ตอนที่ 209 เสี่ยงต่อการถูกเล่นงาน (2)

หมอหญิงจ้าวดวงใจ

ตอนที่ 209 เสี่ยงต่อการถูกเล่นงาน (2)

แม้ว่าปากของชุ่ยผิงจะบอกว่าไม่เห็นด้วย ทว่าก็เอาเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้เหยาเยี่ยนอวี่แล้ว

ข้างนอก เหยาเหยียนอี้เอ่ยถามสะใภ้ซานว่างไปสองสามคำ เพิ่งจะบอกว่าให้นางไปเคาะประตูเรือนข้างที่เหยาเยี่ยนอวี่เข้าพัก ประตูเรือนก็เปิดออก เหยาเยี่ยนอวี่พาชุ่ยเวยและชุ่ยผิงออกมาจากด้านในพลางมองสะใภ้ซานว่างครู่หนึ่งแล้วพูดกับเหยาเหยียนอี้ “พี่รอง ข้าไปดูอาการนางเสียหน่อย”

“ข้าไปกับเจ้า” เหยาเหยียนอี้ไม่ไว้วางใจจึงติดตามไปเป็นเรื่องธรรมดา เว่ยจางก็ตามอยู่ข้างหลังโดยไม่พูดไม่จา

เหยาเยี่ยนอวี่ชำเลืองมองเขา ภายในใจกำลังคิดว่า เถียนอี๋เหนียงเป็นคนในเรือนของบิดา หากให้คนนอกตามไปก็เกรงว่าคงไม่ค่อยดีหรือเปล่า ตอนนั้นเว่ยจางเองก็มองนางพอดีด้วยเหตุนี้จึงเอ่ยถาม “คุณหนูเหยามีเรื่องอะไรหรือ”

เหยาเยี่ยนอวี่กลอกตามองบนใส่เขา “ไม่มีอะไร”

เหยาเหยียนอี้นึกได้ทันทีจึงหันไปพูดขึ้น “เสี่ยวจวิน นี่เป็นเรื่องภายในจวนของข้า คงไม่ลำบากเจ้าไปเยือนด้วยกันแล้ว”

เว่ยจางทำสีหน้าเย็นชาแล้วกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์จึงเอ่ยถามด้วยเสียงเรียบเฉย “ที่นี่คือวัดโบราณและตั้งอยู่ในส่วนลึกของป่าพงไพร หากใต้เท้าเหยาและคุณหนูเหยาเกิดอะไรขึ้นมา ข้าจะกราบทูลฮ่องเต้อย่างไร”

บ่าวไพร่ทั้งหมดของตระกูลเหยาต่างก็ก้มหน้าลงต่ำ สะใภ้ซานว่างยิ่งไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง

“ไปเถอะ ช่วยคนสำคัญที่สุด” เหยาเยี่ยนอวี่ทำลายบรรยากาศเงียบกริบแล้วสั่งการสะใภ้ซานว่าง “เจ้านำทาง”

“อือ เจ้าค่ะ” สะใภ้ซานว่างรีบตอบกลับทันทีแล้วพาเหยาเยี่ยนอวี่เดินไปข้างนอก

เหยาเหยียนอี้ชำเลืองมองเว่ยจาง ภายในใจย่อมรู้สึกขุ่นเคืองอยู่บ้าง ต่อให้เจ้าจะหวังดีต่อพวกเรา ทว่าคำพูดที่เอ่ยออกมาคงไม่จำเป็นต้องไร้ความรู้สึกเช่นนี้หรือเปล่า เจ้าทำเช่นนี้ยังอยากจะเป็นบุตรเขยของตระกูลเหยาอยู่หรือเปล่า!

เว่ยจางถูกเหยาเหยียนอี้ชำเลืองมองกลับคลี่ยิ้มน้อยๆ อย่างไม่สนใจใยดี “ใต้เท้าเหยาเชิญขอรับ”

เหยาเหยียนอี้รู้สึกว่าตนเองคือคุณชายตระกูลปัญญาชนมากการศึกษาจึงไม่อยากเรียกร้องอะไรกับบุรุษร่างกำยำแต่ไร้สมองคนนี้ ดังนั้นจึงเดินตามน้องสาวไปอย่างเย่อหยิ่ง

คนกลุ่มหนึ่งถือโคมไฟกางร่มเดินออกจากประตูหลังของวัดผู่จี้แล้วเดินทะลุแปลงผักผืนหนึ่ง ก็ได้ไปถึงอารามแม่ชี

ตอนนี้เถียนซื่อหน้าขาวซีดเหมือนกระดาษ ทั้งศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น นางพิงอยู่บนเตียง แม้กระทั่งเรี่ยวแรงจะพูดก็ยังไม่มี แค่พิงอยู่บนตั่งไม้แล้วกุมท้องของตนเองคร่ำครวญ สาวใช้สี่เชวี่ยเห็นจึงเข้าไปจับมือนางไว้แล้วร้องไห้ออกมาทันที คำพูดคำจาไม่ได้ความ ของในเรือนกระจัดกระจาย แม้กระทั่งที่ยืนยังไม่มี

เหยาเยี่ยนอวี่เห็นเช่นนี้จึงขมวดคิ้วสั่งการชุ่ยเวยและชุ่ยผิง “ไปเก็บกวาดข้างในก่อน คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้ออกมาให้หมด”

มีสาวใช้ที่มีความสามารถสองคนเข้ามาช่วยเหลือ ในเรือนจึงสะอาดเรียบร้อยขึ้นมาทันที แม้แต่เหล่าแม่ชีอายุเยอะไม่กี่คนยังถูกเชิญไปอยู่ข้างๆ เหตุเพราะเกี่ยวข้องกับสาเหตุการป่วยของเถียนซื่อ เหยาเหยียนอี้จึงสั่งคนมาเฝ้าพวกนางไว้

เหยาเยี่ยนอวี่เดินเข้าไปตรวจจับชีพจรให้เถียนซื่อ จากนั้นก็เอ่ยถามด้วยคิ้วขมวด “วันนี้นางกินอะไรไป”

สะใภ้ซานว่างเป็นคนของหวางฮูหยิน จะไปสนใจว่าอี๋เหนียงคนหนึ่งกินอะไรเข้าไปได้อย่างไร ดังนั้นจึงหันไปเอ่ยถามสี่เชวี่ย “เจ้าให้สะใภ้อี๋ของพวกเจ้ากินอะไรไปแล้วยังไม่รีบพูดออกมาอีก!”

สี่เชวี่ยถูกสะใภ้ซานว่างใช้นิ้วจิ้มหน้าผากแรงๆ จึงรู้สึกตกใจจนร้องไห้ออกมา “ก็เป็นอาหารที่ทางวัดส่งมา…ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นเจ้าค่ะ บ่าวก็คงหาอะไรอย่างอื่นให้อี๋เหนียงกินไม่ได้เหมือนกันเจ้าค่ะ”

เหยาเยี่ยนอวี่ชำเลืองมองสะใภ้ซานว่างอย่างไม่พอใจ สะใภ้ซานว่างจึงรีบโค้งลำตัวลงแล้วถอยไปข้างหลังสองก้าว เหยาเยี่ยนอวี่สั่งการชุ่ยเวย “เจ้าฝังเข็มให้นาง”

“…” ชุ่ยเวยนิ่งงันไปสักพักแล้วตอบตกลง “เจ้าค่ะ”

ชุ่ยผิงสั่งให้สี่เชวี่ยช่วยถอดเสื้อผ้าของเถียนซื่อ เหยาเยี่ยนอวี่ยืนมองอยู่ข้างๆ ชุ่ยเวยเอาเข็มเงินออกมาแล้วทำตาม ฝังเข็มลงที่จุดฝังเข็มตามวิธีการที่เหยาเยี่ยนอวี่บอก นางค่อยๆ ปักเข็มลงไป สะใภ้ซานว่างที่อยู่ข้างๆ มองด้วยความทึ่ง

ที่แท้ไม่เพียงแต่เหยาเยี่ยนอวี่ที่มีฝีมือการแพทย์ แม้กระทั่งสาวใช้ข้างกายนางยังเป็น? ช่างเหลือเชื่อจริงๆ!

ชุ่ยผิงฝังเข็มตามคำพูดของเหยาเยี่ยนอวี่จนเสร็จ สีหน้าของเถียนซื่อก็ค่อยๆ ดีขึ้นมาก ไม่ร้องเจ็บอีกต่อไป

“คุณหนูรอง! ข้าขอบคุณท่าน…” เถียนซื่อลืมตามองเหยาเยี่ยนอวี่ น้ำตาก็ไหลรินลงมา “คุณหนูผู้แสนดี ท่านต้องช่วยข้า…ที่นี่มีคนจ้องจะทำร้ายข้าจนตาย…”

เหยาเยี่ยนอวี่ขมวดคิ้ว “เจ้ามีสภาพแบบนี้แล้วก็อย่าพูดอะไรอีกเลย” ขณะที่กล่าวนางก็สั่งการชุ่ยผิงไปเอา ‘ลาลายิง’ สมุนไพรชนิดหนึ่งที่เด็ดกลับมาในวันนี้มาให้สี่เชวี่ยต้มกับน้ำให้เถียนซื่อดื่ม

เหยาเหยียนอี้และเว่ยจางคอยอยู่ตรงลานกว้างตลอดมา ที่นี่คืออาราม ข้างในต่างก็เป็นแม่ชีและสตรีกันหมด พวกเขาไม่ควรเข้าไป พอเห็นเหยาเยี่ยนอวี่ออกมา เหยาเหยียนอี้จึงเอ่ยถามทันที “เป็นเช่นไรบ้าง”

“กินของเสียเข้าไปในร่างกายจริงๆ” เหยาเยี่ยนอวี่ขมวดคิ้วพลางถอนหายใจ “อีกทั้งอาการยังสาหัส หากคืนนี้พวกเราไม่อยู่ที่นี่นางอาจจะไม่มีชีวิตต่อ”

เหยาเหยียนอี้ขมวดคิ้ว “ใครต้องการจะทำร้ายนางอย่างไร้เหตุผลเช่นนี้ล่ะ”

เหยาเยี่ยนอวี่นิ่งงัน ภายในใจก็คิดว่า ใช่! ต่อให้ฮูหยินจะไม่ชอบขี้หน้านางก็ไม่จำเป็นต้องให้นางออกมาข้างนอกแล้วกำจัดนางหรือเปล่า แท้จริงแล้วจัดการกับนางในจวนก็ได้ เหตุใดถึงต้องให้เรื่องมันบานปลายถึงขั้นพานางออกมากำจัดข้างนอก นี่ไม่ใช่เป็นการทำให้ชื่อเสียงของตนเองต้องป่นปี้หรือ

หากพูดถึงคนในอารามก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ อาจมีแม่ชีแก่เฒ่าโลภมากหวังสินบน ทว่าหากทำร้ายจนจวนตายพวกนางจะได้รับประโยชน์อะไร

เหยาเหยียนอี้เอ่ยถามอีก “ตอนนี้นางเป็นเช่นไรบ้างแล้ว”

“น่าจะไม่เป็นอะไรแล้ว” เหยาเยี่ยนอวี่ได้สติกลับมาแล้วขมวดคิ้ว “ผู้ที่คอยปรนนิบัติรับใช้ไม่ระมัดระวังจึงปล่อยให้มีสิ่งเจือปนอะไรในอาหารหรือเปล่า”

เหยาเหยียนอี้เอ่ยถามอีกครั้ง “เช่นนั้นเหตุใดผู้ที่ป่วยไข้มีเพียงนางคนเดียว”

“จริงดังว่า” เหยาเยี่ยนอวี่พึมพำ สี่เชวี่ยและซานว่างต่างก็ไม่เป็นไร มีเพียงเถียนอี๋เหนียงคนเดียวเท่านั้นที่ป่วยหนักเช่นนี้…

เหยาเหยียนอี้เหลือบตามองเรือนของเถียนซื่อเพียงชั่วพริบตาแล้วหันมาเสวนากับเหยาเยี่ยนอวี่ “ไหนๆ ก็ไม่เป็นไรแล้ว พวกเรากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ รุ่งเช้ายังต้องรีบกลับไปอีก หากไปสายอาจจะพลาดงานเลี้ยงฉลองก็ได้ ฮูหยินผู้เฒ่ากับฮูหยินคงจะโกรธเคือง”

“อืม เจ้าค่ะ” เหยาเยี่ยนอวี่พยักหน้าตอบตกลง

เหยาเหยียนอี้หันหลังเตรียมจากไป ภายในใจยังคงไม่วางใจ ด้วยเหตุนี้จึงเรียกซานว่างมาพบแล้วสั่งการ “สะใภ้อี๋อาศัยอยู่ที่นี่ เจ้าต้องปรนนิบัติรับใช้อย่างดี อาหารการกินและเรือนที่พักห้ามเกิดข้อผิดพลาดใดๆ เด็ดขาด คืนนี้เจ้าโชคดีที่ข้ากับคุณหนูรองอยู่ที่นี่พอดี ไม่เช่นนั้นสะใภ้อี๋เกิดอะไรขึ้นมา เจ้าคงจะไม่หลุดพ้นจากการมีส่วนเกี่ยวข้องแน่นอน!”

ซานว่างจึงสะดุ้งตกใจแล้วคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรง “คุณชายรองได้โปรดมองเรื่องนี้อย่างกระจ่างแจ้ง! พวกบ่าวไม่เคยกล้าเมินเฉยเจ้าค่ะ! เรื่องคืนนี้แปลกพิลึกเกินไปแล้ว คุณชายรองได้โปรดตัดสินแทนพวกบ่าวอย่างเป็นธรรมด้วยเจ้าค่ะ”

เหยาเหยียนอี้พูดขึ้นอย่างโกรธเคือง “ข้ามองว่าปกติเจ้าก็ถือว่ารู้จักกาลเทศะ ไม่เช่นนั้นฮูหยินก็ไม่มีทางมอบหมายเรื่องนี้ให้กับเจ้าในเวลานี้! ข้ากับคุณหนูรองมาทำการใหญ่ที่นี่แล้วจะไปมีเวลาสนใจเรื่องไร้สาระของพวกเจ้าได้อย่างไร เจ้าไม่ประณีตละเอียดอ่อนเอง สุดท้ายกลับบอกให้นายอย่างข้าเป็นคนช่วยเจ้าตัดสินหรือ หรือว่าเจ้ายังอยากจะสั่งให้คนของข้าตรวจค้นทั้งในและนอกอารามนี้หนึ่งรอบ?”

ซานว่างจึงรีบน้อมก้มกราบทันที “บ่าวไม่ได้หมายความเช่นนี้เจ้าค่ะ คำพูดของคุณชายรองบ่าวจะจดจำไว้เจ้าค่ะ คุณชายรองวางใจเถอะ บ่าวต้องปรนนิบัติรับใช้สะใภ้อี๋เป็นอย่างดี จะไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก!”

เหยาเหยียนอี้ไม่อยากมากความกับคนเหล่านี้จึงสาวเท้าเดินจากไป ตอนนี้เหยาเยี่ยนอวี่เพิ่งจะรู้เรื่องขึ้นมาบ้าง ทว่านางยิ่งไม่อยากยุ่งเรื่องเหล่านี้ จึงเดินจากไปพร้อมกับเหยาเหยียนอี้