ที่ด้านนอกโดมเลี้ยงเพนกวิน ถวนถวนยืนกินไอศกรีมอยู่ข้าง ๆ อวี้ฮ่าวหรานด้วยสีหน้าเบิกบาน

“พ่อจ๋า พ่อใจดีกว่าแม่หรงมาก ๆ เล้ย!”

“เอาไว้ในอนาคตพ่อจะพาลูกไปเที่ยวที่ ๆ สนุกแบบนี้อีกเยอะ ๆ เลยดีไหม?”

“เย้! ถวนถวนรักพ่อที่สุดเล้ย!”

คู่พ่อลูกคุยกันอย่างเบิกบานจนไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีคนหน้าคุ้นกำลังเดินอยู่ใกล้ๆ

“ชิวอวี้…ตึกแสดงเพนกวินอยู่ข้างหน้านี้เอง ฉันยังไม่เคยเห็นเพนกวินตัวจริงมาก่อนเลยพวกเราเข้าไปดูกันเถอะ!”

“อื้ม ฉันเห็นป้ายที่หน้าสวนสัตว์ประกาศว่าจะมีการแสดงพิเศษของเพนกวินวันนี้…เอ๊?? ฮ่าวหราน!”

ในระหว่างที่พูด เฉิงชิวอวี้หันไปเห็นอวี้ฮ่าวหรานพอดีซึ่งทำให้เธอประหลาดใจเป็นอย่างมาก เธอไม่นึกเลยว่าเธอจะได้เจอกับอีกฝ่ายในขณะที่ออกมาเที่ยวเล่นกับเพื่อนแบบนี้

“อืม…บังเอิญจริงๆ”

เมื่อได้ยินเสียงคนเอ่ยทัก อวี้ฮ่าวหรานก็หันกลับมาแล้วพยักหน้าทักทายเฉิงชิวอวี้ทันที

วันนี้เฉิงชิวอวี้ใส่ชุดกระโปรงยาวสีฟ้าและหมวกกันแดดสีเบจซึ่งมันทำให้ภาพลักษณ์ของเธอดูสดใสมากขึ้น ส่วนเพื่อนของเธอก็มีหน้าตาที่สะสวยและแต่งตัวมาในชุดเกาะอกสีเบจที่ดูเหมือนว่าจงใจเน้นให้เห็นเต้าคู่ใหญ่บนหน้าอก

“ใช่วันนี้เป็นวันหยุดฉันก็เลยออกมาเที่ยวเล่นกับเพื่อนน่ะ”

เฉิงชิวอวี้เดินเข้ามาหาด้วยท่าทีไม่เขินอายแม้แต่น้อยและย่อตัวลงลูบหัวถวนถวน

“เป็นไงบ้างจ้ะถวนถวน…วันนี้สนุกไหม?”

“สนุก! พ่อของหนูพาหนูดูปลาเยอะแยะเลย!” ถวนถวนตอบกลับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“น่ารักจริงๆ”

เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉิงชิวอวี้ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นชม

“แต่ถ้าแม่ของหนูอยู่ด้วยตอนนี้หนูคงสนุกกว่าเดิม…”

ในขณะที่เด็กน้อยกำลังยิ่มร่าแต่เมื่อเธอนึกถึงแม่ของเธอขึ้นมาใบหน้าที่ยิ้มแย้มก็เปลี่ยนไปกลายเป็นหม่นหมองอย่างรวดเร็ว

“ไม่ต้องห่วงหรอก ถวนถวนน่ารักขนาดนี้อีกไม่นานแม่ของหนูคงรีบกลับมาหาหนูแน่ ๆ พี่สาวมั่นใจ!”

หลังจากเห็นเด็กน้องแสดงสีหน้าหม่นหมอง เฉิงชิวอวี้จึงรีบปลอบโยนทันที แต่ในขณะเดียวกันเพื่อนของเธอกลับแสดงท่าทางหมดความอดทน

“ชิวอวี้ พวกเรารีบไปกันเถอะ เธอจะไปคุยกับผู้ชายธรรมดา ๆ แบบนี้ทำไมแถมเขายังพาลูกมาด้วยอีกต่างหาก ถ้าคนรู้จักเรามาเห็นเข้าเธอจะเสียหายนะรู้ไหม!”

ในขณะที่พูด หญิงสาวมองอวี้ฮ่าวหรานตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก

“ดูสิ ผู้ชายคนนี้ยังใส่เสื้อผ้าถูก ๆ อยู่เลย ฉันว่าเมียของเขาคงทนความไม่เอาไหนของเขาไม่ไหวแล้วหนีไปแน่นอน เธออย่าไปคุยกับคนแบบนี้ให้มันมากเลยพวกเรารีบไปกันเถอะ!”

ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าที่แสดงออกมามันเต็มไปด้วยอาการดูถูกอย่างชัดเจน เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเฉิงชิวอวี้ถึงลดตัวมาคุยกับพ่อม่ายจน ๆ แบบนี้

อวี้ฮ่าวหรานที่โดนเหน็บแนมขมวดคิ้วทันที ส่วนทางด้านของเฉิงชิวอวี้ก็รีบพูดขึ้นหยุดเพื่อนของเธอ

“โจวหลิง! หยุดพูดจาหยาบคายได้แล้ว! นี่เธอพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง?”

ในขณะเดียวกันเฉิงชิวอวี้ก็รู้สึกงุนงง ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนของเธอถึงจู่ ๆ พูดจาดูถูกอวี้ฮ่าวหรานแบบนี้

“เหอะ! ฉันก็แค่พูดไปตามความจริง ชิวอวี้ คนระดับอย่างพวกเราไม่ควรไปคบคนที่มีฐานะต่ำกว่าขนาดนี้นะรู้ไหม?”

หญิงสาวที่ชื่อโจวหลิงยังคงไม่หยุดพูดจาดูถูกอวี้ฮ่าวหราน เธอยังคงจ้องไปที่อวี้ฮ่าวหรานด้วยแววตาดูถูก เธอไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดมันเป็นเรื่องที่ผิดอะไร…

ทางด้านของอวี้ฮ่าวหรานที่ได้ยินมาพอแล้วเขาพ่นลมหายใจอย่างรำคาญจากนั้นเขาอุ้มถวนถวนขึ้นอกแล้วเดินจากไปในทันที

“ฮ..ฮ่าวหราน! เดี๋ยวก่อนสิอย่าเพิ่งไป! ฉันขอโทษแทนเพื่อนของฉันด้วยจริง ๆ เธอเป็นคนที่พูดจาไม่ค่อยระวังเท่าไหร่ฉันขอโทษด้วยจริงๆ”

เมื่อเห็นว่าอวี้ฮ่าวหรานเดินจากไป เฉิงชิวอวี้จึงรีบวิ่งตามไปขอโทษอย่างร้อนรน

อย่างไรก็ตามอวี้ฮ่าวหรานก็ทำเพียงแค่พยักหน้าแต่ไม่ได้หยุดเดินแม้แต่น้อย

“ชิวอวี้ ปล่อยให้คนแบบนั้นไปตามทางของเขาเถอะพวกเราเข้าไปดูเพนกวินกันดีกว่า!”

ที่ด้านหลังโจวหลิงก็เดินเข้ามารั้งแขนของเฉิงชิวอวี้เอาไว้ไม่ให้ตาม อวี้ฮ่าวหรานไปต่อ จากนั้นในชั่วอึดใจคู่พ่อลูกก็เดินหายไปกับฝูงชน

เฉิงชิวอวี้แสดงสีหน้าไม่พอใจในทันที

“โจวหลิง…เธอไม่ควรพูดกับเพื่อนของฉันแบบนี้!”

“ถ้าเป็นปกติฉันคงไม่พูดหรอกแต่เพื่อนของเธอคนนี้แค่ดูปราดเดียวฉันก็รู้แล้วว่าเป็นพวกชนชั้นล่างแถมยังมีลูกติดอีกต่างหาก อย่างที่ฉันเพิ่งบอกไป หากมีคนรู้จักของเราบังเอิญมาเห็นว่าเธอกับเขาใกล้ชิดกัน มันจะเป็นเธอเองที่เสียหาย!”

โจวหลิงยังคงเอ่ยประโยคคล้ายเดิม แต่น่าเสียดายที่เธอไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วความตั้งใจของเฉิงชิวอวี้คืออยากให้มีคนลือเรื่องนี้ให้มากที่สุดต่างหาก!

“ฮ่าวหรานไม่ใช่คนแบบที่เธอคิด…”

“ช่างเถอะ ๆ พวกเราเข้าไปดูเพนกวินกันดีกว่า ไหน ๆ เขาก็ไปแล้วอย่าไปพูดถึงให้เสียบรรยากาศอีกเลย”

โจวหลิงพูดขึ้นตัดบทพร้อมกับคล้องแขนดึงตัวเฉิงชิวอวี้ไปกับเธอทันที

ที่อีกด้านหนึ่ง…

“พ่อจ๋า พี่สาวคนนั้นนิสัยไม่ดีมาก ๆ เลย ถวนถวนไม่ชอบเลยวันหลังเราไม่ต้องไปคุยกับพี่สาวคนนั้นอีกนะพ่อจ๋า?”

“อืม”

อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าตอบ

อย่างไรก็ตามการกระทำที่น่ารังเกียจของโจวหลิงเมื่อครู่ทำให้อวี้ฮ่าวหรานนึกถึงหลี่เม่ย…ภรรยาของเขา

นานเท่าไหร่แล้วนะ?

ในอดีตเมื่อตอนที่เขาคบกับหลี่เม่ย ใหม่ ๆ เพื่อน ๆ ของ หลี่เม่ยก็มักจะพูดจาดูถูกเขาเช่นนี้อยู่เป็นประจำหรือแม้แต่ตอนที่แต่งงานกันไปแล้ว เพื่อน ๆ ของหลี่เม่ยก็ยังไม่เลิกพูดจาเหน็บแนมเขาทุกครั้งที่เจอ

แต่ตอนนี้เขาไม่เหมือนเมื่อตอนนั้นแล้ว คราวนี้เขามั่นใจว่าตัวเขาสามารถทำให้ทุกคนบนโลกหุบปากได้หากเขาต้องการ เขาสามารถมอบความสุขให้กับลูกสาวและภรรยาของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน!

ว่าแต่ตอนนี้เธออยู่ไหนกัน…หลี่เม่ย?

ณ ด้านในถ้ำแห่งหนึ่งใจกลางป่าลึกของประเทศจีน

หญิงสาวหน้าตางดงามผู้หนึ่งกำลังฝึกเพลงกระบี่อย่างขมักเขม้น

หน้าตาของเธอมีความคล้ายคลึงกับหลี่หรงหลายส่วนแตกต่างกันตรงที่เธอดูเป็นผู้ใหญ่กว่าและแววตาของเธอไม่ได้ดูร่าเริงเหมือนหลี่หรงในช่วงปัจจุบันนี้

จู่ ๆ ผนังถ้ำก็ค่อย ๆ เคลื่อนเปิดออกและจากนั้นหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาด้านใน

“เม่ยเอ๋อ ทำไมเจ้าถึงยังคงยึดติดกับเรื่องทางโลกเช่นนี้ เจ้าน่าจะเข้าใจว่ายิ่งเจ้าวอกแวกมากเท่าไหร่การบ่มเพาะของเจ้าก็จะยิ่งล่าช้า?” หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจ

หญิงวัยกลางคนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น เธอเป็นคนเดียวกับที่พาหลี่เม่ยมาบ่มเพาะที่นี่!

“อาจารย์ ศิษย์หยุดคิดถึงถวนถวนไม่ได้ นี่มันก็นานมาแล้วที่ศิษย์ไม่ได้เจอหน้าลูกสาว ศิษย์เป็นกังวลจริง ๆ ว่าลูกสาวของศิษย์ตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ศิษย์ไม่สามารถสงบใจได้เลย”

หลี่เม่ยตอบกลับด้วยสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเห็นสีหน้าของหลี่เม่ย หญิงวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “เฮ้อ…เม่ยเอ๋อ เรื่องลูกสาวของเจ้า เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกตอนนี้นางสบายดี เจ้าวางใจฝึกฝนอย่างเต็มที่เถอะ”

เพื่อศิษย์ของตัวเอง หญิงวัยกลางคนผู้นี้แอบแวะเวียนไปที่เมืองฮ่วยอันอยู่เรื่อย ๆ เพื่อแอบดูความเป็นไปของถวนถวน ดังนั้นเธอจึงรู้เรื่องข่าวคราวที่เกิดขึ้นในเมืองฮ่วยอันอยู่พอสมควร

แต่แน่นอนว่าเธอไม่มีทางบอกหลี่เม่ยว่า อวี้ฮ่าวหรานกลับมาแล้วเพราะนั่นจะทำให้ศิษย์ของเธอกลับไปที่เมืองฮ่วยอันแน่นอน

มนุษย์ทุกคนล้วนมีความเห็นแก่ตัว!

ถึงแม้ว่าหญิงวัยกลางคนจะยังคงมีผิวพรรณที่ดูเต่งตึงราวกับเป็นหญิงวัย30ต้น ๆ แต่แท้ที่จริงแล้วเธอแก่มากแล้ว

เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองอาจอยู่ได้อีกไม่กี่สิบปีดังนั้นเธอจึงต้องการให้ใครสักคนมาสืบทอดทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอซึ่งหลี่เม่ยคือคน ๆ นั้นที่เธอคาดหวัง…

“ศิษย์ทราบแล้ว”

กลับมาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ…

เฉิงชิวอวี้กำลังเดินเที่ยวเล่นกับโจวหลิง ด้วยความกังวลในใจเกี่ยวกับเรื่องอวี้ฮ่าวหรานจนเธอไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้เธอกับเพื่อนกำลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งจับตามองอยู่

“หึหึ…สวยแจ่มดีจริง ๆ ต้องไปเรียกลูกพี่หวงปิน มาดูสักหน่อยแล้ว!”

หลังจากพูดจบชายฉกรรจ์รีบเดินจากไปทันทีด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย