“ท่านเทพมาแล้ว? อยากได้อะไร แตงกวา ผักโขม หรือว่ามะเขือเทศ? หรือไชเท้าดีหรือไม่! ไชเท้าวันนี้มีน้ำมาก ท่านดูสิ พลังเทพด้านบนแทบจะหยดลงมาเป็นน้ำแล้ว กินแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรง อายุยืนยาวอย่างแน่นอน เอาสักหัวหรือไม่” หางของวิญญาณมังกรสะบัดเอาไชเท้าขึ้นมาหนึ่งหัว ก่อนจะยื่นมาให้ด้วยรอยยิ้มเอาใจ
อวิ๋นเจี่ยว “…” อะไรกัน
ทำไมผ่านไปแค่คืนเดียว วิญญาณมังกรนี้กลับเปลี่ยนไปขนาดนี้
เมื่อเห็นนางไม่รับไป วิญญาณมังกรผงะไปเล็กน้อย จากนั้นเหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้ ม้วนเอาไชเท้าเคาะหัวตนเองแล้วพูดขึ้น “โถ่เอ๋ย ดูข้าสิ ไชเท้ายังไม่ได้ล้างเลย ท่านเทพคงจะจับไม่ได้ ท่านรอเดี๋ยว ข้านำมันไปล้างให้สะอาดแล้วค่อยนำมาให้ท่าน ท่านเทพเชิญดูก่อน อยากได้อะไรบอกได้เลย ข้าจะเก็บให้ท่าน!”
พูดจบก็ม้วนไชเท้าขึ้นมาอีกหลายหัว ก่อนจะลอยไปยังแม่น้ำสายเล็กบริเวณทางขวา ท่าทีเปลี่ยนแปลงแบบสามร้อยหกสิบองศา!
อวิ๋นเจี่ยวนิ่งอึ้งไปครึ่งวันกว่าจะตอบสนองได้ นางมองพินิจอย่างละเอียด มั่นใจว่าเป็นมังกรตัวเมื่อวานจริงๆ ดังนั้นนางจึงหันไปพูดกับคนด้านข้าง “ท่านอิ้งหลุน มังกรนี้…เป็นอะไรไป” ไม่เพียงแต่ท่าทีที่มีต่อนาง แต่เหมือนกับว่าร่างวิญญาณยังเล็กลงกว่าเมื่อวานหลายรอบ
“ฮะ?” อิ้งหลุนนอนอยู่ในเพิงฟางอย่างกับปลาตาย เขาราวกับยังไม่ตื่นเต็มที่ มองไปยังวิญญาณมังกรทีหนึ่ง ก่อนจะพูด “อ่อ เมื่อวานมันไม่รู้เกิดอะไรขึ้น คิดอยากจะลงไปเดินเล่นด้านล่างเขา ข้าจะรั้งก็รั้งไว้ไม่อยู่ ไม่ทันระวังก็วิ่งหายไปเสียแล้ว วิญญาณเด็กอย่างพวกเจ้าช่างมุทะลุ ไม่เหมือนพวกข้าในตอนนั้น…”
“เดินเล่น?” อวิ๋นเจี่ยวผงะ เดินเล่นอย่างไรให้นิสัยเปลี่ยน จากนั้นเหมือนนางจะตระหนักถึงอะไรบางอย่าง จึงถามขึ้น “มันคงไม่…เจอเข้ากับอาจารย์ปู่ใช่ไหม”
“เป็นอย่างที่เจ้าว่า!” อิ้งหลุนพลิกตัว นอนยืดยาวเหมือนปลาตายมากกว่าเดิม ก่อนจะส่งสายตาขุ่นเคืองให้นาง พร้อมกับปากที่ขยับไม่หยุด “ข้าว่านะเจ้าศิษย์หลานตัวน้อย เจ้าควรควบคุมอารมณ์ของเยี่ยยวนหน่อย เมื่อวานหากข้าไปช้าแม้แต่นิดเดียว วิญญาณมังกรนี้คงไม่เหลือแม้แต่ซาก มีอย่างที่ไหนกันคิดจะลงมือก็ลงมือ เจ้าดูวิญญาณมังกรของมันสิ จางจนจะกลายเป็นควันอยู่แล้ว หากไม่ใช่ข้าใช้พลังชีวิตช่วยประคองร่างวิญญาณของมัน มันคงจะคอยบังแดดให้ผักไม่ได้แล้ว เจ้าดูสิ่งที่เยี่ยยวนทำ อายุมากขนาดนี้ยังคิดเล็กคิดน้อยกับคนรุ่นหลัง เขานับวันยิ่ง…”
“อาจารย์ปู่อยู่ด้านล่าง” เขาได้ยิน
“ยิ่ง…ยิ่งมีจิตใจโอบอ้อมอารี เฮอะๆๆๆ …” อิ้งหลุนเปลี่ยนคำพูดในทันที ก่อนจะลุกขึ้นนั่งพรวด
“…” ความจริงใจอยู่ไหนกัน
“เฮ้อ หากพูดตามจริงแล้วก็เป็นความผิดของเฟิงเสี่ยวหวง สั่งสอนเสียทีก็เหมาะสมแล้ว แต่ว่ามันได้ปรับปรุงตัวแล้ว เจ้าดูสิ ตอนนี้มันขยันแค่ไหน วางใจเถอะ! ข้าจะสั่งสอนมันเอง ต่อไปจะไม่ให้มันก่อเรื่องอีก จริงๆ นะ! ถึงแม้เจ้าจะไม่เชื่อคนอื่น แต่อย่างน้อยก็ต้องเชื่อข้า เฮอะๆๆ …”
“…” ดังนั้นมันเจอเข้ากับอาจารย์ปู่แล้ว มิน่าวันนี้อาจารย์ปู่ถึงมาดักรอนางอยู่หน้าประตู ให้นางทำขนมให้ ดูท่าทางเมื่อคืนวิญญาณมังกรคงก่อเรื่องใหญ่เอาไว้
“ท่านเทพ ไชเท้าล้างเสร็จแล้ว” ในขณะที่กำลังสนทนา วิญญาณมังกรก็นำไชเท้าที่ล้างสะอาดลอยกลับมา อีกทั้งยังใช้เชือกฟางมัดไว้อย่างดี ก่อนจะยื่นมาให้นาง
“ขอบ…ขอบใจ!” อวิ๋นเจี่ยวรับมา นางไม่คุ้นชินไปชั่วขณะ มันคือมังกรหินที่ร้องบอกว่าจะทำลายล้างโลกมนุษย์จริงเหรอ ไม่ได้ถูกสวมวิญญาณ?
“ท่านเทพพูดอะไร นี่เป็นเรื่องที่ข้าต้องทำ” วิญญาณมังกรยิ้มอย่างเกรงใจ กะพริบตาราวกับเป็นโรคตากระตุก ก่อนจะพูดกลั้วหัวเราะต่อ “ท่านเทพต้องการอย่างอื่นอีกหรือไม่ ให้ข้าเก็บมาให้ท่านดีหรือไม่”
อวิ๋นเจี่ยวตอบ “อ่อ ยังต้องการผักใบเขียว เอามาทำขนมรสผักผลไม้”
“ได้!” วิญญาณมังกรพยักหน้า ก่อนจะหันหลังมุดเข้าสวนผักอีกครั้ง ท่าทางกระตือรือร้นอย่างมาก มันไม่เพียงเลือกผักมาสี่ห้าชนิด อีกทั้งยังล้างสะอาด พร้อมเด็ดใบเหลืองออก ตัดรากทิ้ง เหลือเพียงแต่ถามนางว่าต้องการหั่นเส้นหรือหั่นเต๋าเท่านั้นแล้ว
อวิ๋นเจี่ยวมองดูวิญญาณมังกรที่เปิดเผยความขี้ขลาดออกมา จากนั้นมองไปยังอิ้งหลุนที่นอนแผ่อยู่ในเพิงฟาง ทันใดนั้นก็พอจะเข้าใจเหตุการณ์ขึ้นมา
“ท่านเทพ ผักที่ท่านจะเอา เชิญรับไว้” วิญญาณมังกรส่งผักที่ใช้ใบไม้ห่อเอาไว้มาให้
“ไม่รีบ วางไว้นี่เถอะ!” นางชี้ไปยังพื้นหญ้าด้านข้าง ส่งสัญญาณให้มันวางลง ก่อนจะพูดต่อ “ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า หวังว่าเจ้าจะให้ความร่วมมือ”
วิญญาณมังกรรีบวางผักลง ก่อนจะตอบ “ท่านเทพมีเรื่องอะไรให้ข้ารับใช้บอกมาได้เลย ข้าจะพูดทุกอย่างที่รู้”
“ดี นั่งก่อน!” นางตบไปยังพื้นหญ้าด้านข้าง “ก่อนอื่น เจ้าชื่ออะไร”
“ข้าชื่อเฟิงเสี่ยวหวง!” วิญญาณมังกรโพล่งออกมา
อวิ๋นเจี่ยว “…” ยอมรับตัวตนใหม่เร็วดีนะ
“ข้าหมายถึงก่อนตาย เจ้าเป็นใคร เป็นคนของสวรรค์ทิศไหน”
แววตาของวิญญาณมังกรหลบหลีกเล็กน้อย มันขดตัวเองเป็นก้อน เท้าหน้าสองข้างวางอยู่บนลำตัว คอยืดตรงยาว มองนางด้วยสีหน้าว่านอนสอนง่าย “เรียนท่านเทพ ข้าน้อยชื่อเฟิงอี๋ เป็น…มังกรภายใต้ท่านเทพฉู่เหยียน”
ฉู่เหยียนอีกแล้ว!
“เจ้าเป็นคนของทักษิณสวรรค์”
“ใช่” มันพยักหน้า
“เรื่องที่มังกรน้ำร้ายกาจใช้วิญญาณเลี้ยงเส้นชีพจรเทพในหนองน้ำ เจ้าเป็นคนสั่งให้มันทำใช่หรือไม่” อวิ๋นเจี่ยวถามต่อ “เจ้าได้รับคำสั่งมาจากใคร”
สีหน้าของวิญญาณมังกรเปลี่ยนไป สายตาล่องลอยไปมา “เส้นชีพจรเทพ? เส้นชีพจรเทพ…อะไรกัน ข้าไม่รู้…”
“ลูกแก้วกำเนิดวิญญาณ!” อวิ๋นเจี่ยวพูดขึ้น “สิ่งนี้พวกข้าเป็นคนเอาไปเอง วิญญาณนับหมื่นตน เจ้าคิดว่าพวกข้าดูไม่ออกว่าข่ายพลังใต้เหวเอาไว้ทำอะไรหรือ”
ร่างของวิญญาณมังกรสั่นสะท้าน สีหน้าลนลาน เมื่อเห็นว่าไม่อาจปิดบังต่อไปได้จึงพูดขึ้น “ท่าน…ท่านเทพให้อภัยด้วย! ข้า…ข้าก็แค่ทำตามคำสั่ง ไม่ได้อยากจะทำร้ายคนมากมายเช่นนั้น ลูกแก้วกำเนิดวิญญาณไม่ใช่ของข้า”
“ใครเป็นคนให้เจ้ามา” อวิ๋นเจี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย ถามต่อ “เป็นท่านเทพที่ชื่อฉู่เหยียนนั้น หรือว่าท่านมหาเทพของทักษิณสวรรค์?”
“คือ…” วิญญาณมังกรเงียบไป สายตาของมันตื่นตระหนก
“พวกเจ้าต้องการเลี้ยงเส้นชีพจรไปเพื่ออะไร สถานที่เลี้ยงเส้นชีพจรเช่นนี้ยังมีที่อื่นอีกไหม”
“คือ…ข้าก็ไม่รู้…” เขาไม่ได้ตอบคำถาม ราวกับกำลังเกรงกลัวอะไรบางอย่าง
“เช่นนั้นพวกเจ้ามีแผนการอื่นอีกหรือไม่”
“ข้าเป็นเพียงมังกรตัวเล็กๆ ไม่รู้เรื่องเหล่านี้…” เขาก้มหัวมังกรลง สายตาล่องลอยมากกว่าเดิม
“ไม่พูดเหรอ” อวิ๋นเจี่ยวกวาดตามองเขาขึ้นลง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน “ดูท่าทางวิธีการถามของข้าไม่ถูกต้อง ช่างเถอะ ข้าจะให้อาจารย์ปู่มาถาม อย่างไรก็…”
“ไม่เอา!” นางยังพูดไม่ทันจบ เฟิงอี๋ก็กระโดดขึ้นมา พร้อมกับส่งเสียงร้องราวกับหมูที่ถูกเชือด เขาหวาดกลัวจนรูปร่างของวิญญาณสลายไปเล็กน้อย
เขายืดลำตัวมังกรที่ขดอยู่ออกมาทันที ก่อนจะลอยมาขวางต่อหน้านาง มันรีบพูดขึ้นในทันที
“ท่านเทพ ข้าจำได้แล้ว เรื่องเส้นชีพจรเทพเป็นคำสั่งจากท่านเทพฉู่เหยียน ลูกแก้วกำเนิดวิญญาณก็เป็นเขาที่ให้ข้ามา อีกทั้งยังบอกว่าต้องเลี้ยงให้เป็นเส้นชีพจรเทพภายในหนึ่งพันปี ส่วนมีเส้นชีพจรเทพอื่นหรือไม่ ข้าไม่รู้จริงๆ”
“ฉู่เหยียนบอกข้าว่าเป็นคำสั่งจากท่านมหาเทพทักษิณสวรรค์ แต่ข้าพบผนึกวิญญาณหนึ่งในลูกแก้ว ผนึกวิญญาณนั้นเป็นฝีมือของท่านเทพหวาซูในประจิมสวรรค์ ดังนั้นเขาต้องหลอกข้าเป็นแน่ ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับท่านมหาเทพประจิมสวรรค์”
“ตอนนี้ไม่มีเส้นชีพจรเทพ ฉู่เหยียนเป็นผู้ใจแคบ หากข้าไม่กลับไป เขาต้องตามมาไม่ช้าก็เร็ว ข้ามีแผนที่วังของฉู่เหยียน รายชื่อท่านเทพในวัง พร้อมทั้งวิธีการกำจัดอุปสรรคทั้งหลาย นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่เขาแอบลักลอบคบหากับคนอื่นลับหลังคู่ครองของตนเอง ท่านเทพอยากได้กี่ชุด?!”
อวิ๋นเจี่ยว “…”
อิ้งหลุน “…”
เจ้าเป็นมังกรเปลี่ยนสีใช่หรือไม่ ทำไมจุดยืนเปลี่ยนเร็วขนาดนี้