ตอนที่ 301 กลัวแฟนจะหึง / ตอนที่ 302 ฉันดูแฟนของฉันเอง

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 301 กลัวแฟนจะหึง

 

 

ฉีเซ่าหยวนแย่งโทรศัพท์มือถือของตัวเองคืนกลับมา “นายน่ะสิประสาท! เอาโทรศัพท์ฉันคืนมานะ!”

 

 

พอพูดจบก็กดแป้นพิมพ์โพสต์คอมเมนต์ทันที จากนั้นก็ไล่เขียนคอมเมนต์และกดไลก์ทุกข้อความเวยปั๋วของหลินเยียนต่อไป

 

 

คำชมที่ไม่เข้าพวกเหล่านั้นของฉีเซ่าหยวนกระหนาบด้วยเสียงก่นด่าจากฝูงชน ประหนึ่งนกกระสาที่ยืนอยู่กลางฝูงไก่ เด่นสะดุดตาอย่างยิ่ง

 

 

“นายกลับไล่ตามดา…ไล่ตามดาราก็ช่างมันเถอะ…นายไล่ตามใครไม่ว่า…แต่มาไล่ตามผู้หญิงแบบนี้นี่นะ? ฉันว่าสมองนายไม่ได้มีปัญหาหรอก! แต่สมองหายไปแล้วมากกว่า!” ใบหน้าเว่ยสวีเฟิงเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

 

 

ฉีเซ่าหยวนใช้สีหน้ามองทุกสิ่งอย่างทะลุปรุโปร่ง เหลือบมองเว่ยสวีเฟิงด้วยท่าทางดูแคลน “นายจะไปเข้าใจอะไร! ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเป็นแฟนคลับผู้ซื่อสัตย์ขั้นสุดยอดของพี่เยียน! ฉันไม่อนุญาตให้นายลบหลู่พี่สาวเทพธิดาของฉัน!”

 

 

“เพราะเธอค่อนข้างเหมือนเยวา? เธอน่ะตงซือเลียนขมวดคิ้ว[1]ชัดๆ โอเคไหม! นายตาบอดรึไง! นายเป็นแบบนี้ยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นแฟนคลับของบอสอีกอย่างงั้นเหรอ? ฉันว่านายน่ะเป็นแฟนคลับตัวปลอม!” เว่ยสวีเฟิงพูดด้วยความเดือดดาล

 

 

เมื่อฉีเซ่าหยวนได้ยินก็หน้าตาบึ้งตึง มุมปากกระตุกตวาดด้วยโทสะ “นายน่ะสิตาบอด! นายต่างหากที่เป็นแฟนคลับตัวปลอม!”

 

 

นายมันคนที่ตาบอดมากที่สุดแล้ว แต่กลับมีหน้ามาว่าเขาอีกว่าตาบอด?

 

 

 

 

 

เว่ยสวีเฟิงมีสีหน้าดูแคลน “ของปลอมก็คือของปลอม! ต่อให้เหมือนอีกสักแค่ไหน ฉันก็ไม่มีวันหักหลังบอสแน่! ผู้หญิงคนนั้นพูดจาใหญ่โตน่าหัวเราะเยาะแบบนั้น ฉันอยากดูสิว่าพอถึงเวลาแข่งจริงเธอยังจะกล้าลงสนามอีกหรือเปล่า!”

 

 

ฉีเซ่าหยวน “เหอะๆ ”

 

 

 

 

ยามค่ำ หลินเยียนกำลังนั่งไล่ดูเวยปั๋วอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ทันใดนั้นก็ได้รับสายโทรกระหน่ำต่อเนื่องจากตัวตัว

 

 

“พี่เยียน! เธอไปทำอะไรมาอีกแล้ว!!!” เพิ่งจะรับสายก็มีน้ำเสียงตื่นเต้นของตัวตัวแว่วมาแล้ว

 

 

หลินเยียนกระพริบตา “ฉันไปทำอะไรมาอีก?”

 

 

“เธอไปอ่านเวยปั๋วของเว่ยสวีเฟิงเองสิ!”

 

 

“หา? เว่ยสวีเฟิง?”

 

 

หลินเยียนพูดพลางคลิกเมาส์เข้าไปในเวยปั๋วของเว่ยสวีเฟิงด้วยความสงสัย

 

 

จากนั้นก็เห็นข้อความปักหมุดที่แสนจะสะดุดตาอยู่บนหน้าเวยปั๋วของเว่ยสวีเฟิง

 

 

ซึ่งก็คือข้อความประโยคที่ว่านอกเสียจากตาบอดถึงจะชอบเธอที่เขาเคยบอกก่อนหน้านั้นนั่นเอง

 

 

หลินเยียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย เพิ่งจะนึกถึงคำพูดที่เว่ยสวีเฟิงเคยพูดกับเธอตอนทะเลาะกันก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้

 

 

หมอนี่เป็นเด็กประถมหรือไง? แถมยังปักหมุดโพสต์เวยปั๋วอันนั้นไว้จริงๆ

 

 

พอถูกกระตุ้นอารมณ์นิดหน่อยก็ต้องโพสต์เวยปั๋ว ทำให้มีเรื่องกันอีก…

 

 

ช่างเถอะๆ เห็นแก่ที่เขาเป็นแฟนคลับของตัวเอง ไม่ถือสาหมอนี่ก็แล้วกัน

 

 

เฮ้อ เธอเอาใจแฟนคลับมากเกินไปแล้วจริงๆ

 

 

ตัวตัวที่อยู่ทางปลายสายใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว “รูปที่เธอกำลังคุยกับหันอี้เซวียนรูปนั้นก็ได้รับเสียงก่นด่ามาไม่น้อยแล้ว ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ จู่ๆ เว่ยสวีเฟิงกลับทำแบบนี้ขึ้นมาอีก ช่างเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเสียจริง เห็นอยู่ว่ารูปใบนั้นมีคงจงใจบิดเบือนใส่ความเธอ เว่ยสวีเฟิงก็ยิ่งไร้เหตุผล หลายวันนี้เขาเป็นฝ่ายเข้ามาเกาะแกะเธอชัดๆ นี่นา เรื่องนี้คนอื่นไม่รู้ แต่ตัวเขาเองจะไม่รู้หรือไง ตอนนี้มาทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน…”

 

 

เมื่อหลินเยียนได้ยินคำพูดของตัวตัวมุมปากก็หยักยกเล็กน้อย

 

 

สาวน้อยคนนี้น่าจะยังไม่รู้ตัวว่าเธอเริ่มมีท่าทีเอนเอียงมาทางตนเองแล้ว

 

 

“ใจเย็นๆ อดทนให้ผ่านช่วงหลายวันนี้ก็พอ ถึงยังไงฉันก็แสดงอยู่ไม่กี่ฉาก อีกไม่นานก็จะปิดกล้องแล้วล่ะ! วันหลังฉันไม่มีทางร่วมงานกับกองถ่ายเดนตายแบบนี้อีกแล้ว!” หลินเยียนพูดปลอบใจ

 

 

ตัวตัว “หลอกกันให้มันน้อยหน่อยเถอะ ถ้าให้เงินเธอมากสักหน่อย มีกองถ่ายอะไรบ้างที่เธอไม่กล้าร่วมงานด้วย?”

 

 

หลินเยียน “เอ่อ…”

 

 

คิดไม่ถึงว่าแม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ตัวตัวกลับรู้จักเธอลึกซึ้งขนาดนี้แล้ว…

 

 

ที่จริงแล้วสิ่งที่เธอพูดไปเมื่อกี้นั้นมันออกมาจากใจจริงๆ

 

 

แต่ไม่ใช่เพราะกลับจะถูกแอนตี้แฟนฉีกอก ต่อให้มีแอนตี้แฟนนับพันนับหมื่น เธอก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย

 

 

ที่สำคัญน่ะเหรอ เธอกลัว…แฟนจะหึงต่างหาก…

 

 

 

 

 

[1] ตงซือเลียนขมวดคิ้ว หญิงหน้าตาอัปลักษณ์ชื่อว่าตงซือพยายามขมวดคิ้วเลียนแบบหญิงงามอย่างซีซือ ทว่ากลับได้ผลตรงกันข้าม ใช้เปรียบเทียบกับการพยายามเลียนแบบผู้อื่น แต่สุดท้ายกลับเลวร้ายกว่า เพราะไม่รู้จักประมาณตนเอง

 

 

 

 

ตอนที่ 302 ฉันดูแฟนของฉันเอง

 

 

หลายวันต่อมา คิวการถ่ายทำของหลินเยียนแน่นมากจนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลย

 

 

ระหว่างนั้นฝั่งคุณตาก็โทรมาหาเธอครั้งหนึ่ง น่าจะปรึกษาเรื่องการแข่งกับทีมดับเบิ้ลยูดับเบิ้ลยูในเดือนหน้า หลินเยียนวางแผนที่จะฉวยโอกาสเร่งทำงานที่กองถ่ายในช่วงหลายวันนี้ให้เสร็จสิ้น จากนั้นค่อยไปปรึกษากับทางคุณตาอย่างละเอียด

 

 

ต่อมาเธอก็เห็นรายงานบันทึกภาพและเสียงที่เกิดขึ้นบนสนามแข่ง ถึงแม้ความสามารถในการเป็นเนวิเกเตอร์ของเธอจะถือว่าได้รับการยอมรับแล้วก็ตาม เพียงแต่ในสายตาของทุกคน ความสามารถด้านทฤษฎีก็ไม่เท่ากับฝีมือในการลงสนามแข่งจริง เนวิเกเตอร์กับนักแข่งรถอยู่กันคนละระดับโดยสิ้นเชิง หากเธอคิดจะลงสนามโดยตรงยังต้องเสียเวลาคุยกับคุณตาอีกสักหน่อย

 

 

ส่วนการถ่ายทำของกองถ่ายกลับราบรื่นดีทุกอย่าง

 

 

หลินเยียนแสดงเป็นเครื่องจักรหาเงินที่ไร้ความรู้สึกได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงเว่ยสวีเฟิงจะมีท่าทีรังเกียจเธอมากก็ตาม แต่ยังดีที่ระหว่างถ่ายทำกลับมีความเป็นมืออาชีพมาก ซ้ำยังแสดงแสดงความรู้สึกกล้ารักกล้าแค้นของหลินเผี่ยนรั่วออกมาค่อนข้างเหมือนมีชีวิตอีกด้วย

 

 

เพียงชั่วพริบตา หลินเยียนเหลือแค่ฉากสุดท้ายก็จะปิดกล้องได้แล้ว

 

 

ฉากนี้ต้องแสดงฉากต่อสู้กับกับเผยหนานซวี่

 

 

ขณะนี้เผยหนานซวี่กำลังแสดงกับเจี่ยงซือเฟย หลินเยียนแต่งหน้าเรียบร้อย กำลังรออยู่ที่จุดพักผ่อน

 

 

สถานที่ถ่ายทำฉากในวันนี้เป็นจุดชมวิวแห่งหนึ่งในชนบท สภาพแวดล้อมเงียบสงบ ทัศนียภาพสวยงาม

 

 

หลินเยียนนอนอยู่บนเก้าอี้ที่จุดพักผ่อน มองดูเผยหนานซวี่ซึ่งกำลังแสดงอยู่ไกลๆ อดที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อยไม่ได้ ถึงอย่างไรก็เป็นการแสดงฉากต่อสู้กับไอดอลครั้งแรก

 

 

ตัวตัวที่อยู่ด้านข้างมองหลินเยียนด้วยความรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คิดในใจว่ายากนักที่หลินเยียนจะมีช่วงเวลาที่ประหม่ากับเขาด้วย

 

 

ก่อนหน้านี้ถ่ายทำมาตั้งหลายวัน ไม่ว่าจะแสดงกับใคร เธอก็มีท่าทีไม่ยี่หระ ส่วนฉากที่แสดงกับเว่ยสวีเฟิงก็ยิ่งราบรื่นสุดๆ

 

 

เพียงแต่ก็ไม่แปลกใจเช่นกัน ถึงอย่างไรหลินเยียนก็เป็นแฟนคลับของเผยหนานซวี่ คาดว่าเป็นเพราะเรื่องนี้เลยค่อนข้างตื่นเต้น

 

 

“พี่เยียน อีกเดี๋ยวตื่นเต้นก็ส่วนตื่นเต้น แต่ต้องสะกดกลั้นตัวเองเอาไว้ อย่าไปทำอะไรที่ไม่สมควรทำเข้านะ” ตัวตัวอดพูดเตือนสักคำไม่ได้

 

 

เพื่อทำให้อีกสักครู่แสดงเข้าถึงบทบาทประธานผู้บ้าอำนาจได้มากยิ่งขึ้น หลินเยียนคลิกเปิดดูคลิปวิดีโอของเผยอวี้เฉิงที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือซ้ำแล้วซ้ำเล่าไปพลาง เอ่ยปากพูดไปพลาง “วางใจเถอะ ฉันรักชีวิตมาก”

 

 

อีกอย่าง เธอไม่กล้าเหมือนกัน!

 

 

สายตาของตัวตัวมองไปที่โทรศัพท์ของหลินเยียนโดยไม่ได้เจตนา พบว่าคลิปที่หลินเยียนดูซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่เมื่อกี้ เหมือนจะเป็นผู้ชายคนเดียวกันทั้งสิ้น

 

 

ถึงแม้จะมองผ่านๆ แค่แวบเดียว แต่แค่เงาด้านข้างก็ดูรู้แล้วว่าเป็นผู้ชายที่หล่อมากๆ

 

 

พอตัวตัวเห็นก็แสดงสีหน้าระแวดระวังออกมาทันที เอ่ยปากพูดถามเลียบเคียงออกมาว่า “พี่เยียน พี่ทำลับๆ ล่อๆ ดูอะไรอยู่น่ะ ดูมาครึ่งค่อนวันแล้ว!”

 

 

หลินเยียนพอได้ยินก็เลิกคิ้ว ใช้มือเกยคาง หัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่า “ดูคลิปของพี่ชายตัวน้อยน่ะสิ ทำไมเหรอ เต๊าะไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ จะไม่ให้ฉันดูบ้างเลยหรือไง?”

 

 

ตัวตัวมุมปากกระตุกเล็กน้อย ขณะนี้เอง เธอมองเห็นเงาหลังของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนอยู่ในอ่างอาบน้ำโดยพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียวปรากฎแวบขึ้นมาในคลิปวิดีโอของหลินเยียน สีหน้าเธอจึงยิ่งบึ้งตึงขึ้นมาทันที

 

 

“เธอ…เธอมาดูของ ต้อง ห้าม แบบนี้ตอนกลางวันแสกๆ? เธอจะสงบเสงี่ยมสักหน่อยได้หรือเปล่า!”

 

 

หลินเยียน “ชิ…ทำไมต้องสงบเสงี่ยมด้วย?”

 

 

ฉันดูแฟนของฉัน ต่อให้ถูกห้ามแล้วจะทำไม

 

 

จะว่าไป…เผยอวี้เฉิงไปเมืองนอกได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่วงนี้เธอไม่ได้มีการติดต่อใดๆ กับเผยอวี้เฉิงเลย

 

 

เผยอวี้เฉิงไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มโทรหาเธอก่อน แม้แต่ข้อความก็ไม่มีสักข้อความเดียว คนทึ่มด้านความรักอย่างหลินเยียนก็ยิ่งไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ทั้งสองคนติดต่อกันผ่านเผยอวี่ถังหรือไม่ก็เผยหนานซวี่