บทที่ 86 ทำงานด้วยกัน?

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

เส้นหมี่อยากดึงเด็กชายคนนี้ไว้ ให้เขาอย่าทำเรื่องน่าอายแบบนี้ แต่พอสองแม่ลูกไปถึงหน้าบันได ด้านบนก็มีร่างสูงยาวลงมา
“ชินจัง?ลูกมาทำอะไรที่นี่?ไม่ได้บอกว่าจะไปโรงเรียนอนุบาลเหรอ?”
ชายหนุ่มที่ลงมาจากบันได ยืนตัวตรง ในชุดสูทสีดำ ด้านในคือเสื้อเชิ้ตสั่งตัดสีเข้มแบบเดียวกัน ขาสองข้างเรียวยาว ผ่านแสงสีทองที่ส่องเข้ามาหลังหน้าต่าง ความสง่างามของเขาที่ไม่เปิดเผยออกมา ใบหน้าที่สวยงามนั้นช่างสมบูรณ์แบบจนเหมือนไม่มีอยู่จริง
ฝ่ามือของเส้นหมี่กำแน่นโดยไม่มีเหตุผล
“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ยังไม่ตกลงเงื่อนไขผมเลย?”
“เงื่อนไข?”
อย่างที่คิดไว้เลย พอแสนรักได้ยินคำนี้ ก็ตะลึงเล็กน้อย เขาก้าวเท้ายาวๆลงไป เห็นเด็กชายตัวเล็กๆที่มาพูดเงื่อนไขกับเขาตอนเช้า เขาจึงรู้สึกสนใจเล็กน้อย
“เงื่อนไขอะไร?”
“ให้เธอไปทำงานที่บริษัทพ่อ ผมจะไปโรงเรียนอนุบาล!”
ชินจังที่สะพายกระเป๋าเรียนใบเล็ก และน้ำเสียงซีเรียสนั้น ชี้ไปที่หม่ามี๊ที่อยู่ด้านข้างที่เขาพามา
แสนรักตะลึงทันที จากนั้น สายตาก็มองไปที่เส้นหมี่
บรรยากาศดูคุกรุ่น รู้สึกเหมือนฟ้าผ่า——
แค่วินาทีเดียว เส้นหมี่ก็เห็นสายตาบนใบหน้าผู้ชายคนนี้ดูแย่ขึ้นมา เอาแต่มองเธอด้วยความสงสัย เหมือนว่าเธอโน้มน้าวเด็กชายคนนี้
เส้นหมี่ตกใจจนโบกมือทันที:“คุณอย่าเข้าใจผิดล่ะ นี่ไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันก็เพิ่งรู้ เขาบอกว่าถ้าฉันไปส่งเขาที่โรงเรียนอนุบาล ก็ต้องให้ฉันไปทำงานที่บริษัทคุณด้วย ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม?”
เธอยักไหล่ สื่อว่าตัวเองไม่รู้เงื่อนไขนี้เลยจริงๆ
แสนรักได้ยิน ใบหน้าก็ค่อยๆผ่อนคลายลง
“ชินจัง ทำไมลูกถึงอยากให้เธอไปทำงานที่บริษัทแด๊ดดี้ล่ะ?แด๊ดดี้เปิดบริษัทนะ ไม่ใช่โรงพยาบาล ไม่เหมาะกับงานเธอ ”
“ให้เธอไปดูแลแด๊ดดี้ไง!”
คิดไม่ถึงว่า เด็กชายคนนี้จะพูดประโยคนี้ออกมาอย่างหนักแน่นอีกครั้ง
จู่ๆ หลังจากทั้งสองได้ยิน ก็ดูอึดอัดขึ้นมาทันที และแสนรักก็ยิ่งหงุดหงิด โกรธเล็กน้อย:“เหลวไหล แด๊ดดี้โตขนาดนี้แล้ว ต้องให้ใครมาดูแลด้วยเหรอ?เชื่อฟังหน่อย รีบไปโรงเรียนอนุบาล”
“งั้นก็ไม่ไป!พวกแด๊ดดี้ไม่ฟังผมเลย งั้นผมก็ไม่ฟังพวกแด๊ดดี้ด้วย!”
จากนั้นเด็กคนนี้ก็วางกระเป๋าเรียนบนตัวลงแล้วโยนไปที่พื้นอย่างออกแรง จากนั้นเขาก็หันกลับวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยตาแดงก่ำ
เฮ้อ!
เด็กคนนี้นี่!!
เส้นหมี่เห็น ก็โกรธจนกระทืบเท้า:“คุณทำอะไรเนี่ย?ในเมื่อแบบนี้ทำให้เขาไปโรงเรียนอนุบาลได้ งั้นก็ตกลงเขาไปสิจะเป็นไร?ฉันไม่เอาเงินเดือนคุณ โอเคไหม”
เธอโกรธมาก ตกลงโดยไม่พูดอะไร และยังโทษแสนรักที่ไม่มีเหตุผล ไม่รู้จักสงสารลูก
แสนรัก:“……”
แปลกจริง เป็นเขาที่ไม่ตกลงหรือไง?ก็ยัยนี่ไม่อยากไปเองนี่ไม่ใช่หรือไง?
——
สุดท้าย เส้นหมี่ที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูด และยังรับประกันอีก ในที่สุดชินจังที่หลบอยู่ในห้องก็สะพายกระเป๋าออกมา
แสนรักหน้าหม่นลงไป แต่ยังไงก็ตามเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
“คุณผู้ชาย คุณเส้นหมี่ งั้นฉันไปส่งคุณชายเล็กแล้วนะ”
“ไปเถอะๆ”
เส้นหมี่โบกมือ ที่จริงในหัวคิดก็คือไม่งั้นรอเด็กคนนี้ไปแล้ว เธอก็หนี ยังไงซะเขาไปโรงเรียนอนุบาล เธอจะไปไหนเขาก็ไม่รู้นี่
แต่ว่า เธอเพิ่งคิดความคิดนี้ขึ้นมา ก็เห็นเด็กคนนี้ก็ชู ipad ที่เอามาด้วยไปทางเธอแล้วพูดอย่างเยือกเย็น:“กล้องวงจรปิดของบริษัทแด๊ดดี้ อยู่ที่ผมหมดแล้ว!”
เพล้ง!!
เส้นหมี่ก็รู้สึกกลัว ไม่กล้ามีความคิดอะไรพิเรนอีก
ดังนั้นสิบกว่านาทีหลังจากนั้น รอเด็กคนนี้ไป เส้นหมี่ที่อึดอัดไม่ทั้งตัว ในที่สุดก็ถือกระเป๋าของตัวเอง มาตรงหน้ามายบัคเลขทะเบียนรถเลข 8 แปดตัวคันนั้น
เธอไม่เคยนั่งรถคันนี้มาก่อน ห้าปีก่อนก็ไม่ ห้าปีต่อมา ก็บอกตัวเองว่า มองก็มองให้มันน้อยๆหน่อย
แต่ตอนนี้ เธอกลับถูกเด็กคนนั้นบังคับ ต้องนั่งไป
เส้นหมี่รู้สึกว่าทั้งตัวเธอเกร็งขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเธอเห็นชายหนุ่มในรถ ความรู้สึกแบบนั้นก็ยิ่งแย่ แม้แต่หายใจก็ยังไม่เป็นจังหวะ เหงื่อในมือก็ยิ่งออกมากขึ้น
ทำไมเธอทำตัวน่าผิดหวังแบบนี้?
“คุณยังจะยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นอีก?ถ้าไม่อยากขึ้นมาก็ไปเองละกัน!”
แสนรักรออยู่ด้านในจนหมดความอดทนแล้ว เห็นผู้หญิงคนนี้ยังเอื่อยเฉื่อยอยู่ด้านนอก เขาก็ดูนาฬิกาที่ข้อมือ ในที่สุดก็ทนไม่ไหวตำหนิออกไป
เวลาของท่านประทานผู้ยิ่งใหญ่ ตอนเช้านั้นมีค่ามากจริงๆ
ในที่สุดเส้นหมี่ก็เปิดประตูรถ และใช้ความเร็วดั่งแมวยัดเข้าไปด้านใน เหมือนว่าสิ่งนี้สามารถทำให้เธอไม่ต้องไปคิดได้ และก็ไม่ต้องตื่นตระหนกได้
กลับเห็นว่า พอขึ้นมา ความสบายของรถหรู ก็เข้ามาในทันที ความกว้างในรถ และอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัวทันที
แม้แต่อากาศก็ยังส่งกลิ่นหอมจางๆออกมา และหอมเป็นพิเศษ
เส้นหมี่ไม่กล้าพูด และไม่กล้ามองไปด้านหน้าด้วย เธอนั่งหลังแข็งไปที่เบาะหลัง กังวลว่าตัวเองจะดูน่าอึดอัด เธอจึงจงใจมองออกไปนอกหน้าต่าง แกล้งทำเป็นเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์
ดังนั้น พอเธออยู่ต่อหน้าคนๆนี้ ที่จริงแล้วยังลืมไม่ลงอย่างที่เธอคิดไว้