ตอนที่ 194 : จัดของ
หวังเย่าเห็นแบบนั้นก็ได้เดินออกจากห้อง แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง
ก่อนหน้านี้เขายุ่งจนไม่มีเวลาจัดของในกระเป๋ามิติ จนทำให้กระเป๋ามิติของเขาเต็มไปด้วยสมบัติมากมาย ดังนั้นเขาจึงถืออาศัยโอกาสนี้จัดเรียงของพวกนั้น
แม้ว่าหวังเย่าจะมาอยู่โลกนี้แค่ 1 ปี แต่ก็ถือว่ายาวนานสำหรับเขา
เขารู้ว่าที่เขาพัฒนาขึ้นมาได้ถึงระดับนี้ก็เพราะมีระบบคอยช่วย แต่มันก็ไม่อาจจะมองข้ามความพยายามและโชคของเขาได้
หวังเย่าสูดหายใจเข้าลึก ๆ และค่อย ๆ เอาของออกมาจากกระเป๋ามิติทีละชิ้น ๆ
อย่างแรกคือพวกอาวุธที่ทำขึ้นมาจากเหล็กทมิฬ เช่น มีดทมิฬ, โล่ เพราะวัสดุที่ใช้ทำของพวกนี้ดี มันสามารถใช้ทำของระดับ SS ได้ ดังนั้นคุณภาพของมันจึงถือว่าอยู่ระดับ S ขึ้นไป
ตอนแรกเขามีมีด 6 เล่ม 2 เล่มเขายกให้กับจ้าวเมิ่งซีไป และยังยกมีดอีก 2 เล่มให้กับฟ่านฉิงเหมยด้วย
สำหรับกระบองนั้น เขาได้ให้มันกับหงอคง ซึ่งหงอคงก็ได้เก็บมันไว้ในกำไลอสูรด้วย
จากนั้นเขาก็เอาเกราะมังกรออกมา แต่เดิมแล้วเขามี 4 ชุด เขาใส่มัน 1 ชุด ให้จ้าวเมิ่งซี 1 ชุด เหลืออยู่ 2 ชุด ก่อนจะยกมันให้กับฟ่านฉิงเหมยอีกชุด
ชุดเกราะมังกรนี้อยู่ระดับ S เหมือนกัน สัตว์อสูรระดับราชันย์ยากที่จะทลายการป้องกันของมันได้ มันเพียงพอที่จะให้พวกเขาสวมมันออกเดินทางไปโลกภายนอกได้ มันไม่จำเป็นต้องหาซื้อชุดเกราะใหม่
นอกจากนี้แล้วเขาก็ยังมีสมบัติอื่น ๆ อย่างหินกฎไฟซึ่งมีกฎไฟอยู่ เมื่อดูดซับกฎนั้นได้สำเร็จ เดาว่าพลังของทักษะนั้นจะเหนือกว่าทักษะพายุสังหารของเฉี่ยนเจินเฉียนซะอีก พลังของไฟนั้นยังไงก็เหนือกว่าลม นี่ถือว่าเป็นสมบัติของโลก
สุดท้ายเขาก็ได้เอาอัญมณีความทรงจำเกือบ 200 เม็ดออกมา นี่คือสิ่งที่เขาได้มาจากรังของแพรี่ด็อก
หวังเย่าหรี่ตาลงและครุ่นคิด อัญมณีบรรพกาลนั้นเมื่อผ่านไปสักพักจะให้อัญมณีความทรงจำออกมา ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าจะใช้มันยังไง
หากว่าเวลาของโลกเหมือนกับในมิติภูเขาหินโม่ ด้วยความสามารถในการผลิตอัญมณีความทรงจำนี้ ก็จะถือว่ามันเป็นสมบัติของโลกได้
ถึงอัญมณีความทรงจำจะใช้ได้เพียงด้านเดียว แต่ผลของมันก็ทรงพลังอย่างมาก มันไม่ใช่แค่ย่นเวลาในการฝึกฝนทักษะ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกขึ้นมาอย่างมาก มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นมาในเวลาอันสั้น
ตอนนี้หวังเย่าฝึกทักษะมีดลมหายใจมังกรกับทักษะเกลียวธนูถึงระดับสูงสุดแล้ว เขาตั้งใจจะฝึกทักษะดาบอีก แล้วค่อยใช้อัญมณีความทรงจำช่วย แต่มันก็คงช่วยเขาได้ไม่มากเท่าไหร่
ยังไงซะพลังของทักษะก็ไม่อาจจะต้านทานพลังเหนือธรรมชาติได้
มันก็เหมือนกับผู้ตรวจสอบ 4 ดาวที่สามารถใช้ทะเลไฟออกมาได้ เฉี่ยนเจินเฉียนสามารถสร้างอาณาเขตพายุขึ้นมาได้ พวกทักษะต่อสู้ต่าง ๆ นั้นยากจะเทียบกับพลังพวกนี้ได้
ยังไงซะโลกนี้ก็ไม่ใช่โลกวิทยายุทธ์ที่ร่างกายสามารถกักเก็บลมปราณไว้กับตัว
การฝึกฝนของโลกนี้มีอยู่ 3 เส้นทาง
เส้นทางแรกคือการทำสัญญากับสัตว์อสูร เพราะพวกเขาใช้สกิลของสัตว์อสูรจึงได้ความแข็งแกร่งของอสูรมาช่วย
ทางที่สองคือเส้นทางนักรบ พวกเขาจะฝึกฝนทักษะต่อสู้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายตัวเอง จนเปลี่ยนตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่ง
ทางที่สามคือทางจิต การฝึกทักษะสมาธินั้นก็ทำให้จิตของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาสามารถโจมตีและการป้องกันทางจิตได้
เส้นทางนักรบนั้นยุ่งยากและยังยากที่จะทะลวงขีดจำกัดของโลกได้ นอกซะจากว่าจะรู้ถึงกฎบางอย่างของโลกถึงจะยกระดับตัวเองขึ้นมาได้ ถึงตอนนั้นแม้แต่หินก้อนเล็ก ๆ ก็ยังมีพลังไม่ต่างอะไรจากปืนใหญ่เลยก็ว่าได้
แต่คนที่ทำแบบนั้นได้มีแค่ 10 คนในโลกนี้เท่านั้น
ดังนั้นเพื่อทำความเข้าใจพลังของโลก พวกเขาจึงได้สร้างทักษะต่อสู้ขึ้นมา
“อัญมณีบรรพกาลทำอะไรได้ ? ” หวังเย่าสับสนกับเรื่องนี้มานาน แต่ก็ไม่อาจจะหาคำตอบได้จนถึงตอนนี้
โชคดีที่ดูเหมือนว่าหินนี่จะดูพิเศษ ไม่งั้นแล้วหวังเย่าคงไม่เก็บมันมาจนถึงตอนนี้
หวังเย่านั่งจัดของอยู่สักพัก อันที่จริงแล้วในกระเป๋ามิติของเขานั้นมีของอยู่จำนวนมาก บางอย่างเป็นของหายาก บางอย่างเป็นของที่แปลก เพราะความรู้ที่จำกัดนี้ มันจึงมีหลายอย่างที่เขาไม่รู้รายละเอียดของมัน เขาจึงได้แต่เก็บมันเอาไว้ก่อน
“หงอคง ออกมา”
หวังเย่าเรียกหงอคงออกมาพร้อมกับดึงเอาผลน้ำเต้าออกมาด้วย หงอคงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที มันรีบพุ่งเข้าไปกินผลน้ำเต้าด้วยสีหน้าพอใจ
ถึงผลน้ำเต้าจะเล็ก แต่มันก็ให้พลังงานจำนวนมาก
หวังเย่าได้ทำการตรวจสอบสถานะของหงอคง เพราะในอีกไม่กี่วันนี้ เขาก็จะวิวัฒนาการให้กับมัน
หวังเย่าจะเรียกหงอคงออกมากินผลไม้ทุก ๆ วัน วันละ 10 นาที ค่าประสบการณ์ของมันจะเพิ่มขึ้นวันละแสนหน่วย เมื่อรวมกับค่าประสบการณ์ที่มีมาก่อนหน้านี้แล้ว มันคงอีกไม่นานที่จะมีค่าประสบการณ์เกิน 1 ล้านหน่วยตามที่เขาตั้งเป้าไว้
หวังเย่าคำนวณผลไม้ที่มีในกระเป๋ามิติ และได้ผลสรุปว่าผลไม้เหล่านี้จะให้ค่าประสบการณ์อย่างน้อย 2.34 ล้านหน่วย ซึ่งเพียงพอที่จะช่วยหงอคงวิวัฒนาการขึ้นมาได้
ดังนั้นนอกจากวิวัฒนาการหงอคงแล้ว มันยังช่วยในการเพิ่มเลเวลให้อีกด้วย
“ตือโป๊ยก่ายออกมา ”
หวังเย่าได้เอาน้ำยาวิวัฒนาการขั้นสูงกว่า 10 ขวดออกมาให้ตือโป๊ยก่ายกิน
“ กี๊ ” ตือโป๊ยก่ายแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมาทันที
….
หลังจากที่ยุ่งอยู่หลายชั่วโมง สุดท้ายหวังเย่าก็เดินออกมาจากห้องและไปยังสนามฝึก ตอนนั้นเขาก็พบว่าจ้าวเมิ่งซีและคนอื่น ๆ กำลังยุ่งอยู่กับกองสมบัติที่เขานำกลับมา
แม้ว่าหวังเย่าจะชินกับเรื่องนี้แล้ว แต่สำหรับคนอื่น ๆ นั้น มันคือกองภูเขาที่มีค่าเทียบเท่าหลายล้านเครดิต ยังไงซะมันก็ทำให้พวกเขาใจสั่นได้อยู่ และไม่อาจที่จะจัดการกับของเหล่านี้อย่างประมาทได้
หวังเย่าบอกลาพวกนั้นก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นล่าง เขามุ่งหน้าไปที่โถงฝึกซ้อมก่อนจะทำการสมัครสมาชิกแล้วขึ้นไปที่ชั้น 18 ต่อ
เป้าหมายของเขาในครั้งนี้คือการฝึกทักษะพายุสังหารส่วนที่ 3 สองส่วนแรกที่เขาได้เรียนรู้มานั้น ทำได้แค่สร้างใบมีดลม, ธนูลมและใช้ลมในการประคองตัว สำหรับความแข็งแกร่งของเขาแล้วทักษะพวกนั้นแทบที่จะไร้ค่า
แต่ทักษะพายุสังหารในส่วนที่ 3 นั้นพิเศษกว่า เพราะมันทำให้เขาบินได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ระยะทางที่บินได้นั้นอยู่ที่ประมาณ 10 เมตร ไปจนถึงหลายกิโลเมตร ซึ่งทักษะนี้มันทำให้เขาบินได้
การกระโดดของเขาจะทำให้เขากระโดดขึ้นไปได้สูงกว่า 200 เมตร
เมื่ออยู่ในอากาศ เขาจะเดินหน้าไปได้ประมาณ 200 เมตร
หากมีความสามารถในการบินเพิ่มไปอีก งั้นการเคลื่อนไหวในอากาศก็จะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นมาอย่างมาก แม้ว่าเขาจะใช้เฮลิคอปเตอร์ในป่าแล้วถูกสัตว์อสูรโจมตี แต่เขาก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากนัก