ตอนที่ 163 ฉันยอมเป็นขอทานดีกว่า

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ทันใดนั้นเองจู่ๆ หลิ่วอวี่เจ๋อก็เกิดคิดชู้สาวกับฉินหงเหยียน

ฉินหงเหยียนอายุมากกว่าเขา แถมยังเป็นคนที่ดูมีสง่าราศีอย่างมาก ปกติแล้วหลิ่วอวี่เจ่อมองหญิงสาวก็ไม่กล้าจะคิดอะไรเกินเลยกับอีกฝ่าย

ทว่าฉินหงเหียนในตอนนี้อ่อนล้าเพียงเพราะสัมภาษณ์มีแต่ปัญหาทั้งวัน

อากาศที่เทียนไห่ร้อนอบอ้าว รถก็จอดยาก ฉินหงเหยียนเองจึงร้อนจนเหงื่อไหลเป็นสายน้ำ

เมื่อขึ้นรถไปแล้ว หญิงสาวก็สลัดรองเท้าที่ทรมานตนเองทั้งวันทิ้งไป

หลิ่วอวี่เจ๋อเห็นฉินหงเหยียนมีท่าทางอ่อนล้าอย่างยิ่ง เสื้อผ้ายุ่งเหยิงดังนั้นถึงได้ฉวยโอกาสนี้รังแกหล่อน

นี่ถือว่าเป็นการแก้แค้นเย่เฉินอย่างหนึ่ง!

ตลอดเจ็ดปีมานี้ผู้ชายที่คิดจะฉวยโอกาสกับหล่อนมีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

หญิงสาวแค่มองแววตาของผู้ชายก็รู้แล้วพวกเขาคิดอะไรอยู่!

ดังนั้นตอนที่หลิ่วอวี่เจ๋อคิดจะจุมพิตหญิงสาว ฉินหงเหยียนก็เปิดประตูรถออกไปด้านนอกอย่างแรง!

“โอ้ยๆ หัวๆ! หัวติดแล้ว! อย่าผลักสิ!”

หลิ่วอวี่เจ๋อลนลาน ร้องโวยวายทันที แล้วครึ่งบนของเขาก็ติดแหงกอยู่ในรถ ส่วนท่อนล่างอยู่นอกตัวรถ สภาพน่าอนาถเหลือเกินอย่างยิ่ง

ฉินหงเหยียนผลักหลิ่วอวี่เจ๋อออกแล้วใส่รองเท้าส้นสูงเดินลงจากรถ แล้วกลับมีมาดอย่างเดิม

หลิ่วอวี่เจ๋อมุดตัวออกจากรถชี้ไปที่ฉินหงเหยียนแล้วกล่าว “ผู้หญิงแบบคุณนี่มันใจกล้าใช้ได้เลยนี่ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าเสียมารยาทกับผมแบบนี้!”

ฉินหงเหยียนเองถือว่าไว้หน้าเขาแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีคุณปู่ที่ดี เมื่อครู่ฉินหงเหยียนคงจะไม่แค่เปิดประตูรถแล้ว แต่น่าจะเป็นการประเคนฝ่ามือฟาดลงบนหน้าเขา!

ฉินหงเหยียนกล่าว “หลิ่วอวี่เจ๋อพรุ่งนี้คุณก็จะแต่งงานแล้ว ไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนภรรยาคนสวยของคุณล่ะ แต่ดันมาตามฉันทั้งวัน คุณนี่ว่างจนไม่มีอะไรจะทำเลยสินะ!”

หลิ่วอวี่เจ๋อหัวเราะร่วน “อย่าคิดว่าผมยุ่งกับเรื่องงานแต่งแล้วจะปล่อยพวกคุณไปนะ พวกคุณมาถึงถิ่นผม ผมจะปล่อยให้พวกคุณมีชีวิตสบายๆ กันได้ยังไง! ฉินหงเหยียนเราสองคนไม่มีความแค้นอะไรต่อกัน พูดตรงๆ นะผมน่ะชื่นชมคุณมากเลย ผู้บริหารหญิงที่ทั้งสวยทั้งเก่งแบบคุณน่ะในเทียนไห่ไม่ได้มีเยอะนักหรอก

ขอแค่คุณเลิกกับเย่เฉิน ไม่คบหากับเขาอีก ผมจะรับคุณไปทำงานที่บริษัทชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสของที่บ้านผม และแน่นอนว่าตอนนี้คุณอาจจะเป็นรองผู้บริหารไม่ได้ แต่เป็นผู้บริหารระดับสูงย่อมไม่มีปัญหาอะไรแน่ คุณเก่งกาจแบบนี้ คิดว่าไม่ถึงสองปี คุณก็น่าจะเลื่อนขั้นเป็นผู้บริหารได้ด้วยตนเองจริงไหมล่ะ?”

บริษัทชุนเฟิงเอ็กซ์เพรสเป็นบริษัทที่มีทรัพย์สินแสนล้าน หลิ่วอวี่เจ๋อกำลังยื่นไมตรีให้อีกฝ่าย ย่อมต้องยื่นข้อเสนอที่น่าเย้ายวนใจไม่น้อย!

แต่ฉินหงเหยียนยังคงปฏิเสธอย่างแน่วแน่ “ฉันไม่ทำข้อแลกเปลี่ยนกับคุณ! ฉันอยากเป็นแฟนของเย่เฉินมากกว่า! และฉันไม่จำเป็นต้องทำงานให้คนอื่น ฉันเองก็มีเงิน ถ้ายากมากก็เปิดบริษัทตัวเอง!”

ฉินหงเหยียนเองก็เป็นเศรษฐีนีสาวที่มีเงินมหาศาล เงินแค่ร้อยล้านหญิงสาวสามารถเอาออกมาใช้ได้ตอดเวลา

ทว่าหลิ่วอวี่เจ๋อกลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “ฮ่าๆ เปิดบริษัทเองเหรอ? ดีจริงๆ เลย ผมรอพวกคุณใช้เงินจนหมด แล้วคุณก็จะกลายเป็นยาจกกับเย่เฉิน! คุณจะลองดูก็ได้ เชิญคุณเปิดบริษัทอะไรก็ได้ ทำธุรกิจอะไรก็ได้ ผมจะเล่นงานพวกคุณไปจนกว่าพวกคุณจะหมดสิ้นหนทาง!

คุณใช้เงินร้อยล้าน ผมก็จะใช้เงินสองร้อยล้านมาถล่มคุณ ถ้าคุณใช้พันล้านผมก็จะใช้เงินห้าพันล้านมาเล่นงานคุณ! ถ้าจะแข่งเรื่องเงินกับผม ผมเล่นเอาคุณให้ตายได้เลย!”

วิธีทำธุรกิจในตอนนี้ คือยุคของการแข่งขันว่าใครจะเผาเงินได้มากกว่ากัน

ก่อนนี้เย่เฉินก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้เล่นงานบริษัทที่ฟางเชาไปลงทุน

ขอแค่ฉันมีเงินให้ผลาญมากกว่านาย ยังไงเสียก็ถล่มนายเละเทะได้อยู่ดี

ฉินหงเหยียนหัวเสียถึงขีดสุด “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าตระกูลหลิ่วจะทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้ที่เทียนไห่ ฉันไม่เชื่อว่าตระกูลหลิวของพวกคุณจะไม่มีคู่แข่งแล้วจะไม่กลัวใครเลย! ฉันจะบอกคุณให้นะ ต่อให้ฉันกับเย่เฉินต้องเป็นขอทานในเมืองเทียนไห่ ฉันก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้คุณหรอก!”

หลิ่วอวี่เจ๋อยกนิ้วให้ฉินหงเหยียน “ใช้ได้เลยนี่ งั้นผมจะรอดูวันที่พวกคุณเป็นขอทานแล้วกันนะ!”

หลิ่วอวี่เจ๋อพูดจบก็หัวเราะแล้วขับรถจากไป

ฉินหงเหยียนจัดการอารมณ์ตนเอง จัดการเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วเติมเครื่องสำอางจากนั้นก็กลับบ้าน

เย่เฉินเองก็กลับถึงบ้านแล้ว อีกทั้งยังทำอาหารเย็นไว้รอแฟนสาวเรียบร้อย

วันนี้เขาไปสมัครงานเป็นพนักงานส่งของที่บริษัทไป๋ลี่เอ็กซ์เพรส ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นอย่างมาก

บริษัทไป๋ลี่เอ็กซ์เพรสเป็นบริษัทขนส่งลำดับสองที่เป็นรองแค่บริษัทชุนเฟิงเอ็กซ์เพรส

“ที่รักคะ ฉันกลับมาแล้ว”

บนใบหน้าฉินหงเหยียนแต่งแต่มไปด้วยรอยยิ้ม ไม่แสดงให้ชายหนุ่มเห็นถึงความอ่อนล้าและเหนื่อยใจของตนเอง

ระหว่างคนรักกันก็เป็นแบบนี้ หากรักใครคนหนึ่งจริงๆ ก็ไม่อยากจะให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองลำบาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องมาบอกความลำบากนี้ในตอนที่อีกฝ่ายก็ทำอะไรไม่ได้

หากเป็นเช่นนี้ก็คงจะรังแต่เป็นการสร้างความกดดันให้เย่เฉิน!

เย่เฉินจุมพิตหญิงสาวแล้วกล่าวถาม “วันนี้ทำงานเป็นยังไงบ้างครับ?”

ฉินหงเหยียนไม่อยากหลอกลวงเขาแต่ก็ไม่อยากให้เขาต้องเป็นกังวลจึงเฉไฉ “คุณเล่ามาก่อนสิคะ วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เจอเรื่องลำบากอะไรรึเปล่า?”

เย่เฉินหัวเราะ “กลางวันแสกๆ คุณยังกลัวว่าหลิ่วอวี่เจ๋อจะส่งคนมาซ้อมผมเหรอครับ? ต่อให้มีเรื่องกันก็น่าจะเป็นผมซ้อมพวกเขามากกว่า! เดียรัจฉานคนนี้เมื่อก่อนก็เคยว่าร้ายคุณในโลกโซเชียลหาว่าคุณเป็นผู้หญิงอย่างว่าผมยังไม่ได้คิดบัญชีกับเขาเลย !”

ฉินหงเหยียนจับมือเย่เฉินแล้วกล่าว “ช่างเถอะ เราไม่พูดเรื่องนี้กันแล้ว ฉันขอชิมอาหารฝีมือแฟนฉันก่อน!”

สามปีมานี้เย่เฉินตั้งใจศึกษาเรื่องอาหารต่างๆ ภายใต้การกำกับดูแลขอหวังเจียเหยา ทำให้อาหารที่เขาทำออกมานั้นรสชาติดีจนฉินหงเหยียนชมไม่ขาดปาก

ทว่าเมื่อกินข้าวเสร็จ ฉินหงเหยียนก็บอกว่าตนเองเหนื่อย แล้วเข้านอนไปก่อน

……

ในคืนวันนั้นเอง ณ ผับ TAXX ในเมืองเทียนไห่

ในร้านไนต์คลับ เสียงดนตรีอิเล็คโทรนิคส์เสียงดังโครมครามบาดแก้วหู เสียงเบสกลองดังโครมๆ บรรดาหญิงสาวขาเรียวยาวละลานตาเต็มไปร้านไปหมด จนชวนให้คนในร้านใจสั่น

นักเที่ยวยามราตรีต่างก็รู้ว่าโต๊ะที่นี่ราคาแพงมาก เพียงแค่รถหรูนอกร้านก็พอจะเดาได้ว่าทุกคนที่มาเที่ยวที่นี่น่าจะเป็นพวกคนมีเงินทั้งสิ้น

ในโซนที่นั่งที่ดีที่สุด หลิ่วอวี่เจ๋อและเพื่อนๆ กำลังนั่งดื่มเหล้าด้วยกันในโซนที่นั่งที่ดีที่สุด

“พี่เจ๋อคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพี่จะแต่งงานเร็วแบบนี้ ผมยังคิดว่าพี่จะเที่ยวต่ออีกสักสองสามปี”

“ฮ่าๆ พี่สะใภ้สวยนี่ พวกนายเห็นภาพพรีเวดดิ้งแล้วหรือยัง? สวยชวนตะลึง!”

“เสียดายจริงๆ อวี่เจ๋อพ่ายแพ้ให้กับนางฟ้าคนสวยไปแล้ว ฉันจะถือว่าวันนี้เป็นปาร์ตี้สละโสดแล้วกัน”

หลิ่วอวี่เจ๋อดื่มเหล้าไม่พูดไม่จา

เพื่อนพวกนี้ของเขาต่างก็อิจฉาเขากันทั้งสิ้น รู้สึกว่าเขาได้เที่ยวจนเต็มที่ แถมตอนนี้ยังมีภรรยาสวยเป็นนางฟ้า

แต่ใครจะรู้ว่าในใจเขาเจ็บปวดเหลือเกิน!

“จริงสิ พี่เจ๋อ ในเมื่อพี่แต่งงานแล้วงั้นยกเหม่ยฉีให้พวกเราได้ไหม?”

“จริงด้วย จริงด้วย ผมก็ชอบดาราคนนี้นะครับ!”

เพื่อนๆ ในวงสังคมของเขาต่างก็รู้ว่าเขาเคยนอนกับเหม่ยฉี

จู่ๆ หลิ่วอวี่เจ๋อก็เปิดปากเอ่ย “ใครบอกว่าฉันแต่งงานแล้วจะเที่ยวไม่ได้กัน? ใครบอกว่าฉันจะเชื่อฟังหวังเจียเหยา? เหม่ยฉีเป็นของฉัน พวกนายอย่ามาแย่ง”

เหล่าเพื่อนของเขาต่างก็มีท่าทีหวาดกลัว

“โอ้โห ฉันไม่เชื่อหรอก ฉันว่าพี่น่าจะทำท่ากลัวเวลาอยู่ต่อหน้าพี่สะใภ้มากกว่า เก่งมากนักพี่ก็เรียกเหม่ยฉีออกมาตอนนนี้เลยสิครับ”

หลิ่วอวี่เจ๋อคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอนนี้หวังเจียเหยาอยู่ที่อวิ๋นโจว พรุ่งนี้เช้าเขาจะยกขโยงรถหรูไปสู่ขอหญิงสาว

“ก็ได้ ฉันเองก็ไม่ได้ยินเหม่ยฉีร้องเพลงมานานแล้ว!”