บทที่ 228 หาเรื่อง

จางต้าหูรู้สึกผิดมากขึ้นกว่าเดิม

ตัวเองทำอะไรก็ไม่เป็น ทำได้แค่ขุดดินขุดไร่ของที่บ้าน พี่สามยังต้องออกไปหาเงินบ่อย ๆ เหนื่อยกว่าตัวเองตั้งมากมาย ตอนนี้ยังจะยกเนื้อให้ตนอีก…..

ต้องยอมรับว่าที่จางต้าเหอและแม่เถาคนหนึ่งรับบทคนดีอีกคนรับบทคนเลว และกลยุทธถอยเพื่อเดินหน้าของจางต้าเหอนั้นได้ผลเกินคาดเมื่อใช้กับจางต้าหู

แม่เฒ่าจางเห็นจางต้าหูแล้วรำคาญใจขึ้นทุกที

นางเองก็รู้ว่าจางต้าหูคงไม่ได้กินเนื้อหรอก แต่ตอนนี้แค่นางเห็นจางต้าหูก็นึกถึงเรื่องที่พวกแม่โจวและจางซิ่วเอ๋อได้กินแต่ของดี ๆ นึกแล้วก็โมโห

นางยังระบายอารมณ์ใส่แม่โจวและจางซิ่วเอ๋อในตอนนี้ไม่ได้ จึงได้แต่ระบายกับจางต้าหู

จางเป่าเกินกินข้าวต้มไปครึ่งถ้วยแล้วก็หมดความอยากอาหาร ชีวิตที่บ้านช่างลำบากเหลือเกิน!

ตอนเขาอยู่ข้างนอกมีอะไรให้กินบ้างล่ะ?

ไหนจะจางซิ่วเอ๋อเดนตายนั่นอีก เป็นเพียงสตรีชั้นต่ำ กลับมีปัญญาได้กินของดี ๆ …..

ไม่อ้าขาขอผู้ชายก็ใช้ตำลึงเงินที่ได้จากตัวเขาไป! ไม่ได้การ ในเมื่อรอบนี้เขากลับมาเจอจางซิ่วเอ๋อแล้ว ก็ต้องให้จางซิ่วเอ๋อชดใช้!

ครึ่งตำลึงเงินนั้น เขาจะให้จางซิ่วเอ๋อยอมคืนมาทั้งต้นทั้งดอกเลย!

คิดได้ดังนั้น จางเป่าเกินก็เทข้าวต้มในถ้วยตัวเองใส่ถ้วยของแม่เถา “ท่านแม่ ข้าไม่กินแล้ว ที่เหลือท่านเอาไปกินเถอะ”

แม่เถามองจางเป่าเกินอย่างซาบซึ้ง ลูกชายตนช่างกตัญญูจริง ๆ …..ตัวเขาเองคงจะยังกินไม่อิ่ม แต่กลับยกของกินให้นาง

ปกติแม่เถาถือว่าฉลาดหัวไว แต่กับลูกชายนั้นดูจะรักมากเกินเหตุไปหน่อย

อย่างข้าวต้มครึ่งถ้วยนี้ จางเป่าเกินตั้งใจเก็บไว้ให้แม่เถากินที่ไหนกัน? เห็นชัด ๆ ว่าจางเป่าเกินรู้สึกว่ามันไม่อร่อย หมดความอยากอาหารแล้วจึงเทใส่ถ้วยแม่เถาโดยไม่คิดอะไร

นอกจากจะไม่ใช่การกตัญญูต่อแม่เถาแล้ว ยังเสียมารยาทมากด้วย

จางเป่าเกินลุกขึ้นยืนพร้อมเอ่ย “ข้าขอออกไปเดินเล่นสักหน่อย”

“เป่าเกิน เจ้ากินอีกหน่อยเถอะ” แม่เถามองจางเป่าเกินอย่างเป็นห่วง

จางเป่าเกินมีเรื่องในใจให้คิด เวลานี้จะเริ่มรำคาญแม่เถา “ไม่กินแล้ว พวกท่านกินกันไปเถอะ ข้าไปล่ะ”

ไม่รอให้คนอื่นพูดอะไร จางเป่าเกินก็ออกจากห้องไป

จังหวะที่จางเป่าเกินเดินผ่านห้องตรงปีกตะวันตกก็ได้ยินจางซิ่วเอ๋อกำลังพูดกับแม่โจวอย่างอ่อนโยน “ท่านแม่ เกี๊ยวน้ำนี้อร่อยไหมเจ้าคะ ถ้าอร่อยเดี๋ยวข้าไปซื้อมันหมูที่ตลาดเพิ่มแล้วทอดเป็นกากหมูให้……”

แค่ฟังก็รู้แล้วว่าเกี๊ยวน้ำนั้นใส่ไส้กากมันหมู!

จางเป่าเกินโมโหจนกัดฟันกรอด ครึ่งตำลึงเงินเชียวนะ เท่ากับ 500 เหรียญ กินเกี๊ยวน้ำได้จนอ้วกเลย!

เขาไม่ยอมปล่อยจางซิ่วเอ๋อไปง่าย ๆ แบบนี้แน่! พอคิดแบบนี้จางเป่าเกินก็มีท่าทางเหี้ยมเกรียมขึ้นมา

จางเป่าเกินหันมองทางห้องทิศตะวันตกอีกครั้งอย่างแฝงความหมายแล้วจึงเดินออกไปข้างนอก

ถ้าตอนนี้มีใครเห็นจางเป่าเกิน ก็จะสังเกตทิศที่จางเป่าเกินมุ่งหน้าไป ซึ่งก็คือทิศของบ้านผีสิงนั่นเอง

จางเป่าเกินรู้ว่าต่อให้ตัวเองจะหาเรื่องจางซิ่วเอ๋อก็หาที่บ้านตระกูลจางไม่ได้ ถึงอย่างไรเรื่องครึ่งตำลึงเงินนั้นเขาก็อธิบายไม่ได้

ถึงทำอะไรโจ่งแจ้งไม่ได้ เขาก็ไม่คิดจะปล่อยจางซิ่วเอ๋อในที่ลับหรอก!

แน่นอนว่าจางเป่าเกินได้ยินจากแม่เถาและจางต้าเหอแล้วว่าบ้านผีสิงนั้นเฮี้ยนขนาดไหน เวลานี้จึงไม่กล้าไปบ้านผีสิง เขาคิดไปคิดมาก็ได้ทางสายกลาง ซึ่งก็คือไปดักรอจางซิ่วเอ๋อที่ทางเข้าป่าผีสิง!

หากเกิดอะไรขึ้น เขาจะได้วิ่งออกจากป่าได้ทัน

หากไม่มีผีสางอะไร เขาจะได้ขวางจางซิ่วเอ๋อไว้และสั่งสอนนางเสีย!

จางซิ่วเอ๋อรอจนแม่โจวกินเกี๊ยวน้ำหมดแล้วจึงอยู่คุยเป็นเพื่อนกับแม่โจวอีกพักหนึ่งถึงกลับ

ตอนที่จางซิ่วเอ๋อเดินเข้ามาในป่าผีสิง ก็พลันรู้สึกว่ามีคนจับจ้องตัวเองอยู่ จางซิ่วเอ๋อกล่าวเสียงเข้ม มองพุ่มไม้ด้านข้างและถามเสียงเย็น “ใครกันที่อยู่ตรงนั้น?”

เสียงหัวเราะอย่างดูแคลนดังขึ้น จางเป่าเกินเดินออกมาจากในนั้น

“จางซิ่วเอ๋อ เจ้ากลัวเป็นด้วยหรือ? ไหนเขาลือกันว่าเจ้าเลี้ยงผี แล้วเจ้าจะกลัวอะไรอีก ข้าว่าที่เจ้าเลี้ยงไว้น่ะไม่ใช่ผีอะไรหรอก แต่เป็นผู้ชายล่ะสิ?” จางเป่าเกินอายุไม่มาก แต่ความสามารถในการพูดจาต่ำตมนั้นมีมากยิ่งกว่าแม่เฒ่าจางเสียอีก

อย่างมากแม่เฒ่าจางก็แค่ด่าว่า เทียบกันแล้วสิ่งที่จางเป่าเกินพูดนั้นหยาบคายบาดหูแทบฟังไม่ได้เชียวล่ะ

จางซิ่วเอ๋อขมวดคิ้วเข้ม “เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

พอเห็นว่าเป็นจางเป่าเกิน จางซิ่วเอ๋อกลับหายกลัวขึ้นมา

นางกลัวว่าจะเป็นพวกหวังกลากเกลื้อนที่ไม่ยอมแพ้แล้วกลับมาหาเรื่องอีก หากเป็นคนพวกนั้น จางซิ่วเอ๋อก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะทำอย่างไรดี

จางเป่าเกินสบถและก้าวยาว ๆ เข้ามา “เจ้าว่าข้ามาที่นี่ทำไมล่ะ? จนถึงบัดนี้เจ้ายังจะแกล้งโง่อีกหรือ?”

พูดไปจางเป่าเกินก็เหลือบมองตะกร้าของจางซิ่วเอ๋อพลางหัวเราะเย็น ๆ “เดี๋ยวนี้เจ้าเก่งกล้าสามารถดีนะ กินได้ยันแกงไก่ยันเกี๊ยวน้ำเชียว ครึ่งตำลึงเงินของข้าเจ้าควรจะคืนข้าได้แล้วกระมัง?”

จางซิ่วเอ๋อถอยหลังไปหนึ่งก้าว นางไม่กลัวจางเป่าเกินหรอก แต่ถึงอย่างไรชายหญิงก็แตกต่างกัน นางมีกำลังไม่มากเท่าจางเป่าเกิน ขืนอีกเดี๋ยวจางเป่าเกินเป็นบ้าขึ้นมา นางก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่จางซิ่วเอ๋อต้องทำคือรับประกันความปลอดภัยของตัวเองไว้ก่อน

ทว่าการกระทำเช่นนี้ของจางซิ่วเอ๋อกลับทำให้จางเป่าเกินคิดว่านางกำลังหวาดกลัว เขายิ่งโอหังได้ใจขึ้นไปใหญ่

เขาหัวเราะลั่น “จางซิ่วเอ๋อ เจ้าเหิมเกริมมากไม่ใช่หรือไร? ทำไมตอนนี้ถึงกลัวล่ะ? ถ้าตอนนี้เจ้าคุกเข่ากับพื้นแล้วโขกหัวให้ข้า ขอร้องให้พี่ชายอย่างข้าปล่อยเจ้าไป แล้วคืนตำลึงเงินของข้ามา บางทีข้าอาจจะปล่อยเจ้าไปเพราะเห็นแก่ที่เราสองคนแซ่จางเหมือนกันก็ได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะจับเจ้าไปที่หอนางโลมเสียเดี๋ยวนี้ ให้เจ้าไปหาครึ่งตำลึงเงินนั้นกลับมาให้ข้า!”

จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วหัวเราะเสียงเย็น “จางเป่าเกิน ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้ เรื่องครึ่งตำลึงเงินนั้นเจ้าเลิกคิดได้เลย ข้ายอมเอาไปซื้อซาลาเปามาปาหัวหมาดีกว่าคืนให้เจ้า!”

จางเป่าเกินพูดจาไม่ให้เกียรติจางซิ่วเอ๋อ จางซิ่วเอ๋อก็พูดกลับไปอย่างไม่เกรงใจเช่นกัน

จางเป่าเกินยิ้มเย็น “จางซิ่วเอ๋อ เจ้าอย่าคิดว่ามีผู้ชายหนุนหลังเจ้าแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรเจ้า! ข้าจะสั่งสอนเจ้าดี ๆ เดี๋ยวนี้แหละ! แล้วค่อยจับเจ้าเข้าหอนางโลม ดูซิว่าผู้ชายพวกนั้นยังจะรับเจ้าได้อยู่ไหม!”

พูดจบจางเป่าเกินก็เดินตรงมาทางนี้

จางซิ่วเอ๋อรีบถอยหลังออกไป ไม่ใช่ว่านางกลัวจางเป่าเกิน แต่วีรชนไม่ยอมเสียเปรียบโง่ ๆ นางเพียงไม่สนใจจะลงไม้ลงมือกับจางเป่าเกิน

จางซิ่วเอ๋อถอยหลังพลางด่าไปพลาง “ข้าว่าเจ้าก็เป็นแค่หมาบ้าตัวหนึ่ง เห็นใครก็กัดไปทั่ว!”

“จางซิ่วเอ๋อ ถ้าวันนี้ข้าไม่ได้สั่งสอนเจ้า ข้าคงเสียเวลาเปล่า!” จางเป่าเกินถูกยั่วโมโห เขากัดฟันและไล่ตามจางซิ่วเอ๋อเข้ามาอย่างฉับไว ตอนนี้จางเป่าเกินลืมเรื่องเล่าขานต่าง ๆ ของบ้านผีสิงไปแล้ว

แต่ต่อให้ยังจำได้อยู่ จางเป่าเกินที่ไม่เคยเห็นของสยองขวัญพรรค์นั้นด้วยตาตัวเอง ก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับเรื่องนี้อยู่ดี

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

น้องสู้ ๆ วิ่งเข้าบ้านให้ทันเร็ว แล้วเรียกคนในบ้านเอาหินมาปาไล่หมาบ้านี่

ไหหม่า(海馬)