ตอนที่ 193 : ภารกิจแรก
“ไม่มีปัญหา อันที่จริงพวกเราก็พร้อมแล้ว ตลอดหลายวันมานี้พวกเราเตรียมตัวมาตลอด รอแค่นายกลับมาสั่งการ” หลงปู้หยู๋พูดขึ้น
“ เมื่อพวกนายว่าง ฉันเองก็มีเรื่องหนึ่งอยากให้พวกนายจัดการ หากพวกนายทำสำเร็จ ฉันจะให้รางวัล”
ตอนนั้นหวังเย่าได้ไปที่ห้องซ้อม สมาชิกที่เพิ่งรับเขามาใหม่ก็อยู่ที่นั่นด้วย
เมื่อได้ยินว่าหวังเย่ามีรางวัลให้ ทุกคนต่างก็ตาเป็นประกายขึ้นมา
ทุกคนต่างก็รู้ว่าหวังเย่านั้นไม่ใช่คนธรรมดา ต้องบอกว่าการที่เขามีเงินถึง 50,000 ล้านนี่ก็เพียงพอที่จะทำให้หลายคนอยากติดตามเขาแล้ว
“หัวหน้า รางวัลอะไร ? เมื่อทุกคนอยู่ที่นี่กันหมด นายบอกทุกคนจะดีกว่า” หลงปู้หยู๋เองก็คาดหวังเช่นกัน
จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยก็แสดงท่าทีสงสัยออกมา
หวังเย่าไม่คิดมาก “ในเมื่อทุกคนอยากรู้ งั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร”
หวังเย่าเดินไปที่ใจกลางสนามฝึก ก่อนจะโบกมือให้ทุกคนถอยกลับไป จากนั้นเขาก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ามิติพร้อมกับล้วงเอาบางอย่างออกมา
“หมวก, เกราะ, มีด…”
“อัญมณี, หนังสัตว์…”
“ทักษะต่อสู้, ทักษะสมาธิ…”
ไม่นานที่พื้นสนามก็มีของจำนวนมากถูกกองกันไว้เป็นกองพะเนิน หวังเย่าได้เอาของพวกนี้ออกมาจากกระเป๋ามิติกว่าสองร้อยใบ
ทุกคนต่างก็พากันเบิกตากว้างด้วยความสับสน นี้หวังเย่าไปปล้นใครมารึไง ?
“หวังเย่า นายได้ของพวกนี้มาได้ยังไง ? ” จ้าวเมิ่งซีอ้าปากค้างและอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
แม้ว่าของส่วนใหญ่จะไม่ใช่ของมีค่าแต่เพราะจำนวนที่มากนี้ก็อาจจะมีค่าเท่ากับเงินหลายล้านเครดิต
ภายใต้สายตาตกตะลึงของทุกคน หวังเย่าก็ยิ้มออกมา ก่อนจะดึงศพ 3 ร่างออกมา มันคือถันเจี้ยนซวน, ผีเสี่ยวเปียวและเกาเฉียง
“หลายวันก่อนฉันไปที่ภูเขาผลไม้เพื่อหาประสบการณ์..” หวังเย่าเล่าเรื่องรังโจรที่เขาพบ
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็เผยท่าทีเคารพออกมามากกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
“หัวหน้า นายนี่แกร่งจริง ๆ นายคนเดียวทำลายรังโจรได้ นี่ถือว่าเป็นข่าวใหญ่เลย” หลงปู้หยู๋ทึ่งในตัวหวังเย่าอย่างมาก
“หัวหน้าหวังนี่สุดยอดจริง ๆ ”
“ไม่คิดเลยว่าหัวหน้าของเราจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ เราโชคดีที่ได้เข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างโลกา”
“หัวหน้าที่ทั้งแข็งแกร่งและยังเด็กแบบนี้หาได้ยาก ตราบใดที่ติดตามหัวหน้าไป แน่นอนว่าในภายภาคหน้าเราจะต้องยิ่งใหญ่ได้แน่”
พวกสมาชิกใหม่ต่างก็พากันแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมา
แม้แต่จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันด้วยความภูมิใจ นี่คือผู้ชายที่คู่ควรกับพวกเธอ
“งั้นของพวกนี้ก็ได้มาจากโจรพวกนั้นงั้นหรือ ? ” หลงปู้หยู๋พูดขึ้นมา มันมีของดีมากมาย แค่ชุดระดับ B ก็เป็นเงิน 2 ล้านเครดิตแล้ว พวกทหารทั่วไปนั้นยากที่จะหาซื้อชุดแบบนี้มาได้
หากหวังเย่าให้ของพวกนี้เป็นรางวัล งั้นพวกเขาคงไม่กล้าจะพูดอะไรแล้ว
แน่นอนว่าหลงปู้หยู๋ถือเป็นคนที่โดดเด่นไม่น้อยในเมืองหัวเซี่ย ตัวเขาเองก็มีเงินหลายร้อยล้านเครดิต ดังนั้นของรางวัลพวกนี้จึงไม่ได้ทำให้เขาสนใจมากนัก
แต่นอกจากเขาแล้ว สมาชิกคนอื่น ๆ ยังคงต้องการของพวกนี้ เพราะของบางชิ้นพวกเขาไม่มีปัญญาจะซื้อมาได้
“ใช่ นี่คือของที่ฉันได้มาจากพวกโจร ของส่วนมากนั้นฉันไม่ต้องการ แม้ว่าจะขายทำเงินได้เป็นจำนวนมาก แต่ฉันเห็นว่าพวกเราสำคัญกว่า ตราบใดที่ทุกคนทำภารกิจอย่างเต็มที่ ฉันเชื่อว่ารางวัลนี่ก็แค่จุดเริ่มต้น ต่อไปมันต้องมีของดี ๆ มากกว่านี้อีก พวกนายก็รู้ว่าโลกนี้มันกว้างใหญ่แค่ไหน”
หวังเย่ายิ้มออกมาก่อนจะหันไปหาจ้าวเมิ่งซี “เมิ่งเอ๋อร์ เธอเรียกซีอีโอจูมา ให้เขาเอานักบัญชีมาด้วย เราต้องบันทึกของเหล่านี้เอาไว้ เราไม่จำเป็นต้องขาย แต่เราจะเก็บเอาไว้ในคลังเพื่อเป็นของรางวัลให้กับทหารของเรา”
หวังเย่าอยากให้จ้าวเมิ่งซีจัดการเรื่องนี้แต่เธอยังเด็ก ถึงจะเติบโตได้อีกมาก แต่การจัดการเรื่องนี้มันก็มากเกินไปสำหรับเธอ เธอยังเป็นนักศึกษาอยู่เลย แม้แต่การดูแลบริษัทนั้นเธอก็ยังทำได้ไม่ดีพอ สำหรับคลังแล้ว การให้ผู้หญิงดูแลสมบัติพวกนี้มันอาจจะทำให้คุณค่าของมันลดลง
จ้าวเมิ่งซีได้ทำการโทรหาจูเย่เหยียนทันที
จากนั้นหวังเย่าก็ชี้ไปที่ศพทั้งสามและพูดขึ้น “ รองหัวหน้าหลง ภารกิจแรกสำหรับทุกคนคือพาศพทั้งสามไปที่เมืองฉางอันเพื่อรับรางวัล ”
ค่าหัวของทั้งสามคนนี้ไม่ใช่น้อย ๆ เกาเฉียง มีค่าหัว 2 ล้านเครดิต, ผีเสี่ยวเปียว 2.5 ล้านเครดิตและถันเจี้ยนซวน 28 ล้านเครดิต
“ไม่มีปัญหา” หลงปู้หยู๋หัวเราะออกมา
เมืองฉางอันห่างจากเมืองหัวเซี่ยเกือบพันไมล์ มีสัตว์อสูรอยู่ตามทางเป็นจำนวนมาก การเดินทางไปที่นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับกลุ่มทหารรับจ้างระดับสูงแล้ว การเดินทางนี้ถือว่าเป็นการทดสอบ
ตราบใดที่ไม่พบกับสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์รึฝูงสัตว์อสูร งั้นก็ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
“มีอีกเรื่องที่ต้องแจ้งกับทางเมืองฉางอัน”
หวังเย่าได้พูดถึงแผนการของเย่เจินเหรินจากยอดเขาสงบที่ต้องการร่วมมือกับกลุ่มโจรฝั่งแม่น้ำอุดรทมิฬเพื่อสร้างกับดักขึ้นมา ซึ่งเย่เจินเหรินติดต่อกับราชาวานรสีเงินที่อยู่หุบเขาไร้กังวลเพื่อให้เตรียมกองทัพอสูรจากมิติผลไม้ไว้
หลงปู้หยู๋พยักหน้า เรื่องนี้คือเรื่องสำคัญ พวกเขาต้องทำการแจ้งเรื่องนี้กับหัวหน้าเมืองฉางอันโดยเร็วที่สุด แต่เขาก็สงสัยว่าเรื่องสำคัญแบบนี้ ทำไมหวังเย่าถึงไม่ไปบอกด้วยตัวเองทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองฉางอันมาแล้ว
หากให้หลงปู้หยู๋ไปบอกเรื่องนี้ มันก็จะล้าช้าไปจากเดิม 4-5 วัน เขาไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นมาก่อนรึไง ?
หลงปู้หยู๋ครุ่นคิดอย่างเงียบ ๆ เขาระงับความอยากรู้ไม่ได้เลย
ที่เป็นแบบนั้น เพราะหวังเย่าไม่พอใจที่ไห่เสี่ยวซวนมาแย่งผลงานของเขาไป
ถึงเขาจะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่เขาก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ และหวังเย่าไม่ใช่คนที่ยอมใครง่าย ๆ
หลงปู้หยู๋รู้จักนิสัยของหวังเย่าดี คนคนนี้เป็นคนไม่ยอมเสียเปรียบใคร
การที่กล้าดูถูกหวังเย่าแบบนี้คงมีผลกระทบที่ตามมาไม่ใช่น้อย เขาอยากไปที่เมืองฉางอันและอยากเห็นว่าไห่เสี่ยวซวนจะแสดงท่าทียังไงออกมา
แน่นอนว่าเขาแค่คิดแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หวังเย่าพูดคุยกับพวกทหารไม่นาน จูเย่เหยียนก็มาพร้อมกับพนักงานอีก 4 คนและเริ่มทำงานทันที
สมบัติที่หวังเย่าได้มานี้มีหลายพันชิ้น คุณภาพแตกต่างกันออกไป พวกพนักงานต่างก็พากันยุ่งจนหัวหมุน ยังไงซะ นอกจากนับสมบัติพวกนี้แล้วพวกเขายังต้องแยกมันออกและตีราคากันอีก
พวกทหารรับจ้างหรือแม้แต่จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยเห็นแบบนั้นต่างก็อยากจะเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้มาก