ตอนที่ 333 ผู้หญิงหน้าไม่อายยังไงก็ต้องยกให้เธอ / ตอนที่ 334 ไฮไลท์ของพวกเธอไม่ได้อยู่ที่นี่

ช้าก่อนคุณป๋อ! ครั้งนี้ขอเป็นรักสุดท้าย

ตอนที่ 333 ผู้หญิงหน้าไม่อายยังไงก็ต้องยกให้เธอ

 

 

สวี่ชิงจือมองไปยังซูเหิงและเฉินเชียนโหรว พลันแสยะยิ้มออกมา “เธอเลิกปลอมสักทีเถอะ วันๆ เอาแต่ทำตัวเป็นแม่พระ หน้าเนื้อใจเสือ ใจคอโหดเหี้ยม ต่อหน้าคนอื่นเธอก็ทำเป็นอ่อนแอบอบบาง แต่ลับหลังไม่รู้ว่าใช้แผนชั่วไปแล้วเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ใครที่ชอบเธอได้ลงจะต้องตาบอดแน่ๆ”

 

 

ผู้คนรอบๆ ต่างก็ส่งเสียงฮือฮาออกมาด้วยความแตกตื่น สมัยเรียน สวี่ชิงจือเป็นถึงระดับดาวมหาวิทยาลัย คนส่วนใหญ่ที่รู้จักเธอต่างก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดจาหยาบโลนแบบนี้ออกมาได้

 

 

ซูเหิงที่อยู่ด้านข้างคิ้วขมวดเป็นปม “สวี่ชิงจือ เธอพอได้แล้ว สถานที่วันนี้ไม่ใช่ที่ที่เธอจะมาก่อกวนนะ”

 

 

“ฉันก่อกวน ? ฉันบ้าไปแล้วสินะที่มาเสียเวลากับผู้หญิงหน้าไม่อาย คนหน้าไม่อายก็คือคุณ จะพูดถึงผู้หญิงหน้าไม่อายยังไงก็ต้องยกให้เธอ…เหอะ เหอะ ซูเหิง นายนี่มันตาบอดจริงๆ เลือกไปเลือกมา สุดท้ายก็มาเลือกคนแบบนี้ไว้ข้างกาย ฉันอยากจะดูว่าเฉินเชียนโหรวจะเสแสร้งไปได้ถึงเมื่อไหร่ ฉันอยากจะเห็นวันที่นายเสียใจวันนั้นจริงๆ แต่ว่าฉันต้องขอบคุณนายด้วย ขอบคุณที่นายปล่อยเฉินฝานซิงออกมา ฝานซิงของพวกเราน่ะ ดีขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องมีผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกพร้อมที่จะปกป้องเธอ”

 

 

ขณะนั้นเอง หลินเฟยเฟยกลับพูดขึ้นมาด้วยความโมโห

 

 

“คนที่ชอบเฉินฝานซิงต่างหากที่ตาบอด ตอนนั้นก็ถูกนักข่าวจับได้คาหนังคาเขา รูปภาพก็มี เธอกับกรรมการนั่นตอนที่อยู่ในห้องพักผ่อนแทบจะเข้าไปสิงร่างกันให้รู้แล้วรู้รอด เธอกล้าบอกว่ารูปพวกนั้นเป็นของปลอมไหมล่ะ เห็นท่าทางดูสูงส่ง แต่ที่แท้ก็เป็นผู้หญิงมักมากกร้านโลก ผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกงั้นเหรอ เหอะ น่าขำสิ้นดี”

 

 

เฉินฝานซิงนิ่งอึ้ง ใบหน้าสวยงามที่ดูเย็นชากลับปิดบังความซีดขาวไว้ไม่อยู่

 

 

เดิมทีเธอไม่เคยใส่ใจว่าพวกข่าวฉาวที่ไม่เป็นความจริงเหล่านี้จะโจมตีเธอ แต่ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นกลับวนเวียนอยู่ในสมองของเธออย่างชัดเจนมาตลอด…

 

 

เจียงหรงหรงสั่งให้เธอสละสิทธิ์การแข่งขัน หลังจากที่เธอปฏิเสธ เจียงหรงหรงก็ขังเธอไว้ในห้องให้ทนหิวทั้งวันเพื่อเป็นการลงโทษ วันต่อมา เธอไปเข้าร่วมการแข่งขันเปียโน ระหว่างที่กินอาหารอยู่ในห้องพักผ่อนก็เกือบจะถูกกรรมการ…

 

 

เธอลืมไม่ลง ลืมไม่ลงว่าผู้ชายคนนั้นพูดจาหยาบคายไม่ให้เกียรติในขณะที่ฉีกเสื้อของเธอออก ส่วนเธอก็พยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักเขาแต่ก็ไม่เป็นผล กลายเป็นภาพที่เธอกำลังปล่อยให้เขาฉีกเสื้อผ้าเธอออกตามอำเภอใจ…

 

 

สวี่ชิงจือหันไปมองสีหน้าของเฉินฝานซิง เจ็บปวดหัวใจขึ้นมาในทันที จู่ๆ ก็รู้สึกเกลียดตัวเองอย่างกะทันหัน

 

 

ถึงแม้จะเป็นเพื่อนของเธอ แต่กลับเป็นเพราะข้อผูกมัดของพี่ใหญ่ทำให้เธอระบายความคับแค้นใจอะไรแทนเฉินฝานซิงไม่ได้เลย

 

 

เธอรู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เฉินฝานซิงไม่อยากพูดถึงมากที่สุดในชีวิตนี้ แต่พวกคนหน้าไม่อายเหล่านี้กลับกัดไม่ปล่อย

 

 

เธอกัดฟันรอด ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าในมือของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ มาแล้วสาดมันไปที่หลินเฟยเฟยเต็มแรง

 

 

“กรี๊ดดด” หลินเฟยเฟยส่งเสียงร้อง ไม่รอให้เธอตอบสนอง ก็ได้ยินเสียง เพล้ง แก้วเหล้าแตกเป็นเสี่ยง เงยหน้าไปดู สวี่ชิงจือเป็นคนทำให้แก้วใบนั้นแตก พลางใช้แก้วที่แตกใบนั้นจ่อมาที่หลินเฟยเฟย ท่าทางราวกับจะพุ่งเข้าไปหา

 

 

“เธอว่าใครมักมากกร้านโลก เธอหมายถึงใคร”

 

 

เฉินฝานซิงหันกลับไปดูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบดึงสวี่ชิงจือกลับมาทันที

 

 

“ชิงจือ ชิงจือ เธอใจเย็นก่อน”

 

 

 สีหน้าของเฉินเชียนโหรวไม่เหมือนเดิม แววตาฉายประกายแห่งความมืดมนออกมา

 

 

หลินเฟยเฟย ยัยโง่!

 

 

 

 

ตอนที่ 334 ไฮไลท์ของพวกเธอไม่ได้อยู่ที่นี่

 

 

หลินเฟยเฟย ยัยโง่นี่!

 

 

บอกให้เธอแค่พูดถึงพอให้เป็นประเด็นเล็กๆ น้อยๆ กลับทำให้เรื่องวุ่นวายใหญ่โตแบบนี้ไปได้

 

 

“โอ้โห ไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว ทำไมสวี่ชิงจือกลายเป็นบ้าไปแล้ว”

 

 

เสียงของอินรุ่ยเจวี๋ยดังขึ้นกะทันหัน เฉินฝานซิงรีบเรียกเขาเข้ามา

 

 

“คุณชายอิน รีบพาสวี่ชิงจืออกไปหน่อย”

 

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” อินรุ่ยเจวี๋ยรับสวี่ชิงจือมาด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าสักเท่าไหร่

 

 

เฉินฝานซิงไม่ได้พูดอะไร แต่มีคนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นคนเล่าให้เขาฟังพอสังเขป สีหน้าของอินรุ่ยเจวี๋ยเหยเกไปทันตา

 

 

หันไปมองเฉินเชียนโหรวที่อยู่บนเวที ทันใดนั้นเองก็ยิ้มออกมาด้วยสายตามีเลศนัย “นี่ทำเกินไปแล้ว”

 

 

เฉินเชียนโหรวโดนเขาจ้องจนรู้สึกสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว คิ้วพลันขมวดเล็กน้อย

 

 

สายตาเย็นชาของเฉินฝานซิงมองไปที่หลินเฟยเฟย สายตานั้นทำให้หลินเฟยเฟยรู้สึกว่าน่ากลัวกว่าเศษแก้วคมๆ ในมือของสวี่ชิงจือเสียอีก

 

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินฝานซิงก็หรี่ตาลงพลางพูดกับหลินเฟยเฟย “เหตุการณ์วันนี้ ฉันจะไม่ถือโทษเธอก่อนชั่วคราว ไม่มีหลักฐานอะไรก็อย่ามาพูดมั่วๆ”

 

 

พูดจบ เธอหันไปมองเฉินเชียนโหรวที่ยังคงยืนอยู่บนเวที

 

 

“ในฐานะหุ้นส่วนของหลันอวิ้น ฉันก็ยังคงหวังว่าคุณหนูเฉินจะแสดงต่อให้จบ จะทำอะไรก็ต้องยืนหยัดทำจนจบ อย่าเอาอนาคตของบริษัทมาล้อเล่น”

 

 

ได้ยินคำว่า “หุ้นส่วน” สองคำจากปากของเฉินฝานซิง เฉินเชียนโหรวก็เผลอกำไมโครโฟนในมือแน่นขึ้นมาทันที

 

 

เฉินฝานซิงเบะปาก ก่อนที่สุดท้ายจะหันกลับไปพาสวี่ชิงจืออกไปจากตรงนั้น

 

 

หลังจากที่สอบถามข้อมูลเรื่องที่พักเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็มุ่งหน้าไปทางหลังมหาวิทยาลัยทันที

 

 

“ต้าซิงซิง เรื่องนี้จะปล่อยไปแบบนี้เหรอ ไม่ได้ ผมช่วยคุณจัดการเอง รังแกกันถึงขนาดนี้แล้ว จะไม่ถือโทษพวกเธอได้ยังไงกัน คนพวกนี้ต้องสั่งสอนให้รู้สำนึก”

 

 

“ใครบอกว่าฉันไม่ถือโทษพวกเธอ”

 

 

น้ำเสียงเย็นชาและนุ่มลึกของเฉินฝานซิงดังขึ้นมากะทันหัน บรรยากาศเย็นยะเยือกรอบกายนั้นทำเอาอินรุ่ยเจวี๋ยผวาไม่น้อย

 

 

“แล้วคุณจะรอถึงเมื่อไหร่”

 

 

เฉินฝานซิงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาถามอินรุ่ยเจวี๋ย “คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องตอนนั้นที่ฉันยั่วยวนกรรมการ”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะตอบ “อะไรคิดยังไง”

 

 

“คุณก็คิดเหมือนกันหรือเปล่าว่าฉันยั่วกรรมการจริงๆ”

 

 

“อ๋อ ตอนนั้นใครๆ ก็พูดแบบนั้น ผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผม ผมก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่”

 

 

“…”

 

 

“แต่ว่าตอนนี้ผมไม่เชื่อ”

 

 

“ทำไมล่ะ”

 

 

“เพราะว่าพี่ป๋อเลือกคุณยังไงล่ะ ต่อให้เป็นเรื่องจริง ผมก็จะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องโกหก”

 

 

“…”

 

 

“อิอิ ล้อเล่นน่า ผมเชื่อในคุณธรรมในตัวต้าซิงซิงต่างหาก”

 

 

เฉินฝานซิงยกมุมปาก ก่อนจะพูดออกมา “ไฮไลท์สำคัญของเฉินเชียนโหรวในคืนนี้ไม่ได้อยู่ที่นี่”

 

 

“อะไรเหรอ”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยข้องใจ แม้แต่สวี่ชิงจือที่เมาไม่ได้สติก็เงยหน้าขึ้นมาถามเธอเหมือนกัน “ไฮไลท์สำคัญอะไร”

 

 

เฉินฝานซิงตีหัวเธอ แล้วพูดขึ้นมาเบาๆ “มีคนตามพวกเรามา”

 

 

อินรุ่ยเจวี๋ยขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปมอง ก็เห็นใครบางคนทำตัวลับๆ ล่อๆ เดินตามพวกเขามาจริงๆ บนตัวยังใส่ชุดยูนิฟอร์มของพนักงานต้อนรับด้วย

 

 

เมื่อเห็นอินรุ่ยเจวี๋ยหันไปมองแบบกะทันหัน สาวน้อยคนนั้นก็ตกใจจนรีบหดคอ

 

 

เฉินฝานซิงเองก็หันไปด้วย แล้วกวักมือเรียกเธอ “รบกวนคุณมาช่วยพยุงหน่อย เพื่อนของฉันดื่มหนักเกินไป”

 

 

“ได้ค่ะ”

 

 

พนักงานสาวเข้ามายืนแทนที่ตำแหน่งเฉินฝานซิง

 

 

มหาวิทยาลัย T ถือเป็นสถานศึกษาของลูกเศรษฐี เพื่อให้นักศึกษาคุ้นเคยกับวิธีการบริหารโรงแรม จึงตั้งใจสร้างโรงแรมจำลองขึ้นมาไว้ข้างๆ โดยเฉพาะ จากหลังโรงเรียนประตูทิศใต้ข้ามไปก็ถึงเลย

 

 

เมื่อมาถึงโรงแรม เฉินฝานซิงและแต่ละคนก็ต่างไปรับบัตรห้องของตัวเอง