หานเฟิงสีหน้าไม่ยินยอม ดึงกระบี่ฟ้าครามออกมาอย่างอืดอาด

จ้าวหลิงเห็นว่าหานเฟิงจะสู้กับเธอ ก็กัดฟันด้วยสีหน้าอึมครึม

หานเฟิงก้าวขึ้นมา แล้วพูดว่า “นี่ เธอชื่ออะไร ช่างเถอะ เธอรีบยอมแพ้ซะเถอะ ฉันมีหลักการนะ ไม่ทำร้ายผู้หญิง”

จ้าวหลิงเอากระบี่ยาวออกจากแขนเสื้อ จนเกิดเสียงดังสวบ

จ้าวหลิงมองหานเฟิง แล้วพูดว่า “คนไร้ยางอาย ชั้นต่ำ ที่ชอบหยาบคายแบบนายเนี่ยนะ จะมีหลักการ พูดไปใครจะเชื่อ นายรีบยอมแพ้ฉันซะเถอะ ฉันจะไว้ชีวิตนาย”

หานเฟิงเอามือแคะหู ดีดขี้หูออกจากเล็บ แล้วพูดว่า “งั้นไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้ว ลำบากจริงๆ ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิงจริงๆ ไม่ควรทำแบบนี้เลย”

พลังปราณพลุ่งพล่านบนตัวจ้าวหลิง คนที่ดูอ่อนโยนและอ่อนแอแบบเธอ มีผลการฝึกตนระดับแดนปราณในชั้น7

เสื้อผ้าปลิวสะบัด หานเฟิงจ้องขาเรียวยาวอยู่อย่างนั้น

พูดตรงๆ จ้าวหลิงหน้าตาไม่แย่

แต่แค่เธอปากร้ายเกินไปเท่านั้น

เธอมองหานเฟิงแล้วพูดเสียงดังว่า “ไอ้พวกคณะหนึ่งเดียวขยะ รีบมาสู้กับฉัน ฉันไม่มีเวลามายืดเยื้อกับนายหรอกนะ ได้กลิ่นอากาศของคณะหนึ่งเดียว ฉันรู้สึกจะขาดอากาศหายใจแล้ว”

สีหน้าหานเฟิงเย็นชา แล้วพูดว่า “เธอว่าฉันได้ แต่อย่ามาดูหมิ่นคณะหนึ่งเดียว เอาเถอะ ดูเหมือนวันนี้ฉันต้องแหกกฎแล้ว ฉันจะสู้กับผู้หญิงอย่างไม่เว้น”

เดินมาข้างหน้า แสงกระบี่ฟ้าครามไหลเวียน

ศิษย์พี่ฉู่เทียนยิ้มแล้วพูดว่า “เหอะๆ ศิษย์น้องหานเฟิงโกรธแล้ว ต้องน่าดูซะแล้ว”

ศิษย์พี่ใหญ่ตบพุง จนทำให้ไขมันกระเพื่อมเหมือนน้ำ “ใช่ ศิษย์น้องหานเฟิงโกรธขึ้นมา น่ากลัวมาก ถ้าเขาใช้วิชากระบี่ชิงสวรรค์ ฉันยังต้องหลีกให้เขา”

พูดพลาง ศิษย์พี่ใหญ่มองอาจารย์อี้ชิงแวบหนึ่ง

อาจารย์อี้ชิงกลอกตามองบน แล้วพูดว่า “ถ้าเขากล้าใช้วิชากระบี่ชิงสวรรค์ในคณะหนึ่งเดียว เขาจะได้ชิงเรียนจบก่อน แล้วไสหัวออกไปจากสถาบันสอนวิชาบู๊”

แม้น้ำเสียงของอาจารย์อี้ชิงจะราบเรียบ แต่กลับดังเข้ามาในหูหานเฟิงอย่างชัดเจน

หานเฟิงหน้ากระตุกเล็กเบาๆ ยังไม่ให้ใช้สินะ เฮ้อ ตอนไหนจะได้สะใจสักทีนะ

ไม่ง่ายเลยกว่าจะฝึกสำเร็จ ยังไม่ให้ใช้อีก รู้สึกอึดอัดชะมัด

หลางเจี้ยนและคนอื่นได้ยินคำว่าวิชากระบี่ชิงสวรรค์ ต่างพากันขมวดคิ้ว

นี่มันเคล็ดวิชาบู๊อะไรกัน พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ฟังจากชื่อ เหมือนเก่งกาจมาก แถมยังไม่ให้ใช้ด้วย

หลางเจี้ยนหัวเราะพรืดออกมา คงเป็นวิชากระบี่ที่ยังไม่สมบูรณ์สินะ ไม่งั้นทำไมถึงไม่ให้ใช้ล่ะ

หลางเจี้ยนไม่คิดว่าคนในคณะหนึ่งเดียว จะฝึกวิชากระบี่ที่มีพลานุภาพออกมาได้ กี่ปีมาแล้ว ไม่เคยได้ยินวิชาที่มีพลานุภาพของคณะหนึ่งเดียวเลย ในการต่อสู้จัดอันดับของสถาบันทุกครั้ง คณะหนึ่งเดียวจะสู้ไปงั้นๆ เมื่อเห็นคนอื่นใช้ท่าไม้ตาย ก็ตัดสินใจยอมแพ้

หานเฟิงง้างกระบี่ขึ้น ปล่อยพลังปราณออกมาบนตัว

จ้าวหลิงส่งเสียงหึอย่างเย็นชา ไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้าไปฆ่าทันที

การเคลื่อนไหวของเธอแปลกมาก ตอนพุ่งออกมาเกิดเงาเป็นแถบ นี่เป็นการแสดงออกที่เมื่อความเร็วถึงขั้นใดขั้นหนึ่ง

ลู่ฝานหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาเห็นการเคลื่อนไหวของจ้าวหลิงอย่างชัดเจน

การเคลื่อนไหวแบบคดเคี้ยว วิ่งเหมือนสายฟ้า ดูน่าสนใจมาก

หานเฟิงเบิกตาโต จู่ๆ เป้าหมายหายไป ต่อมา ยังไม่ทันตั้งสติได้ กระบี่ของจ้าวหลิงก็โจมตีมาพร้อมกับปราณกระบี่อาฆาต

ปราณกระบี่ห่างจากหานเฟิงสามฟุต แต่ทำให้หานเฟิงรู้สึกเจ็บผิว

หานเฟิงสะบัดกระบี่ฟ้าคราม ต้านทานกระบี่ของจ้าวหลิงเอาไว้ ใช้แรงดึงขึ้น กระบี่ของจ้าวหลิงหันออกไป พุ่งไปทางข้างแขนซ้ายของหานเฟิง

เกิดเสียงดังสวบ เสื้อทางด้านซ้ายของหานเฟิง โดนปราณกระบี่ฟันจนเป็นรูใหญ่

หานเฟิงก่นด่าออกมา “ให้ตายเถอะ ชุดที่ฉันชอบที่สุด นี่เป็นชุดทางการชุดสุดท้ายของฉันแล้วนะ เธอแทงมันจนขาด”

จ้าวหลิงไม่สนใจเสียงตะโกนของหานเฟิง ฝ่าเท้าลอยขึ้นจากพื้น เมื่อหมุนตัว แสงกระบี่พลุ่งพล่านไปบนฟ้า

“หนึ่งกระบี่หมู่ดาว!”

หานเฟิงหลบอย่างต่อเนื่อง พลังปราณบนตัวสั่นไหวไม่หยุด แสงบนกระบี่ฟ้าครามยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ

หานเฟิงดูตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน จู่ๆ เหมือนกระบี่ฟ้าครามในมือเขา โดนแสงกระบี่โจมตี สั่นจนเกือบจับไว้ไม่อยู่

โอกาสแบบนี้ จ้าวหลิงจะปล่อยไปได้อย่างไร กระบี่เหมือนหมู่ดาว สาดแสงไปทั่ว โจมตีกระบี่ฟ้าครามของหานเฟิง กระเด็นด้วยกระบี่เดียว

“วิชากระบี่ที่ดี วิชากระบี่ของพี่จ้าวหลิง ยังคงงดงามมาก”

จางเยว่หานพูดออกมาเป็นคนแรก หลางเจี้ยนรอยยิ้มเต็มใบหน้าเช่นกัน นี่เป็นหัวกะทิของคณะบังเหิน พลังปราณไม่ธรรมดา การเคลื่อนไหวรวดเร็ว เคล็ดวิชาบู๊งดงาม

ตอนนี้ลู่ฝานขมวดคิ้วแน่น พูดเบาๆ ว่า “ศิษย์พี่หานเฟิงทำอะไรน่ะ”

เมื่อกี้ลู่ฝานเห็นชัดๆ ว่า ศิษย์พี่หานเฟิงปล่อยมือเอง

ศิษย์พี่ใหญ่ส่ายหน้า ถอนหายใจแล้วพูดว่า “เอาอีกแล้ว ศิษย์น้องหานเฟิง หลอกลวงคนอื่นอีกแล้ว”

ลู่ฝานไม่เข้าใจความหมายของศิษย์พี่ใหญ่ เห็นศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่ฉู่เทียนกับฉู่สิงพากันส่ายหน้า เหมือนเห็นศิษย์พี่หานเฟิงโดนคนดีดกระบี่กระเด็นจนชินไปแล้ว

ในการต่อสู้ หานเฟิงที่ไร้กระบี่ก้าวถอยหลังอย่างต่อเนื่อง เพื่อเว้นระยะห่าง

การโจมตีของจ้าวหลิงน่าตกใจมาก ไม่เห็นตัวจริงแล้ว เห็นเงานับไม่ถ้วนของจ้าวหลิง กำลังโจมตีอยู่ แสงกระบี่ทุกแสง ดูงดงามมาก แต่กลับไม่ได้สัมผัสปลายเสื้อของหานเฟิงเลย

หานเฟิงถอยหลังอย่างต่อเนื่อง จ้าวหลิงตามฆ่าอย่างสุดชีวิต