเวลานั้นเอง ออร่าจากแสงหลายสิบดวงก็โผล่ออกมาจากรอยแยกที่ห่อหุ้มด้วยเส้นไหม เกิดแสงส่องสว่างไกลถึงสิบเมตรโดยรอบปรากฏแสงห้าเฉดสีที่สวยงาม
ในเวลาเดียวกันมังกรไฟหลายร้อยตัวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า กวาดลงมาและเริ่มที่จะเผาไหม้เตาจนเป็นสีแดง
แสงห้าเฉดสีเริ่มมาบรรจบกัน ลูกบอลขนาดกำปั้น เริ่มมีเสถียรภาพ เส้นไหมวิญญาณก็คลายออกและทิ้งเหลือเพียงหนึ่ง สิ่งที่แหวกว่ายอยู่ในเตาหลอม
เขาเหยียดมือของเขาออกไป เส้นไหมในเตาหลอมกลายเป็นสิ่งแหลมคมราวกับคมมีด แบ่งสารสกัดกำปั้นนั้นออกเป็นยี่สิบส่วน แต่ละอันมีขนาดเท่านิ้วโป้งและเป็นทรงกลม
ฉู่ชวิ๋นอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลเกินไป กุญแจสำคัญคือส่วนประกอบในสกัดเม็ดยาที่ยุ่งยากนั้นหายากเกินไปในโลกนี้ เขาไม่สามารถที่จะล้มเหลวได้ โชคดีที่ทุกอย่างปลอดภัยและราบรื่นกว่าที่คาดไว้
แกร๊ก!
ทันใดนั้นเสียงที่บางเบาราวกับหินที่แตกออกก็ดังขึ้น ใบหน้าของฉู่ชวิ๋นเปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขาเหมือนมีไฟฟ้าสถิต เขาเริ่มมองไปรอบ ๆ เตาเผาสีแดง
เมื่อเขาเดินไปที่ด้านหลังของเตาหลอม เขาก็หยุดชะงักทันที มองเห็นเขารอยแตกที่แผ่กระจายจากด้านบนและเกือบจะถึงก้นของเตา
คำถามที่น่ากังวลที่สุดกำลังมา ด้วยรอยแตกนี้เตาหลอมสีแดงกลายเป็นปัญหาใหญ่ในเวลาวิกฤติทันที และในเวลานี้รอยแตกหลายแห่ง ก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่ว
ใบหน้าของฉู่ชวิ๋นมืดครึ้ม หากเขาไม่ระวัง มันจะเกิดอันตรายจากการระเบิดของเตาและการปรุงยาจะล้มเหลว
ตู้มม!
ทันใดนั้นร่างกายของฉู่ชวิ๋นก็เต็มไปด้วยเส้นไหม เวลาเดียวกันมันก็ม้วนตัวอย่างรวดเร็วไปพันรอบเตาเผาสีแดง เตาสีแดงทั้งหมดถูกห่อไปด้วยเส้นไหมวิญญาณทันที