เล่มที่ 8 บทที่ 221 คนที่แสร้งเมาสุรา

ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต

เสียงฝีเท้าที่ฟังดูเร่งรีบดังขึ้นจากนอกประตูอย่างรวดเร็ว เซียวยวี่รีบนอนลง หลับตาทั้งคู่ที่ดูสดใสแจ่มชัดนั่น

เซี่ยยวี่หลัวยกน้ำแกงสร่างเมาที่นางเคี่ยวเข้ามา

เซียวยวี่ที่นอนอยู่บนเตียงไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ใบหน้าแดงก่ำ ส่งเสียงเพ้อเป็นระยะ เหมือนจะเมาไม่เบา

นอนอยู่เช่นนี้ก็ป้อนน้ำแกงสร่างเมาไม่ได้!

เซี่ยยวี่หลัวรีบวางถ้วยแกงลงข้างๆ หยิบผ้านวมผืนหนึ่งออกมาจากตู้เสื้อผ้า รองไว้ใต้ร่างกายท่อนบนเพื่อยกให้สูงขึ้น

นางอยู่ใกล้เซียวยวี่มาก ใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจของเขาที่พ่นออกมาซึ่งมีกลิ่นสุราด้วย ส่วนเซียวยวี่ ก็ได้กลิ่นสบู่หอมหวนจากกายนางอย่างชัดเจน

เป็นกลิ่นหอมของดอกไม้ป่าพุ่มเล็กจากสวนหลังบ้าน

เซียวจื่อเซวียนเคยบอกเขา ว่าพี่สะใภ้ใหญ่เรียกดอกไม้เหล่านั้นว่ากุหลาบเลื้อย

กุหลาบเลื้อย ช่างเป็นชื่อที่ไพเราะยิ่งนัก

เขาก็เคยเห็นนางเก็บรวบรวมดอกกุหลาบเลื้อยที่บานสะพรั่งอยู่หลายครา หลังจากตำดอกกุหลาบเลื้อยจนละเอียด จึงเทน้ำดอกไม้ลงไปในสบู่ที่ยังไม่ขึ้นรูป สบู่ที่เดิมทีไม่มีกลิ่นหอมแม้แต่น้อย จึงมีกลิ่นหอมเบาบางของดอกไม้เช่นนี้เอง ถึงแม้กลิ่นจะเบาบางมาก เซียวยวี่กลับได้กลิ่นอย่างชัดเจน

เซียวยวี่หลัวพยุงเขาขึ้น จากนั้นจึงยกน้ำแกงสร่างเมามา ตักขึ้นมาหนึ่งช้อน หลังจากเป่าจนเย็น จึงยื่นไปตรงริมฝีปากของเซียวยวี่ เซียวยวี่ไม่ขยับเขยื้อน

“เซียวยวี่ เจ้าดื่มสุราจนเมา ข้าเคี่ยวน้ำแกงสร่างเมาให้เจ้า เจ้าอ้าปากดื่มเสีย เช่นนี้พอสร่างเมาจะได้ไม่ปวดหัว เจ้าได้ยินหรือไม่? ” เซี่ยยวี่หลัวก้มหน้า โน้มมาตรงหน้าเซียวยวี่ กล่าวกับเขาเสียงเบา

น้ำเสียงของนางอ่อนโยน กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ เหมือนกำลังปลอบโยนเด็กเล็กก็มิปาน

“หากเจ้าได้ยิน ก็อ้าปาก ข้าจะป้อนเจ้าเอง! ”

เซียวยวี่ส่งเสียงเบาทีหนึ่ง เหมือนจะขานตอบแล้ว

เซี่ยยวี่หลัวแสดงสีหน้ายินดี รีบตักขึ้นมาหนึ่งช้อน ยื่นไปตรงริมฝีปากเซียวยวี่ เซียวยวี่อ้าปากอย่าง ‘ว่าง่าย’ ก่อนดื่มลงไป

จากนั้นจึงขมวดคิ้วทันที เซียวยวี่ส่งเสียงกล่าวคำหนึ่งออกมาตามสัญชาตญาณ “ร้อน…”

“สมควรตายนัก ลืมเป่าให้เย็น” เมื่อครู่เซี่ยยวี่หลัวตื่นเต้นเกินไป ลืมกระทั่งเป่าให้เย็นก่อน ก็ป้อนเข้าไปทั้งอย่างนั้น

น้ำแกงสร่างเมาที่เพิ่งเคี่ยวเสร็จ จะไม่ร้อนได้อย่างไร?

เซี่ยยวี่หลัวแสดงสีหน้ารู้สึกผิด กล่าวโดยไม่สนใจว่าเซียวยวี่จะได้ยินหรือไม่ “ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ เจ้าวางใจได้ อีกเดี๋ยวไม่ร้อนแน่ เจ้าอ้าปากดื่มดีๆ…”

ช้อนต่อมา เซี่ยยวี่หลัวเป่าไม่หยุด ด้วยเกรงว่าจะยังร้อนอยู่ จึงนำช้อนมาวางตรงริมฝีปากเพื่อสัมผัสดู พอรู้สึกว่าไม่ร้อนแล้ว จึงยื่นส่งไปตรงริมฝีปากเซียวยวี่ กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เซียวยวี่ ไม่ร้อนแล้ว เจ้าอ้าปาก”

เซียวยวี่อ้าปากดื่มอย่าง ‘ว่าง่าย’

น้ำแกงสร่างเมาถ้วยนี้ ในภายหลังก็ดื่มได้อย่างราบรื่น

ทว่า ถึงจะแค่ป้อนให้ดื่ม เซี่ยยวี่หลัวก็ตื่นเต้นจนเหงื่อออกทั่วตัว บนกายเหนียวเหนอะหนะจนเสื้อผ้าแนบติดตัว รู้สึกไม่สบายตัวเสียเลย

เซี่ยยวี่หลัวกล่าวพึมพำ “นี่ยังไม่ถึงช่วงกลางฤดูร้อนเลย ทำไมถึงร้อนขนาดนี้ เฮ้อ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ไม่มีพัดลม ฤดูร้อนนี้จะอยู่อย่างไร…”

นางไม่ชอบความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ป้อนน้ำแกงสร่างเมาเสร็จ จึงนำผ้านวมด้านหลังเซียวยวี่ออก เห็นเซียวยวี่นอนหลับอย่างสงบแล้ว เซี่ยยวี่หลัวจึงออกไป กลับห้องไปอาบน้ำ

นางเพิ่งออกไป เซียวยวี่ที่นอนอย่าง ‘สงบ’ บนเตียงจึงลืมตาขึ้นทันที ดวงตาแจ่มใสเย็นชาคู่นั้นมองเพดานด้วยความสงสัย

เครื่องปรับอากาศ? พัดลม?

นั่นคืออะไรกัน?

ฤดูร้อนที่ร้อนอบอ้าวจะอยู่อย่างไร ก็อยู่อย่างนี้ทุกปีไม่ใช่หรือ?

เซี่ยยวี่หลัวกลับห้องไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงซักเสื้อผ้า ก่อนจะยกน้ำสะอาดอ่างหนึ่งไปยังห้องของเซียวยวี่

ท่าทางการนอนหลับของเซียวยวี่ดูเรียบร้อยมาก นอนราบบนเตียงอย่างสงบ ไม่มีเสียงกรน และไม่กัดฟัน ช่างเป็นบุรุษรูปงามที่ดูดีเหมือนรูปวาดก็มิปาน ทำอะไรก็ดูดี

เซี่ยยวี่หลัวบิดผ้าเช็ดตัวที่สะอาดจนหมาด เช็ดร่างกายของเซียวยวี่ที่โผล่ออกมานอกเสื้อผ้า ส่วนที่มีเสื้อผ้าปิดอยู่นางไม่กล้าแตะ

หลังจากเช็ดเสร็จแล้ว นางจึงมองเซียวยวี่โดยละเอียดอีกครั้ง เซียวยวี่นอนหลับอย่างนิ่งสงบ สีแดงบนใบหน้าเหมือนจะหายไปไม่น้อย ทั้งยังไม่อาเจียน คาดว่านอนอีกไม่กี่ชั่วยาม ช่วงเย็นก็น่าจะตื่นแล้ว จากนั้นจึงคอยเข้ามาป้อนน้ำเล็กน้อยเป็นระยะ

ดื่มสุรามากเกินไป จะทำให้คอแห้งได้ง่าย เซี่ยยวี่หลัววางน้ำถ้วยหนึ่งไว้ข้างๆ ใช้ช้อนป้อนเซียวยวี่สองคำ เซียวยวี่ที่เมาสุราถือว่าว่าง่าย เซี่ยยวี่หลัวให้เขาอ้าปาก เขาก็อ้าปากอย่างว่าง่าย

ป้อนได้ง่ายมาก

เซี่ยยวี่หลัวป้อนไปสองช้อน ก็ไม่ได้ป้อนต่อแล้ว ยกอ่างล้างหน้าออกประตูไป

ได้ดื่มน้ำแกงสร่างเมาก็ดีขึ้นมากแล้ว ปล่อยให้เขาได้นอนหลับดีๆ แล้วกัน

เซี่ยยวี่หลัวกลับห้องไปเงียบๆ เด็กสองคนนอนหลับบนเตียงนานแล้ว เพราะอากาศร้อน เด็กสองคนต่างก็สวมใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อแขนสั้นที่นางทำให้ด้วยตัวเอง แขนและขาอยู่นอกเสื้อผ้า เย็นสบายยิ่งนัก

นอนพักผ่อนโดยไม่ถอดเสื้อผ้าครู่หนึ่ง คาดว่านอนไปประมาณสองเค่อเท่านั้น เซี่ยยวี่หลัวก็ลุกไปห้องของเซียวยวี่ ดูเซียวยวี่ทีหนึ่ง เซียวยวี่ยังคงนอนหลับอย่างสงบ

เซี่ยยวี่หลัวป้อนน้ำอีกสองคำ เด็กสองคนก็ลุกขึ้นแล้ว เซี่ยยวี่หลัวเลือกตัวหนังสือที่เซียวยวี่เขียนไว้ให้เด็กสองคนฝึกเขียนตาม แล้วจึงกลับห้องครัวไปเตรียมอาหาร

ตอนเที่ยงเซียวยวี่ดื่มมากไป ช่วงเย็นต่อให้ตื่นขึ้นมาได้ ก็กินอาหารที่แข็งไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนเที่ยงเด็กสองคนก็กินมากเกินไป ช่วงเย็นกินของเบาหน่อย กินโจ๊กและผักตามฤดูกาลอีกเล็กน้อยก็ถือว่าดี

เซี่ยยวี่หลัวตักข้าวสารมาหนึ่งถ้วย เติมน้ำไปไม่น้อย ต้มด้วยไฟแรง หลังจากต้มไฟแรงจนเดือดแล้ว จึงเปลี่ยนเป็นการเคี่ยวด้วยไฟอ่อน เมื่อน้ำข้าวถูกเคี่ยวจนข้น เซี่ยยวี่หลัวตักออกมาหนึ่งชาม น้ำข้าวบำรุงกระเพาะได้ดีที่สุด เซียวยวี่เพิ่งดื่มสุราจนเมา หากตื่นมาได้ดื่มน้ำข้าวหนึ่งชามก็จะบำรุงกระเพาะได้อย่างดีเยี่ยม

วางน้ำข้าวที่ตักออกมาไว้ข้างๆ เซี่ยยวี่หลัวไปสวนหลังบ้านเด็ดถั่วฝักยาว พริก และมะเขือยาวมาจำนวนหนึ่ง สามสมบัติของชาวสวน*กินคู่กับข้าวได้ดีที่สุด

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เด็กสองคนนำตัวอักษรที่เขียนเสร็จแล้วมาให้เซี่ยยวี่หลัวตรวจทาน

เซี่ยยวี่หลัวดูตัวอักษรที่เด็กสองคนเขียน เลือกแสดงความคิดเห็นในจุดที่เขียนไม่ถูกหรือลงแรงไม่พอ จากนั้นจึงปล่อยให้เด็กสองคนไปเล่นตามใจชอบ

พอถึงช่วงเย็น เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่ให้เด็กสองคนเขียนหนังสือแล้ว ไม่ใช่เพราะจุดไฟจะสิ้นเปลืองน้ำมัน แต่เพราะไฟจากตะเกียงน้ำมันมืดสลัวเกินไป เด็กสองคนยังเด็กนัก ดวงตายังไม่สมบูรณ์ หากอ่านตำราหรือเขียนหนังสือภายใต้แสงมืดสลัวเป็นประจำ จะทำให้สายตาเสียได้ง่ายมาก

ทางเซียวยวี่ เซี่ยยวี่หลัวซื้อตะเกียงน้ำมันมาไม่น้อย วางไว้ตามมุมต่างๆ ภายในห้อง หากจุดจนสว่างทั้งหมด ภายในห้องน่าจะสว่างมาก เพียงแต่ไม่รู้ว่าเซียวยวี่ได้ใช้หรือไม่

เด็กสองคนกลับห้องไปเก็บอุปกรณ์เครื่องเขียนเสร็จ จากนั้นจึงไปดูพี่ใหญ่

—————————–

เชิงอรรถ

*สามสมบัติของชาวสวน ปกติจะเป็นอาหารที่ทำจาก ถั่วฝักยาว มะระ และมะเขือยาว แต่สามารถเปลี่ยนได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งในที่นี้นางเอกใช้พริกแทนมะระ