ตอนที่ 375 ชอบคุณ ชอบคุณเข้าแล้ว / ตอนที่ 376 อาจารย์เหม่ยเหรินกลับมาแล้ว (1)

ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ

ตอนที่ 375 ชอบคุณ ชอบคุณเข้าแล้ว

 

 

ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงชอบคุณ…อวี๋กานกานโพล่งออกมาไม่ทันรู้ตัว จู่ๆ สังเกตถึงความผิดปกติ ดูเหมือนว่าเธอไม่เคยสารภาพรักนี่นา

 

 

เธอหน้าแดง “ฉันเคยพูดว่าชอบคุณตอนไหน”

 

 

หญิงสาวเขินอายเก้ๆ กังๆ ทำให้ชายหนุ่มอดยิ้มมุมปากไม่ได้ “ผมไม่ได้พูดว่าคุณชอบเข้าแล้วผม ผมแค่บอกว่าคุณชอบผม

 

 

อะไรนะ?

 

 

อวี๋กานกานไม่ได้ตอบกลับไปในทันที

 

 

ชอบคุณ

 

 

ชอบคุณเข้าแล้ว

 

 

เติมคำๆ เดียว ความหมายกลับเปลี่ยนไปทั้งหมด

 

 

พูดให้ดีๆ จู่ๆ ใครบางคนก็พูดจากำกวมขึ้นมาอวี๋กานกานหน้าแดงเบิกตามองเขา “คนอย่างคุณ ฉันเห็นว่าคุณอยากเอาเปรียบฉัน ก็รู้ว่าฉันไม่ควรเชื่อคุณ

 

 

ฟังจือหันยกมือขึ้นอย่างจำยอม และพูดกันดีๆ “ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรถามคุณว่าชอบหรือไม่ชอบผม ผมควรถามว่าเพราะอะไรคุณถึงชอบผม”

 

 

คำพูดนี้มียาพิษ อวี๋กานกานฟังแล้วอยากต่อยคน

 

 

เธอชูหมัดขึ้นมา “คุณ…”

 

 

ฟังจือหันยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ยอมให้เธอต่อยดีๆ แน่นอนว่าอวี๋กานกานไม่กล้าลงมือจริงจึงได้แต่กัดฟันกรอดๆ “คุณจงใจ”

 

 

นิ้วเรียวยาวอยากลูบไล้ใบหน้าของเธอ “โรคจิต คุณแค่อยากทำให้ผมไขว้เขว หรือว่าผู้ชายทุกคนพูดที่แบบนี้ คุณก็อยากทำให้ไขว้เขว”

 

 

อวี๋กานกานปัดมือเขาให้พ้น “จะเป็นไปได้ไง ไม่ใช่เพราะคุณหรอที่ทำให้ฉันหวั่นไหว”

 

 

“อ่อ”

 

 

จงใจเบี่ยงเบนความสนใจ อวี๋กานกานขุดหลุมพรางเล่นละครตบตากล่าวหาเขา “ฟังจือหัน คุณทรยศฉัน”

 

 

“ผมชอบคุณ”

 

 

“ให้มันน้อยๆ หน่อย”

 

 

อวี๋กานกานไม่เชื่อเขาอีกแล้ว คำพูดของคนๆ นี้ไม่รู้คำไหนจริงจังคำไหนโกหก

 

 

ฟังจือหันไม่เห็นแววหยอกล้อเมื่อกี้แล้วตีหน้าขรึม “ชอบคุณที่กอดผมแล้วเรียกว่าสามี แต่ต่อมาก็วิ่งหนีผมซะแล้วเหมือนลูกแมวเจ้าเล่ห์ที่มีกรงเล็บคม”

 

 

อวี๋กานกานอึ้งไปชั่วขณะ “…”

 

 

ฟังจือหันจึงพูดต่อ “ชอบคุณตอนกำลังใช้สมาธิตรวจชีพจร ชอบคุณตอนนั่งนิ่งที่ตรงนั้นแต่กลับเปล่งประกาย คุณไม่มีทางรู้เลยว่าคุณในตอนนั้นน่าหลงใหลมากแค่ไหน”

 

 

ชายหนุ่มผู้ดีสง่างามที่หล่อเหลามีเสน่ห์ พูดคำหวานๆ ออกมาสามารถฆ่าคุณได้ทุกนาที

 

 

อวี๋กานกานยังคงนิ่งอึ้ง “…”

 

 

ฟังจือหันยกมือขึ้นลูบหัวอวี๋กานกาน “ชอบหน้าแดงหูแดงเวลาเขินแต่ต้องแกล้งทำจริงจังเป็นผู้ใหญ่อย่างคุณ ผมรู้สึกว่าจู่ๆ ชีวิตก็มีความหมายขึ้นมาก”

 

 

หัวใจที่เต้นระรัวของอวี๋กานกานค่อยๆ สงบลงมาบ้าง “…”

 

 

ทันใดนั้นเธอรู้สึกอยากร้องไห้

 

 

รู้จักกับฟังจือหันได้ไม่นาน แต่คำพูดเขาเหล่านี้มันทำให้เธอรู้สึกว่าเวลาผ่านไปหนึ่งศตวรรษ และเหมือนว่าเธอกับฟังจือหันอยู่ด้วยกันมานานแล้ว

 

 

ฟังจือหันเข้ามาในชีวิตเธออย่างมีพลังเกะติดลงไปในก้นบึ้งหัวใจทีละนิดๆ หล่อเลี้ยงทุกอย่างให้ชุ่มชื่นเงียบๆ

 

 

ทำให้เธอชอบ

 

 

ชอบเขาที่ดูร้ายๆ ชอบที่เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด ชอบเขาที่ชอบเธอ

 

 

ทุกๆ การกระทำของเขาทำให้เธอหลงใหล

 

 

ฟังจือหันเหมือนข้อสอบเอ็นทรานซ์ที่จู่ๆ ออกเกินมาหนึ่งวิชา

 

 

นอกจากวิชาแพทย์แล้วนี้เป็นนี่เป็นวิชาที่สองที่เธอต้องการใช้ทุกวิถีทางในการค้นคว้าและพิชิต

 

 

ทุกคนเป็นเพียงฝุ่นเล็กๆ แต่กำลังรอคอยคนที่เปลี่ยนเธอให้เป็นไข่มุก นั่นก็คือคนที่เธอรักซึ่งเธอเจอแล้ว หากทิ้งคนที่ตัวเองชอบไปคงจะเสียดายมาก

 

 

ฟังจือหันก้าวไปข้างหน้าสองก้าวจับมือเล็กๆ ที่อ่อนนุ่มของอวี๋กานกานเบาๆ และพูดอย่างจริงจังว่า “ผมจำไม่ได้ว่าชอบคุณตั้งแต่เมื่อไหร่และทำไมผมถึงชอบคุณ เพราะการรอคำตอบกลับทำให้ผมพบว่าทั้งหมดในใจเป็นของคุณแล้ว”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 376 อาจารย์เหม่ยเหรินกลับมาแล้ว

 

 

อวี๋กานกานตาแดงมองเขาเหม่อลอย

 

 

ทำไมถึงมาบอกชอบเธอตอนนี้ อวี๋กานกานรู้สึกสับสน คอแห้งเล็กน้อยเธอกระแอมไออยากพูดบางอย่างแต่กลับไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรออกมา

 

 

ทั้งห้องเงียบกริบ

 

 

อวี๋กานกานหลบสายตาเป็นเวลานานถึงจะเอ่ย “คุณปู่เป็นคนเก็บฉันมาเลี้ยง ตอนนั้นฉันป่วยหนัก คุณปู่ใช้เวลานานมากกว่าจะรักษาฉันจนอาการดีขึ้น ตอนเด็กร่างกายฉันไม่แข็งแรง คุณปู่ก็ยุ่งกับโรงพยาบาล เวลาส่วนใหญ่จึงเป็นอาจารย์ที่ดูแลฉัน อาจารย์เหม่ยเหรินเป็นคนอ่อนโยนมาก เขาสอนให้ฉันเป็นคนไม่ลืมความตั้งใจแรก เขาสอนให้ฉันคงความกล้าหาญตอนเจอความทุกข์ยาก อีกทั้งยังสอนให้ฉันมีสติเมื่อเผชิญกับอนาคต…”

 

 

เมื่อพูดไปอวี๋กานกานยิ่งดวงตาแดงก่ำ

 

 

น้ำเสียงก็สะอึกสะอื้นตาม

 

 

เธออธิบายปกป้องอาจารย์ของตัวเอง “อาจารย์เหม่ยเหรินเปรียบเสมือนพ่อของฉัน เป็นคนที่อบรมสั่งสอนฉัน ฉันจำทุกคำพูดของเขา หมอเป็นผู้มีเมตตาดังนั้นฉันไม่เชื่อว่าอาจารย์ของฉันจะเป็นคนที่ฆ่าพ่อของคุณ”

 

 

ชายหนุ่มร่างสูงสง่ามองลงมาที่เธอและตอบเสียงเรียบ “ตำรวจจะตรวจสอบทุกอย่างให้ชัดเจนและพิสูจน์ว่าอาจารย์ของเธอไม่ได้ฆ่าคนตาย”

 

 

อวี๋กานกานจ้องลึกในแววตาของฟังจือหัน ชายหนุ่มนัยน์ตาลลุ่มลึกสีหน้าเคร่งขรึม

 

 

เธอขยับปากถาม “งั้นคุณคิดว่าอาจารย์ของฉันเป็นฆาตกรที่ฆ่าพ่อคุณหรือเปล่า”

 

 

คำถามนี้ทำให้ฟังจือหันถึงกับเงียบไปชั่วขณะ

 

 

หลังจากพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งเขาจึงตอบกลับไป “ผมเชื่อว่ากระบวนการทางกฎหมายจะสืบหาฆาตกรเจอ”

 

 

ตอบไม่ตรงคำถามแบบนี้ อวี๋กานกานก็รู้คำตอบในใจแล้ว

 

 

เธอแค่นหัวเราะเบาๆ “ฉันไม่มีวิธีที่จะทำให้คุณเชื่อว่าอาจารย์ของฉันไม่ได้เป็นฆาตกร เพราะว่าคุณกับฉันไม่เหมือนกัน แต่ในใจของฉันยืนยันได้ว่าอาจารย์ของฉันไม่ได้เป็นฆาตกร”

 

 

ฟังจือหัน “…”

 

 

อวี๋กานกานสูดจมูกหลับตาแล้วพูดว่า “พวกเรา…พวกเราไม่เหมาะสมกัน”

 

 

ฟังจือหันสีหน้าสลด แขนยาวของเขาคว้าเธอเข้ามาในอ้อมกอดด้วยท่าทางเอาแต่ใจมองหน้าเธอด้วยความไม่เข้าใจ “เหมาะสมหรือไม่ผมจะเป็นคนบอกเอง”

 

 

น้ำเสียงจริงจัง

 

 

ท่าทางแข็งแกร่งดุดัน

 

 

อวี๋กานกานออกแรงผลักเขาและตวาดเสียงดัง “ฟังจือหัน ฉันไม่สามารถบังคับให้คุณเชื่อทั้งหมด ยังไงเขาก็คืออาจารย์ของฉันเป็นอาจารย์ที่ฉันเข้าใจ เขาไม่ใช่อาจารย์ของคุณและคุณก็ไม่ใช่คนที่จะมาทำความเข้าใจคนอื่น ฉันไม่สามารถบังคับให้คุณเชื่อความจริงนี้ว่าอาจารย์ของฉันไม่ได้ฆ่าพ่อของคุณ เพราะว่าคนที่ถูกฆ่าคนนั้นคือพ่อของคุณ แต่ถ้าพวกเรายังอยู่ด้วยกันอีก นี่เป็นปัญหาสำคัญระหว่างเรา ฉะนั้นก่อนที่อาจารย์ของฉันจะกลับมา พวกเราไม่เหมาะสมที่จะคบกันจริงๆ”

 

 

พระเจ้ารู้ว่าเธอใช้แรงมากแค่ไหนกว่าจะเอ่ยประโยคนี้จบ

 

 

ยังไม่ทันรักกันอย่างดูดดื่มก็ต้องมาเลิกกันอย่างอนาถซะแล้ว ใครบอกว่าเธอเป็นปลาคราฟ ใครบอกว่าเธอโชคดีมาตั้งแต่เด็ก

 

 

ขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

 

 

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เป็นเพลงเศร้าของนักร้องหยางจงเหว่ย ในขณะนั้นเองเสียงร้องแหบเสน่ห์ก็ดังขึ้น ต้องนานแค่ไหนยาวไกลแค่ไหนต้องเจ็บแค่ไหน เธอถึงจะได้ยินในสิ่งที่เขาไม่ได้พูด เข้มแข็งเหมือนคำโกหกแต่ก็เป็นเพียงแค่เรื่องหลอกลวง…

 

 

ทำนองเศร้าเขากับบรรยากาศ

 

 

น้ำตาหยด “ติ๋งๆ” ถึงพื้น

 

 

อวี๋กานกานกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

 

 

เธอเก็บกดความเสียใจเอาไว้แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับสาย

 

 

“คุณอวี๋กานกานครับผมโจวโจว ตอนนี้คุณเหอสือกุยอยู่ที่สถานีตำรวจ…”

 

 

เสียงของคนในสายดังขึ้น อวี๋กานกานยังคงตกตะลึง ทันใดนั้นเธอเบิกตาโตหายใจติดขัดและรีบโพล่งถาม “คุณว่าอะไรนะ อาจารย์ของฉันกลับมาแล้วเหรอ”