แป้งร่ำจ้องชายหนุ่มที่มองไม่เห็นความอบอุ่นเลยสักนิด และไม่รู้สึกถึงอารมณ์เลยแม้แต่น้อย ความน่ากลัวมหาศาล ก็เหมือนความมืดมิดทั่วฟ้ามัวดิน ปกคลุมเธอไปทั่วร่าง
ต้องทำอย่างไร?เขาถึงจะหันกลับมา?
ต้องทำอย่างไร?เธอถึงจะจับเขาให้อยู่หมัดอีกที?
แป้งร่ำละสายตาลงไป นิ้วมือออกแรงกำไปในฝ่ามือ จู่ๆ เบ้าตาเธอก็แดงก่ำ หยดน้ำตาเม็ดใหญ่ๆไหลลงมา
“ใช่ ฉันยอมรับ ฉันไม่เห็นเขาเป็นลูกแท้ๆจริงๆ เพราะว่าแสนรัก ฉันต้องการลูกที่ตัวเองคลอดมาเองเสมอ!”
“คุณพูดอะไร?”
แสนรักที่ไม่สนเธอแล้ว พอได้ยินประโยคนี้ จู่ๆก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง:“ลูกของคุณ?”
แป้งร่ำกล้าหาญต่อไป:“ใช่ ลูกของฉัน แสนรัก คุณรู้ไหมในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง อยู่กับคุณมาห้าปีเต็มๆ แต่ไม่เคยได้แตะต้องคุณเลยสักนิด คุณรู้ไหมนี่เป็นความรู้สึกแบบไหน?”
แสนรัก:“……”
และประโยคนี้ ใบหน้าของเขาก็ดูแย่ทันที
แต่ว่า ทำไมตอนนี้ผู้หญิงคนนี้ถึงหยุดลง?เธอในตอนนี้ กำลังสู้แบบหลังชนฝา!
“ทั้งตื่นตระหนก หวาดกลัว เป็นความรู้สึกที่ทุกคืนในฝันจะฝันว่าคุณไม่ต้องการฉันแล้วอะไรแบบนั้น แสนรัก ตอนนั้นฉันยอมหลบซ่อน ไม่อยากให้คุณรู้ว่า เด็กผู้หญิงที่ทิ้งจดหมายกว่าสิบปีไว้ใต้ต้นดอกแมกโนเลียคนนั้นคือฉันเอง ก็เพราะกลัวว่าจะมีวันนี้ คุณรู้ไหม?”
เธอแสดงสีหน้าเศร้าอย่างมาก และเมื่อพูดถึงความตื่นเต้น เธอก็ยังเปิดกระเป๋า หยิบของที่เหมือนกันออกมา
ทันใดนั้น สายตาของแสนรักก็หรี่ลง
นั่นไม่ใช่ของมีค่าราคาแพงอะไร เป็นเพียงปากกาแท่งเก่าๆแท่งหนึ่ง แต่ว่า ใต้ปากกานี้มีผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง และก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ของเป็นสิบกว่าปีแล้ว เหลืองจนมองไม่เห็นเคล้าเดิม
แต่แสนรักเห็นดอกแมกโนเลียสีขาวดอกหนึ่งตรงมุมด้านบนผ้าเช็ดหน้าทันที
จู่ๆ นิ้วก็งอเล็กน้อย
“ฉันไม่เคยคิดจะไต่เต้าไปหาคุณ ดังนั้นตอนนั้นให้จดหมายคุณไว้ จึงไม่เคยปรากฏตัวเลย แต่สุดท้ายคุณก็ตามหาฉันมาตลอด คุณบอกว่าฉันให้ความอบอุ่นคุณมาเป็นสิบปี คุณยอมคืนให้ฉันให้อีกสิบปีนับไม่ถ้วน ฉันได้ยิน จึงกลับไปตระกูลหิรัญชากับคุณ รัก คำนี้ คุณลืมแล้วเหรอ?”
แป้งร่ำพูดตรงนั้นต่อไป และก็ เธอก็ยังร้องไห้หนักมากขึ้น จนหายใจไม่ทันที
แสนรักบีบนิ้วอีกครั้ง!
ที่จริงเขาเป็นผู้ชายที่ควบคุมตัวเองได้ดีเสมอ และ เขาก็เข้าใจความพยายามของผู้หญิงคนนี้ดี แต่ที่น่าแปลกมากก็คือ เวลานี้ เขามองการแสดงที่แสนไม่ได้เรื่องของเธอ แต่ดันไม่โมโหออกมา
“คุณต้องการอะไรกันแน่?”
“อ๋า?”
ทันใดนั้น แป้งร่ำที่กำลังร้องไห้หนัก จู่ๆก็ถูกขัดจังหวะด้วยประโยคที่แสนเย็นชานี้ จนลืมร้องไห้
เธออยากทำอะไร?
แน่นอนว่าเธออยากกลับไปอยู่ข้างกายเขาอีกครั้ง และก็อยากกลับไปเป็นแบบพวกเขาในเมื่อก่อนมากด้วย
แป้งร่ำร้อนรน จนไม่ทันเช็ดน้ำตาบนใบหน้าตัวเอง:“ฉันไม่อยากได้อะไร ฉันแค่อยากให้คุณให้โอกาสฉันอีกครั้ง ให้ฉันไปเรืองรอง ชดเชย……”
“ไม่จำเป็น แป้งร่ำ คุณฟังเข้าใจดีแล้ว คุณให้ผมรับปากคุณเรื่องไหนก็ได้ แต่ลูกชายผม จะไม่ให้คุณแตะต้องอีก!”
แสนรักปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
แป้งร่ำได้ยิน ใบหน้าที่เพิ่งมีความหวัง ก็เหยเกไปทันที หมดหนทาง เธอทำอะไรไม่ได้ เธอได้แต่ถอยแล้วขอร้องอันต่อไป เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
“งั้นฉันไปทำงานที่บริษัทได้ไหม?ฉันไปเรืองรองไม่ได้แล้ว แต่ว่ารัก ฉันอยากเจอคุณ เจอคุณทุกวัน คุณให้ฉันมาทำงานที่บริษัท ให้ตำแหน่งอะไรก็ได้แก่ฉัน ได้ไหม?”
“ไปที่บริษัท?”
แสนรักจ้องเธอ ครั้งนี้ไม่ได้พูดอะไร
——
เส้นหมี่ได้ยินว่าชินจังจะให้เธอไปทำงานที่หิรัญชากรุ๊ป ก็เช้าวันถัดมา
พอเธอได้ยิน ดวงตาที่แสนสวยงามคู่นั้นก็จ้องไป:“ทำไมต้องให้น้าไปทำงานที่บริษัทแด๊ดดี้หนูล่ะ?น้ามีงานแล้ว น้าเป็นหมอ ไปหางานที่โรงพยาบาลได้”
ชินจังที่สะพายกระเป๋าเรียนใบเล็กได้ยิน ก็เงยศีรษะเล็กๆขึ้นมา:“น้าไปทำงาน ผมไปโรงเรียนอนุบาล”
อ๋า?
เส้นหมี่งงอีกครั้ง!
ไม่สิ ทำไมเขาไปโรงเรียนอนุบาล?แล้วให้เธอไปทำงานที่บริษัทแด๊ดดี้เขาล่ะ?เธอยังคิดว่า เห็นเขาเก็บกระเป๋าเรียนตัวเองอย่างเรียบร้อย ตั้งแต่เช้าตรู่ แล้วจะเชื่อฟังเสียอีก
ที่แท้ ก็มีเงื่อนไข
เส้นหมี่ก็ไม่รู้ทำอย่างไร คิดอยู่ตรงนั้น สุดท้ายได้แต่อุ้มเขาออกมา
“ไม่ใช่ ชินชิน หนูฟังน้าพูดนะ บริษัทของแด๊ดดี้หนูล่ะ?ถึงน้าอยากไป ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปได้ เพราะว่าแด๊ดดี้หนูไม่ชอบน้า”
เธอคุกเข่าไปตรงหน้าเขา ตอนพูดคำนี้ สายตาก็หม่นลงเล็กน้อย
แต่ไม่ใช่เหรอ?ผู้หญิงอย่างเธอ แค่เขาเห็นก็รังเกียจแล้ว แล้วจะให้เธอไปบริษัทเขาได้ไง?มาที่นี่เพราะว่ารักษาอาการป่วยของเขาทั้งนั้น ไม่งั้น แค่เหยียบเข้าไปยังไม่ให้เธอเหยียบเลย
แต่ว่า หลังจากเด็กชายได้ยิน กลับคว้ามือของเธอไว้ทันที:“ไป ไปหาแด๊ดดี้!”
อ๋า?
อ่า!!!
เส้นหมี่ก็มึนงงด้วยความตกใจ……