ตอนที่ 202 เกาะศิษย์พี่หวังไว้แน่น

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม

“มาได้สวยเลย!” หวังเสวียนจ้านตะโกนลั่น หอกยาวที่ห้อมล้อมด้วยกระแสไฟพุ่งไปหาเสือยักษ์สีทอง

กรงเล็บของมันปะทะเข้ากับหอกยาว พลังงานระเบิดแผ่กระจายไปทั่วเป็นรูปวงกลม

หวังเสวียนจ้านถูกพลังอันยิ่งใหญ่สะเทือนจนถอยออกมาหลายก้าว เสือยักษ์ตีลังกาแล้วตกลงบนพื้นทันใด

“หึๆ เจ้าหนุ่ม ใช้ได้นี่นา” เสือยักษ์แสยะยิ้ม

ทันใดนั้นก็มีลมแรงสีทองปรากฏขึ้นภายในรัศมีสามจั้ง ขณะที่สายลมพัดกรรโชก ต้นไม้รอบกายถูกบดขยี้จนแหลกเป็นผุยผง จากนั้นก็ถูกแผดเผาจนสิ้นซาก

เมื่ออันหลินเห็นฉากนี้ก็ถอยกรูด ลมหายใจก็เริ่มถี่กระชั้นขึ้นมา นี่มันบาเรียที่สมบูรณ์แบบชัดๆ!

ต้องเอาชนะสัตว์ปราณตัวหนึ่งจึงจะได้จอกศักดิ์สิทธิ์โลหะมาครอง การประลองนี้ยากเกินไปหรือเปล่า!

อันหลินคิดว่าตนเป็นปลาเค็มอยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว พลังยุทธ์อย่างเขาทะเล่อทะล่าเข้าไปสมทบรังแต่จะสร้างปัญหา

เริ่มมีเกล็ดมังกรปรากฏไปทั่วร่างกายหวังเสวียนจ้าน กลิ่นอายของพลังหนาแน่นยิ่งกว่าเดิม เมฆดำปกคลุมไปทั่วนภา เสียงสายฟ้าคำรามดังสะเทือนเลือนลั่น

รอบตัวเขาเริ่มมีบาเรียสายฟ้าก่อตัว กระแสไฟเพ่นพ่านไปทั่วดุจอสรพิษนับพันนับหมื่น พลังแห่งสายเลือดมังกรโบราณถูกปลุกแล้ว กระจายพลังที่ชวนให้พรั่นพรึงออกมา

อันหลินที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำได้แค่พยักหน้ารัวๆ นี่สินักพรตระดับแปลงจิตที่ยิ่งใหญ่ขนานแท้ แรงกดดันแก่กล้ากว่าเสือยักษ์สีทองตัวนั้นหลายเท่านัก

เสือยักษ์สีทองสะดุ้งโหยง สัมผัสได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกัน คำรามใส่หวังเสวียนจ้าน กระแสเสียงกลายเป็นคลื่นสีทองพุ่งไปจู่โจมหวังเสวียนจ้าน

เสียงคำรามเรียกได้ว่าสะเทือนสิบลี้ แม้แต่แผ่นดินก็สั่นไหวจนแตกระแหง

อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนอุดหูด้วยความทรมาน

หวังเสวียนจ้านที่ถูกคลื่นเสียงโจมตีนิ่งไม่ไหวติง ยืนตระหง่านอยู่ที่เดิม

“คำรามแข่งกับข้าหรือ” หวังเสวียนจ้านแสยะยิ้ม แผดเสียงมังกรคำรามใส่เสือยักษ์สีทอง “กรรซ์!”

เสียงมังกรคำรามเจืออานุภาพอันสูงส่งของมังกรและเสียงอสนีบาต กระแสเสียงน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม กลบเสียงคำรามของเสือยักษ์สีทองจนมิดในพริบตา อาณาบริเวณในหนึ่งร้อยจั้งถูกคลื่นเสียงสะเทือนจนทรุดตัว

อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนอุดหูด้วยความทรมานอย่างยิ่ง อย่าว่าแต่แก้วหูจะแตกเลย แม้แต่ศีรษะก็ได้รับแรงกระทบกระเทือนจนมึนงง เกือบจะตาเหลือกน้ำลายฟูมปากแล้ว

“ท่านหัวหน้า อย่าทำร้ายเพื่อนร่วมกลุ่ม!” อันหลินตะโกนด้วยความเจ็บปวด แต่ถูกฝังกลบในคลื่นเสียงอันน่ากลัวในพริบตา

พวกเขาสองคนจะร้องไห้อยู่รอมร่อแล้ว จะสู้ก็สู้กันสิ แข่งว่าเสียงใครดังกว่ากันมันหมายความว่าอย่างไร

ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่ทันได้สู้ด้วยซ้ำ พวกเขาคงตายเพราะฝ่ายตัวเองก่อนแล้ว…

เสือยักษ์สีทองถูกเสียงคำรามของหวังเสวียนจ้านสะเทือนจนกระอักเลือด นัยน์ตาเบิกกว้าง ทำหน้าครั่นคร้ามใจ

ตอนแรกมันอยากอาศัยเสียงคำรามขู่ให้ศัตรูกลัว แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเสียงของอีกฝ่ายจะดังกว่ามัน

ไม่ได้การ…ชายคนนี้แข็งแกร่งยิ่งนัก เราสู้ไม่ไหว…

สัญชาตญาณของเสือยักษ์สีทองบอกมัน หากไม่หนีต้องจบเห่เป็นแน่

“ตายเสียเถอะ วิชาพยัคฆ์พิฆาต!”

มันแผดร้องเสียงดัง กรงเล็บตะปบผิวดินทันใด ฝุ่นผงพวยพุ่งตลบอบอวล

หวังเสวียนจ้านเกร็งไปทั้งตัวเมื่อได้ยิน เตรียมพร้อมรับมือ

สามวินาทีต่อมา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปโดยพลัน พูดเสียงกร้าวว่า “บัดซบ คิดจะหนีหรือ!”

กระแสไฟดังเปรี๊ยะไปทั้งตัว พุ่งออกไปยังทิศทางที่เสือยักษ์สีทองตัวนั้นหลบหนีหายไป

อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนยังยืนแคะหูอยู่ที่เดิม

ดวงตาสุกใสของหลิวเชียนฮ่วนน้ำตารื้น พูดด้วยใบหน้าที่เศร้าหมองว่า “อันหลิน เจ้าว่าข้าหูหนวกไปแล้วหรือยัง ทำไมตอนนี้ข้าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย…”

อันหลินอ้าปากค้าง แหกปากเสียงดังว่า “หา ท่านว่าอะไรนะ!”

หลิวเชียนฮ่วนเห็นปากของอันหลินขยับ ก็ตะโกนลั่นเช่นกันว่า “หา เจ้าว่าอะไรนะ!”

“สวะ จะหนีไปไหน!”

หอกยาวของหวังเสวียนจ้านรายล้อมด้วยกระแสไฟ แปลงร่างเป็นมังกรอัสนี พุ่งใส่เสือยักษ์สีทอง

ความเร็วของมันว่องไวอย่างยิ่ง ประหนึ่งสายฟ้าฟาด แทบจะไม่ให้เวลาเสือยักษ์ตั้งตัวเลย

เสือยักษ์ทันบิดก้นหนีเท่านั้น หอกก็ทะลวงบั้นเอวของมัน กระแสไฟลุกลามไปไกลร้อยจั้ง ฉีกทึ้งปฐพี

เลือดสาดกระเซ็น เสือยักษ์กลิ้งไปทั่วพื้นพร้อมร้องโหยหวน

หวังเสวียนจ้านไม่ยั้งมือ แต่พุ่งเข้าไปหาเสือยักษ์ที่ล้มบนพื้นทันใด หอกยาวพุ่งลงมาพร้อมกับอานุภาพอันทรงพลังอย่างไม่ปรานี

“มังกรศิโรราบ!”

ภาพของมังกรเขียวปรากฏตัวเมื่อหอกพุ่งลงมา ขย้ำเสือยักษ์ที่อยู่เบื้องล่าง

เสือยักษ์สีทองเขย่งเท้า ปล่อยเขตอาคมออกมาสุดกำลัง กระแสลมสีทองก่อตัวเป็นหัวเสือขนาดใหญ่ พุ่งไปหามังกรเขียวพร้อมกับเสียงคำราม

โครม!

มังกรเขียวกับหัวเสือประสานงาและฉีกทึ้งกัน ระเบิดพลังอันน่ากลัวออกมาเต็มกำลัง ผิวดินแตกระแหงและทรุดตัว กระแสลมคลั่งม้วนตัวไปทั่วทุกสารทิศ กลายเป็นพายุหมุนหลายลูก

สุดท้ายมังกรเขียวก็ทลายหัวเสือได้

หอกยาวปล่อยลำแสงเย็นเยียบออกมาทะลวงศีรษะของเสือตัวเขื่อง…

“ยินดีด้วย สรวงสวรรค์ได้หนึ่งคะแนน”

จู่ๆ ก็มีเสียงของรองผู้อำนวยการอวี้หัวดังขึ้น

อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนที่ไล่ตามมาข้างหลังชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงประกาศ จากนั้นก็ลิงโลดในใจ

“ฮ่าๆ ศิษย์พี่หวังเชื่อถือได้จริงๆ ท่าทางเสือยักษ์ตัวนั้นจะถูกเขาจัดการไปแล้ว!” หลิวเชียนฮ่วนโบกหมัดไปมา พร้อมกับพูดอย่างตื่นเต้น

หลังพวกเขาสูญเสียการได้ยินไปชั่วขณะ ตอนนี้นับว่าโสตประสาทฟื้นฟูแล้ว บัดนี้กำลังเหาะไปทางสมรภูมิรบของหวังเสวียนจ้าน

“แบบนี้เท่ากับว่า ทุกครั้งที่ได้จอกศักดิ์สิทธิ์ ก็จะมีประกาศหนึ่งครั้ง ชัดเจนว่าอิทธิพลอื่นยังไม่ได้จอกศักดิ์สิทธิ์ ถือว่ากลุ่มของเราเฟื่องฟูก่อนใคร!” อันหลินพูดยิ้มๆ

ตอนนี้ได้หนึ่งคะแนนก็นับว่าดีแล้ว ดูแล้วความเร็วของกลุ่มไม่เลวเลยทีเดียว

อีกบริเวณหนึ่งของเทือกเขาจงหลง

ออกัสเงยหน้าทอดมองไปไกล พูดอย่างปลงตกว่า “สมกับเป็นตัวแทนของสรวงสวรรค์ แค่ครู่เดียวก็ได้หนึ่งคะแนนมาครองแล้ว”

เชอรีลขำเบาๆ โบกมือแล้วพูดว่า “พวกเราอย่าแย่งที่หนึ่งกับพวกเขาเลย หากพี่อันหลินจริงจังขึ้นมา ควบคุมพลังไม่ได้ แม้แต่ยันต์ประเมินผลการแพ้รบก็อาจจะช่วยพวกเราไม่ได้”

ออกัสพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเมื่อได้ฟัง “แน่นอน พวกเราต้องพยายามหลีกเลี่ยงอย่ามีเรื่องกับคนของสรวงสวรรค์ ส่วนเมืองพุทธกับหอสร้างโลก…ลองดูสักตั้งได้!”

อันหลินเป็นบุคคลที่สังหารได้แม้กระทั่งราชินีอ้านเย่ พวกเขาไม่มีทางโง่จนถึงขั้นไปหาเรื่องอันหลินหรอก มีเพียงหนึ่งชีวิต อยู่รอดปลอดภัยต่างหากที่สำคัญที่สุด

ตัวแทนของเมืองพุทธก็ได้ยินเสียงประกาศที่ดังก้องท้องนภาเช่นกัน แต่พวกเขาไม่มีเวลาพร่ำบ่น

เพราะพวกเขากำลังถูกสัตว์ล้านปีที่สวมมงกุฎที่ทำจากโลหะตัวหนึ่งไล่กวด…

“ศิษย์น้อง พวกเจ้ารีบวิ่งไปในร่องเขาทางนั้น ตรงนั้นเหมาะแก่การหลบซ่อน!” ชิงจือตะโกนลั่น ลูกประคำเก้าสิบเก้าลูกในมือลอยไปหาสัตว์ล้านปี ก่อตัวเป็นค่ายกลยับยั้ง กำราบมันได้ชั่วขณะ

ชิงจือกับชิงเหยียนเหาะไปทางร่องเขาอย่างรวดเร็ว น้ำตารื้นขอบตา

พวกเขาวิ่งด้วยความอัดอั้นตันใจ ไม่ง่ายเลยกว่าจะเจอจอกศักดิ์สิทธิ์ ดีใจจะแย่

ปรากฏว่าเมื่อสู้รบปรบมือ พบว่าสู้สัตว์ล้านปีตัวนี้ไม่ได้ สุดท้ายทั้งสามคนจึงตกอยู่ในสภาพถูกจอกศักดิ์สิทธิ์ไล่ล่า มันช่างน่าอนาถใจและเศร้าใจเสียนี่กระไร…