หลังจากคุยกันอีกไม่กี่ประโยคพวกเขาทั้งคู่ต่างก็แยกย้ายกันกลับเข้าห้องนอน

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาถึงราวตี2 อวี้ฮ่าวหรานซึ่งกำลังนั่งบ่มเพาะอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นอย่างกระทันหัน!

เขาสัมผัสได้ถึงจังหวะลมหายใจของผู้บ่มเพาะ แถมคนที่มาไม่ใช่ผู้บ่มเพาะธรรมดา ๆ แบบที่เขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้ซะด้วย!

ใครกันมาหาเขาดึกเอาป่านนี้?

อวี้ฮ่าวหรานลุกขึ้นแล้วออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบเพื่อไม่ทำให้ ถวนถวนและหลี่หรงตื่นขึ้น…

ที่กลางสวนสาธารณะด้านหลังตึกคอนโด ชายชราที่มีหนวดเครายาวสีขาวกำลังยืนเอามือไพล่หลังด้วยสีหน้าสงบนิ่งราวกับว่ากำลังรอใครบางคนอยู่

ชายชราคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นเขาคือปรมาจารย์คงเหอนั่นเอง!

ในทันทีที่อวี้ฮ่าวหรานปรากฏกายขึ้นแววตาของปรมาจารย์คงเหอเปล่งประกายทันที…

หลังจากสังเกตในระยะใกล้ เขาก็ยังไม่สามารถมองออกว่าชายหนุ่มผู้นี้แข็งแกร่งขนาดไหน!

“เจ้าเป็นใครกัน? เด็กหนุ่มอายุน้อยอย่างเจ้าทำไมถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้?” ปรมาจารย์คงเหอเอ่ยถามขึ้นก่อน

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้า?” อวี้ฮ่าวหรานถามกลับ

หลังจากลอบสังเกตฝั่งตรงข้ามเมื่อครู่ อวี้ฮ่าวหรานก็บอกได้ว่าชายชราคนนี้อ่อนแอกว่าเขาหลายเท่าดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องพูดจาเกรงใจอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกสบายใจได้เล็กน้อยก็คือดูเหมือนว่าพวกผู้บ่มเพาะในโลกนี้จะใช้ศัพท์ในการพูดคุยคล้ายกับโลกแห่งเทพเช่น ‘เจ้า’ หรือ ‘ข้า’

เขาใช้ศัพท์โบราณ ๆ แบบนี้มามากกว่า3หมื่นปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยที่ต้องพูดใช้คำศัพท์แบบสมัยใหม่เหมือนอย่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบันทุกวันนี้

“ข้าคืออาจารย์ของหยวนหลงมีนามว่า คงเหอ การที่ข้ามาหาเจ้าในวันนี้เป็นเพราะคำขอร้องจากศิษย์ของข้า แต่เจ้าอย่าได้เข้าใจผิดไป ข้าไม่ได้มาเพราะต้องการหาเรื่องเจ้า”

คงเหอแนะนำตัวเองโดยไร้ซึ่งท่าทีคุกคามและไม่ได้แสดงท่าทีหวาดเกรงเช่นกัน

“ถ้าไม่มีอะไรงั้นข้ากลับล่ะ”

หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานก็หมุนตัวและเดินกลับไปในทันที

ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้จะมาหาเรื่อง เขาเองก็ไม่อยากจะยุ่งด้วยให้เสียเวลา เขาต้องการเอาเวลาที่มีมาบ่มเพาะให้เกิดประโยชน์จะดีกว่า

คงเหอขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นเช่นนี้ เขาไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะไม่แยแสเขาขนาดนี้

อย่างไรก็ตามในใจของเขากลับมีข้อสงสัยบางอย่างผุดขึ้นมาว่าชายหนุ่มคนนี้อาจจะไม่ได้อายุน้อยเหมือนรูปลักษณ์ภายนอกที่เขาเห็น

ข้อสงสัยนี้มันมาจากท่าทีที่ฝั่งตรงข้ามดูใจเย็นเป็นอย่างมากเหนืออายุและความแข็งแกร่งที่ลึกล้ำเกินกว่าคนอายุ20กว่า ๆ จะมีได้

ต่อให้ชายหนุ่มคนนี้บ่มเพาะได้ตั้งแต่ในท้องแม่เขาก็ไม่มีทางแข็งแกร่งได้ขนาดนี้แน่นอน!

“ช้าก่อน! ถึงแม้ว่าวันนี้ข้าจะไม่ได้มาหาเรื่องเจ้าแต่ข้าหวังว่าเจ้าจะอยู่คุยกับข้าสักครู่หนึ่งก่อน”

คงเหอเอ่ยขึ้นพร้อมกับผายมือเชิญให้กลับมาคุยกันก่อน เขาอยากจะคุยสอบถามที่มาของอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก

“ไม่มีเวลา!”

อวี้ฮ่าวหรานตอบกลับโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง เขาไม่ต้องการที่จะเสียเวลากับตัวคนที่ต่ำต้อย

“เจ้า!”

เมื่อเผชิญกับการปฏิเสธอย่างไม่ใยดีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความอดทนของคงเหอก็เริ่มจะหมดลง มันเป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้าหมางเมินเขาแบบนี้!

ไอ้คน ๆ นี้มันจะหยิ่งผยองเกินไปแล้ว!

เขาตัดสินใจที่จะสั่งสอนอีกฝ่ายทันที

“ฮึ่ม! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นตาแก่คนนี้คงต้องขอล่วงเกินแล้ว!”

ในทันทีที่พูดจบคงเหอก็โคจรพลังของตัวเองแล้วพุ่งดิ่งเข้าไปหาอวี้ฮ่าวหรานด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ทันที!

คงเหอซัดฝ่ามือทั้งสองเล็งไปที่กลางหลังของอวี้ฮ่าวหราน!

อย่างไรก็ตามก่อนที่ฝ่ามือจะทันได้สัมผัสร่างของอวี้ฮ่าวหราน คงเหอ ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างเหยียดหยามเบา ๆ

อวี้ฮ่าวหรานยิ้มอย่างดูถูกก่อนจะเบี่ยงตัวหลบในเสี้ยววินาทีก่อนที่ฝ่ามือของคงเหอจะถึงตัว!

“บึ้ม!!”

พลังของฝ่ามือที่พลาดเป้าซัดลงไปที่พุ่มดอกไม้อย่างจังจนพุ่มดอกไม้กระจุยหายภายในพริบตาและเศษหินเศษดินก็กระจัดกระจายไปทั่วเหลือไว้แต่หลุมลึกครึ่งเมตร!

อวี้ฮ่าวหรานจ้องไปที่อีกฝ่าย เขารู้ดีว่าหากเขาไม่สั่งสอนให้อีกฝ่ายได้รู้จักที่ทางของตัวเองวันนี้เขาคงไม่ได้กลับไปบ่มเพาะได้อย่างสงบแน่นอน!

เมื่อคิดได้เช่นนี้เขาก็กำหมัดแล้วโคจรพลังวิญญาณไปไว้ที่หมัดของเขาเองแล้วชกสวนคงเหอไปอย่างแรง

คงเหอที่อยู่ในระยะประชิดตื่นตระหนกทันที เขาไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะตอบโต้เขาได้เร็วขนาดนี้ เขารีบซัดฝ่ามือป้องกันหมัดของ อวี้ฮ่าวหรานในทันที

“ปัง!!”

เสียงหมัดและฝ่ามือปะทะกันดังลั่น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันทำให้ คงเหอต้องตกตะลึงจนเบิกตากว้าง…

หลังจากการปะทะตัวของเขากระเด็นถอยไปอย่างควบคุมไม่ได้เกือบ10ก้าว!

ชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นเหรอ?!

เขาไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะทำให้เขาเสียเปรียบได้ถึงขนาดนี้!

“มาอีกรอบ!!”

คงเหอตะโกนขึ้นเสียงดังพร้อมกับถีบตัวพุ่งเข้าไปหาอวี้ฮ่าวหราน พร้อมกับชกหมัดออกไปอย่างเต็มแรง

อวี้ฮ่าวหรานมองอีกฝ่ายที่กำลังพุ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเหยียดหยาม คราวนี้เขาโคจรพลังวิญญาณมากกว่าเดิมแล้วจากนั้นซัดฝ่ามือสวนออกไป

“ปัง!!”

เสียงปะทะระหว่างหมัดและฝ่ามือดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เสียงของมันดังกว่าเดิมทำให้รู้ได้ว่าพลังที่ทั้งคู่ใช้ในครั้งนี้มากกว่ารอบที่แล้ว

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ออกมายังคงไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ เพิ่มเติมคือรอบนี้ร่างของคงเหอกระเด็นถอยกลับไปมากกว่า10ก้าวแล้ว!

“นี่…นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”

สีหน้าของคงเหอเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์ เมื่อครู่เขาแทบจะทุ่มสุดตัวแต่เขากลับเป็นรองมากกว่าเดิม!

“เหอะ! ก็แค่มดแมลงตัวน้อย”

อวี้ฮ่าวหรานพ่นลมหายใจอย่างดูถูกก่อนจะเป็นฝ่ายพุ่งตัวเข้าไปหาฝั่งตรงข้ามบ้าง

คราวนี้เขากำหมัดแล้วชกออกไปแรงกว่าเดิมมากกว่าการปะทะ2ครั้งที่ผ่านมา!

“ปัง!!”

เสียงปะทะระหว่างทั้งคู่ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เสียงปะทะดังพอ ๆ กับฟ้าผ่า!

แน่นอนว่าผลลัพธ์ก็คล้ายเดิม คงเหอกระเด็นถอยไปอีกรอบ!

ที่สำคัญรอบนี้เขาใช้พลังเต็ม10ส่วน แต่เขากลับด้อยกว่าอย่างเทียบไม่ติด!

“แค่ก…แค่ก…แค่ก…เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!! เจ้าเป็นใครกันแน่ ทำไมเจ้าถึงแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้!?”

การปะทะรอบล่าสุดไม่เพียงแต่ร่างของเขาจะถูกแรงปะทะทำให้ลอยละลิ่วกระเด็นถอยอย่างหมดท่าไปหลายเมตร แต่มันยังทำให้เขาบาดเจ็บภายในจนกระอักเลือดและลงไปนั่งคุกเข่ายันกายขึ้นมายืนไม่ไหวอีกต่างหาก!

“ความแข็งแกร่งเท่าหางอึ่งแบบนี้ยังกล้าล่อข้าออกมาเจอข้างนอกกลางดึกยังงั้นเหรอ?”

อวี้ฮ่าวหรานเดินเข้าไปหาคงเหอด้วยสีหน้าเย็นชา ตอนนี้เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะต่อต้านเขาได้อีกแล้ว…

“เจ้ามาจากสำนักไหนกันแน่? เจ้าบ่มเพาะจนแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?” คงเหอเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าโง่งม ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายมันน่ากลัวมากเกินไป

“โอ้…ดูเหมือนว่าจะมีของดีอยู่กับตัวด้วยนี่นา!”

อวี้ฮ่าวหรานใช้เนตรเทวะสำรวจร่างของอีกฝ่ายซึ่งเขาก็ได้เห็นว่าที่ด้านในเสื้อของคงเหอสวมสร้อยคอที่ห้อยอัญมณีสีแดงขนาดเท่าลูกกุญแจ

หลังจากเพ่งมองมันชัด ๆ เขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง อัญมณีสีแดงนี้มีพลังวิญญาณสถิตอยู่จำนวนมหาศาล!

เมื่อเห็นเช่นนี้ อวี้ฮ่าวหรานก็พุ่งตัวไปประชิดตัวคงเหอภายในพริบตาและจากนั้นเขากระชากสร้อยคอออกจากคอของคงเหออย่างรวดเร็ว

“นี่เจ้ากล้าดียังไง!!”

คงเหอเดือดจนหน้าแดงก่ำ แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้เขาบาดเจ็บเกินกว่าจะต่อต้านอวี้ฮ่าวหรานได้