ตอนที่ 419 คุณกล้าตบฉันเหรอ / ตอนที่ 420 ถ้าเธอไม่ขึ้นเวที ฉันจะขึ้นเอง!

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 419 คุณกล้าตบฉันเหรอ

 

 

เดี๋ยวก็ขอเปลี่ยนสไตลิสต์ สุดท้ายยังขอแก้บทพูดอีกด้วย…

 

 

พอไม่พอใจขึ้นมา เธอก็ใส่อารมณ์กับเหล่าพนักงาน

 

 

คำพูดของเหนียนเสี่ยวมู่ทำให้จางฉีหน้าเสียอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นไม่นาน ดาราสาวก็เชิดหน้าขึ้น “คุณพูดของคุณเองนะคะ ฉันไม่ได้พูด ลูกน้องของคุณไม่ได้เรื่องเอง ยกน้ำมาก็ทำหกใส่ตัวฉัน หรือว่าจะให้ฉันอดกลั้นเอาไว้ล่ะคะ”

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เสี่ยวเสี่ยวก็ร้อนใจอยากจะอธิบาย แต่เลขากลับรั้งเธอไว้ บอกให้เธออย่าพูด

 

 

ถึงแม้พวกเขาจะยืนยันกับเพื่อนร่วมงานแล้ว ว่าจางฉีจงใจชนแขนของเสี่ยวเสี่ยว เพราะอยากจะใส่อารมณ์กับเธอ แต่กลับไม่ทันระวังไปโดนแก้วน้ำในมือของเสี่ยวเสี่ยวเข้า ตัวเองถึงได้เปียกปอนตามไปด้วย

 

 

ด้วยนิสัยของจางฉีแล้ว ต้องไม่ยอมรับแน่ๆ

 

 

และต้องพลิกลิ้น บอกว่าพวกเสี่ยวเสี่ยวปกป้องกันเอง

 

 

ตอนนี้งานกำลังจะเริ่มแล้ว ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือง้อจางฉี ให้เธอขึ้นไปบนเวที

 

 

เรื่องอื่นค่อยคุยกันก็ได้

 

 

“คุณจางว่ายังไงก็ตามนั้นค่ะ คุณทั้งตีทั้งต่อว่าแล้ว เพื่อนร่วมงานของฉันก็ขอโทษคุณแล้ว คุณยังอยากให้ทำยังไงอีกคะ” สองมือของเหนียนเสี่ยวมู่กำหมัด พลางย้อนถามอย่างชัดถ้อยชัดคำ

 

 

ถ้าเป็นเวลาปกติ หญิงสาวคงจะทนไม่ไหว ตั้งแต่ใบหน้าบวมปูดของเสี่ยวเสี่ยวแล้ว

 

 

เมื่อวานประธานฟางรู้สึกว่าเธอไม่ให้เกียรติเพราะไม่ยอมดื่มเหล้าไปแล้ว

 

 

ถ้างานในวันนี้ยังเกิดปัญหาอีก ก็กลัวแต่ว่าประธานฟางจะเข้าใจผิด คิดว่าเธอจงใจแก้แค้น ส่งผลกระทบถึงความน่าเชื่อถือของลูกค้าที่มีต่อบริษัทตระกูลอวี๋

 

 

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงงานอีเวนท์สาธารณะแรกที่พวกเขาจัด หลังจากที่บริษัทตระกูลฟ่านเข้ามาในเมืองเอช

 

 

ถ้างานวันนี้พัง ก็ต้องรอไปอีก…

 

 

“เธอทำเสื้อผ้าขึ้นเวทีของฉันสกปรกแล้ว พูดขอโทษคำเดียวก็จบได้แล้วเหรอ”

 

 

จางฉียืนขึ้นจากโซฟา ก่อนจะใช้นิ้วมือที่ทาเล็บสีแดงเงาวับไปที่เสี่ยวเสี่ยวอย่างเย่อหยิ่ง “ฉันอยากให้เธอคุกเข่ายอมรับผิด ไม่งั้นอย่าฝันว่าวันนี้ฉันจะขึ้นเวทีเลย!”

 

 

“งั้นคุณก็ฝันไปเถอะค่ะ!”

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พูดออกไปโดยไม่ต้องคิด

 

 

พนักงานก็เป็นคนเหมือนกัน แค่ทำงานให้ก็อดทนมากพอแล้ว ยังจะดูถูกกันอีกเหรอเนี่ย!

 

 

“คุณจาง ฉันหวังว่าคุณจะเข้าใจ การร่วมงานครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะคุณเซ็นสัญญากับพวกเราแล้ว ถ้าคุณไม่ขึ้นเวที ก็ต้องเสียเงินค่าปรับโทษฐานผิดสัญญาเป็นจำนวนมาก ฉันว่าคุณคิดให้ดีเถอะค่ะ!”

 

 

“คุณขู่ฉันเหรอ? เห็นฉันเป็นอะไร!” จางฉีได้ยินว่าต้องจ่ายค่าปรับ จึงพุ่งเข้าใส่เหนียนเสี่ยวมู่เหมือนแมวโดนเหยียบหางในทันที

 

 

“ฉันจะบอกพวกคุณให้นะคะ ฉันมีแฟนคลับหลายล้านคน ถ้ารูปที่ฉันโดนสาดน้ำหลุดออกไป แฟนคลับของฉันต้องเรียกร้องความยุติธรรมแทนฉันแน่ ถึงตอนนั้นงานคงพังเละไม่เป็นท่า ผู้ลงทุนก็ต้องมาคิดบัญชีกับพวกคุณแน่!”

 

 

“แล้วมันยังไงคะ? ก่อนจะถึงตอนนั้น คุณก็ต้องเสียเงินค่าผิดสัญญาก่อนอยู่ดี!” เหนียนเสี่ยวมู่ตอบอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้

 

 

“คุณ…” จางฉีอายจนโมโหในทันที พลางเงื้อมือจะฟาดเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

แต่มือของดาราสาวยังไม่ทันสัมผัสหน้าของเหนียนเสี่ยวมู่ ก็ถูกเธอจับข้อมือเอาไว้เสียก่อน

 

 

จากนั้นเหนียนเสี่ยวมู่ก็พลิกมือของเธอ แล้วสะบัดลงบนหน้าของจางฉีเองอย่างแรง!

 

 

“ครั้งนี้ถือว่าฉันเอาคืนคุณให้เสี่ยวเสี่ยวแล้วกันค่ะ!”

 

 

หลังจากสะบัดมือออกไป จางฉีถอยหลังไปเพราะยืนไม่อยู่ ก่อนจะก้นจ้ำเบ้าลงบนโซฟา

 

 

“คุณกล้าตบฉันเหรอ เหนียนเสี่ยวมู่ ฉันจะบอกคุณให้ ฉันจะไม่ร่วมงานในวันนี้เด็ดขาด คุณรอดูพาดหัวข่าวได้เลย!”

 

 

 

 

ตอนที่ 420 ถ้าเธอไม่ขึ้นเวที ฉันจะขึ้นเอง!

 

 

หลังจากจางฉีพูดจบ พิธีกรที่รับผิดชอบงานอีเวนท์ก็รีบเดินเข้ามาจากข้างนอก

 

 

เมื่อได้ยินคำพูดของพิธีกรแล้ว ใบหน้าโกรธเกรี้ยวของจางฉีเมื่อครู่นี้ พลันปรากฏรอยยิ้มเยือกเย็นทันที

 

 

ดาราสาวค่อยๆ ใช้มือยันโซฟาเพื่อลุกขึ้น

 

 

ก่อนจะมองเหนียนเสี่ยวมู่ด้วยสายตาลำพองใจ

 

 

“เมื่อกี้ยังขวางโลกอยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ไม่พูดแล้วล่ะ ฉันจะบอกพวกคุณให้นะ ถ้าวันนี้ฉันไม่ขึ้นเวที ดูสิว่าพวกคุณจะยังมีหน้าไปพูดกับนักลงทุนและนักข่าวมากมายข้างนอกนั่นยังไง”

 

 

ตอนนี้น้ำที่อยู่ไกลจัดการไฟที่อยู่ใกล้ไม่ได้แล้ว

 

 

ถ้าอยากให้งานอีเวนท์ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น ก็ต้องหาคนขึ้นไปบนเวทีในทันที

 

 

จางฉีในเวลานี้เหมือนได้ถือไพ่เหนือกว่า จึงสาวเท้ามาข้างหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ แล้วเท้าเอว

 

 

“ขอร้องฉันสิ คุกเข่าลงขอร้องฉันซะดีๆ ฉันอาจจะลองคิดดูก็ได้ ร้องไห้อ้อนวอนให้ฉันช่วยพวกคุณสักครั้ง”

 

 

ครั้นได้ยินดังนั้น เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันได้พูดอะไร พิธีกรก็เบียดมาข้างหน้าเธอเสียก่อน

 

 

“ผู้จัดการเหนียน คุณเป็นผู้รับผิดชอบของงานนี้ เรื่องนี้คุณต้องตัดสินใจในทันที ไม่งั้นทางนักลงทุนสืบสาวขึ้นมาแล้ว พวกฉันก็ต้องจ่ายเงินค่าปรับผิดสัญญา ไม่ว่าตอนนี้จะพูดอะไร ก็ดีสู้ให้คนขึ้นไปบนเวทีก่อนไม่ได้หรอก!”

 

 

“ได้ยินหรือยังคะ ฉันบอกให้คุณขอร้องฉันไงล่ะ!” จางฉีพูดต่อจากพิธีการ พลางยิ้มเยาะ “คุณคิดว่าตอนนี้นอกจากฉันแล้ว คุณยังมีตัวเลือกอื่นอีกเหรอ วันนี้ฉันจะสั่งสอนกฎของวงการนี้ให้คุณเอง!”

 

 

จางฉีเดินกลับไปนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะยกขาขึ้นมาไขว่ห้าง

 

 

สองมือของดาราสาววางอยู่บนพนักวางแขนของโซฟาอย่างเย่อหยิ่ง พร้อมกับเลิกคิ้วอย่างโอหัง

 

 

เวลาไม่คอยท่าแล้ว

 

 

ถ้าเปลี่ยนคนในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสม

 

 

ดีร้ายอย่างไรจางฉีก็เป็นดาราชั้นสอง ถ้าเปลี่ยนเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังกว่าเธอได้ ถึงจะทำให้นักลงทุนพอใจ

 

 

แม้เสี่ยวเสี่ยวจะยังอายุน้อย แต่ก็รู้ความสัมพันธ์ของกำไรและขาดทุนที่อยู่ภายใน

 

 

เธอเดินมาข้างๆ เหนียนเสี่ยวมู่พร้อมขอบตาแดงก่ำ “ผู้จัดการเหนียน ฉันรู้ว่าคุณทำไปเพื่อช่วยฉัน เรื่องในวันนี้ฉันจัดการได้ไม่ดีเอง เลยต้องทำให้คุณเหนื่อยไปด้วย ฉันจะไปขอโทษคุณจางเอง…”

 

 

“ดูท่าทางพวกคุณต้องยกเลิกงานนี้แล้ว ก็ดีเหมือนกัน ฉันไม่ร่วมงานในวันนี้ ดูสิว่าพวกคุณจะทำยังไง!” จางฉีกัดฟันขู่

 

 

 สีหน้าของพิธีกรงานอีเวนท์เปลี่ยนไปแล้ว

 

 

อีกไม่ถึงสิบนาที งานก็จะเริ่มขึ้น

 

 

ถ้าพวกเขาปล่อยจางฉีไป แล้วจะหานักแสดงที่คุณสมบัติพอๆ กันคนไหนมาได้ทันในสิบนาทีล่ะ

 

 

“ถ้าเธอไม่ขึ้นเวที ฉันจะขึ้นเอง!”

 

 

เสียงใสแจ๋วดังมาจากข้างนอกประตู

 

 

ทุกคนต่างตะลึงงัน แล้วหันมองไปยังต้นเสียงอย่างพร้อมเพรียงในทันที

 

 

ครั้นเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างนอกประตูแล้ว ทุกคนก็ตะตกลึงอย่างแรง!

 

 

ตกตะลึงจนต้องร้องตะโกนออกมา

 

 

“ซะ ซ่างซิน…”

 

 

ซ่างซินมองข้ามทุกคนไป เธอยื่นมือถอดหมวกแก็ปลง แล้วเดินไปข้างหน้าเหนียนเสี่ยวมู่

 

 

หญิงสาวมองเหนียนเสี่ยวมู่พร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะกล่าวทักทายอย่างสนิทสนม แล้วถึงเสมองจางฉีที่ตะลึงงันอยู่บนโซฟา

 

 

เธอไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้างดงามโดดเด่นและรัศมีดาราที่เหมือนฟ้าประทานมา ก็ทำให้จางฉีหน้าซีดเผือดแล้ว!

 

 

หากเทียบกับดาราสาวนิสัยดีอย่างแท้จริงเช่นซ่างซินแล้ว จางฉีไม่มีค่าพอให้พูดถึงด้วยซ้ำ!

 

 

ใครๆ ก็รู้ว่าทั่วทั้งวงการนี้ ซ่างซินเป็นคนที่เชิญมาร่วมงานได้ยากมาก

 

 

อย่าว่าแต่งานอีเวนท์เล็กๆ แบบนี้เลย ขอให้เธอไปออกงานอีเวนท์ใหญ่ก็ยากมากเช่นกัน

 

 

ทำไมเธอถึงช่วยเหนียนเสี่ยวมู่!