ตอนที่ 305 มีอยู่คนหนึ่งที่บดขยี้ได้ / ตอนที่ 306 คุณหลิน คิดถึงเธอจนไม่สบาย

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 305 มีอยู่คนหนึ่งที่บดขยี้ได้

 

 

หลินเยียนฟังเจียงอีหมิงอธิบายบทอย่างตั้งใจ “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ…”

 

 

แต่เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ ช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้จะไปทำได้ยังไง

 

 

เผยหนานซวี่ที่อยู่ในระดับราชาแห่งวงการภาพยนตร์แบบนี้ ด้วยทักษะการแสดงของเขา ตอนที่ปลดปล่อยพลังออกมาทั้งหมด ต่อให้มองไปทั่วทั้งวงการก็ไม่มีใครมีพลังมากพอที่จะกดเขาลงไปได้

 

 

ตอนนี้มาให้เธอที่ไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพซึ่งเพิ่งจะเร่งฝึกปรือทักษะการแสดงมาไม่นานสะกดความน่าเกรงขามของเขากลับไป มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

 

 

เพียงแต่เมื่อฟังจากคำพูดของเจียงอีหมิง แสดงว่าพึงพอใจต่อการแสดงหน้ากล้องของเธอมาก

 

 

ถ้าไม่มีการเปรียบเทียบกับคราวนั้น บางทีเจียงอีหมิงอาจปล่อยผ่านไปแล้ว เพียงแต่อาจเพราะมีการเปรียบเทียบ จึงทำให้เจียงอีหมิงมีความต้องการและตั้งความหวังกับเธอสูงยิ่ง…

 

 

“เอาละ ไม่เป็นไร พวกเราเอาใหม่อีกรอบหนึ่ง” เจียงอีหมิงพูดปลอบใจ

 

 

หลินเยียนผงกศีรษะ สูดลมหายใจลึกๆ ครั้งหนึ่ง “ค่ะ”

 

 

ครั้งนี้หลินเยียนพยายามตัดการรบกวนจากเผยหนานซวี่ ทำให้ตัวเองไม่ได้รับผลกระทบจากความน่าเกรงขามที่เขาส่งออกมา

 

 

“ประธานหลินให้เกียรติมาเยือน เสียมารยาทที่ไม่ได้ต้อนรับแล้ว” น้ำเสียงของเผยหนานซวี่ปราศจากโทสะจากการมาเยือนอย่างกะทันหันของหลินเผี่ยนรั่ว ตรงข้ามกลับสงบนิ่งอย่างยิ่ง อย่างไรก็ความหยิ่งผยองที่เกิดขึ้นเองซึ่งแฝงอยู่ในความสงบนิ่งนี้ กลับทำให้หลินเผี่ยนรั่วเป็นเหมือนคนที่ไม่สำคัญอย่างเห็นได้ชัดทันที

 

 

“ประธานเฉิน เจอปัญหาเล็กน้อยแค่นี้ก็ล้มจนลุกไม่ขึ้นแล้วเหรอ?” หลินเยียนพูดบทออกไปอีกครั้ง

 

 

“คัท” เจียงอีหมิงตะโกนสั่งให้หยุดอีกครั้ง “หลินเยียน! ความน่าเกรงขามของเธอล่ะ? ยังสู้ครั้งก่อนไม่ได้เลย! จำไว้สิว่าเธอจะถูกหนานซวี่กดไม่ได้! ถูกเขากดไม่ได้ เข้าใจไหม?”

 

 

 

 

 

หลินเยียนใกล้จะร้องไห้แล้ว “ผู้กำกับเจียง ฉันก็ไม่อยากนะคะ! แต่ ขอร้องล่ะ คนนั้นคือเผยหนานซวี่! ราชาแห่งวงการภาพยนตร์เผยหนานซวี่ที่พอเพิ่งเข้าวงการก็โด่งดังถึงขีดสุด คนในวงการบันเทิงเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัล EGOT[1] นะคะ! ด้วยการแสดงของราชาภาพยนตร์เผย อย่าว่าแต่ทั้งวงการบันเทิงเลย ต่อให้บอสใหญ่จากวงการธุรกิจตัวจริงพวกนั้นมาเองก็ไม่มีใครกดเขาลงไปได้หรอกนะคะ…”

 

 

คงได้แต่โทษว่าไอดอลของเธอเจ๋งเกินไปแล้วล่ะ…

 

 

ไม่ถูกสิ มีความน่าเกรงขามของคนคนหนึ่งที่บดขยี้ได้แน่นอน…

 

 

เผยอวี้เฉิง…

 

 

พอเผยหนานซวี่ได้ยินคำพูดของหลินเยียนก็อดหัวเราะไม่ได้ “คุณหลินชมเกินไปแล้ว”

 

 

เจียงอีหมิงกลับเห็นด้วยกับคำพูดของหลินเยียน “หลินเยียน ฉันรู้ ฉันรู้แน่นอน ดังนั้นทีแรกตอนที่เลือกนักแสดงที่จะมารับบทหลินเผี่ยนรั่ว ฉันเลยกังวลมาตลอด แต่ว่าโชคยังดีที่ฉันเจอเธอเข้า! เธอแค่เอามาตรฐานที่เธอใช้ตอนออดิชันในวันนั้นออกมา นั่นก็พอแล้วล่ะ! เธอลองนึกหาให้ดีๆ ”

 

 

หลินเยียน “…”

 

 

ออดิชันอีกแล้ว!

 

 

พับผ่าสิ! จิตใต้สำนึกอีกคนในตัวเธอเป็นตัวอะไรกันแน่นะ? ร้ายกาจขนาดนี้เชียวเหรอ?

 

 

“หลินเยียน ฉันเชื่อใจเธอ เธอต้องทำได้แน่! เอาอีกครั้ง!” เจียงอีหมิงยังคงเชื่อมั่นในตัวเธออย่างเปี่ยมล้น

 

 

“เอ่อ…” ก็ได้

 

 

ดังนั้นหลินเยียนจึงได้แต่แสดงต่อไป

 

 

เพียงแต่อีกหลายครั้งต่อจากนั้น เจียงอีหมิงก็ยังไม่พอใจสักครั้งอยู่ดี

 

 

 

 

 

การถ่ายทำสั้นๆ เพียงไม่กี่ครั้ง หลินเยียนรู้สึกว่าตัวเองถูกสูบพลังจนใกล้จะหมดแล้ว แต่เจียงอีหมิงยังเอาแต่พูดว่า “ยังน่าเกรงขามไม่พอ” ประโยคนั้นเหมือนเดิม

 

 

“ไม่ได้ ไม่ได้เลย…ช่างเถอะ พักสักครู่ก็แล้วกัน หลินเยียน เธอไปนึกหามาให้ดีๆ ” สีหน้าเจียงอีหมิงไม่ค่อยดีแล้ว

 

 

คงเพราะยิ่งคาดหวังมากก็ยิ่งผิดหวังมาก

 

 

สุดท้ายหลินเยียนก็นอนแผ่อยู่บนเก้าอี้พักด้วยท่าทางแทบจะหมดแรง “รู้สึกเหมือนพลังถูกสูบออกไปจากร่างหมดแล้ว…”

 

 

เผยหนานซวี่นั่งลงข้างหลินเยียน “ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบ พี่เป็นคนใหม่ แสดงได้ขนาดนี้ก็ดีมากแล้ว เพียงแต่ผู้กำกับเจียงตั้งความหวังกับพี่ค่อนข้างสูง”

 

 

หลินเยียนถอนหายใจ “ฉันรู้แล้ว…”

 

 

พอพูดจบเธอก็มองเผยหนานซวี่ “คือว่า ราชาภาพยนตร์เผย วันที่ฉันออดิชันวันนั้นแสดงดีมากจริงเหรอ?”

 

 

 

 

 

[1] รางวัล EGOT หมายถึง 4 รางวัลใหญ่แห่งวงการบันเทิงคือรางวัล เอ็มมี แกรมมี ออสการ์ และโทนี

 

 

 

 

ตอนที่ 306 คุณหลิน คิดถึงเธอจนไม่สบาย

 

 

เผยหนานซวี่นึกย้อนกลับไป “พูดยังไงดีนะ…ตอนนั้นที่พี่แสดง…แทบจะใช้คำว่าแสดงไม่ได้เลย การแสดงของพี่ในตอนนั้นไม่มีเค้าของการแสดงแม้แต่น้อย เหมือนกับว่า พี่เป็นคนที่พี่กำลังแสดงอยู่โดยสิ้นเชิง มิหนำซ้ำพี่…”

 

 

หลินเยียน “มิหนำซ้ำอะไร”

 

 

เผยหนานซวี่ “มิหนำซ้ำมีอยู่ชั่วพริบตาหนึ่งที่พี่มีความน่าเกรงขามเหมือนพี่ชายผมสุดๆ พอมีซีนที่ยอดเยี่ยมแบบนั้นอยู่ก่อนแล้ว คงโทษผู้กำกับเจียงว่าตั้งความหวังกับพี่มากขนาดนั้นไม่ได้เหมือนกัน”

 

 

“เป็นไปไม่ได้น่า?” หลินเยียนพอได้ยินก็ตื่นตระหนกอย่างยิ่ง

 

 

ถึงเธอจะใช้คลิปเผยอวี้เฉิงเป็นต้นแบบในการฝึกซ้อมมาตลอด แต่ที่ผ่านมาก็แสดงแต่รูปลักษณ์ภายนอก ต่อให้ใช้ความสามารถในการแสดงระดับสุดยอด แต่ก็ไม่อาจแสดงความน่าเกรงขามของเผยอวี้เฉิงออกมาได้นี่นา

 

 

ขณะที่หลินเยียนกำลังตกใจ ตอนนี้เองจู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นมา

 

 

มีข้อความวีแชทเพิ่มขึ้นมาใหม่หนึ่งข้อความ

 

 

เมื่อหลินเยียนเห็นชื่อว่าใครเป็นคนส่งมาก็เบิกตาโพลงทันที

 

 

เผยอวี้เฉิง!?

 

 

ไม่มีการติดต่อมาสัปดาห์หนึ่ง แต่เผยอวี้เฉิงกลับส่งข้อความหาเธอแล้ว!

 

 

เผยหนานซวี่ “เป็นอะไรครับ ข้อความของใครเหรอ”

 

 

หลินเยียนกระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง พูดกดเสียงต่ำแล้วตอบกลับไปว่า “พี่ชายเธอ…”

 

 

เผยหนานซวี่หัวเราะเบาๆ “พี่ชายผมกลับเป็นฝ่ายส่งข้อความหาพี่ก่อนเหรอเนี่ย”

 

 

หลินเยียน “ทำไม แปลกมากเลยเหรอ”

 

 

เป็นคู่รักกัน ไม่ได้ส่งข้อความหากันนานขนาดนี้ถึงจะแปลกมากกว่ารึเปล่า

 

 

“ไม่มีอะไรครับ” เผยหนานซวี่กระแอมเบาๆ ไม่พูดต่อ

 

 

ถัดมาหลินเยียนก็เปิดข้อความวีแชท จากนั้นก็มองเห็นเนื้อความที่อยู่ข้างใน

 

 

เผยอวี้เฉิง [กินไม่รู้รส ยากจะข่มตาหลับ]

 

 

กินไม่รู้รส ยากจะข่มตาหลับ?

 

 

หลินเยียน “…”

 

 

หลินเยียนจ้องมองข้อความที่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยของเผยอวี้เฉิงพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

 

หมายความว่าอะไร

 

 

หรือว่าร่างกายเผยอวี้เฉิงมีอาการไม่ดีอีกแล้วงั้นเหรอ

 

 

เธอก็บอกแล้ว! สภาพร่างกายแบบนั้นจะเดินทางรอนแรมได้ยังไงกันเล่า!

 

 

เผยหนานซวี่ที่อยู่ด้านข้างพอเห็นสีหน้าผิดปกติของหลินเยียนจึงรีบซักถาม “มีอะไรเหรอครับ พี่ชายพูดว่าอะไร”

 

 

หลินเยียนเอาโทรศัพท์ให้เผยหนานซวี่อ่านทันทีด้วยความกังวลใจ “เธออ่านข้อความที่พี่ชายเธอส่งมาให้ฉันสิ อาการป่วยเขาแย่ลงรึเปล่านะ”

 

 

เมื่อเผยหนานซวี่ได้ยินสีหน้าก็เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย จากนั้นก็อ่านข้อความนั้นทันที

 

 

กินไม่รู้รส ยากจะข่มตาหลับ?

 

 

หากว่ากันตามเหตุผล ด้วยนิสัยพี่ชายเขา ไม่มีทางพูดเรื่องแบบนี้กับหลินเยียนแน่…

 

 

หลินเยียนกำลังจะส่งข้อความกลับไปถามเผยอวี้เฉิง วินาทีต่อมาก็มีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์อีกข้อความหนึ่ง

 

 

หลินเยียนรีบเปิดอ่าน จากนั้นก็เห็นว่าเผยอวี้เฉิงส่งข้อความมาอีก

 

 

[คุณหลิน คิดถึงเธอจนไม่สบาย]

 

 

หลินเยียน “…”

 

 

เผยหนานซวี่ “…”

 

 

อากาศอบอวลไปด้วยความเงียบงันอันน่ากระอักกระอ่วนใจ

 

 

อุณหภูมิที่อยู่บนแก้มหลินเยียนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะเดือดพล่านโดยไม่อาจควบคุมได้

 

 

เผยหนานซวี่กระแอมเบาๆ ครั้งหนึ่ง จากนั้นก็เบนสายตาออกไปด้วยความรู้สึกเสียมารยาท

 

 

ก่อนหน้านี้เผยอวี่ถังบ่นกับเขาตลอดว่ากระทบกระเทือนจิตใจ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร พอมาวันนี้ถือว่าได้รับรู้อย่างลึกซึ้งแล้ว

 

 

สมัยนี้ชอบหลอกคนโสดให้เข้ามาติดกับแล้วฆ่าทิ้งอย่างงั้นเหรอ

 

 

การได้เห็นคนจู๋จี๋กันแบบนี้มันช่าง…กะทันหันเสียจริงเชียว

 

 

หลินเยียนหน้าแดงก่ำทันที ผู้ชายคนนี้…ไม่ติดต่อมาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ พอติดต่อก็รุนแรงขนาดนี้เชียว!

 

 

ช่วยคิดถึงสมรรถภาพของหัวใจเธอได้ไหม

 

 

เพื่อไม่ให้หลินเยียนกระอักกระอ่วนใจ เผยหนานซวี่จึงเดินออกไปอยู่อีกด้านหนึ่งอย่างรู้งานยิ่งนัก

 

 

หลินเยียนมองเผยหนานซวี่ด้วยความกระอักกระอ่วนใจแวบหนึ่ง หยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเดินหลบมุมด้วยทาทางลับๆ ล่อๆ

 

 

เธออ่านข้อความที่เผยอวี้เฉิงส่งมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า หัวใจเต้นถี่เร็ว

 

 

พับผ่าสิ! ความงามเป็นหายนะจริงๆ ด้วย แบบนี้อีกเดี๋ยวจะให้เธอสงบจิตใจแสดงต่อไปได้ยังไงกันเล่า