บทที่ 59.2 โล่ประสาน! (2)

Heavenly Jewel Change : มณีสวรรค์ผันชะตา

ชุดประสานศาสตรามณียุทธ์! วลีดังกล่าวปรากฏขึ้นในใจของทั้งโจวเหว่ยชิงและหยุนลี่

ชุดศาสตรามณียุทธ์และชุดประสานศาสตรามณียุทธ์อาจฟังดูเหมือนกันโดยแทบไม่มีความแตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย แต่ความจริงแล้วทั้งคู่แตกต่างกันอย่างมาก ชุดศาสตรามณียุทธ์ชนิดแรกคือชุดเกราะเต็มรูปแบบซึ่งประกอบไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆ มากมาย รวมถึงอาวุธเพื่อให้กำเนิดชุดอุปกรณ์ที่เข้าพวกกันขึ้นมา ส่วนชุดประสานศาสตรามณียุทธ์ชนิดหลังนี้ มันกลับสามารถหลอมรวมกันกลายเป็นอุปกรณ์ชิ้นเดียวได้ด้วยวิธีการที่ไม่เหมือนใคร กล่าวคือหลังจากประสานชิ้นส่วนทั้งหมดแล้ว ผู้ใช้จะได้อุปกรณ์เพียงชิ้นเดียว! ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่หลินเทียนอ้าวประสานเข้าด้วยกันจึงเป็นโล่ในมือของเขานั่นเอง

มณียุทธ์มีเนื้อที่จำกัดเมื่อหลอมรวมกลายเป็นอุปกรณ์ ยกตัวอย่างเช่นค้อนคู่ขนาดใหญ่ของโจวเหว่ยชิง พวกมันเป็นศาสตรามณียุทธ์ระดับเทพเจ้า ดังนั้นขนาดของพวกมันจึงใหญ่กว่าศาสตรามณียุทธ์ทั่วไปมาก ถึงกระนั้น พวกมันก็ยังต้องเป็นค้อนที่มีน้ำหนัก 1 ชิ้นและค้อนที่ไม่มีน้ำหนัก 1 ชิ้น ไม่สามารถเป็นค้อนที่มีน้ำหนักทั้ง 2 ชิ้นได้! อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นการออกแบบที่อัจฉริยะมาก การใช้ค้อนจริงและค้อนปลอมสามารถเพิ่มพลังให้ชุดศาสตรามณียุทธ์ทั้งชุดโดยรวมได้

ชุดประสานศาสตรามณียุทธ์เป็นชุดศาสตรามณียุทธ์ชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นให้มีพลังถึงขีดสูงสุดที่เป็นไปได้ นั่นเป็นการเสียสละมณียุทธ์จำนวนมากเพียงเพื่อเพิ่มพลังให้อุปกรณ์ชิ้นเดียว อย่างไรก็ตาม เท่าที่โจวเหว่ยชิงและหยุนลี่รู้ อุปกรณ์ประเภทนี้มักจะถูกใช้เป็นอาวุธมากกว่า สำหรับการใช้งานในลักษณะที่หลินเทียนอ้าวทำ ใช้มณียุทธ์ 3 ดวงเพื่อสร้างโล่นั้น พวกเขาไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน ท้ายที่สุดแล้วแม้แต่จ้าวมณีสวรรค์ที่ไปจนถึงระดับสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็สามารถมีศาสตรามณียุทธ์ได้เพียง 12 ชิ้นเท่านั้น ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากสิ่งนี้แล้ว ใครจะไม่อยากมีชุดศาสตรามณียุทธ์ชนิดเต็มรูปแบบกัน!

นอกเหนือจากความจริงที่ว่ามันเป็นเรื่องสุดโต่งแล้ว สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้ชุดประสานศาสตรามณียุทธ์หายากมากก็สืบเนื่องมาจากความยากลำบากในการสร้างม้วนคัมภีร์นั่นเอง ม้วนคัมภีร์เหล่านี้สร้างได้ยากกว่าม้วนคัมภีร์แบบปกติมาก อย่างไรการประสานศาสตรามณียุทธ์หลายๆ ชิ้นให้เป็นชิ้นเดียวก็ซับซ้อนมากกว่า ยิ่งศาสตรามณียุทธ์ต้องประสานเข้าด้วยกันมากเท่าไหร่ การสร้างพวกมันขึ้นมาก็ยิ่งซับซ้อนและยากลำบากมากขึ้นเท่านั้น โดยปกติแล้วของพวกนี้จะประสานกันเพียง 2 ชิ้นเท่านั้น  อย่างน้อยในประวัติศาสตร์ก็ไม่เคยมีใครประสานอุปกรณ์มากกว่า 5 ชิ้นมาก่อน  แม้แต่จ้าวมณีสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดก็ยังไม่ต้องการเสียเงินไปกับอุปกรณ์เพียงชิ้นเดียวมากเกินไป  นั่นยังไม่ได้รวมถึงความยากลำบากในการสร้างม้วนคัมภีร์อีกด้วย  แม้แต่ชุดประสาน 3 ชิ้นก็ยังต้องใช้อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับปรมาจารย์สร้างขึ้นมา ส่วนชุดประสาน 5 ชิ้นก็ต้องใช้อาจารย์ศาสตรามณียุทธ์ระดับเทวะสร้างให้เสร็จสมบูรณ์

แน่นอนว่าภายใต้การเสาะแสวงหาอย่างสุดขั้วเช่นนี้ ชุดประสานศาสตรามณียุทธ์ย่อมต้องมีพลังอย่างมาก และตอนนี้ก็เป็นอีกครั้งที่พลังดังกล่าวปรากฏขึ้น

เมื่อเห็นหลินเทียนอ้าวใช้ชุดประสาน 3 ชิ้น การแสดงออกของหยุนลี่ก็เปลี่ยนไปทันที สำหรับโล่ดังกล่าว เมื่อนำศาสตรามณียุทธ์ 3 ชิ้นหลอมรวมกัน พลังของมันย่อมไม่ได้เพิ่มขึ้นในสัดส่วนง่ายๆ เหมือน 1+1+1 แต่เป็นการเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณต่างหาก นอกจากนี้ ชุดประสานยังทำให้โล่มีหลุมบรรจุมณีเพิ่มขึ้นเป็น 3 ช่อง จากสิ่งนี้ ทุกคนย่อมสามารถจินตนาการถึงพลังป้องกันอันน่าสะพรึงกลัวของโล่นี้ได้ทันที

ตอนนี้แม้ว่าหยุนลี่จะใช้พละกำลังทั้งหมดของเขาโจมตีออกไป เขาก็ไม่มีความมั่นใจแล้วว่าจะฝ่าพลังป้องกันของโล่หลินเทียนอ้าวไปได้

ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ เมื่อถูกต้อนจนหลังชิดกำแพง หยุนลี่จึงได้แสดงความสามารถอันน่าทึ่งในการต่อสู้ออกมา ขณะร่างกายกำลังลอยอยู่กลางอากาศ เขาก็สามารถบิดตัวบังคับเปลี่ยนทิศทางของทักษะเร่งระเบิดธาตุมิติได้ พลังที่แต่เดิมจะโจมตีไปยังหน้าอกของคู่ต่อสู้ถูกดึงกลับไปในระยะเพียงไม่กี่นิ้วก่อนถึงตัวอีกฝ่าย นั่นทำให้เขาต้องร่อนตัวลงเหยียบพื้นด้านล่าง วินาทีนั้นเดือยแหลมในมือของเขาก็พุ่งเข้าหาขาของหลินเทียนอ้าวแทน

ไม่ใช่เดิมพันกันว่าห้ามขยับเท้าหรอกหรือ? ดี งั้นข้าจะโจมตีเท้าของเจ้าด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ด้านล่างของโล่เป็นจุดล่อแหลม เจ้าจึงไม่น่าจะป้องกันตัวได้ง่ายดายขนาดนั้น!

นอกจากนี้ ในขณะที่ทั้งคู่กำลังจะปะทะกัน มณีธาตุดวงที่ 4 ของหยุนหลี่ก็สว่างขึ้นทันที  วินาทีนั้นเดือยแหลมสีเงินบริสุทธิ์ก็เปล่งแสงลวงตาออกมา เมื่อเงาลวงตาสีเงินนั้นพุ่งทะยานออกไปจากเดือยแหลม ทันทีที่มันสัมผัสโดนอากาศก็เปลี่ยนเป็นสีดำสนิททันที

“ทักษะเฉือนมิติ…” โจวเหว่ยชิงพลันรู้สึกประหลาดใจ ทักษะเฉือนมิติเป็นทักษะระดับ 8 ดาวในบรรดาทักษะธาตุมิติ แน่นอนว่าแข็งแกร่งกว่าทักษะปืนใหญ่บีบอัดธาตุมิติมากทีเดียว หลังจากพิจารณาดูแล้ว มันเป็นทักษะที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับทักษะกระชากมิติของโจวเหว่ยชิง แต่ทักษะเฉือนมิติจะคงอยู่เพียงเสี้ยววินาทีในขณะที่ ทักษะกระชากมิติจะอยู่กลางอากาศได้ชั่วขณะหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ทักษะกระชากมิติยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายเช่นพลังดึงดูดและพลังป้องกัน

ถึงกระนั้น พลังโจมตีของทักษะเฉือนมิติก็น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการต่อสู้ครั้งนี้ นี่สามารถนับเป็นท่าไม้ตายที่แท้จริงของหยุนลี่ได้เลยทีเดียว

จ้าวมณีสวรรค์คือใครน่ะหรือ? จ้าวมณีสวรรค์ที่ทรงพลังอย่างแท้จริงสามารถปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเขาออกมาได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว

การโจมตีของหยุนหลี่มีพลังเพิ่มขึ้นเพราะทักษะสนับสนุนทั้ง 2 ชนิดของเขา เมื่อรวมกับพลังของทักษะปืนใหญ่บีบอัดธาตุมิติ ตอนนี้ทักษะเฉือนมิติจึงมีพลังเหนือไปอีกขั้น ในการรับมือกับการโจมตีดังกล่าว ไม่ใช่แค่จ้าวมณีสวรรค์ที่มีมณี 5 ชุด บางทีแม้แต่จ้าวมณีสวรรค์ธรรมดาระดับ 6 ชุดก็ยังต้องคิดหนัก

เมื่อเผชิญหน้ากับหยุนลี่ที่สามารถเปลี่ยนทิศทางได้กะทันหัน การแสดงออกของหลินเทียนอ้าวก็ดูจริงจังขึ้นมาในทันที ทว่าเขากลับขยับเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

หยกเหลืองดวงที่ 4 ของเขาเปล่งประกายแสงสีเหลืองสุกใสขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะหลอมรวมเข้าไปในโล่ของเขา เห็นได้ชัดว่ามันกำลังขยายใหญ่ขึ้นอีกระดับ! เกิดเสียงดังกึกก้องไปทั่วห้องเพราะโล่ของอีกฝ่ายกระแทกลงบนพื้นอย่างแรง ปิดกั้นทักษะเฉือนมิติเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ชุดประสาน 4 ชิ้น! หัวใจของโจวเหว่ยชิงสั่นสะท้านด้วยความตกใจ ในเวลาเดียวกัน เสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ปะทุขึ้นขณะที่พลังโจมตีของหยุนลี่กระแทกเข้าใส่โล่ของหลินเทียนอ้าวอย่างโหดเหี้ยม

โล่ที่ถูกขยายขนาดเพิ่ม ตอนนี้กลายเป็นหอคอยโล่ขนาดมหึมา แม้ว่ามันจะยังคงเป็นรูปสามเหลี่ยมที่มีมุมแหลมชี้ลงไปด้านล่าง แต่ขณะนี้มุมแหลมนั้นกลับถูกปักลึกลงไปในพื้นเหล็กด้านล่าง

ในขณะที่พลังปรานสวรรค์ธาตุมิติของหยุนลี่โหมกระหน่ำใส่อีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง เสียงคล้ายบางอย่างปริร้าวก็ดังขึ้นบาดหูพร้อมกับคลื่นกระแทกที่มีพลังรุนแรงสาดซัดออกมา พลังนั้นทำให้โจวเหว่ยชิงถึงกับเซถอยหลังไปสองสามก้าวก่อนที่จะกลับมายืนตรงได้อีกครั้ง แม้แต่ชายชุดแดงที่เฝ้าห้องก็มีแสงวาบผ่านในดวงตา อีกฝ่ายพยักหน้าเบาๆ อย่างให้ การยอมรับ

เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นภายในห้อง หยุนหลี่ถูกพลังของอีกฝ่ายกระแทกกลับไป คราวนี้เขาถูกเหวี่ยงกลับอย่างโหดเหี้ยมจนเกือบถูกอัดกระแทกผนังห้อง ทว่าเขาก็สามารถกอบกู้สถานการณ์ของตนเองได้ทันเวลา

เดือยแหลมในมือของหยุนลี่หายไปแล้ว โจวเหว่ยชิงมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามือขวาของเขากำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรง พลังปราณสวรรค์รอบๆ ตัวของอีกฝ่ายดูเหมือนกำลังใกล้จะสลายหายไป ใบหน้าของเขาแดงก่ำ หยุนลี่ร้องครวญครางออกมาเล็กน้อยก่อนจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด

การโจมตีของหยุนลี่ครั้งนี้ใช้พลังทั้งหมดของเขาโดยไม่ได้ยั้งแรงเอาไว้เลย นั่นจึงเป็นผลให้เขาได้รับผลกระทบจากแรงดีดสะท้อนกลับครั้งใหญ่ ในขณะที่ร่างกายของเขาล้มลงกระแทกพื้น เขาก็ต้องหอบหายใจอย่างหนักหน่วง

แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะใช้เวลาเพียงแค่ 10 วินาทีตั้งแต่ต้นจนจบ ทว่าหยุนลี่ก็ได้ใช้พลังปรานสวรรค์ของตนไปแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยังใช้ทักษะทั้งหมดของตนออกไปแล้วด้วย

สำหรับหลินเทียนอ้าว เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเคลื่อนไหว เช่นเดียวกับขุนเขาที่ตั้งตระหง่านอย่างมั่นคง ตรงหน้าเขามีโล่หอคอยที่เป็นชุดประสาน 4 ชิ้นตั้งอยู่อย่าง มั่นคงไร้รอยข่วน แสงสีเหลืองส่องประจายเจิดจ้าออกมาจากโล่ชิ้นนั้นและดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจใดๆเลยแม้แต่น้อย เท้าของเขายังคงไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว การโจมตีของหยุนหลี่นั้นทรงพลังอย่างแท้จริง แต่ก็ไม่สามารถแม้แต่จะทำให้ร่างของเขาสั่นคลอนได้

เช่นเดียวกับที่โจวเหว่ยชิงเคยพูดเอาไว้ หลินเทียนอ้าวมีความเชี่ยวชาญในด้านการป้องกันและไม่ถนัดด้านโจมตี ดังนั้นเพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ เขาก็สามารถใช้พลังมากกว่า 8 ใน 10 ของตนไปกับการตั้งรับได้แล้ว

ริมฝีปากของโจวเหว่ยชิงกระตุกอย่างไม่รู้ตัวขณะบ่นกับตัวเองในใจ บ้าเอ้ย! พลังป้องกันนั่นน่ากลัวเกินไปแล้ว!

เขาเฝ้าสังเกตการโจมตีของหยุนหลี่อย่างใกล้ชิดและสามารถเอ่ยปากได้ว่าการโจมตีของเขาทรงพลังเพียงใด แต่ทั้งหมดนั่นกลับกลายเป็นของไร้ประโยชน์ การโจมตีของเขาอาจจะแข็งแกร่งกว่าหยุนลี่เล็กน้อย แต่มันจะสามารถทะลวงผ่านโล่หอคอย ชุดประสาน 4 ชิ้นของหลินเทียนอ้าวไปได้หรือ? เมื่อพิจารณาถึงระดับพลังปราณของเขา เขาจะสามารถทำลายโล่ในมือเดียวนั่นได้หรือไม่?

ทั้งอิจฉา ทั้งริษยา ทั้งเกลียด! ถ้าข้ามีโล่แบบนี้ได้จะดีสักแค่ไหนกัน! โจวเหว่ยชิงอดคิดในใจไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การปะทะกันระหว่างหยุนลี่และหลินเทียนอ้าวก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปซะทีเดียว อย่างน้อยที่สุดมันก็ทำให้โจวเหว่ยชิงตระหนักถึงบางสิ่งที่สำคัญมาก นั่นคือความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหลินเทียนอ้าว

แม้ว่าหลินเทียนอ้าวผู้นี้จะเป็นจ้าวมณีสวรรค์ประเภทการป้องกันแบบบริสุทธิ์ แต่มณียุทธ์ของเขาเป็นประเภทเพิ่มความอึดและมณีธาตุของเขาเป็นธาตุดิน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขามีความแข็งแกร่งผิดธรรมชาติไปบ้าง ดูแล้วเหนือกว่าคนปกติมากเกินไปเสียหน่อย ไม่ต้องคิดให้มากความ โจวเหว่ยชิงก็สัมผัสถึงน้ำหนักอันน่าสะพรึงกลัวของโล่หอคอยชิ้นนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่ทว่าเมื่ออยู่ในมือของหลินเทียนอ้าว มันกลับดูเหมือนสิ่งของไร้น้ำหนัก จากสิ่งนี้ย่อมเห็นได้ว่าหลินเทียนอ้าวนั้นแข็งแกร่งเพียงใด แม้ว่ามณียุทธ์ของเขาจะไม่ได้เป็นประเภทเพิ่มความแข็งแกร่งก็ตาม

ไม่น่าแปลกอีกฝ่ายมั่นใจในการต่อสู้และการเดิมพันครั้งนี้มาก เขามีความสามารถและมีสิทธิ์คิดเช่นนั้นได้แน่นอน! ด้วยพลังป้องกันเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะต่อสู้กับจ้าวมณีสวรรค์ระดับเทวะอย่างหมิงอู๋ เขาก็จะสามารถป้องกันตัวเองได้หลายครั้ง

ขณะที่หยุนหลี่กำลังหอบหนัก เขาก็มองไปที่โจวเหว่ยชิงราวกับจะพูดว่าตนทำดีที่สุดแล้ว ส่วนตอนนี้จะเอาอย่างไรดี?

เมื่อมองไปยังก้านธูปที่กำลังเผาไหม้ โจวเหว่ยชิงก็เห็นว่ามันเพิ่งจะมอดลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงยังมีเวลาอีกมาก หลินเทียนอ้าวก็ไม่ได้เร่งรีบเช่นกัน เพราะอย่างไรก็ยังมีเวลาอีกพอสมควร เนื่องจากในสายตาของเขา หยุนลี่ดูจะเป็นภัยคุกคามมากกว่าโจวเหว่ยชิง เขาจึงคิดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่หยุนลี่จะกู้คืนพลังปรานสวรรค์ที่ถูกใช้ไปทั้งหมดคืนมาในระยะเวลาสั้นๆ

โจวเหว่ยชิงอุทานด้วยสีหน้ายกย่องแกมอิจฉา “พี่หลิน ข้าอิจฉาโล่ของท่านมาก! อ่า ในอดีตข้าก็อยากจะหลอมรวมโล่เป็นศาสตรามณียุทธ์ชิ้นแรกของข้าเช่นกัน อนิจจาภรรยาของข้ากลับไม่ยอมให้ข้าทำเช่นนั้น โล่นั้นดีมากทีเดียว เมื่อมีโล่นั้น ใครจะยังต้องการชุดเกราะอีก! หากใช้อย่างเหมาะสมย่อมสามารถป้องกันการโจมตีได้ทุกประเภท ในความเป็นจริงยังสามารถใช้เป็นอาวุธได้อีกเช่นกัน อืม…พี่หลิน ให้ข้าเดานะ เป็นไปได้ไหมว่ามณียุทธ์ดวงสุดท้ายของท่านก็เป็นส่วนหนึ่งของชุดประสานศาสตรามณียุทธ์นี้ด้วย”

ขณะพูดอย่างนั้น เขาก็เดินไปตรงหน้าของหลินเทียนอ้าวทันที

หลินเทียนอ้าวยกยิ้มอย่างเฉยเมยและกล่าวว่า “น้องชายผู้นี้มีสายตาเฉียบแหลมยิ่งนัก ใช่แล้ว ความสามารถทั้งหมดของข้ารวมกันอยู่ที่โล่ ก็อย่างที่ท่านบอกนั่นแหละ มันสามารถเป็นได้ทั้งอาวุธโจมตีและอาวุธป้องกัน เอาล่ะ พวกท่านทดสอบมามากพอแล้ว ทำไมไม่ลองโจมตีพร้อมกันดูล่ะ?”

โจวเหว่ยชิงหัวเราะเต็มเสียงและพูดว่า “พี่ชายหลิน ทำไมท่านไม่ให้ข้าลองทดสอบความแข็งแกร่งของท่านดูก่อนล่ะ?” ในขณะที่พูดเช่นนั้น เขาก็ปลดปล่อยมณีสวรรค์ออกมาทันที ดวงตาของโจวเหว่ยชิงเผยประกายแวววาวขณะที่มือทั้งสองข้างผลักเข้าที่โล่ของหลินเทียนอ้าว กล้ามเนื้อของเขาขยายใหญ่ขึ้นทันทีเมื่อต้องรองรับแรงปะทะที่ทรงพลังอย่างกะทันหัน

………………………………