ตอนที่ 138 เกิดเรื่องไม่คาดฝัน

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

“คุณท่านฮ่อสบายดีครับ” หลินเหยียนเฟิงรีบเดินตรงหน้าฮ่อหยุนเฉิงและกล่าว
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฮ่อหยุนเฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เม้มริมฝีปากบางเซ็กซี่ของเขาและถามด้วยน้ำเสียงที่ทุ้ม “หลินเหยียนเฟิง มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ตอนผมกลับมาจากฝรั่งเศส ทุกอย่างก็ปกติครับ” หลินเหยียนเฟิงพูดไปคิดไป “ไม่นานหลังจากนั้น จู่ๆ ก็มีข่าวเครื่องบินของคุณตก
ตอนนั้นที่มีข่าวมาทำให้ทุกคนใจเสียกันมาก โดยเฉพาะคุณท่านฮ่อที่หาทีมกู้ภัยจพนวนมากออกตามหาพวกคุณ
แต่วันรุ่งขึ้น คุณท่านฮ่อก็ไม่ปรากฏตัว หลินเจียต้งบอกว่าโรคหัวใจกำเริบและถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาฉุกเฉินแล้ว”
“โรคหัวใจกำเริบ?” ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว
เขารู้ว่าปู่ของเขาเป็นโรคหัวใจ แต่ก็กินยามาตลอดหลายปีจนควบคุมได้อย่างดีแล้ว
“ใช่ครับ” หลินเหยียนเฟิงพยักหน้าและพูดต่อ “หลินเจียต้งบอกว่าเป็นเพราะคุณหายไปและไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน คุณท่านฮ่อที่มีเรื่องไปกระตุ้นแถมยังวิ่งวุ่นอยู่หลายวันจึงล้มป่วย ผมที่ไปเยี่ยมคุณท่านฮ่อที่โรงพยาบาลแต่ก็ถูกหลินเจียต้งห้ามไว้ครับ”
“หลินเจียต้งไม่ให้นายเจอคุณปู่?” ริมฝีปากเซ็กซี่ของฮ่อหยุนเฉิงแม้มจนเป็นเส้นเดียว
“ใช่ครับ เขาบอกว่าคุณท่านฮ่อป่วยหนักและจำเป็นต้องพักฟื้น ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าไปรบกวน” สีหน้าของหลินเหยียนเฟิงนิ่งขึ้น
“แล้วคุณรู้ได้ไงว่าคุณปู่ฮ่อสบายดีล่ะคะ?” ซูฉิงถามขัดจังหวะหลินเหยียนเฟิง
ตามที่หลินเหยียนเฟิงพูด หลินเจียต้งกักบริเวณท่านผู้เฒ่าฮ่อเอาไว้ แล้วเขามั่นใจได้ยังไงว่าท่านผู้เฒ่าฮ่อไม่เป็นอะไร?
“คืออย่างนี้ครับ” หลินเหยียนเฟิงอธิบาย “ช่วงนั้นผมให้ทีมกู้ภัยทำการค้นหาในทะเล แต่ขอบเขตที่เครื่องตกนั้นไม่แน่นอน จึงมีความยากมาก
ส่วนอีกทางผมก็พยายามทุกวิถีทางที่จะไปโรงพยาบาล อยากติดต่อกับคุณท่านฮ่อให้ได้ แต่การป้องกันของหลินเจียต้งนั้นเข้มงวดมาก ผมจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม เพราะเกรงว่าจะพาลไปทำร้ายคุณท่านฮ่อ”
ซูฉิงถามต่อ “แล้วหลังจากนั้นล่ะ”
หลินเหยียนเฟิงหยิบโน้ตจากกระเป๋าเสื้อสูทแล้วยื่นให้ฮ่อหยุนเฉิง “ตอนผมทางตันก็มีพยาบาลคนหนึ่งยื่นกระดาษนี้ให้ผมครับ”
นิ้วเรียวยาวของฮ่อหยุนเฉิงรับกระดาษก่อนจะมองลงไปเพียงเพื่อดูรหัสมอร์สที่เขียนไว้
คำแปลคือ “ระวังหลินเจียต้งและรีบตามหาหยุนเฉิงให้เร็วที่สุด”
ฮ่อหยุนเฉิงจำได้ว่าเป็นลายมือของคุณปู่
“ผมพยายามติดต่อพยาบาลคนนั้นแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล” หลินเหยียนเฟิงกล่าวต่อ “ท่าทีของตระกูลฮ่อกรุ๊ปนั้นยังดูนิ่ง แต่ตั้งแต่วันนั้นหลินเจียต้งรับตำแหน่งประธานชั่วคราว ทั้งยังดูแลทุกเรื่องของตระกูลฮ่อกรุ๊ป”
“ก็แสดงว่าหลินเจียต้งจับตาดูตำแหน่งประธานของตระกูลฮ่อกรุ๊ปมานานแล้ว” ดวงตาที่ลึกล้ำของฮ่อหยุนเฉิงเปล่งประกายสัญชาตญาณของเขาไม่ผิด
หลินเจียต้งตั้งใจทำหลายอย่างขนาดนี้ คงหนีไม่พ้นการมีเกี่ยวกับที่เครื่องบินเขาตก
หลินเหยียนเฟิงกล่าวต่อ “เขายังพยายามซื้อตัวผมด้วย ยังไม่พอ วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท จู่ๆ หลินเจียต้งก็ประกาศว่าเขาจะเข้ารับตำแหน่งท่านประธานของตระกูลฮ่อกรุ๊ป และจะมีการแถลงข่าวในอีกสองวันครับ”
ฮ่อหยุนเฉิงหัวเราะเยาะ “หางจิ้งจอกของหลินเจียต้งคงซ่อยไม่อยู่แล้วสินะ”
“ฉันกลัวมากว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ ตอนนี้คุณท่านฮ่อก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ผมอยากหาคนปรึกษาก็ไม่ได้เลย ดีที่ตอนนี้คุณกับคุณซูกลับมาแล้ว” หลินเหยียนเฟิงถอนหายใจ
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาและหลินเจียต้งได้ต่อสู้กันด้วยไหวพริบจนเริ่มอ่อนแรงแล้ว
โชคดีที่ท่านประธานไม่เป็นอะไรและกลับมาในช่วงสำคัญพอดี ในที่สุดหลินเหยียนเฟิงก็โล่งอกสักที
“อันที่จริง สถานการณ์ปัจจุบันเป็นประโยชน์ต่อเรา” หลังจากฟังที่หลินเหยียนเฟิงพูดจบ ซูฉิงจึงกล่าวเสียงเรียบ “หลินเจียต้งกระตือรือร้นอยากประสบความสำเร็จให้เร็ว จนเผยความทะเยอทะยานของเขาออกมาแล้ว
ดีตรงที่ว่าเขาคิดว่าเกิดเรื่องกับฮ่อหยุนเฉิงแล้ว ทั้งยังไม่มีคนยืนยันว่าฮ่อหยุนเฉิงนั้นเป็นหรือตาย เขาจึงจะรีบฮุบตระกูลฮ่อกรุ๊ป เขาอยู่ที่สว่าง เราแอบในที่มืด เราจะได้จัดการเขาได้”
ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองซูฉิงอย่างชื่นชม เขารู้มานานแล้วว่าคู่หมั้นของเขานั้นไม่ธรรมดา
ทั้งยังคิดเหมือนกันกับเขาในเวลานี้ เรียกว่ารู้ใจหรือเปล่านะ?
น้ำเสียงของฮ่อหยุนเฉิงเย็นชา “หลินเหยียนเฟิง เราต้องรีบรวบรวมหลักฐานและช่วยชีวิตคุณปู่ก่อนที่หลินเจียต้งจะจัดงานแถลงข่าว”
“ครับท่านประธาน” ท่าทางของหลินเหยียนเฟิงดูเคร่งขรึม
“สองวันอาจจะเร็วไปหน่อย แต่น่าจะทัน” ซูฉิงขมวดคิ้วก่อนจะนั่งลงข้างฮ่อหยุนเฉิงแล้วพูด
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาหลักฐานว่าหลินเจียต้งเป็นคนจัดการกับเครื่องบินฮ่อหยุนเฉิงแต่จะหยุดเขาไม่ให้ดำรงตำแหน่งประธานของตระกูลฮ่อนั้นก็นับว่าทัน
“ในเมื่อหลินเจียต้งคิดติดสินบนนาย เราก็ทำตามนั้น” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวอย่างครุ่นคิด
“ท่านประธานหมายความว่ายังไงครับ” หลินเหยียนเฟิงถามด้วยความเคารพ
“นายตกลงตามคำขอของเขาไป ให้เขาคิดว่าเขาทำสำเร็จ จนหละหลวมแล้วเราก็ใช้โอกาสนี้รวบรวมหลักฐาน” ซูฉิงกล่าวเสริม
เมื่อเห็นท่านประธานของตัวเองและซูฉิงที่เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย หลินเหยียนเฟิงก็พยักหน้าต่อเนื่อง ความเศร้าโศกในใจในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาก็หายไป
นี่เรียกว่าสามีภรรยาที่เข้ากันได้?
ฮ่อหยุนเฉิงอธิบายสั่งงานให้หลินเหยียนเฟิงอย่างละเอียด หลินเหยียนเฟิงก็จดจำมันเอาไว้
“ท่านประธาน ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะครับ หลินเจียต้งจะได้ไม่สงสัย” หลินเหยียนเฟิงยกมือขึ้นดูเวลา เขาออกมานานแล้ว
“ได้” ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงเรียบ
หลังจากที่หลินเหยียนเฟิงจากไป ซูฉิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาและตรวจสอบข่าวอย่างคุ้นเคย
อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยรายงานเกี่ยวกับตระกูลฮ่อกรุ๊ป
[เครื่องบินของฮ่อหยุนเฉิงประธานตระกูลฮ่อกรุ๊ปตกลงทะเล ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ารอดหรือไม่!]
[คุณท่านฮ่อคณะกรรมการโรคหัวใจกำเริบ สถานการณ์กำลังวิกฤต!]
[หลินเจียต้งลูกชายบุญธรรมของคุณท่านฮ่อก้าวไปข้างหน้าในช่วงวิกฤต และจะเป็นประธานบริษัทของตระกูลฮ่อกรุ๊ปในไม่ช้า!]
ซูฉิงหรี่ตา คงจะเป็นหลินเจียต้งที่ตั้งใจปล่อยข่าวพวกนี้
เมื่อเห็นสีหน้าของชายที่อยู่ข้างๆ เริ่มไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ ซูฉิงก็ปิดโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด ทั้งยังขมวดคิ้วและถอนหายใจ “ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าหลินเจียต้งจะทำถึงขนาดนี้ คุณปู่ดีกับเขาขนาดนั้น เขายังกักบริเวณเพราะความทะเยอทะยาน ทัง้ยังพยายามจะขโมยตระกูลฮ่อกรุ๊ปอีก รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ!”
ใบหน้าหล่อเหลาของฮ่อหยุนเฉิงมัวหมอง “คุณปู่คงผิดหวังมาก”
จริงๆ แล้วไม่ได้มีแค่คุณปู่ที่ผิดหวัง ฮ่อหยุนเฉิงเองก็ผิดหวังไม่ต่างกัน
เขาจำได้ว่าตอนเด็กๆ หลินเจียต้งมันจะเล่นกับเขา แถมยังซื้อของเล่นให้เขา ทั้งยังไปส่งเขาเรียนหนังสือ
ฮ่อหยุนเฉิงจึงเคารพหลินเจียต้งมาตั้งแต่เด็ก
ไม่คิดเลยว่าหลินเจียต้งจะคอยจับจ้องตระกูลฮ่อกรุ๊ป คิดเรื่องนี้มาตั้งหลายปีคงจะเพื่อวันนี้ใช่ไหม?
“หยุนเฉิง นายคิดอะไรอยู่?” เมื่อเห็นรอบตัวฮ่อหยุนเฉิงมีแต่ความเย็นยะเยือก ซูฉิงจับมือเขาและถามด้วยความเป็นห่วง
ฮ่อหยุนเฉิงรู้สึกตัว ดวงตาของเขาฉายแววความเจ็บปวด และพูดอย่างเย็นชา “ฉันสงสัยว่าอุบัติเหตุของพ่อฉันจะเกี่ยวข้องกับหลินเจียต้งด้วยน่ะ”