บทที่ 190: อย่าตกใจไปเรายังมีไพ่ตายอยู่

ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END

บทที่ 190: อย่าตกใจไปเรายังมีไพ่ตายอยู่

เขตการปกครองแอสคาร์ดยังคงสงบสุขตามปกติ ทว่าความสงบสุขนี้ ครอบคลุมเพียงแค่เหล่าพลเรือนธรรมดา ๆ ผู้โง่เขลาเท่านั้น ต่างจากบรรดาผู้รู้ข่าวลับที่กำลังตื่นตระหนก

โรเอล แอสคาร์ด ตัวแทนผู้ปกครองเขตการปกครองแอสคาร์ด ผู้อยู่เบื้องหลังการปฏิรูปที่ปรับปรุงมาตรฐานสวัสดิการ การครองชีพของผู้คน นำความหวังสำหรับอนาคตอันยิ่งใหญ่มาสู่พวกเขา ผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของตระกูลแอสคาร์ดอันทรงเกียรติ และผู้ถือครองตำแหน่งอีกมากมาย ได้หายตัวไปแล้ว!

ซ้ำร้ายเขายังถูกลักพาตัวไปโดยองค์หญิงแห่งเมืองโรซ่าที่อยู่ใกล้ ๆ เสียด้วย!

แม้แต่นักประพันธ์ในยุคนี้ก็ยังไม่กล้าที่จะเขียนอะไรหนักหน่วงเช่นนี้ในบทกวีของพวกเขา!

แม้ว่าข่าวลือจะกระจายไปทั่วบริเวณแนวชายแดน แต่ทางตระกูลแอสคาร์ดก็ยังปฏิเสธที่จะรับทราบหรือตอบกลับไป พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกปิดเรื่องนี้ให้เป็นความลับมากที่สุด

มันเป็นเรื่องน่าอัปยศอย่างยิ่ง สำหรับเขตการปกครองที่สูญเสียผู้ปกครองเขตของตนไป!

หากข่าวนี้กระจายไปทั่วจักรวรรดิเซนต์เมซิทล่ะก็ ขุนนางคนอื่น ๆ ที่มีความขัดแย้งกับตระกูลแอสคาร์ดจะต้องเยาะเย้ยพวกเขาอย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน เกียรติยศของตระกูลเซไซต์ที่เป็นผู้พิทักษ์เองก็จะถูกทำให้ตกต่ำลงไปด้วย ที่สำคัญที่สุด ถ้าเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการทูตระหว่างอาณาจักร อาณาจักรมหาอำนาจอื่น ๆ ก็อาจจะใช้โอกาสนี้เข้ามารังควานพวกเขาได้ เช่น จักรวรรดิออสทีน เป็นต้น

มาตกลงเจรจากันเป็นการส่วนตัวเถอะ

นี่คือฉันทมติที่ตระกูลแอสคาร์ด ตระกูลเซไซต์ และผู้ลักพาตัวอย่าง ตระกูลโซโรฟยาตกลงร่วมกัน อย่างไรก็ตามช่วงเวลานี้เองความเงียบงันก็ได้กลืนกินคฤหาสน์ตระกูลแอสคาร์ด

อลิเซียและนอร่ากำลังนั่งอยู่ในห้องประชุม แต่ละคนนั่งคนละฝั่งแยกกันที่หัวและท้ายของโต๊ะ เด็กสาวผมทองจับที่จับเก้าอี้อย่างแน่นหนาด้วยใบหน้าที่ดูเฉยเมย ขณะที่เด็กสาวผมสีเงินชี้นิ้วสั่นเทาไปทางเธอ

ห้าวันก่อน ข่าวจากนอร่าเกี่ยวกับการถูกลักพาตัวของโรเอล ถูกส่งมาถึงอลิเซียในเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เด็กสาวตกตะลึงเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเธอสงบสติลงครุ่นคิดดี ๆ เธอก็สังเกตเห็นจุดผิดปกติมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประการแรก อลิเซียไม่เข้าใจว่าทำไมชาร์ล็อตถึงทำเช่นนั้น

แค่ความชอบธรรมจากสัญญาหมั้น ก็เพียงพอที่จะช่วยให้ชาร์ล็อตอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุดในบรรดาพวกเธอทั้งหมด นั่นคือเหตุผลที่อลิเซียต้องยอมขอความช่วยเหลือจากนอร่าให้มาจัดการกับเธอ ทว่าอีกฝ่ายกลับหนีไปก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไรเสียอย่างนั้น!

แม้ว่าอลิเซียจะไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเสียเวลา และรีบกลับบ้านในทันที

ตามเนื้อหาของจดหมายฉบับล่าสุดที่อลิเซียได้รับ นอร่าได้นำกองอัศวิน และทหารองครักษ์จากตระกูลแอสคาร์ดออกไปตามล่าชาร์ล็อต เพราะหากพิจารณาตามระยะเวลาแล้ว พวกชาร์ล็อตน่าจะยังอยู่ภายในอาณาเขตของเขตการปกครองแอสคาร์ด และนอร่าก็น่าจะไล่ตามจับพวกเขาได้ไม่ยาก เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลอะไร

ข้อสรุปนี้ทำให้อลิเซียค่อนข้างพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของชาร์ล็อตคืออะไร อีกฝ่ายก็ได้ทำเรื่องผิดพลาดร้ายแรงลงไปแล้ว ขนาดที่สถานะคู่หมั้นของโรเอลที่เธอมีก็ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยเธอได้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง นี่ถือเป็นจุดสิ้นสุดของทั้งสองคนในฐานะคู่หมั้น ชาร์ล็อตจะถูกโยนทิ้งลงในถังขยะ และจะไม่มีโอกาสได้พบกับโรเอลอีก

ดูเหมือนว่าท้ายที่สุดทุกอย่างจะจบลงด้วยดี อย่างน้อย ๆ เราก็กำจัดคู่แข่งไปได้แล้วหนึ่งราย

ด้วยความคิดดังกล่าว อลิเซียจึงได้เดินทางกลับไปยังเขตการปกครองแอสคาร์ด ทว่าผลลัพธ์กลับตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเธอ สิ่งที่รอเด็กสาวอยู่ไม่ใช่อ้อมกอดของโรเอล แต่เป็นใบหน้าอันซีดเผือดของนอร่า ต่อจากนั้นข่าวอันน่าตกใจก็ได้เขย่าให้อลิเซียตกใจไปถึงแก่น จนจิตใจของเธอว่างเปล่าไปครู่ใหญ่ ถึงกระนั้นเด็กสาวก็ไม่อาจละสายตาจากความเป็นจริงของสิ่งต่าง ๆ ไปได้

ตอนนี้เราสูญเสียท่านพี่ไปแล้วจริง ๆ งั้นเหรอ?…

“ฝ่าบาทน่าจะตามพวกเขาได้ทันไม่ใช่เหรอ? แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหนกันล่ะ?!”

“… พวกเราตามทันพวกเขาแล้ว ถึงสองครั้ง! แต่ทั้งคู่นั้นกลับเป็นเพียงแค่เหยื่อล่อ”

“เหยื่อล่อ? ล้อกันเล่นรึเปล่า! ต่อให้เป็นเหยื่อล่อก็เถอะ แต่มันก็ไม่มีทางเลยที่พวกตระกูลโซโรฟยาจะเดินทางได้เร็วกว่าท่านในฤดูหนาวเช่นนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ภายใต้การสอบสวนอันเดือดดาลของอลิเซีย สีหน้าของนอร่าเริ่มเปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อย ๆ เด็กสาวเงียบไปครู่หนึ่งพลางนึกถึงเหล่าองครักษ์ของตระกูลแอสคาร์ดที่เธอระดมพลมา ก่อนที่จะเปิดเผยความจริง

นอร่าน่าจะสามารถไล่ตามชาร์ล็อตและโรเอลได้ทัน ดังนั้นผู้ที่ชนะการไล่ล่าครั้งนี้ก็ควรจะเป็นเธอ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เด็กสาวคาดไม่ถึงก็คือ ชาร์ล็อตไม่ได้คิดที่จะเล่นเกมไล่ล่ากับพวกเขา เธอกำลังเล่นเกมซ่อนแอบ โดยปลอมตัวเป็นพลเรือนแทน

ทันทีที่กองทหารของนอร่าไปถึงส่วนลึกของภูเขา และพบกับเหล่านักล่าในท้องถิ่นแทนที่จะเป็นรถม้าอันหรูหราของตระกูลโซโรฟยา เด็กสาวก็รู้ได้ทันทีว่าตนเองตกหลุมพรางของอีกฝ่ายเสียแล้ว ขณะนั้นเอง สมองของนอร่าก็หวนนึกกลับไปถึงหญิงชราที่เธอพบในหมู่บ้าน

หญิงชราคนนั้นไม่มีคลื่นการไหลเวียนของพลังเวท ดังนั้นนอร่าจึงคิดว่าเธอเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา อย่างไรก็ตาม เด็กสาวลืมไปว่านี่ไม่ใช่เมืองหลวงที่มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี แต่เป็นหมู่บ้านทุรกันดารบนภูเขาอันห่างไกล

ในยุคนี้ ความไม่สะดวกในการเดินทางนั้นทำให้ทรัพยากรต่าง ๆ สำคัญมาก เช่น ยา ที่มักจะขาดแคลนอยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่บ้านอันห่างไกลที่พ่อค้าแทบจะไม่เคยเดินทางผ่าน ส่งผลให้อายุขัยโดยเฉลี่ยของผู้คนในชนบทมีแนวโน้มต่ำกว่าในเมืองมาก

ถึงมันจะค่อนข้างปกติ ที่ในหมู่บ้านอาจจะมีผู้สูงอายุอยู่บ้าง แต่เขาหรือเธอคนนั้น ก็ควรจะเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ที่รอดมาได้ด้วยการดูดซึมพลังเวทที่อยู่รอบตัว

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ผู้ที่เข้าร่วมการประชุมระหว่างหมู่บ้านส่วนใหญ่มักจะเป็นคนชรา ไม่ใช่เพียงเพราะว่าพวกเขามีประสบการณ์ชีวิตมามากมาย แต่แท้จริงแล้วผู้เฒ่าที่ดูเหมือนอ่อนแอเหล่านั้น คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้านด้วยนั่นเอง

พวกเขาไม่ได้กลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติด้วยอายุที่มาก แต่พวกเขาสามารถอยู่จนแก่ถึงขนาดนี้ได้เพราะพวกเขากลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติต่างหาก

มันจึงเป็นเรื่องแปลกที่หญิงชราคนนั้นไม่มีการไหลเวียนของพลังเวทเลย หากไม่ได้เป็นเพราะเธอโชคดีราวกับได้พบดาวแห่งโชคลาภ และอยู่รอดมาถึงวัยชราได้ด้วยโชคล้วน ๆ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าหญิงชราคนนั้นตั้งใจลบร่องรอยการไหลเวียนพลังเวทของตนเอง เพื่อสลัดผู้ที่กำลังไล่ตามเธอออกไป

หญิงชราคนนั้นต้องเป็นชาร์ล็อตที่ปลอมตัวอยู่แน่

ทันทีที่ฉุกคิดได้ถึงเรื่องนี้แล้ว นอร่าก็รู้สึกเย็นไปถึงขั้วหัวใจ เด็กสาวหันหลังกลับในทันที ทว่าตอนนั้นเธอก็เหนื่อยล้าเกินกว่าจะไล่ตามพวกเขาไปแล้ว

นอกจากนี้ เวลายังผ่านมากว่าครึ่งวันแล้ว นับจากที่นอร่าเริ่มออกเดินทางไปบนภูเขา แบบนี้เธอจะไล่ตามชาร์ล็อตทันได้อย่างไร? ตอนที่เด็กสาวกลับไปถึงหมู่บ้าน ชาร์ล็อตและโรเอลก็คงจะข้ามพรมแดนกันไปแล้ว

“คราวนี้ข้ากังวลเกินไป จนพลาดที่จะคำนึงถึงรายละเอียดหลาย ๆ เรื่อง ข้าจึงพลาดพลั้งให้กับแผนของเธอคนนั้น”

นอร่ากัดฟันแน่นด้วยดวงตาอันสงบ ทว่าภายใต้ความสงบนั้นกลับมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ ทำให้อลิเซียต้องประหลาดใจ

“อย่างไรก็ตาม ถ้าชาร์ล็อตคิดว่ามันจะจบแค่นี้ เธอก็ไร้เดียงสาเกินไป เธอไม่ควรประมาทข้า ข้าคือผู้พิทักษ์ของโรเอล และการกระทำของเธอนั้นได้ถือเป็นการท้าทายอำนาจของข้า ในฐานะคนของตระกูลเซไซต์ ชาร์ล็อตจะต้องได้รับผลจากการกระทำของเธอ”

“… แล้วท่านวางแผนจะทำยังไงต่อล่ะ”

เมื่อรับรู้ได้ว่านอร่าโกรธมากเกี่ยวกับเรื่องในครั้งนี้ อลิเซียก็สงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วพร้อมถามถึงกลยุทธ์ของอีกฝ่าย มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมากล่าวโทษนอร่า ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการหาทางเอาตัวโรเอลกลับมา

แม้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อาจจะฟังดูน่าหัวเราะ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเพียงการทะเลาะวิวาทระหว่างเด็ก ๆ อีกต่อไปแล้ว เมืองโรซ่าเป็นอาณาจักรที่มั่งคั่ง พวกเขามีความสัมพันธ์ทางการทูตฉันมิตรกับจักรวรรดิเซนต์เมซิทและเขตการปกครองแอสคาร์ด ทุกอาณาจักรและเขตการปกครองที่เกี่ยวข้องต่างก็มีจุดยืนเป็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอร่ามีแผนอย่างไรที่จะจัดการกับเรื่องทั้งหมดนี้กันแน่?

คำตอบของนอร่าก็คือการจัดตั้งกองกำลังพิเศษเพื่อสอบสวนการลักพาตัวของตัวแทนผู้ปกครองเขตการปกครองแอสคาร์ด นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเธอที่จะสร้างความได้เปรียบในสถานการณ์นี้

จุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิเซนต์เมซิท คืออิทธิพลมหาศาลเหนือประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพูดถึงอิทธิพลแล้วล่ะก็ ตระกูลเซไซต์สามารถเป็นผู้พิพากษาและตัดสินคดีในนามของมนุษยชาติได้ แม้ว่าจะอยู่นอกเหนืออาณาเขตของตนก็ตาม

นอกจากนี้ ในฐานะที่นอร่าเป็นผู้พิทักษ์ของโรเอล เธอมีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าไปแทรกแซงได้ เด็กสาวคิดจะใช้สถานะของเธอในฐานะหัวหน้าหน่วยสอบสวน เพื่อเข้าพบชาร์ล็อต ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้… และพาโรเอลกลับมา

“พวกเราคำนวณพลาดไป ความสัมพันธ์ระหว่างโรเอลกับชาร์ล็อตนั้นไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว และ เรื่องนั้นจะทำให้พวกเราลำบากมาก”

นอร่าพูดถึงคุณสมบัติแก่นแท้ต้นกำเนิดความภักดีของตระกูลโซโรฟยา ทำให้ใบหน้าของอลิเซียเคร่งขรึมขึ้น หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง อลิเซียก็ส่ายหัวแทนคำตอบ

“เราอาจจะคำนวณผิดพลาดไปก็จริง แต่ทางชาร์ล็อตเองก็มีปัญหาที่เธอไม่สามารถแก้ไขได้เช่นกัน”

“มันคืออะไรรึ?”

“เวลา”

อลิเซียเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนัง พลางนึกถึงเวลาที่เธอใช้เวลาร่วมกับโรเอลตลอดหลายปีที่ผ่านมา ด้วยข้อมูลในฐานะผู้ที่รู้จักโรเอลดีที่สุด เด็กสาวจึงสามารถวิเคราะห์ได้ราวกับเป็นมืออาชีพ

“แม้ว่าจะไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน แต่ท่านพี่ก็เป็นคนที่มักจะหวนคิดถึงอดีต ถึงเขาจะชอบลองสิ่งใหม่ ๆ แต่ในใจก็มีที่ว่างสงวนไว้สำหรับความทรงจำในอดีตเสมอ”

“ไม่ว่าจะเป็นฝ่าบาทหรือดิฉัน พวกเราทั้งคู่ต่างก็รู้จักท่านพี่มาหลายปีแล้ว ไม่ว่าชาร์ล็อตจะมีความสามารถ หรือทรัพยากรและความมั่งคั่งมากเพียงใด เธอก็ไม่สามารถสั่นคลอนรากฐานของพวกเราได้”

นอร่าสงบลงเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของอลิเซีย ตอนนี้พวกเธอได้มาถึงจุดเชื่อมต่อที่สำคัญอีกจุดหนึ่งในความสัมพันธ์แล้ว

นี่คือการต่อสู้ระหว่าง การที่ชาร์ล็อตจะพิชิตโรเอลได้ก่อน หรือพวกเธอทั้งสองคนและเขตการปกครองแอสคาร์ด จะได้โรเอลกลับคืนมาก่อน

ด้วยสภาพในปัจจุบัน ความได้เปรียบนั้นเหมือนจะอยู่ที่ฝั่งของชาร์ล็อต แม้ว่ามันจะค่อนข้างเป็นไปได้ยากสำหรับตระกูลโซโรฟยาหัวโบราณที่จะมาโปรยเสน่ห์จีบคนอื่น แต่ด้วยจุดแข็งของชาร์ล็อต ทั้งรูปลักษณ์ที่สวยงามและนิสัยอันสูงส่ง โรเอลก็ไม่น่าจะเกลียดเธอได้ หากเธอหันไปใช้วิธีที่น่ารังเกียจแล้วล่ะก็…

ถ้าเป็นในอดีต นอร่าไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้น เพราะมันยากที่จะจินตนาการว่าผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลโซโรฟยาอันภาคภูมิ จะลดตัวลงมาทำแบบนั้นเพื่อผู้ชายคนหนึ่ง ทว่าตอนนี้… ชาร์ล็อตถึงขั้นลักพาตัวโรเอลไปแล้ว หลังจากนี้ก็คงไม่มีอะไรให้เธอต้องรู้สึกละอายอีก!

นอร่าเงยหน้ามองไปทางทิศใต้ด้วยความกังวล อลิเซียเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นอย่างช้า ๆ

“ไม่ต้องกังวล ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก เรายังมีไพ่ตายอยู่”

“ไพ่ตาย? เจ้ากำลังพูดถึงอะไร…?”

“ต่อให้ตอนนี้ชาร์ล็อตจะใช้วิธีการบางอย่างเพื่อซื้อใจท่านพี่ ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็คงจะไม่เกิดผลอะไร นั่นก็เพราะการตัดสินใจขั้นสุดท้ายไม่ได้อยู่ในมือของท่านพี่”

ดวงตาสีทับทิมของอลิเซียหรี่ลงเล็กน้อย

“ท่านพ่อกำลังจะกลับมาแล้ว”