ตอนที่ 403 นี่คือของใคร / ตอนที่ 404 ชีวิตคนเหมือนละคร ต้องพึ่งการแสดง!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 403 นี่คือของใคร

 

 

คุณนายใหญ่พูดพลางวางเสี่ยวลิ่วลิ่วลงบนโซฟา จากนั้นค่อยจับมือของเหนียนเสี่ยวมู่ ให้หญิงสาวนั่งลงข้างตัวเอง

 

 

ก่อนจะเอ่ยปากพร้อมยิ้มตาหยี “มานั่งกับย่า ดูของขวัญที่ฉันให้เธอสิ”

 

 

“…”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ถูกกดอยู่บนโซฟา หลังจากนับดูแล้ว มีกล่องอยู่บนโต๊ะน้ำชาทั้งหมดสี่กล่อง

 

 

กล่องพวกนั้นดูประณีตมาก

 

 

เธอเดาไม่ออกในทันที ว่าข้างในคืออะไร

 

 

คุณนายใหญ่ก็ไม่รอช้า นำกล่องหนึ่งมาเปิดตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

กำไลหยกโปร่งแสงส่องประกายแสงอันอบอุ่นออกมา

 

 

ยิ่งมีผ้าสักหลาดสีดำรองอยู่ข้างล่าง มันยิ่งทอแสงสีมรกตออกมา

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองเพียงครั้งเกียว ก็ต้องหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้ว

 

 

ไม่ต้องถามเธอก็ดูออก ว่ากำไลหยกนี้แพงแค่ไหน!

 

 

แถมกำไลหยกคุณภาพดีขนาดนี้ ตอนนี้หายากมากทีเดียว…

 

 

แค่เพียงมูลค่าของหยก ก็เกินจะพรรณาแล้ว

 

 

แต่เมื่อครู่เธอรู้สึกได้ ว่าขณะที่คุณนายใหญ่เปิดกล่อง สายตาของอวี๋เยว่กานก็เปลี่ยนไปด้วย

 

 

กำไลนี้ คงมีเรื่องราวอะไรบางอย่างสินะ

 

 

อวี๋เยว่หานจับสายตาของเธอได้ ถึงขยับริมฝีปากบาง “นี่คือสินสอดที่ย่านำมาจากตระกูล ตอนแต่งกับปู่ ผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่มีใครได้ใส่…”

 

 

“…”

 

 

หญิงสาวรีบร้อนหดมือกลับ ทั้งๆ ที่เพิ่งยื่นออกไปได้ครึ่งเดียว

 

 

“คุณนายใหญ่คะ ของขวัญมีค่าขนาดนี้ ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”

 

 

“ฉันให้เธอก็รับไว้เถอะ ของดีแค่ไหน ต่อให้คนตายไปก็ใช้ไม่ได้ ดีที่เยว่หานรู้ประสา หาหลานสะไภ้ที่ฉันพอใจมาให้ก่อนตาย ย่าดีใจจริงๆ!” คุณนายใหญ่พูด พลางบังคับใส่กำไลหยกให้เหนียนเสี่ยวมู่

 

 

จากนั้นก็ลูบหลังมือของหญิงสาวอย่างอบอุ่น

 

 

“ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเหมาะกับเธอแน่ เธอน่ะ ถึงจะไม่ได้เกิดในตระกูลร่ำรวย แต่ก็มีสง่าราศี ไม่แพ้พวกลูกคุณหนูที่ฉันเคยเจอเลย”

 

 

คุณนายใหญ่พูดจบแล้ว ก็ยื่นมือไปหยิบอีกกล่องหนึ่ง

 

 

ของขวัญชิ้นแรกยังมีค่าขนาดนี้ ตอนนี้เหนียนเสี่ยวมู่ไม่กล้าพูดอะไรแล้ว

 

 

ครั้นคุณนายใหญ่ยื่นขอขวัญกล่องที่สองมาตรงหน้า เธอที่เห็นแค่จี้รูปหมูทำจากเงินอันเล็กจิ๋วแล้ว ก็รีบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

 

และรับมามันด้วยความดีใจ

 

 

“น่ารักจังเลยค่ะ แต่นี่น่าจะเป็นเครื่องประดับของเด็กเล็กๆ เป็นของเสี่ยวลิ่วลิ่วใช่ไหมคะ” เหนียนเสี่ยวมู่พิจารณาจี้รูปหมูเงินในมือ พลางถามด้วยความสงสัย

 

 

ดูจากรูปแบบของมันแล้ว ดูเหมือนจะเป็นแบบเก่า

 

 

มันเป็นเครื่องประดับของเด็กจริงๆ และนอกจากเสี่ยวลิ่วลิ่วแล้ว คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ก็ไม่มีเด็เล็กคนไหนอีก

 

 

เหนียนเยวมู่ได้ยินเสียงกระแอมของอวี๋เยว่หาน เธอจึงหันไปมองเขาด้วยความงุนงง

 

 

จากนั้นคุณนายใหญ่ก็หัวเราะ “ฮ่าๆ ไม่ใช่ของเสี่ยวลิ่วลิ่วหรอก ของเยว่หานตอนเด็กๆ ต่างหาก!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

หญิงสาวหันไปมองอวี๋เยว่หานอีกครั้ง ส่วนเขายื่นมือมาฮวยจี้รูปหมูสีเงินขนาดเล็กนั่นไปจากมือของเธแล้ว

 

 

และนำมันใส่เข้าไปในกระเป๋าโดยไม่บอกกล่าวใคร

 

 

อยากจะกลบเกลื่อนเหรอ

 

 

ช้าไปแล้วย่ะ!

 

 

ในที่สุดเหนียนเสี่ยวมู่ก็หาโอกาสทำให้เขาพูดไม่ออกได้แล้ว เธอจึงพุ่งไปล้วงกระเป๋าชองเขาโดยไม่พูดจา

 

 

“คุณนายใหญ่ให้ฉันแล้ว คุณคืนมาให้ฉันนะ!”

 

 

“มันเป็นของผม…เหนียนเสี่ยวมู่ คุณย่าคลำไปทั่วสิ!” สีหน้าของอวี๋เยว่หานซีดลงเล็กน้อย พร้อมกับยื่นมือไปจับมือซุกซนของเธอเอาไว้

 

 

มือของเธอลูบคลำอยู่บนต้นขาของเขาพักหนึ่ง ทำเอาเขาเกร็งไปทั้งตัวเลยทีเดียว

 

 

จากนั้นเขาก็เงียบไปพักใหญ่

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่แย่งของจนโมโหแล้ว จึงโพล่งออกมา “คลำไปทั่วอะไร ฉันจับตรงๆ นั่นแหละ!”

 

 

 

 

ตอนที่ 404 ชีวิตคนเหมือนละคร ต้องพึ่งการแสดง!

 

 

หลังจากพูดจบ บรรยากาศในห้องรับแขกก็เปลี่ยนไป

 

 

ครั้นเหนียนเสี่ยวมู่พอจะดึงสติกลับมาได้ เธอก็หน้าแดงเหมือนลูกแอปเปิลในนฤดูใบไม้ร่วงทันที

 

 

หญิงสาวหดมือกลับ แล้วนั่งจุ้มปุ๊กลงบนโซฟา พลางใช้ทั้งสองมือปิดหน้า

 

 

ฮือๆ ตอนนี้กระโดดลงแม่งน้ำฮวงโหก็ล้างมลทินไม่ได้แล้ว…

 

 

“อย่าทะเลาะกัน รีบเอาจี้มาให้ฉัน มันเป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจให้หลานสะไภ้ของฉัน” คุณนายใหญ่อวี๋ดึงสติกลับ ก่อนจะรีบร้อนก้าวไปข้างหน้า เพื่อหยิบจี้ในมือของอวี๋เยว่หานกลับมา

 

 

หญิงชราดึงมือของเหนียนเสี่ยวมู่มาวางลงในฝ่ามือของตัวเอง

 

 

เธอรู้ว่าเหนียนเสี่ยวมู่อาย จึงอดกลั้นไม่เล่าเรื่องเมื่อครู่

 

 

แต่เมื่อคิดดูแล้ว เธอก็ปลอบใจหญิงสาวคำหนึ่ง “ไม่เป็นไรนะ ย่ามาแล้ว พวกเธอยังเป็นหนุ่มสาวเลือดร้อน ค่อนข้างหุนหันพลันแล่น อีกอย่างเขาเป็นของเธอแล้ว ลูบนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” !!

 

 

เทียบกับเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังขวยเขิน คุณนายใหญ่อวี๋ใจเย็นเหลือเกิน

 

 

คุณนายใหญ่หยิบกล่องที่สามจากบนโต๊ะ แล้วส่งให้เธอ “เอ้า คราวนี้ให้เธอดูเอง”

 

 

“…”

 

 

เมื่อสบสายตาของคุณนายใหญ่อวี๋ เหนียนเสี่ยวมู่พลันรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง

 

 

หญิงสาวเปิดกล่อง ก่อนจะพบกางเกงเปิดเป้าตัวหนึ่งอยู่ข้างใน

 

 

กางเกงเปิดเป้า

 

 

คงไม่ใช่ของอวี๋เยว่หานตอนเด็กๆ…

 

 

“กางเกงตัวนี้น่าเก็บไว้นานแล้ว คิดไว้ว่าจะให้เป็นของขวัญพบหน้า ให้กับหลานสะไภ้ของฉัน! ถ้าต่อไปเยว่หานกล้ารังแกเธออีก เธอก็เอากางเกงตัวนี้มาลงโทษเขา แล้วเปิดโปงเรื่องที่เขาใส่กางเกงเปิดเป้าตอนเด็กๆ ให้สื่อฟัง…”

 

 

คุณนายใหญ่อวี๋ยังพูดไม่ทันจบ เหนียนเสี่ยวมู่ก็ฟังอะไรไม่เข้าหูแล้ว

 

 

เธอยื่นมือไปหยิบกางเกงตัวน้อยออกมาจากข้างในกล่อง

 

 

พอนึกว่าชายหนุ่มใส่กางเกงตัวนี้เมื่อตอนเด็กๆ และวิ่งไปมาอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ ในหัวของเธอพลันคิดภาพมากมายตามมาทันที

 

 

แปลกจังที่…รู้สึกน่าขำ!

 

 

หญิงสาวมองอวี๋เยว่หานเดินเข้ามาหา เธอจึงนำกางเกงเปิดเป้าในมือยัดใส่กล่อง แล้วซ่อนไว้ข้างหลังตัวเอง

 

 

อวี๋เยว่หานคิดไม่ถึงว่าคุณนายใหญ่อวี๋จะเก็บของพรรค์นี้เอาไว้ เขาหูแดงขึ้นเล็กน้อย พลางยื่นมือไปหาเธอ “เหนียนเสี่ยวมู่ ส่งมาให้ผม”

 

 

“ไม่ให้!”

 

 

“มันเป็นกางเกงของผมนะ” เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามพูดตามเหตุผล

 

 

ทว่าเหนียนเสี่ยวมู่ไม่สนใจ เธอกอดกล่องไว้แน่น “ตอนนี้มันเป็นของฉันแล้ว!”

 

 

“…”

 

 

“นี่ๆ ถ้าคุณกล้าแย่งมันไปจากฉัน ตอนนี้ฉันถ่ายรูปไว้แล้วนะ พอฉันส่งไปให้นักข่าว ให้ทุกคนได้เห็น ว่าตอนเด็กๆ คุณชายหานใส่กางเกงเปิดเป้า อาจจะมีใครบางคนหารูปคุณใส่กางเกงเปิดเป้าก็ได้”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูดไปเรื่อยเปื่อย คุณนายใหญ่อวี๋ที่อยู่ข้างๆ รีบพูดตา

 

 

“ฉันมีรูปพวกนั้นอยู่นะ”

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น ใบหน้าของอวี๋เยว่หานพลันดำคล้ำไปโดยสิ้นเชิง

 

 

ชายหนุ่มกระแอมเสียงหนึ่ง ก่อนจะตะโกนว่า “คุณย่า!”

 

 

“เสี่ยวมู่มู่คนกันเอง ดูหน่อยไม่เป็นไรหรอก!” คุณนายใหญ่กล่าว

 

 

อวี๋เยว่หาน “…”

 

 

บนโต๊ะน้ำชายังเหลือกล่องที่เล็กที่สุดอยู่อีกกล่องหนึ่ง

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่นึกถึงจี้และกางเกงเปิดเป้าของอวี๋เยว่หานแล้ว เธอก็อดใจไม่ไหวแล้ว

 

 

คราวนี้คุณนายใหญ่อวี๋ยังไม่ทันเอ่ยปาก หญิงสาวก็ยื่นมือไปหยิบกล่องที่เหลือขึ้นมาแล้ว

 

 

ครั้นเห็นสิ่งของที่อยู่ในกล่องนั้น เธอพลันตะลึงงันไป!

 

 

นี่คือ…

 

 

เธอยังไม่ทันได้ถาม คุณนายใหญ่อวี๋ก็เดินมาข้างหน้าแล้ว และหยิบตราประทับคุณผู้หญิงตระกูลอวี๋ออกมา

 

 

ก่อนจะวางมันลงบนมือของหญิงสาว

 

 

“ย่าอายุมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่ปี ความปรารถนาเดียวตลอดทั้งชีวิตนี้ ก็คือเห็นอวี๋เยว่หานแต่งสะไภ้กับตาตัวเอง”

 

 

หญิงชราพูด พลางยื่นมือไปหยิกต้นขาของตัวเองครั้งหนึ่ง เพื่อบีบน้ำตาออกมา

 

 

“เสี่ยวมู่มู่ เธอเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย เธอต้องรับปากย่าแน่ๆ ใช่ไหม”