บทที่ 133 นี่ถึงจะเป็นของล้ำค่า
เจี่ยจิ้งอานได้ยินก็ตกใจขึ้นมาทันที “หรือว่าจะเป็นนักพรตเต๋อหลงของวัดเต๋าหลิงเป่าแห่งเขาเจี๋ยหยาง?”
ชายวัยกลางคนคนนั้นก็ยิ้มอย่างได้ใจ “ถูกต้อง!”
คนอื่นๆ ก็ตกใจเล็กน้อย แล้วก็มองชายวัยกลางคนคนนั้นอย่างอิจฉา
“พี่เอี๋ยนมีเกียรติมากจริงๆ แม้แต่นักพรตเต๋อหลงก็ยังเชิญมาได้!” เซวียเชียนเหอยิ้มพูดอย่างอิจฉา
เฉินโม่ก็มองนักพรตเต๋อหลงคนนั้น ค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย เพราะว่าบนตัวของนักพรตเต๋อหลง มีชี่ทิพย์เคลื่อนไหวอยู่เล็กน้อย ไม่ได้เป็นของนักบู๊ และก็ไม่เหมือนกับปราณหยินบนตัวของชายอ้วนข้างๆ สวีตงฮ่าน
ตามหลักแล้ว ชี่ทิพย์บนตัวของนักพรตเต๋อหลง ค่อนข้างเหมือนของเฉินโม่ เพียงแต่เมื่อเทียบกับพลังทิพย์ในตัวของเฉินโม่แล้ว มันอ่อนแอกว่าหลายขุมนัก
“หมายความว่า บนโลกนี้มีผู้บำเพ็ญอยู่จริง เพียงแต่ว่าไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด หลักธรรมการบำเพ็ญสูญหายไป เหลือไว้เพียงเปลือกนอกเล็กน้อย”
นักพรตเต๋อหลงยกมือคำนับพูดกับทุกคน แล้วก็ค่อยๆ เดินมาที่โต๊ะตรงกลาง พร้อมกับมองไปยังไข่มุกเม็ดนั้น
“เปิด!”
นักพรตเต๋อหลงก็ยื่นมือไปแตะไข่มุกเม็ดนั้น ไข่มุกเม็ดนั้นก็ส่องแสงสีเขียวออกมา ทันใดนั้นในห้องก็ปกคลุมไปด้วยแสงเย็นๆ ระเรื่อ
นักพรตเต๋อหลงก็พูดว่า “ถ้าเดาไม่ผิดล่ะก็ ไข่มุกเม็ดนี้น่าจะเป็นของนักพรตผู้โด่งดังคนใดคนหนึ่งทิ้งไว้ เพราะว่าอยู่กับนักพรตเป็นเวลานาน ได้รับพลังจากชี่ทิพย์ไปด้วย ถ้าคนธรรมดาพกพาติดตัว ก็จะช่วยให้มีสมาธิมีสติปลอดโปร่ง ช่วยเรื่องนอนหลับพักผ่อน”
ทุกคนในห้อง ก็ตาโตกันขึ้นมาหมด แล้วก็แอบซุบซิบคุยกันกับยอดฝีมือที่เข้ามาดูของโบราณ
คนพวกนี้ที่อยู่ในห้อง แทบจะเป็นตัวแทนของทั้งฮ่านหยาง แต่ละคนล้วนไม่ขาดแคลนเรื่องเงิน คนรวยก็อยากจะมีชีวิตที่ยาวกว่าหน่อย แต่ว่าชีวิตอมตะนั้นยากจะเป็นจริง ก็เลยได้แต่ขอให้ได้สิ่งที่รองลงมา ถ้าหากว่าไข่มุกเม็ดนี้สามารถช่วยด้านจิตใจภายในได้จริงๆล่ะก็ ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไร ก็ต้องซื้อมาให้ได้
นักพรตเต๋อหลงพูดจบ ยอดฝีมือที่คนพวกนี้เชิญมา ก็พากันเดินมายังไข่มุกเม็ดนี้ แอบจ้องมองสังเกต แต่ว่าในคนพวกนี้ ส่วนใหญ่มักจะเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจด้านของโบราณและหยก ไม่มีพละกำลัง ไม่อาจแยกแยะของจำพวกเครื่องรางเครื่องรางได้
แต่ว่า พลังเย็นๆ ที่ไข่มุกเม็ดนั้นส่งออกมา มันก็ทำให้คนกระตุกจิตได้จริง ทำให้รู้สึกสมองโล่งคิดอะไรชัดเจนมากขึ้น
สวีตงฮ่านหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “นักพรตเต๋อหลงสมคำร่ำลือจริงๆ มองครั้งเดียวก็รู้ที่มาของไข่มุกเม็ดนี้ ถูกต้อง ไข่มุกเม็ดนี้เป็นของนักพรตผู้ใหญ่คนหนึ่ง นายพรานคนหนึ่งในแถบตะวันตกเฉียงใต้พบเข้าในถ้ำแห่งหนึ่ง ผมรับซื้อมาในราคาสูง”
“เถ้าแก่สวี ไข่มุกเม็ดนี้คุณคิดจะขายราคาเท่าไร เปิดราคามาเลย!” ฟางปู้ถงเศรษฐีอันดับหนึ่งของชิ่งหยางเป่ยขึ้นมาเป็นคนแรก ด้วยสีหน้ามั่นใจว่าได้ของแน่นอน
สวีตงฮ่านยิ้มแต่ไม่พูดอะไร ตาก็มองคนอื่นๆ พบว่าคนอื่นๆ ก็มองเขาด้วยความรอคอยเหมือนกัน ก็เลยหัวเราะขึ้นมาว่า “ราคาเริ่มต้น50ล้าน ใครให้สูงกว่าก็ได้ไป!”
เซวียเชียนเหอหัวเราะพูดว่า “ช่วงนี้ผมมักจะนอนไม่หลับ ระบบประสาทไม่ค่อยดี ทุกท่านก็อย่ามาแย่งไข่มุกเม็ดนี้กับผมเลยก็แล้วกัน ผมให้ราคา100ล้าน”
ฟางปู้ถงยิ้มพูดว่า “คุณท่านเซวียพูดตลกไปแล้วล่ะ ของล้ำค่าแบบนี้ราคา100ล้านจะพอที่ไหนกัน? ผมเพิ่มอีก10ล้าน”
ของอีกสองสิ่งยังไม่ได้ชมกันเลย ทุกคนก็เริ่มแย่งกันแล้ว
สวีตงฮ่านเห็นภาพที่ทุกคนกำลังแย่งกันตรงหน้า ก็ยิ้มอย่างได้ใจ สายตาก็เผยความสะใจที่ได้เห็นออกมา
เจี่ยจิ้งอานก็อยากได้ไข่มุกเม็ดนี้ แต่ว่าในฐานะที่เขาเป็นเจ้าภาพ จำเป็นต้องรักษาบรรยากาศเอาไว้ “เอาเถอะๆ ทุกท่านหยุดก่อน ยังมีของล้ำค่าอีกสองอย่างที่ยังไม่รู้สรรพคุณเลยไม่ใช่หรือครับ? บางทีอาจจะดีกว่าไข่มุกเม็ดนี้ก็ได้!”
ทุกคนก็เลยหยุดการแย่งชิงกันขึ้น แล้วกลับไปนั่งที่เดิม
“นักพรตเต๋อหลง เชิญอธิบายต่อเลยครับ!” เจี่ยจิ้งอานยกมือพูดเชิญด้วยความเคารพ
นักพรตเต๋อหลงพยักหน้า แล้วก็มองไปยังของล้ำค่าอีกสองสิ่ง
เดินวนพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์สำริดไปหนึ่งรอบ นักพรตเต๋อหลงก็มีสีหน้าหนักใจ แล้วยื่นมือไปแตะ “เปิด!”
“ห้ะ!”