ตอนที่ 204 : ปล้นรึขโมย

“ ฟรืดดด…”  หลังจากที่อ่านสถานะของไทแรนโนซอรัสแล้ว หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แค่สกิลพุ่งชนเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เขาหวั่นใจได้แล้ว

หากใช้มันเป็นพาหนะให้กับทหารม้าของเขาที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น ก็คงจะน่าเกรงขามมาก

แน่นอนว่าข้อเสียของมันชัดเจนอยู่แล้ว เพราะขนาดตัวที่ใหญ่จนเกินไป มันจึงไม่เหมาะที่จะใช้ในการเดินทางและโจมตีระยะไกล แต่ข้อดีของมันก็ชัดเจนเช่นกัน มันสามาถระเบิดพลังในการโจมตีระยะใกล้ได้รวมถึงความแข็งแกร่งที่สูงของมันด้วย

หวังเย่าครุ่นคิดสักพักก่อนจะกัดฟันและตัดสินใจที่จะเสี่ยงดูว่าจะชิงเอาไข่ของไทแรนโนซอรัสมาได้รึไม่

มิติดวงจันทร์นั้นกว้างใหญ่ การจะเจอกับสัตว์อสูรที่เหมาะสมอย่างไทแรนโนซอรัสนั้นคงเป็นเรื่องที่ยาก เรื่องแบบนี้มันอาจจะต้องพึ่งโชค แต่ตอนนี้เขาเจอมันแล้วจึงไม่อยากจะทิ้งโอกาสนี้ไป

“ตอนนี้ฉันต้องซ่อนตัวรอให้พวกมันกลับไปที่รังก่อน แล้วรอโอกาสลงมือ”

เพราะด้วยลูกแก้ววิญญาณดินจึงทำให้ความสามารถในการซ่อนตัวของหวังเย่าเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก เขาสามารถขุดหลุมขึ้นมาและซ่อนตัวอยู่ใต้ดินได้

ผ่านไปอีก 1 วันกลุ่มไทแรนโนซอรัสก็ได้เดินหน้าไปยังทิศทางหนึ่งโดยมีหวังเย่าตามไปติด ๆ

อันที่จริงแล้วเขาไม่ต้องระวังตัวแบบนี้ก็ได้เพราะหลังจากที่ตรวจสอบสถานะของไทแรนโนซอรัสแล้ว เขาก็พบว่าพวกมันไม่มีความสามารถในการตรวจจับ

แต่เพราะเขาติดนิสัยในการระวังตัวแบบนี้ไปแล้ว

หลังจากเดินทางได้ 20 ไมล์ สุดท้ายไทแรนโนซอรัสก็ได้เข้าไปในหุบเขาแห่งหนึ่ง ซึ่งผาทั้งสองข้างนั้นสูงกว่า 200-300 เมตร หุบเขาแห่งนี้มีขนาดใหญ่พอสำหรับฝูงสัตว์อสูรที่จะพักอาศัยได้

หวังเย่าเลือกที่จะขุดอุโมงค์ขึ้นมาและให้ตือโป๊ยก่ายออกไปตรวจสอบสถานการณ์ภายนอก

มันมีไทแรนโนซอรัสอย่างน้อย 200 ตัวในหุบเขาแห่งนี้ ยิ่งไทแรนโนซอรัสแข็งแกร่งเท่าไหร่ ที่พักของมันก็ยิ่งอยู่ลึกเข้าไปมากเท่านั้น มันเป็นธรรมดาที่หัวหน้าฝูงจะอยู่ด้านในสุดของหุบเขา

หวังเย่าได้ขุดอุโมงค์จนไปถึงอีกด้านของภูเขา เขาได้ทำการเจาะรูเพื่อแอบดูสถานการณ์ภายนอก ด้วยแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา เขาจึงพอเห็นอีกด้านของหุบเขาได้

มันมีไทแรนโนซอรัส 3 ตัวนอนอยู่บนผืนหญ้า ไทแรนโนซอรัสตัวน้อยเลเวลแค่ 11 มันเล่นกันสักพักก่อนจะผล็อยหลับไป โดยมีไทแรนโนซอรัสที่โตแล้วอีก 2 ตัวคอยดูแลไทแรนโนซอรัสตัวน้อยที่หลับอยู่

สิ่งนี้ทำให้หวังเย่าต้องคิ้วขมวด ไม่คิดเลยว่าแม้จะกลับมาที่รังแล้ว แต่ไทแรนโนซอรัสก็ยังระวังตัวดังเดิม แล้วแบบนี้พวกมันจะดูแลไข่ดีขนาดไหน ?

เพราะไทแรนโนซอรัสนั้นชอบที่โล่งแจ้ง ดังนั้นไข่ของพวกมันก็ไม่น่าจะถูกเก็บไว้ใต้ดิน  หวังเย่าคิดว่าในหุบเขานี้คงมีที่พิเศษที่พวกมันใช้เก็บไข่อยู่

ถ้าส่งหลงปู้หยู๋และคนอื่น ๆ มาที่นี่ หวังเย่าก็ไม่มั่นใจว่าพวกนั้นจะขโมยไข่ออกมาโดยไม่ทำให้พวกไทแรนโนซอรัสรู้ตัวได้รึไม่

การที่สัตว์อสูรอยู่เพียงลำพังกับการอยู่เป็นฝูงนั้นแตกต่างกัน มันมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อการลงมือของพวกเขา

หวังเย่าเลิกกังวลและเอาอาหารออกมากินก่อนจะหลับไป

เช้าวันต่อมา หวังเย่าก็ตื่นขึ้นเพราะการเคลื่อนไหวในหุบเขา เมื่อมองผ่านรูไปก็พบว่าไทแรนโนซอรัสที่เป็นหัวหน้าฝูงได้พาไทแรนโนซอรัสตัวอื่น ๆ เดินทางออกไปนอกหุบเขา ดูเหมือนว่ามันจะออกไปล่าอาหาร

หวังเย่าใจชื้นขึ้นมา เขาได้สั่งให้ตือโป๊ยก่ายออกไปสำรวจหุบเขาและกลับมารายงานกับเขา

“มีไทแรนโนซอรัสในหุบเขาอยู่ประมาณ 60 ตัว  มี 16 ตัวเดินตรวจตราด้านนอก  มี 2 ตัวที่ทางเข้า ในหุบเขานี้มีไทแรนโนซอรัสตัวเมียอยู่ แต่ด้านในสุดของหุบเขานั้นมีไทแรนโนซอรัส 6 ตัวคอยดูแล มันมีถ้ำอยู่ 3 แห่ง ถ้ำตรงกลางคือส่วนที่หัวหน้าฝูงอยู่ ”

หลังจากที่ได้รับรายงานจากตือโป๊ยก่าย หวังเย่าก็พอเข้าใจสถานการณ์ของหุบเขาแห่งนี้

“ตือโป๊ยก่ายหาไข่ไม่เจอ แต่ด้านในสุดมี 3 ถ้ำ นอกจากถ้ำตรงกลางที่เป็นที่อยู่ของหัวหน้าฝูงแล้ว มันยังเหลืออีก 2 ถ้ำ หนึ่งในนั้นต้องเป็นที่เก็บไข่แน่ ๆ ส่วนอีกถ้ำน่าจะเป็นที่เก็บสมบัติ”

ยังไงซะไทแรนโนซอรัสก็มีสายเลือดมังกรอยู่ มันคือลูกหลานของมังกร พวกมันมักจะเก็บสมบัติเอาไว้ นิสัยโลภมากแบบนี้เห็นได้จากมังกรเพลิงที่เก็บสมบัติเอาไว้เป็นจำนวนมาก

“ตือโป๊ยก่ายใช้สกิลกลืนแสงเข้าไปตรวจสอบถ้ำทั้งสองให้ฉันที”  หวังเย่าสั่งการออกมา

เมื่อตือโป๊ยก่ายใช้สกิลกลืนแสง มันก็ได้ดูดซับแสงทั้งหมดก่อนที่จะหายตัวไป แต่ในร่างนี้มันจะเคลื่อนที่ได้ช้ามาก หากเคลื่อนไหวเร็วเกินไปก็อาจจะทำให้ร่างของมันเผยตัวออกมาได้

หวังเย่ารอกว่า 15 นาทีก่อนจะได้รับรายงานจากตือโป๊ยก่าย

แน่นอนว่าถ้ำทางซ้ายนั้นคือคลังที่เต็มไปด้วยสมบัติมากมาย ส่วนถ้ำทางขวานั้นเต็มไปด้วยไข่มากกว่า 20 ใบ และมีไทแรนโนซอรัสตัวเมีย 3 ตัวอยู่ด้วย ทุกตัวกำลังกกไข่อยู่

หวังเย่าขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่เคยเห็นสัตว์อสูรฟักไข่ เคยเห็นแต่ไก่กกไข่ตัวเอง และกระบวนการนี้กินเวลาพอสมควร เพื่อที่จะฟักไข่ออกมา พวกไก่ไม่อาจจะเคลื่อนที่ไปไหนได้

หากไทแรนโนซอรัสเป็นแบบเดียวกับไก่ งั้นเขาก็ไม่มีโอกาสที่จะลงมือ หลังจากที่ฟักไข่ใบเดิมเสร็จ ไทแรนโนซอรัสคงต้องทำการฟักไข่ใบต่อไป  งั้นเขาก็จะไม่มีโอกาสขโมยมันออกมาได้

“ ถ้าขโมยมันออกมาไม่ได้ก็ปล้นมันโต้ง ๆ นี่แหละ จะขโมยหรือปล้นผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน ตราบใดที่ได้ไข่พวกนี้มาก็พอแล้ว”  หวังเย่ากัดฟันแน่นพร้อมกับใช้ลูกแก้ววิญญาณดินเปิดโพรงเพื่อเดินหน้าไปยังถ้ำทางซ้าย

เขาเจาะรูที่กำแพงและมองเข้าไปด้านในก่อนจะพบว่าด้านในมีไข่กว่า 27 ใบ ขนาดของมันเท่ากับตะกร้า มันมีไข่ 3 ใบที่กำลังถูกฟักอยู่

“ฟู่ ! “  หวังเย่าถอนหายใจออกมาเมื่อพบกว่าไทแรนโนซอรัสทั้งสามตัวหันหน้าไปทางปากถ้ำ และไม่รู้ตัวว่าหวังเย่าอยู่ที่นี่ด้วย ที่หน้าปากถ้ำมีไทแรนโนซอรัสเฝ้าไว้ เดินไปมาอยู่ตลอด

หวังเย่าคิดว่าถ้าปล้นมันตรง ๆ งั้นเขาคงได้ไข่กลับมาไม่มากนัก

ดังนั้นเขาควรที่จะทำการขโมยไข่ออกมาก่อน หากถูกพบก็ค่อยทำการปล้นมัน ความกดดันมันจะลดลงมาอย่างมาก…