ไซ่ตี้จวิ้นเงยหน้าขึ้นช้าๆ เห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของหานกงเยี่ย เขาเข้าใจแววตาของหนานกงเยี่ยเป็นอย่างดี เข้าใกล้ผู้หญิงที่เขารัก เขาไม่อนุญาต
ไซ่ตี้จวิ้นยิ้มเล็กน้อย คลายกอดจากเหลิ่งรั่วปิง “เขามาแล้ว ผมไปก่อนนะ คุณดูแลตัวเองด้วย”
เหลิ่งรั่วปิงเพียงแค่พยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร เพราะไม่ว่าจะพูดอะไรก็เป็นเพียงสิ่งที่เปล่าประโยชน์
มองดูไซ่ตี้จวิ้นขึ้นไปบนเครื่องบิน หนานกงเยี่ยโอบกอดเหลิ่งรั่วปิงเอาไว้ “ไปกันเถอะครับ ชานเมืองอากาศหนาว”
เหลิ่งรั่วปิงไม่ขยับ “รอเครื่องบินบินออกไปก่อน เราค่อยไปค่ะ”
หนานกงเยี่ยกัดฟันแน่นด้วยความเหลืออด “มีอะไรให้รอครับ”เขาช้อนตัวเธอขึ้นมาด้วยความเผด็จการ แล้วเดินตรงไปที่รถ “มาตั้งไกลเพื่อส่งไอ้สารเลวนี่ คุณเคยคิดถึงความรู้สึกของผมที่เป็นสามีไหมครับ”
“คุณหนานกงเยี่ย คุณมันคนขี้น้อยใจ” เหลิ่งรั่วปิงปล่อยให้หนานกงเยี่ยวางตัวเธอลงตรงที่นั่งข้างคนขับ รัดเข็มขัดนิรภัย น้ำเสียงแค้นเคืองมาก “คุณต่างหากที่สารเลว” ใครจะสารเลวได้เท่าเขา ไปถึงงานหมั้นคนอื่นแล้วบีบให้เจ้าสาวออกไปจากงานเลี้ยง?
เหลิ่งรั่วปิงเป็นผู้หญิงเข้มแข็งและเย็นชา จู่ๆ เธอมีสีหน้าแค้นเคืองแบบนี้ เป็นเรื่องยากที่จะเห็น หนานกงเยี่ยอดหัวเราะไม่ได้ “คุณบอกว่าคุณเกลียดผู้หญิงที่เพ้อฝันถึงผู้ชายของคุณไม่ใช่เหรอครับ ในฐานะสามีของคุณ ผมเองก็เกลียดผู้ชายที่เพ้อฝันอยากได้ผู้หญิงของผมเหมือนกัน คุณไล่ผู้หญิงต่ำๆ ได้ ผมเองก็ไล่ผู้ชายสารเลวได้ มีอะไรให้ต้องแค้นใจ”
เหลิ่งรั่วปิงไม่รู้จะพูดอะไร มือเรียวยาวตีไปที่แขนของหนานกงเยี่ย “คุณห้ามว่าไซ่ตี้จวิ้นแบบนี้!”
ไซ่ตี้จวิ้นคือคนสำคัญในชีวิตของเธอ ไม่ใช่ผู้ชายสารเลว!
นับตั้งแต่จดทะเบียนสมรส คำพูดของผู้ชายคนนี้แสดงความเป็นเจ้าของตลอดเวลา แทบอยากจะประกาศให้รู้ว่าเขาคือสามีของเธอ เชื่อเขาเลยจริงๆ
“ครับๆๆ ผู้ชายที่แพ้ไปแล้ว ผมคร้านจะพูดถึงเหมือนกัน” หนานกงเยี่ยยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “แต่ว่าเมียจ๋า ตอนนี้คุณยิ่งอยู่ก็ยิ่งชอบใช้ความรุนแรง อะไรนิดอะไรหน่อยก็ตีผม อนาคตข้างหน้าถ้ามีลูกแล้วคุณยังทำแบบนี้ มันไม่ดีต่อการอบรมสั่งสอนในครอบครัวนะครับ”
“คุณหนานกงเยี่ย!” เหลิ่งรั่วปิงขมวดคิ้วเป็นปม ผู้ชายคนนี้มาพูดหยอกล้อเก่งจริงๆ ไม่พูดอะไรจริงจังสักอย่าง
“ฮ่าๆๆ…” หนานกงเยี่ยหัวเราะ สตาร์ทรถยนต์ “ครับๆ ไม่ทำให้คุณภรรยาโมโหแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”
เหลิ่งรั่วปิงเบ้ปาก อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เพิ่งจดทะเบียนสมรสได้แค่วันเดียว เขาเรียกเธอว่าภรรยามาหลายครั้งนับไม่ถ้วนแล้ว ก็ได้ เธอยอมรับ เธอฟังแล้วมีความสุขมาก
*****
ตั้งแต่กลับมาจากเมืองไห่ ซือคงอวี้รู้สึกเหมือนใช้ชีวิตอยู่บนขุมไฟแห่งนรก
วันนั้น หลังจากเสร็จสิ้นการกู้ภัยระหว่างประเทศ เขาบินกลับประเทศซีหลิงพร้อมกับทีมกู้ภัย ระหว่างบินกลับซีหลิง ผ่านทะเลสาบกว้างใหญ่ หัวใจของเขารู้สึกเหมือนถูกคว้านออกไปจนว่างเปล่า
การเดินทางในครั้งนี้ เขาได้เจอกับผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด แต่กลับพาเธอกลับมาไม่ได้ ในฐานะเจ้าวิหารซีหลิง เขามีอำนาจและเงินทองมากมากมาย แต่กลับไม่อาจทำสิ่งที่ปรารถนา หรือแม้แต่รักใครสักคนก็รักอย่างเปิดเผยไม่ได้
โลกใบนี้มีเรื่องมากมายที่เราทำไม่ได้
ตัวเขากลับไปถึงประเทศซีหลิง แต่ใจของเขากลับอยู่ในเมืองหลง
เขาเป็นห่วงเธอ จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เขารู้สึกสิ้นหวัง ตัวเขาในอดีต ควบคุมดูแลทั่วทั้งประเทศซีหลิง คอยคิดวางแผนกลยุทธ์ ทำการเมืองให้มั่นคง ขจัดพวกต่อต้านออกไป ฆ่าด้วยความเด็ดขาด มีอำนาจเหนือทุกคน แต่เขาในตอนนี้ กลับรู้สึกสิ้นหวังไร้กำลัง ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธออยู่ไหน แต่กลับพาเธอกลับมาไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บ แต่กลับไม่อาจไปพบเธอได้ เช่นนั้น อำนาจและเงินทองพวกนี้มีประโยชน์อะไร
ตอนนี้ ซือคงอวี้นั่งอยู่บนเก้าอี้ทองคำภายในวิหารที่กว้างใหญ่ พิงเก้าอี้ด้วยความเงียบเหงา หลับตาลงช้าๆ คล้ายกำลังโบยบินไปเมืองหลง เขาต้องรีบพาเธอกลับมาซีหลิง แล้วจับตาดูเธอตลอดเวลา ไม่ให้เธอตกอยู่ในอันตรายอีก
“เจ้าวิหารครับ” หมาป่าสีเทาเดินเข้าไปในวิหาร โน้มตัวลงทำความเคารพ
ซือคงอวี้ลืมตาขึ้น ดวงตาราวกับนกฟีนิกซ์ของเขาฉายความเหี้ยมโหด “มีข่าวใหม่ของเธอหรือยัง”
คนของวิหารคอยจับตาดูเหลิ่งรั่วปิงตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่เพราะหนานกงเยี่ยเก็บเป็นความลับอย่างดี เกรงว่าซือคงอวี้คงจะรู้อาการและการเดินทางของเหลิ่งรั่วปิงตลอดเวลา
“ครับ เจ้าวิหาร” หมาป่าสีเทามองดูสภาพอิดโรยของซือคงอวี้ด้วยความปวดใจ เพราะสิ่งที่จะพูดต่อไปนี้ทำให้เขาเสียใจแน่นอน “นางฟ้ารัตติกาลหายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ…”
หมาป่าสีเทาทำใจรายงานเรื่องต่อไปนี้ของนางฟ้ารัตติกาลให้ซือคงอวี้ไม่ได้จริงๆ ด้วยเหตุนี้เขาจึงหยุดพูด
ซือคงอวี้จ้องมองหมาสีเทา “แค่นี้?”
“ยังมีอีกครับ นางฟ้ารัตติกาสูญเสียการมองเห็นครับ”
“นายพูดว่าอะไรนะ” ซือคงอวี้ยืนขึ้นด้วยความโกรธ เดินลงจากบันไดที่นั่ง มาถึงตรงหน้าหมาป่าสีเทา “ทำไมเธอถึงสูญเสียการมองเห็น หืม?”
หมาป่าสีเทาก้มหน้าลงด้วยความตึงเครียด รีบรายงานทันที “ท้ายทอยของนางฟ้ารัตติกาลได้รับการกระทบกระเทือน ทำให้เลือดออกในสมอง มีลิ่มเลือดกดทับเส้นประสาท จึงทำให้สูญเสียการมองเห็น”
ซือคงอวี้เดินวนไปมาที่เดิมด้วยความกังวล “โรงพยาบาลของตระกูลหนานกงมีการรักษาระดับแนวหน้าของโลกไม่ใช่เหรอ ทำไมเขาไม่รักษาเธอ”
“จากการสืบ พบว่าการผ่าตัดมีความเสี่ยงสูงครับ หนานกงเลือกใช้ยาในการรักษา แต่วิธีการรักษานี้ต้องใช้เวลานาน อีกทั้งผลการรักษาไม่อาจคาดการณ์ได้”
หลังจากฟังหมาป่าสีเทาพูดจบ ดวงตาทั้งสองข้างของซือคงอวี้มีเส้นเลือดปรากฏออกมาเพราะความเป็นห่วงและกังวล “ความหมายของนายคือ เธออาจจะไม่สามารถกลับมามองเห็นได้อีก?!”
หมาป่าสีเทาโค้งลำตัวลง “ครับ”
ทันใดนั้นเอง ซือคงอวี้หมุนตัวหันหลัง หยิบมีดบินในมือออกมา เขวี้ยงไปยังวัตถุศักดิ์สิทธิ์บนโต๊ะจนพังทลาย “หนานกงเยี่ย แกหลอกรั่วปิงของฉันไป แต่กลับปกป้องเธอไม่ได้ แกสมควรตาย!” เสียงของเขาเริ่มเคล้าไปด้วยความกระหายเลือด
หมาป่าสีเทาหวาดกลัวจนเริ่มสั่นเทาเล็กน้อย หลังจากผ่านการคิดพิจาณาครู่หนึ่ง เขาจึงพูดอีก “เจ้าวิหารครับ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งครับ”
แววตาคมเฉียบของซือคงอวี้จดจ้องไปยังหมาป่าสีเทา พูดเสียงดังก้อง “พูดมา!”
หมาป่าสีเทาพยายามปรับเสียงของตนเอง สูดลมหายใจเข้า รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี “นางฟ้ารัตติกาลและหนานกงเยี่ยจดทะเบียนสมรสกันแล้วครับ”
ข่าวนี้ ราวกับก้อนหินตกลงสู่ทะเล ทะเลที่กำลังเดือดดาลอยู่นั้น เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นอีกครั้ง
ซือคงอวี้นิ่งเงียบ รอบตัวของเขามีแต่ความโกรธเคือง ดวงตาทั้งสองคล้ายจะถลนออกมา มือทั้งสองที่ระนาบกับตัวกำหมัดแน่น ข้อกระดูกเสียดสีจนเกิดเสียงดังก้องทั่วทั้งวิหารที่กว้างใหญ่ ช่างน่าหวาดกลัวและตกตะลึง
เธอหักหลังเขาครั้งแล้วครั้งเล่า และยังกล้าแต่งงานกับคนอื่น!
หนานกงเยี่ย แกตายหมื่นครั้งก็ยังไม่พอ!
รอบตัวซือคงอวี้มีออร่าสังหาร หมาป่าสีเทารู้สึกเหมือนทั่วทั้งวิหารกำลังสั่นไหว “เจ้าวิหารครับ แค่ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น ให้ความสำคัญกับส่วนรวม”
ซือคงอวี้ปล่อยฝ่ามือออกไป หมาป่าสีเทาล้มลงกับพื้น “นายยังกล้าเกลี้ยกล่อมฉัน ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะนายปล่อยเธอไป จะมีเรื่องวันนี้?!”
“ผมสมควรตาย!”หมาป่าสีเทาเสียใจมาก เขาเสียใจมากจริงๆ ถ้ารู้ว่าซือคงอวี้ให้ความสำคัญกับเหลิ่งรั่วปิงมากขนาดนี้ ตอนนั้นไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่กล้าปล่อยเธอไป
ซือคงอวี้กัดฟันกรอดแล้วดึงมือกลับ มองดูหมาป่าสีเทาด้วยความปวดใจ “หมาป่าสีเทา นายกับฉันโตมาด้วยกัน ถึงแม้จะเป็นนายกับบ่าว แต่ฉันเห็นนายเหมือนพี่น้องร่วมเป็นร่วมตาย ฉันใช้ชีวิตอยู่ในวิหารที่เย็นเยียบนี้มานานกว่ายี่สิบปี เหลิ่งรั่วปิงคือความหวังเดียวในชีวิตฉัน ฉันเฝ้ารอให้เธอเป็นผู้หญิงของฉันมานานกว่าเจ็ดปี ขณะที่ฉันกำลังรอการกลับมาของเธอ แต่นายกลับใช้มีดกรีดแทงหัวใจฉัน หมาป่าสีเทา นายสมควรที่จะเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของฉันเหรอ!”
สิ้นเสียง ซือคงอวี้คว้าปืนบริเวณเอวออกมา ยิงไปที่กระจกของวิหาร เขาทำใจไม่ได้ ไม่อาจฆ่าหมาป่าสีเทาได้ มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะระบายความเจ็บปวดของเขา
หมาป่าสีเทาคุกเข่าอยู่บนพื้น ร้องไห้โดยไม่มีเสียง เขารู้มาโดยตลอด ซือคงอวี้ให้ความสำคัญกับเขามาก ไม่ว่าซือคงอวี้จะพูดจาเหี้ยมเกรียมแค่ไหน แต่ก็เห็นแก่ความสัมพันธ์ของพวกตนที่เติบโตมาด้วยกัน เขาทำผิด ซือคงอวี้ทำใจฆ่าเขาไม่ลง เขาเป็นคนทำผิดต่อความเชื่อใจของเจ้าวิหาร ถ้าเป็นไปได้ เขายินดีที่จะตายเพื่อชดใช้ความผิด แต่เขารู้ว่าซือคงอี้ไม่อยากเห็นเขาตาย นอกจากเขาแล้ว ซือคงอวี้ไม่มีญาติมิตรที่ไหน ความสัมพันธ์ของคนตระกูลซือคงนั้นจืดจางมาก
“เจ้าวิหารครับ หมาป่าสีเทาผิดไปแล้ว หลังจากนี้ผมจะไม่มีวันทรยศคำสั่งของเจ้าวิหารอีก” หมาป่าสีเทาคือผู้ชายอกสามศอก แต่ตอนนี้กลับมีน้ำตารินไหลงมา
ซือคงอวี้หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด วิหารกว้างใหญ่เข้าสู่ความเงียบ
หลังจากผ่านไปนานครู่หนึ่ง ซือคงอวี้ค่อยๆ ลืมตาขึ้น แววตาของเขานิ่งสงบราวกับน้ำในบ่อบาดาล “นายไปเมืองหลง ทำทุกอย่าง เพื่อพาเธอกลับซีหลิง”
หมาป่าสีเทาเงยหน้าขึ้น “แต่ตอนนี้ เธอแต่งงานแล้ว วันข้างหน้า…” วันข้างหน้าถ้าซือคงอวี้อยากจะแต่งงานกับเธอ คงไม่สะดวกที่จะป่าวประกาศออกไป
“ฉันจะจัดการเอง นายแค่รับผิดชอบพาเธอกลับมา” สายตาของซือคงอวี้แน่วแน่ ต่อให้เธอแต่งงานกับหนานกงเยี่ยแล้วอย่างไรเล่า เขาก็มีวิธีทำให้เธอกลายเป็นภรรยาของซือคงอวี้ ก็แค่เปลี่ยนตัวตนให้เธอเท่านั้น
“ครับ” หมาป่าสีเทาพยักหน้า ตามด้วยลังเลเล็กน้อย “ตาของเธอ…”
“พาเธอกลับซีหลิง ฉันจะให้หมอที่เก่งที่สุดในโลกรักษาเธอ”
“ครับ” หมาป่าสีเทาจะไปดำเนินการเดี๋ยวนี้ ต้องพานางฟ้ารัตติกาลกลับมาได้แน่นอนครับ”
ดวงตาราวกับนกฟีนิกซ์ของซือคงอวี้หลับตาลง คล้ายกับปีศาจชั่วร้าย “ไปเถอะ ฉันจะให้หลินมั่นหรูช่วยนาย”
“ครับ” หมาป่าสีเทาก้าวเดินด้วยความหนักแน่น ออกไปจากวิหาร ครั้งนี้ เขาจะไม่หวั่นไหวเพราะเรื่องอะไรอีกแล้ว ต้องพาเหลิ่งรั่วปิงกลับมาตรงหน้าเจ้าวิหารให้ได้
หลังจากหมาป่าสีเทาออกไป ซือคงอวี้ลุกขึ้น แสงอาทิตย์ที่กำลังตกดินสาดส่องมายังผมสีดำสนิทและหยักเล็กน้อยของเขา แสงแดดย้อมให้ผมกลายเป็นสีแดง ทั่วทั้งวิหารเข้าสู่ความเงียบเหงา
หลังจากผ่านไปนานครู่หนึ่ง ซือคงอวี้บอกกับคนนอกวิหาร “พาตัวอาเธอร์มา”
ครู่หนึ่ง อาเธอร์เดินเข้ามาในวิหาร โค้งตัวลงทำความเคารพ “เจ้าวิหารครับ”
ซือคงอวี้หันกลับไป มองดูอาเธอร์ที่ถูกลงโทษในคุกนานตลอดฤดูหนาว บุรุษแข็งแกร่งมากความสามารถที่ทำภารกิจสำคัญมากมายให้กับวิหาร ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ แปรเปลี่ยนเป็นซูบผอม สีหน้าซีดขาว เสื้อผ้าฉีกขาด มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่ยังเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ
ภายในใจซือคงอวี้เจ็บปวดเล็กน้อย อาเธอร์คือคนจงรักภักดีที่วิหารทุ่มเทแรงกายแรงใจในการฝึก เขาไม่อยากทำลายคนที่มีความสามารถ ยิ่งไปกว่านั้นเหลิ่งรั่วปิงยังเห็นอาเธอร์เป็นญาติคนหนึ่งของเธอ
“อาเธอร์ นายแค้นเคืองไหม”