ตอนที่ 632 ภูมิใจกับตามไม่ทัน

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

เสี่ยวเชี่ยนเดินออกจากหอพักนักศึกษา เธอยืนอยู่หน้าถังขยะหันหลังให้แสงแดด หยิบกระดาษโน้ตที่มีอีเมลศาสตราจารย์ชีเขียนอยู่บนนั้นทิ้งลงถังขยะอย่างไม่แคร์ 

 

 

ลาก่อน ศาสตราจารย์ที่ว่ากันว่าเก่งนัก 

 

 

แบบนี้ก็มีหน้าไปเจออาจารย์ได้แล้ว นิสัยอย่างศาสตราจารย์หลิว ถ้ารู้ว่าเสี่ยวเชี่ยนถูกคนเก่งระดับโลกปฏิเสธก็ต้องเข้าข้างเด็กตัวเองแน่นอน เสี่ยวเชี่ยนถึงขนาดที่จินตนาการท่าทางของศาสตราจารย์หลิวไว้แล้วว่าจะต้องไปถามศาสตราจารย์ชีด้วยความโกรธแน่ว่า ทำไมไม่รับศิษย์เอกของเธอ? 

 

 

ศาสตราจารย์ที่ลือกันว่าทั้งเก่งทั้งมีนิสัยเป็นเอกลักษณ์จะต้องตอบด้วยสีหน้าเชิ่ดๆแน่ว่า แล้วส่งอีเมลเปล่ามาหมายความว่าไงล่ะ? 

 

 

อาจารย์ก็จะมาสอบสวน แล้วเธอก็จะแสร้งทำสีหน้าไม่รู้เรื่อง แม่จ๋า~วันนั้นก็เขียนเสร็จแล้วนะ สุดท้ายเบาะแสก็จะชี้เป้าไปที่หลุ่ยเสี่ยวฉา 

 

 

บนโลกนี้ไม่ได้มีแค่หลุ่ยเสี่ยวฉาหรอกนะที่ตอแหลเป็น ประธานเชี่ยนก็แสร้งทำได้เก่งเหมือนกัน! 

 

 

ไม่ใช่แค่ใช้เรื่องนี้ในการลองใจหลุ่ยเสี่ยวฉา ยังได้บอกลาอาจารย์พิลึกที่โด่งดังระดับโลกนั่นด้วย ฮ่าๆๆ! 

 

 

อาจารย์จะต้องไปขอโอกาสจากทางนั้นอีกครั้งแน่ แต่คนระดับนั้นย่อมถือตัวเป็นเรื่องปกติ ถึงแม้เมื่อชาติก่อนเสี่ยวเชี่ยนจะไม่เคยเจอศาสตราจารย์ชี แต่ก็พอได้ยินข่าวมาบ้าง เห็นว่าเป็นคนพิลึก เคยมีคนไข้คนหนึ่งไม่รักษาเวลาเขาเลยปฏิเสธไป สุดท้ายคนไข้คนนั้นก็ไปรักษากับเสี่ยวเชี่ยนด้วยค่าใช้จ่ายที่สูง ขนาดคนไข้ยังไม่ง้อแล้วนับประสาอะไรกับนักเรียน? 

 

 

เขาไม่มีทางรับเธอแน่! 

 

 

ถึงตอนนั้นด้วยนิสัยดื้อรั้นอย่างอาจารย์มีเหรอจะทนไหว แล้วก็จะพูดออกมาว่า คิดว่าแน่นักเหรอ กล้ารังเกียจศิษย์รักของฉัน ฉันไม่ให้สอนแล้ว เสี่ยวเชี่ยน ต่อไปอยู่กับฉัน! 

 

 

ฮ่าๆๆ! 

 

 

อยากจะเท้าสะเอวหัวเราะให้ลั่น เสี่ยวเชี่ยนพอใจกับแผนของตัวเองสุดๆ สมบูรณ์แบบอะไรอย่างนี้ 

 

 

ต้นหลิวที่อยู่ในมหาวิทยาลัยพลิ้วไหวไปตามสายลม มีหนอนอ้วนตัวหนึ่งกำลังกินใบไม้อย่างอิ่มหนำสำราญ แต่กลับไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่ามีนกแขกเต้าตัวหนึ่งกำลังหมายตาตัวมันอยู่ 

 

 

ก็เหมือนกับหลุ่ยเสี่ยวฉาที่คิดว่าตัวเองทำทุกอย่างได้แนบเนียนแล้ว แต่กลับถูกเสี่ยวเชี่ยนหลอกใช้โดยไม่รู้ตัว 

 

 

และก็เหมือนกับเสี่ยวเชี่ยนที่คิดว่าแผนของตัวเองเพอร์เฟค ไม่ได้รู้เลยว่าหลังจากที่เธอไปแล้ว มีสาวสวมหมวกแก็ปไปยืนอยู่ตรงหน้าถังขยะที่เธอยืนอยู่เมื่อครู่ กระดาษที่เสี่ยวเชี่ยนโยนทิ้งติดอยู่บนถุงพลาสติค อีเมลที่อยู่บนนั้นทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ผิวปากออกมา 

 

 

“เถ้าแก่ชีถูกรังเกียจเข้าแล้ว อยากจะเห็นสีหน้าของเขาจริงๆฮ่าๆๆ!” 

 

 

มีลมพัดมา ผมสีทองที่พ้นหมวกแก็ปพลิ้วไปตามสายลม 

 

 

ทุกอย่างเพิ่งจะเริ่มต้น 

 

 

ตอนดึกเสี่ยวเชี่ยนไปจัดรายการตามปกติ หลังจากวันที่เกิดเหตุการณ์พิเศษวันนั้นสายด่วนของสถานีก็แทบไหม้ พากันโทรเข้ามาถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ 

 

 

และที่น่าตลกที่สุดก็คือ ผู้ฟังบางคนตอนโทรเข้ามาเจ้าหน้าที่ของสถานีก็ตอบแบบอ้อมๆไป แต่ขัดใจผู้ฟัง ยิ่งปิดเป็นความลับยิ่งสงสัย 

 

 

สองวันที่เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้จัดรายการ ในเมื่อหาตัวเสี่ยวเชี่ยนไม่เจอ ครั้นแล้วผู้ฟังจึงโทรไปรายการอื่น 

 

 

ดังนั้นรายการของสถานีในช่วงสองวันนี้จึงได้เกิดบนสนทนาชวนขำขึ้น 

 

 

ปกติสถานีวิทยุรายงานการจราจรนี้จะมีบรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนโทรเข้ามารายงานสภาพการจราจรเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาก่อนและหลังเลิกงาน เพื่อเป็นคนส่งข่าวให้กับทุกคนว่าสายไหนรถติดบ้าง ตรงไหนเกิดอุบัติเหตุให้เลี่ยงเส้นทางเสีย 

 

 

ช่วงสองวันมานี้หลังจากที่นักรายงานข่าวเฉพาะกิจเหล่านี้รายงานเหตุการณ์เสร็จแล้วก็จะถามต่อว่า ได้ยินว่าเหม่ยเหวยนักจัดรายการชื่อดังจะแต่งงานกับคนที่โทรเข้าไปในรายการจริงหรือเปล่า? 

 

 

โทรเข้าไปแล้วได้แต่งงานพิธีกรสาวนี่มันเรื่องมหัศจรรย์ชัดๆ 

 

 

พิธีกรรายการอื่นไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี จะให้ตอบยังไง? 

 

 

คนอื่นรับสายแบบนี้ยังพอไหว แต่เย่เสียวอวี่ที่เคยแอบชอบอวี๋หมิงหลางพอได้ยินคนถามแบบนี้ในรายการตลกเบาสมองที่ตัวเองจัดก็โมโหมากวางสายทันที อีกทั้งยังพูดจาประชดใส่ เผยให้เห็นธาตุแท้ของตัวเอง ภาพลักษณ์นางฟ้าสายฝนที่สั่งสมมานานได้ถูกทำลายลง คะแนนความนิยมก็เริ่มลดลง 

 

 

นักจัดรายการคนอื่นพอได้รับสายแบบนี้ คนที่อีคิวสูงหน่อยก็จะแสร้งทำเป็นเม้าท์ด้วยแล้วเฉไฉออกเรื่องอื่น ทำให้ดูเป็นกันเองหน่อย ส่วนคนที่อีคิวไม่ค่อยเยอะก็จะตอบไปตรงๆอย่างเป็นการเป็นงานว่าไม่รู้ แบบนั้นต่อให้ผู้ฟังไม่ได้รู้สึกชอบมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้เกลียด มีแค่เย่เสียวอวี่เท่านั้นที่เกลียดเสี่ยวเชี่ยนเป็นทุนเดิม อีคิวก็ต่ำเตี้ย พูดจาใส่อารมณ์กับผู้ฟัง อีกทั้งยังหลอกด่าสงสัยในระดับไอคิวของผู้ฟัง… 

 

 

แบบนี้ยิ่งดี เดิมผู้ฟังพุ่งความสนใจไปที่เหม่ยเหวย ตอนนี้ความสนใจครึ่งหนึ่งมุ่งไปที่ธาตุแท้ของอดีตนางฟ้าสายฝน 

 

 

ความนิยมของเย่เสียวอวี่ลดลงฮวบ ทางสถานีก็ปวดหัวจะกู้หน้าให้เธออย่างไร เดิมทีรายการของเธอนั้นฮอตที่สุดในสถานี ปรากฏว่าเพราะอารมณ์ชั่ววูบทำให้ตอนนี้เริ่มมีความคิดที่อยากเปลี่ยนพิธีกร เย่เสียวอวี่แทบจะเป็นบ้าแล้ว 

 

 

ส่วนเสี่ยวเชี่ยนตัวการที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ก็ใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร เธอกำลังภูมิใจที่สลัดอาจารย์ชื่อดังคนนั้นให้พ้นตัวได้ บวกกับอวี๋หมิงหลางขอแต่งงานสำเร็จแล้ว ในใจก็ยิ่งมีความสุขเข้าไปใหญ่ ไปจัดรายการอย่างอารมณ์ดี 

 

 

แตกต่างจากเย่เสียวอวี่ที่โมโหจนจะเป็นบ้าลิบลับ 

 

 

ผู้กำกับมองเธอสะพายกระเป๋าใบเล็ก ใส่ชุดลำลอง สวมหูฟัง เหมือนกับเพิ่งกลับมาจากพักร้อน เห็นแล้วก็ร้อนใจรีบลากตัวมาขอความช่วยเหลือ 

 

 

“ทำยังไงดีเหม่ยเหวย ผู้ฟังโทรมาเรื่องเธอจะแต่งงานสายแทบไหม้แล้ว ฉันว่ารายการเธอจะดังระเบิดแล้ว!” 

 

 

เดิมเรทติ้งก็สูงอยู่แล้ว พอมีเรื่องนี้เกิดขึ้นอีก คนที่ไม่เคยฟังรายการก็อยากฟังว่าพิธีกรคนสวยที่กำลังจะแต่งงานนี้เป็นอย่างไร รายการยังไม่ทันเริ่ม โทรศัพท์ก็เต็มทุกคู่สาย 

 

 

“เป็นวัยรุ่นต้องใจเย็น นะ~”เสี่ยวเชี่ยนหยิบหมากฝรั่งยัดใส่ปากผู้กำกับ “กระชับความสัมพันธ์~” 

 

 

นี่เป็นคำพูดในโฆษณาที่กำลังดังในช่วงนี้ 

 

 

ผู้กำกับหมดคำจะพูด เจ๊ นี่มันเวลาไหนแล้วยังจะทำเป็นเล่น? 

 

 

แต่ผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงานคนนี้ดูเปลี่ยนไปนะ ปกติไม่เห็นเหม่ยเหวยเป็นกันเองขนาดนี้ อารมณ์ดีที่ออกมาจากภายในแตกต่างจากปกติมาก แต่ผู้กำกับก็ยังคงปวดหัวว่าจะเอาไงกับรายการดี 

 

 

เสี่ยวเชี่ยนตบบ่าเธอ  “ไม่เป็นไร ฉันอยู่ทั้งคน” 

 

 

รายการเริ่มแล้ว ก่อนที่เสี่ยวเชี่ยนจะรับสายผู้ฟังได้พูดเกริ่นนำก่อน 

 

 

เธอใช้วิธีพูดง่ายๆไม่อ้อมค้อมบอกกับทุกคนว่า วันนั้นสายที่โทรเข้ามาเป็นคู่หมั้นของเธอเอง ซึ่งก็มีแพลนจะแต่งงานกันอยู่แล้ว ขอให้ทุกคนร่วมเป็นพยานในความสุขครั้งนี้ เธอใช้วิธีอีกแบบในการช่วยคลายความเครียดให้ทุกคน 

 

 

ผู้กำกับหรี่ตา พูดตรงๆแบบนี้ก็ได้เหรอ? 

 

 

ตามเหม่ยเหวยไม่ทันเลยวุ้ย!