ตอนที่ 189 : น้องชายนายชื่ออะไร ?

ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统)

ตอนที่ 189 : น้องชายนายชื่ออะไร ?

ของในกระเป๋ามิติทั้งสามใบถูกแบ่งออกเป็นกอง ๆ

ของที่ไม่ต้องการเขาเก็บไว้ในกระเป๋ามิติอีกใบ ส่วนกระเป๋ามิติอีก 2 ใบนั้นเขาใส่ของอื่น ๆ ไว้จนเต็ม ส่วนของที่เขาต้องใช้งานนั้นอยู่ในกระเป๋ามิติที่คาดไว้ที่เอวเพื่อความสะดวก

เขากลับมารับหญิงสาวและพาทุกคนกลับขึ้นไปที่พื้นดิน

พวกเขายังอยู่ที่ภูเขาผลไม้อยู่ ต้นไม้ที่นี่บดบังแสงอาทิตย์เอาไว้

หวังเย่าเรียกการ์ฟิลด์ออกมาดูแลความปลอดภัยของทุกคน ส่วนเขาก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่สูงกว่า 200 เมตรเพื่อตรวจสอบภูมิประเทศและทิศทาง

“เพราะตอนกลางคืนมันมึดมาก ก็เลยไม่รู้ว่าทิศไหนเป็นทิศไหน ตอนนี้ฉันพาทุกคนเดินเบี่ยงจากเส้นทางเดิมถึง 30 องศาเลยอย่างนั้นหรือ”  หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า

เพราะมิติลับจำนวนมากที่เชื่อมต่อกับโลก จึงทำให้สนามแม่เหล็กของโลกเปลี่ยนไปด้วย เข็มทิศและเครื่องมืออื่น ๆ ไม่อาจจะใช้งานได้อีก รวมทั้งความมึดมิดในยามค่ำคืนจึงส่งผลให้คลาดเคลื่อนจากเส้นทางที่วางไว้

ดาวเทียมนั้นโดนสัตว์อสูรโจมตีจนพังลงมาแล้ว บางอันหลงเข้าไปในมิติลับจนทำให้สัญญาณขาดหายไป ดังนั้นเมื่ออยู่ในป่าจึงไม่อาจจะบอกตำแหน่งและสื่อสารกับใครได้ พวกเขาไม่อาจจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ด้วยซ้ำ

มันทำให้มนุษย์ยากที่จะทวงคืนพื้นที่กลับมา

ดังนั้นเมื่อหวังเย่าอยู่ในภูเขาผลไม้นี้เขาจึงหมดหนทาง เขาไม่อาจจะติดต่อไปที่เมืองได้ เขาได้แต่เลือกเส้นทางสักเส้นทางหนึ่ง ก่อนจะพาเหล่าหญิงสาวเดินทางออกจากภูเขาผลไม้นี้ไป

หญิงสาวกว่า 60 คนนี้ไม่อาจจะนั่งบนหลังของการ์ฟิลด์ได้ทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความแข็งแกร่งที่ลดลง ก็ไม่แน่ว่าพวกเธอจะสามารถนั่งบนหลังของการ์ฟิลด์ได้อย่างมั่นคงหรือไม่

อีกทั้งในหมู่พวกเธอก็มีคนที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ทำให้เดินทางไม่ค่อยสะดวกมากนัก ดังนั้นจึงต้องหาอะไรมาบรรทุกเพื่อให้การ์ฟิลด์ลากพวกเธอไป

“ขืนเดินทางกลับแบบนี้คงไม่ไหวแน่ ” หลังจากที่เดินทางมาได้ 1 ชั่วโมง หวังเย่าก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ เพราะตอนนี้เขาเดินทางได้ไม่ถึง 10 ไมล์เลยด้วยซ้ำ

“ เฮ้อ ลองดูละกัน”  เขาเอาปืนพลุออกมาก่อนจะชี้ขึ้นไปบนฟ้า

เขาทำการยิงพลุ เมื่อพลุพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้ามันก็ระเบิดออก นี่มันยังกลางวันอยู่เลย ท้องฟ้ายังคงสว่างแต่หากมีคนอยู่ใกล้ที่นี้มันก็น่าจะเห็น

หวังเย่าคิดจะเสี่ยงโชค แน่นอนหากเขาโชคร้าย เขาคงทำให้พวกโจรรู้ตำแหน่งของพวกเขา

แต่ตามข้อมูลจากซ่งฉ่านแล้ว โจรอีกกลุ่มอยู่ห่างจากที่นี้ออกไป 500 ไมล์ ดังนั้นพวกเขาไม่น่าจะถูกพบตัวได้ง่าย

หลังจากที่ยิงพลุออกไปแล้ว หวังเย่าก็ไม่รอการตอบรับใด ๆ เขาได้แต่บอกให้หญิงสาวไปนั่งพักตามต้นไม้ก่อนจะออกเดินทางอีกครั้ง

จนกระทั่งตอนบ่าย หวังเย่าก็ได้พาพวกเธอออกมาจากภูเขาผลไม้ ตอนนั้นถนนและเส้นทางดีขึ้นมามาก มันกลายเป็นพื้นที่ราบที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

หวังเย่าเอาปืนพลุออกมาและยิงออกไปอีกครั้ง

ปัง !

ครั้งนี้เขาโชคดีอย่างมาก ไม่ถึง 20 นาทีก็มีคนพากันแห่เข้ามา คนพวกนี้คือทีมทหารรับจ้างทีมเล็กที่มีคนประมาณ 10 คน คนพวกนี้แต่งตัวดีและถึงกับขี่สัตว์อสูรมาด้วย

“ผู้ตรวจสอบหวังเย่า มีคนกำลังมา..อ่ะ นั่นกลุ่มทหารรับจ้างวัวคลั่งไม่ใช่หรือ”  หลิงชิงซวินเผยสีหน้ายินดีออกมาทันที

หวังเย่าพยักหน้า เขาไม่ใช่คนเมืองฉางอัน เขาไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้จักกลุ่มทหารรับจ้างพวกนี้

หลิงชิงซวินอธิบายออกมา  “กลุ่มทหารรับจ้างวัวคลั่งคือกองกำลังทหารรับจ้างระดับ 3 ดาว พวกเขามีสมาชิกไม่มาก แต่ทุกคนต่างก็แข็งแกร่ง เพราะพวกเขารับแต่ทหารรับจ้างที่มีอสูรเป็นพาหนะ จะเรียกพวกเขาว่ากองทหารม้าก็ได้ พวกเขาเชี่ยวชาญการโจมตีในพื้นที่กว้างและที่ราบ โดยเฉพาะการล่าสัตว์อสูรด้วยการล้อมและพุ่งฆ่า”

หวังเย่าคิด ก่อนจะมีความคิดหนึ่งโผล่ขึ้นมา เขาปรบมือขึ้นมาทันที  “ใช่สิ ทหารม้า ! ”

“อะไรหรือ ? ”   หลิงชิงซวินถามออกมาด้วยความสับสน

หญิงสาวคนอื่น ๆ ต่างก็พากันสับสนและไม่รู้ว่าหวังเย่าคิดอะไรอยู่

หวังเย่ารู้ว่าเขาทำตัวแปลก ๆ จึงได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ออกมาแต่ในใจของเขานั้นกลับตื่นเต้นอย่างมาก

ตั้งแต่วางแผนก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้าง หวังเย่าก็รู้สึกลังเลมาโดยตลอด แม้ตอนนี้เขาจะตั้งบริษัทสำรวจพื้นที่หัวเซี่ยจำกัดและกลุ่มทหารรับจ้างโลกาขึ้นมา แต่รูปแบบของกองทหารนั้นยังไม่ได้ถูกตัดสิน

พูดกันตามตรง การมีอยู่ของกลุ่มทหารรับจ้างนั้นไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบอะไร ก็เหมือนกับกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มอื่น ๆ ทั่วไปแค่รับทหารรับจ้างที่อายุน้อยแต่มีพรสวรรค์และพลังที่แข็งแกร่ง จากนั้นก็พาไปนอกเมืองเพื่อทำภารกิจต่าง ๆ พอกลุ่มของตัวเองเลื่อนระดับ ก็รับสมัครคนอีกและพาไปรับภารกิจระดับสูงเพื่อเลื่อนระดับกองกำลังของตัวเอง นี้คือรูปแบบปกติทั่วไป ที่ไม่มีเอกลักษณ์อะไรที่ชัดจน

แต่หวังเย่ารู้สึกว่าวิธีนี้มันมีจุดอ่อนอยู่ เขาเคยคิดมาหลายครั้งแต่ก็ไม่อาจจะหาข้อเสียของมันได้

จนกระทั่งได้เห็นกลุ่มทหารรับจ้างวัวคลั่งก็ทำให้เขาเข้าใจว่าเขาอยากสร้างกลุ่มทหารรับจ้างแบบไหนขึ้นมา

“ฉันแตกต่างจากคนอื่น ๆ เพราะว่าฉันมีระบบวิวัฒนาการสัตว์อสูร ฉันสามารถวิวัฒนาการสัตว์อสูรให้กับคนอื่น ๆ ได้ ถ้าสามารถใช้สิ่งนี้ให้เกิดประโยชน์ ก็สามารถสร้างกลุ่มทหารรับจ้างได้ทุกรูปแบบ”

“ฉันสามารถสร้างกลุ่มทหารรับจ้างทางอากาศขึ้นมาได้ ซึ่งสามารถรบในอากาศได้ และสร้างกลุ่มทหารรับจ้างหลาย ๆ แบบขึ้นมาอย่างทหารม้า, ทหารราบ, ทหารระยะไกล, ทหารน้ำ ได้ยินมาว่าสัตว์อสูรในทะเลน่ะตัวใหญ่และดุร้าย มันจัดการได้ยากกว่าสัตว์อสูรบนดิน”

“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมนุษย์ถึงไม่ก้าวหน้ามากนัก”

“เดาว่านี่คงเป็นสาเหตุ เพราะไม่มีรูปแบบกองทัพที่ดีพอ มันจึงมีจุดอ่อนอยู่หลายจุด ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่รู้เลยว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะทวงดินแดนกลับมาได้ ? ”

หวังเย่าอยากจะคิดต่อแต่กลุ่มทหารรับจ้างวัวคลั่งก็เดินทางมาถึงตรงหน้าเขาแล้ว

 “น้องชาย ฉันคือหัวหน้าทีมย่อยของกลุ่มทหารรับจ้างวัวคลั่งจากเมืองฉางอัน ข้ามีนามว่าเฮ่อจ้วงกั๋ว นายเป็นคนยิงพลุนั่นหรือ ? ”

หวังเย่าเงยหน้าขึ้นและพบทหารรับจ้าง 16 คนตรงหน้าเขา ซึ่งนำทีมโดยเฮ่อจ้วงกั๋ว

อสูรประเภทวัวของเขามีขนาดตัวที่ใหญ่กว่าตัวอื่น ๆ แม้จะเป็นประเภทเดียวกันแต่สายพันธุ์กลับแตกต่างกัน บางตัวเป็นวัวคลั่งกระหายเลือด บางตัวเป็นวัวศึกทองคำ บางตัวก็เป็นวัวดำหกขา

สายพันธุ์ที่แตกต่างกันก็หมายถึงเลเวลที่ต่างกันด้วย บางตัวเลเวล 30 บางตัวเลเวล 48

หวังเย่าถอนหายใจออกมา เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมรูปแบบทหารถึงยังไม่พัฒนา นี่คือหตุผลของมันนั่นเอง

“ ใช่ ฉันเป็นคนยิงพลุนั่นเอง โชคดีที่พวกคุณอยู่ใกล้ ๆ ไม่อย่างงั้นแล้วถึงผมจะเรียกใครไป ก็ไม่มีใครตอบรับ”  หวังเย่ายิ้มออกมา สุดท้ายเขาก็คลายกังวลได้สักที จากนั้นเขาก็ได้เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับกลุ่มทหารรับจ้างวัวคลั่งฟัง

หลังจากที่เล่าจบเขาก็พบว่ากลุ่มทหารรับจ้างต่างก็พากันมองมาที่เขาด้วยท่าทีแปลกใจ

“อะไรกัน ? ไม่เชื่องั้นหรือ ? ”  หวังเย่าถามขึ้นมา

“เชื่อสิ ยังไงซะก็มีคนมากมายเป็นพยานให้นายได้ ”  เฮ่อจ้วงกั๋วพูดขึ้นมา  “แม้นายจะดูเด็ก แต่นายแข็งแกร่งจนน่าเหลือเชื่อ น้องชาย ฉันขอถามชื่อนายได้รึเปล่า ? ”