ตอนที่ 299 ได้ของดีแล้วยังเสแสร้งอีก
พอเฮ่อสยงพูดจบก็มองเฮ่อหมิงไข่ที่อยู่ด้านข้าง
เฮ่อหมิงไข่กระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง พูดด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง “ให้เธอลองดูสักหน่อยก็ได้ครับ”
เมื่อเฮ่อเล่อเฟิงที่อยู่ด้านข้างได้ยินถึงตรงนี้หัวคิ้วก็พันกันแน่น ความสามารถในการเป็นเนวิเกเตอร์มืออาชีพของพี่เยียนอาจสู้เนวิเกเตอร์ของทีมยักษ์ใหญ่ชั้นนำระดับประเทศพวกนั้น แต่ต่อให้แย่ก็คงไม่ได้แย่มากหรอกน่า แต่สองคนนี้กลับแสดงสีหน้าท่าทางลำบากใจ ได้ของดีแล้วยังเสแสร้งอีก
เมื่อผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนได้ยินก็ครุ่นคิดพร้อมเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า “ความสามารถในการเป็นเนวิเกเตอร์ของเสี่ยวเยียนน่าจะพอถึงขั้นมืออาชีพแล้ว ถ้าได้จับคู่กับหมิงไข่ อันที่จริงก็ถือว่าไม่เลวอยู่”
“ใช่แล้วครับ!” สมาชิกทีมตระกูลเฮ่อคนหนึ่งผงกศีรษะพร้อมกล่าวระคนหัวเราะ “ความสามารถในการเป็นเนวิเกเตอร์ของคุณหลินเยียนถือว่าแข็งแกร่งมากที่สุดในบรรดาเนวิเกเตอร์ของทีมตระกูเฮ่อเราแล้ว ถ้าให้หลินเยียนเป็นเนวิเกเตอร์ของหมิงไข่ ถือว่าเธอไม่เสียเปรียบครับ!”
“เนวิเกเตอร์อย่างพวกนายคิดว่าหลินเยียนเป็นยังไงบ้าง?” สมาชิกทีมตระกูลเฮ่อคนหนึ่งมองเหล่าเนวิเกเตอร์ที่อยู่ด้านข้าง
“ก็โอเค ไม่ถึงขั้นสุดยอด แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้”
“ที่จริงชัยชนะของพวกเราคราวนี้ หลินเยียนมีผลงานใหญ่จริงๆ แต่หลินเยียนก็ยังมีปัญหาเรื่องฉกฉวยโอกาสอยู่ด้วย ถ้าบอกว่าเป็นเนวิเกเตอร์ชั้นยอด นั่นคงไม่ใช่แน่ แต่ถ้าจับคู่กับหมิงไข่ คงไม่น่ามีปัญหาอะไรใหญ่โตแล้วล่ะ”
“ชิงหลี่ นายคิดว่ายังไง?” สายตาเฮ่อหมิงไข่ไปอยู่ที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง “นายเป็นเนวิเกเตอร์ที่เป็นมืออาชีพมากที่สุดของทีมตระกูลเฮ่อเรา นายลองวิจารณ์ดูหน่อย”
พอได้ยินชิงหลี่ก็หัวเราะ “ก็พอได้ สมองไวมาก แต่ถึงจะเชี่ยวชาญการใช้พีซโน้ตมาก แต่น่าจะฝืนท่องจำมาก่อนล่วงหน้า คงใช้คำว่าสุดยอดไม่ได้ ถึงอย่างนั้นก็นับว่าไม่เลวอยู่”
“งั้นเอาแบบนี้ ชิงหลี่ ช่วงนี้นายก็ดูแลหลินเยียนให้มากสักหน่อย ให้เธอได้เรียนรู้จากนาย” เฮ่อสยงเอ่ย
“ผมไม่คิดจะรับลูกศิษย์นะครับ…” ชิงหลี่อึ้ง เพียงแต่หลังจากนั้นก็พูดต่อไปทันที “แต่ว่าในเมื่อคุณเฮ่อสยงพูดแล้ว ถ้าผมไม่รับปากกลับออกจะไร้เหตุผลไปสักหน่อย แต่ผมเข้มงวดมากเลยนะครับ”
“คือ ผมคิดว่าควรถามความเห็นของพี่เยียนก่อนจะดีกว่าไหมครับ?” เฮ่อเล่อเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ถึงแม้สิ่งที่คนพวกนี้พูดมาเหมือนว่าเป็นแบบนั้นก็ตาม แต่เขาอยู่บนรถตลอด พี่เยียนเป็นอย่างไรกันแน่ เขารู้ดีที่สุด!
ชิงหลี่คนนั้นพอจะฝืนพูดได้ว่าเป็นเนวิเกเตอร์ระดับกลางๆ แต่กลับจะรับพี่เยียนเป็นลูกศิษย์ด้วยท่าทางลำบากใจแบบนี้นี่นะ?!
เฮ่อสยงแสดงสีหน้าเหมือนหลินเยียนกำลังได้เปรียบ พูดอย่างดูแคลนออกมาว่า “เธอจะมีความเห็นอะไรได้? หมิงไข่เป็นนักแข่งรถที่เก่งที่สุดของตระกูลเฮ่อเรา แบกรับความหวังทั้งหมดของตระกูลเฮ่อ ได้เป็นเนวิเกเตอร์ของหมิงไข่ นั่นถือเป็นเกียรติของเธอแล้ว! มิหนำซ้ำชิงหลี่เป็นเนวิเกเตอร์ที่เก่งที่สุดของตระกูลเฮ่อเรา ให้ชิงหลี่เป็นอาจารย์เธอ สั่งสอนมอบประสบการณ์ให้เธอฟรีๆ เธอยังต้องสำนึกในบุญคุณด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอไง?!”
“นั่นสิ แม้แต่ก็อดซีหัวหน้าทีม ซีเอ็ชวัน ยังเห็นความสามารถของหมิงไข่ ให้หลินเยียนเป็นเนวิเกเตอร์ของ หมิงไข่ นี่ถือว่าพวกเราเห็นความสามารถของหลินเยียนมากแล้วนะ!”
สุดท้าย ผู้เฒ่าเฮ่อติ้งคุนครุ่นคิดเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดตัดบทพวกของเฮ่อสยงออกมาว่า “กลับไปแล้วฉันจะหาเวลาปรึกษาเรื่องนี้กับเสี่ยวเยียน”
…
ขณะเดียวกัน ณ บ้านพักตากอากาศไฮโซแห่งหนึ่งบริเวณชานเมืองตี้ตู
เว่ยสวีเฟิงนัดเพื่อนฝูงกลุ่มหนึ่งมากินข้าวและดื่มเหล้าที่บ้าน ฉีเซ่าหยวนก็อยู่ด้วย
เพื่อนกินเพื่อนเที่ยวที่เว่ยสวีเฟิงคบหาส่วนใหญ่ก็เป็นแฟนการแข่งรถเหมือนกับเขา
มีจอแอลซีดีขนาดมหึมาอยู่ภายในห้องรับแขกอันกว้างใหญ่และหรูหราของบ้านพักตากอากาศ ขณะนี้กำลังมีข่าวเกี่ยวกับรถแข่งฉายอยู่บนหน้าจอ และเป็นการแข่งขันของตระกูลเฮ่อที่เกิดขึ้นบ่ายวันนี้พอดี
ตอนที่ 300 สนับสนุนพี่เยียนตลอดชาติ
“พูดได้เลยว่าเนวิเกเตอร์คนนี้เป็นคนส่งทีมรถแข่งตระกูลเฮ่อถึงเส้นชัยจนได้รับชัยชนะด้วยตัวคนเดียว”
เสียงตื่นเต้นของผู้บรรยายแว่วออกจากจอโทรทัศน์
การแข่งในวันนี้เดิมทีไม่ค่อยมีใครสนใจ เพราะเป็นการแข่งที่อยู่ในระดับต่ำมาก อย่างไรก็ตามหลังจากฉายภาพบันทึกการแข่งขันกลับดึงดูดความสนใจและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
บวกกับข่าวดังเรื่องที่ดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูท้าซีเอ็ชวันแข่งอีก ทำให้ความนิยมพุ่งขึ้นสูง ตอนนี้มีหลายคนในแวดวงเริ่มให้ความสนใจแล้ว
ขณะนี้ผู้คลั่งไคล้การแข่งรถจำนวนหนึ่งภายในห้องโถงต่างทยอยกันวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความสนใจอยู่เช่นกัน
“นักแข่งรถหญิงมีน้อยสุดๆ แต่เนวิเกเตอร์ผู้หญิงกลับมีอยู่มาก ยังไงเสียทฤษฎีและความละเอียดรอบคอบของผู้หญิงก็ถือว่าพอใช้ได้อยู่แล้ว เนวิเกเตอร์ตระกูลเฮ่อคนนี้ถือว่าพอมีฝีมืออยู่บ้าง!”
“ได้ยินว่าเป็นหลานสาวเฮ่อติ้งคุน เป็นมือโปรมากจริงๆ การใช้กลยุทธ์ก็ถือว่าพอใช้ได้ เพียงแต่ต่อให้เป็นมือโปรอีกสักแค่ไหนก็เป็นได้แค่เนวิเกเตอร์ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับพูดจาใหญ่โตรับคำท้าของดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูแทนตระกูลเฮ่อ ออกจะยโสโอหังไปหน่อยหรือเปล่า”
“คนไม่รู้ก็ไม่กลัวอะไรน่ะสิ! เธอนึกว่าการแข่งจริงเหมือนการวางกลยุทธ์อยู่บนกระดาษหรือไง”
……
เว็บไซต์ที่ฉายวิดีโอตอนนี้ก็มีแต่ข้อความวิ่งอยู่เต็มไปหมด ในบรรดาข้อความวิ่งซึ่งปรากฎอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่เต็มไปด้วยถ้อยคำด่าทอจากแฟนคลับจำนวนไม่น้อย
แฟนคลับจำนวนหนึ่งกำลังชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงต่อความสามารถในการเป็นมือโปรของหลินเยียน อีกส่วนหนึ่งส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับของทีมรถแข่งดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูซึ่งกำลังด่าทอหลินเยียนว่าจงใจเกาะกระแส
[นึกว่าจะเป็นคนเก่งกาจมาจากที่ไหนเสียอีก ดูท่าก็แค่พวกที่มีฝีมือวางกลยุทธ์บนแผ่นกระดาษพอใช้ได้ก็เท่านั้นเอง ไม่มีความสามารถอะไรเลย รู้จักแต่พูดเอาใจมวลชนเท่านั้น!]
[พูดจาใหญ่โตว่ากล้ารับคำท้าของดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยู เธอไปเอาหน้ามาจากไหน? มีทฤษฎีกับความรู้เล็กน้อยก็นึกว่าตัวเองขับรถแข่งได้แล้วงั้นเหรอ? เธอเห็นรถแข่งเป็นรถแท็กซี่รึไง? ใครอยากจะขับก็ขับได้งั้นเหรอ?]
[หวังว่าเดือนหน้าทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูจะจับพวกเขาบดขยี้ลงกับพื้น จะได้กำจัดพวกคิดไม่ซื่อที่หวังจะเกาะกระแสในวงการพวกนี้ไปให้สิ้นซาก!]
[ขอส่งเสียงกรี๊ดให้ดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูของพวกเรา! ดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูผู้ยิ่งใหญ่โปรดสั่งสอนเธอว่าควรทำตัวยังไง!]
……
เว่ยสวีเฟิงนั่งพิงพนักเก้าอี้ มองดูรายงานข่าวบันเทิงบนหน้าจอโทรทัศน์ด้วยสีหน้างุนงงอยู่บ้าง
บันทึกเสียงสนทนาระหว่างหลินเยียนกับเฮ่อเล่อเฟิงที่เพิ่งฉายในโทรทัศน์เมื่อครู่ยังคงวนเวียนอยู่ในสมองเขา
บารมีและน้ำเสียงของการสนทนานั้นกลับทำให้เขารู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่านเล็กน้อย
คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงอย่างหลินเยียนคนนั้นกลับมีฝีไม้ลายมืออยู่บ้าง
ดูท่าคงเคยฝึกฝนมาเหมือนกัน เพราะถึงอย่างไรเธอก็เกิดมาในตระกูลนักแข่งรถ จะมีความรู้กับทฤษฎีพวกนี้อยู่บ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เขาให้ความชื่นชมและความเคารพต่อผู้ที่มีความเป็นมืออาชีพทุกคน
ถ้าเธอไม่ทำให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียนด้วยการจงใจเลียนแบบเยวา บางทีเขาอาจไม่ได้รังเกียจเธอมากขนาดนี้ก็ได้
คนที่ไม่เข้าพวกมากที่สุดภายในห้องรับแขกเห็นทีคงจะเป็นฉีเซ่าหยวนแล้ว
หมอนี่เล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่ามีอะไรดึงดูดใจเขามากขนาดนี้
เมื่อเว่ยสวีเฟิงเห็นฉีเซ่าหยวนทำท่าทางเหมือนอยากจะเอาลูกตาแนบชิดกับหน้าจอก็ชักโทรศัพท์ออกมาจากมือเขาด้วยความไม่สบอารมณ์ “ดูอะไรอยู่น่ะนาย! ดูมาทั้งคืนแล้ว! กลายเป็นพ่อหนุ่มผู้เสพติดอินเตอร์เน็ตไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
พอพูดจบก็กวาดสายตามองหน้าจอโทรศัพท์ฉีเซ่าหยวน จากนั้นก็มองเห็น…
สิ่งที่เปิดอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ฉีเซ่าหยวนกลับเป็นหน้าเวยปั๋วของหลินเยียน สิ่งที่อยู่ภายในช่องสนทนาคือคอมเมนต์ที่ฉีเซ่าหยวนเขียนเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้โพสต์
[อ๊าก! ผมจะตายอยู่แล้ว! นี่มันเทพธิดาน้อยผู้งามล้ำเลิศอะไรกันเนี่ย! ขอกรี๊ดให้พี่เยียน! พี่เยียนเจ๋งที่สุด! พี่เยียนงามที่สุด! วันนี้ขอเสียสติเพื่อพี่สาวเทพธิดาสักวันหนึ่ง!]
ไอดีเวยปั๋วของฉีเซ่าหยวน : สนับสนุนพี่เยียนตลอดชาติ
เว่ยสวีเฟิงอ่านคอมเมนต์ของฉีเซ่าหยวนแล้วอ่านชื่อไอดีเวยปั๋วที่เปลี่ยนใหม่ของฉีเซ่าหยวนอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็แสดงสีหน้าราวกับเห็นผีออกมา “ฉีเซ่าหยวน…นายประสาทหรือเปล่า สมองคงไม่ได้กระแทกจนเพี้ยนหรอกนะ?”