บทที่ 166 คำขู่ของหวงปิน

ท่านเทพกลับมาเป็นคุณพ่อ[神尊归来当奶爸]

“แม่งเอ๊ย! พวกแกนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ!”

หวงปินตะโกนด่าดังลั่นเมื่อเห็นว่าลูกน้องของตัวเองช่างไร้ประโยชน์ไม่สามารถจัดการได้กับอีแค่คน ๆ เดียว

“อย่าได้ใจไปนะโว้ย! ฉันไม่เหมือนกับไอ้พวกลิ่วล้อที่แกอัดไปหรอกนะ!”

หลังจากพูดจบ หวงปินก็ชักมีดพกออกมาจากเอวแล้วพุ่งตัวเข้าหาอวี้ฮ่าวหรานทันที…

เขาเคยผ่านประสบการณ์เป็นตายมาหลายครั้งแล้วในชีวิตนักเลง ดังนั้นเขาจึงมั่นใจมากโดยเฉพาะที่ตอนนี้อีกฝ่ายมีเพียงแค่มือเปล่า มือเปล่าจะสู้กับมีดได้ยังไงจริงไหม?

“เอ็งตาย! กล้าขัดจังหวะบิดาผู้นี้มีแต่ต้องตายเท่านั้น!”

หวงปินตะโกนขึ้นพร้อมกับแทงมีดไปที่ลำตัวของอวี้ฮ่าวหรานอย่างสุดกำลัง!

“หมับ!!”

แต่แล้วภาพที่น่าเหลือเชื่อสำหรับหวงปินก็ปรากฏขึ้น

อวี้ฮ่าวหรานจับใบมีดเอาไว้แน่นด้วยมือเปล่าอย่างง่ายดาย!

“แกร็ก!!”

เสียงใบมีดแตกเป็นเสี่ยง ๆ ดังขึ้นชัดเจนจากแรงบีบอันมหาศาลของอวี้ฮ่าวหราน

“แกยังจะสู้อีกไหม?”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเย็นชา

“ต…แตกได้ไงวะ!?”

หวงปินมองมีดในมือด้วยสีหน้าหวาดผวา นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไป!

มนุษย์ธรรมดาที่ไหนทำได้แบบนี้กัน?

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมลูกน้องของเขาถึงทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย!

เขาไม่มีทางจัดการอีกฝ่ายได้แน่!

เมื่อคิดได้เช่นนี้เขากลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ พูดโน้มน้าว

“ม…ไม่สู้แล้ว ไม่สู้แล้ว ฉันขอยอมแพ้!”

“โอ้? ยอมแพ้แล้วงั้นเหรอ?”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาดูถูก

“ช…ใช่…อ๊าก!!”

ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ หวงปินก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่มือขวาของตัวเองและเมื่อเขาหันไปมองที่มือขวาเขาก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำมือเขาอย่างรุนแรงจนมือเขากระดูกแตกละเอียดและกลายเป็นผิดรูป!

“มือฉัน! อ๊าก! มือฉัน….”

หวงปินกรีดร้องโหยหวน ใบหน้าของเขาซีดขาว เหงื่อเม็ดโตผุดออกจากหน้าผากอย่างไม่หยุดหย่อน…

“ถ้าฉันจำไม่ผิดมือข้างนี้ใช่ไหมที่แตะเพื่อนฉัน? แต่แกอย่าเพิ่งดีใจไปเพราะความทรมานของแกมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง!”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองไปที่หวงปินด้วยสายตาเย็นชาจากนั้นเขาเริ่มส่งพลังวิญญาณชอนไชไปตามแขนขวาของหวงปินแล้วบดขยี้กระดูกทีละน้อยๆ

“อ๊ากกก อ..ไอ้สารเลว! ก…แกกล้าทำฉันงั้นเหรอ อ๊ากกก!! แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันเป็นคนของแก็งค์พยัคฆ์เวหานะโว๊ย!! แกไม่ได้ตายดีแน่!”

หวงปินตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวดเปิดเผยว่าตัวเองเป็นใคร

“แกตายแน่! แกตายแน่! ใครก็ตามที่บังอาจล่วงเกินแก็งค์พยัคฆ์เวหาไม่เคยมีจุดจบที่ดีสักราย!”

หวงปินคาดหวังว่าเมื่ออีกฝ่ายรู้แล้วว่าเขาเป็นใคร เขาจะรอดจากเหตุการณ์นี้ไปได้

ต้องรู้ว่าแก็งค์พยัคฆ์เวหาเป็นแก็งค์ที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองฮ่วยอันและยิ่งไปกว่านั้นพวกระดับสูงของแก็งค์ต่างก็เป็นพวกที่มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด!

“พลั่ก!!”

เมื่อได้ยินคำขู่ อวี้ฮ่าวหรานก็เตะไปที่หน้าท้องของหวงปินอย่างจังจนอีกฝ่ายล้มลงไปนอนคุดคู้กับพื้น

“แก็งค์พยัคฆ์เวหางั้นเหรอ? แก็งค์ของแกยิ่งใหญ่มากสินะ?”

อวี้ฮ่าวหรานเหยียบไปที่หน้าของหวงปินพร้อมกับมองอีกฝ่ายด้วยแววตาดูถูก

กล้ายกชื่อแก็งค์พยัคฆ์เวหามาขู่เขาเนี่ยนะ?

“เดี๋ยวแกจะได้รู้แน่! แกจะได้เผชิญกับความน่ากลัวของแก็งค์…อ๊าก!!”

ยังไม่ทันจะพูดจบ หวงปินก็ร้องลั่นอีกรอบเพราะมืออีกข้างถูกเหยียบจนกระดูกแตกละเอียด!

“ เฮอะ! แม้แต่โจวเฟยหู่ยังต้องก้มหัวให้ฉันแต่แกกลับเอาชื่อแก็งค์พยัคฆ์เวหามาขู่ฉันเนี่ยนะ?”

หลังจากพูดจบ อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจมดแมลงอย่างหวงปินอีกต่อไป เขาเดินไปหาเฉิงชิวอวี้ที่กำลังตัวสั่นเพราะยังคงอยู่ในอาการตื่นตระหนกจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิด

“เอาล่ะตอนนี้คุณปลอดภัยแล้ว คุณกลับบ้านได้เลยแต่อย่าลืมทายาที่รอยช้ำพวกนั้นด้วยก็แล้วกัน”

ทางด้านของโจวหลิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักอ้าปากค้างอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเธอจะยังคงหวาดกลัวอยู่แต่เธอตกตะลึงมากกว่ากับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ผู้ชายคนเดียวล้มนักเลง 8-9 คน ภายในพริบตาได้ยังไง? เขายังใช่คนธรรมดาอยู่หรือเปล่า?

ก่อนหน้านี้เธอกลับดูหมิ่นคนที่ไม่ธรรมดาแบบนี้ไปงั้นเหรอ?!

มิน่าล่ะอีกฝ่ายถึงไม่ใส่ใจกับคำพูดของเธอเลยเพราะไม่เห็นเธออยู่ในสายตานั่นเอง!

“ฉัน…”

โจวหลิงอยากจะเอ่ยขอโทษ แต่อวี้ฮ่าวหรานกลับไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยส่วนเรื่องการขอโทษเฉิงชิวอวี้ยิ่งแล้วไปกันใหญ่ เธอไม่กล้าที่จะพูดอะไรกับอีกฝ่ายตอนนี้เพราะรู้สึกผิดอย่างยิ่งยวด…

เมื่อเห็นสถานการณ์แบบนี้เธอจึงทำได้แต่ก้มหน้าและค่อย ๆ หันหลังเพื่อเดินจากไป

เรื่องที่เธอทำกับเฉิงชิวอวี้มันหนักหนาเกินไปจนเธอไม่แน่ใจว่าเพื่อนของเธอจะอภัยให้เธอรึเปล่าดังนั้นมันเป็นการดีที่สุดที่เธอจะจากไปก่อนแล้วรอให้เวลาผ่านไปสักพักจากนั้นค่อยหาโอกาสเอ่ยขอโทษอีกที

อย่างไรก็ตาม เฉิงชิวอวี้รู้สึกโมโหจนแทบควันออกหูเมื่อเห็นว่าโจวหลิง กำลังเดินจากไปโดยที่ไม่เอ่ยขอโทษอะไรเลย!

“นับจากนี้ต่อไปเธอไม่ต้องมาเจอหน้าฉันอีก เธอกับฉันนับตั้งแต่วันนี้เราขาดกัน!”

น้ำเสียงของเฉิงชิวอวี้ทั้งเย็นชาทั้งเด็ดขาด เธอไม่ต้องการที่จะคบเพื่อนที่กล้าหักหลังเธอแบบนี้!

โจวหลิงเมื่อได้ยินเช่นนี้รู้สึกหนาวไปจนถึงขั้วกระดูก เฉิงชิวอวี้เป็นเพื่อนที่เธอสนิทที่สุดแถมอีกฝ่ายก็รวยเป็นอย่างมากจนทำให้เธอได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่างที่คนธรรมดาไม่มีทางมี

เธอไม่ต้องการจะเสียเพื่อนแบบนี้ไป!

ด้วยความกลัวเธอจึงไม่กลัวจะเสียหน้าอีกต่อไป!

“ชิวอวี้ ชิวอวี้ เธอฟังฉันก่อนนะ เมื่อกี้ฉันกลัวมาก ๆ เลยฉันเลยเผลอพูดออกไป ฉันไม่ตั้งใจจริงๆ!”

โจวหลิงวิ่งเข้ามาคุกเข่ากอดขาขอร้องตรงหน้าของเฉิงชิวอวี้พร้อมกับหลั่งน้ำตา

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหักหลังเธอจริง ๆ นะ ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ!”

“ฮึ่ม! ตอนนี้เพิ่งจะมานึกเสียใจงั้นเหรอ? การที่เธอหักหลังฉันไปแบบนั้นเธอรู้ไหมว่าฉันจะต้องมีชะตากรรมแบบไหนหากฮ่าวหรานมาช่วยไม่ทัน!?”

เฉิงชิวอวี้โมโหสุดขีด การที่เพื่อนสนิทของเธอหักหลังเธอแบบนี้เป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้!

“หืม? เกิดอะไรขึ้น?”

อวี้ฮ่าวหรานเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ยังสนิทสนมกันดีอยู่เลยทำไมตอนนี้กลับแตกหักกันซะแล้ว?

เมื่อได้ยินคำถามของอวี้ฮ่าวหราน เฉิงชิวอวี้ก็ยิ่งโมโหเพราะก่อนหน้านี้ โจวหลิงดูถูกคนที่เธอชอบ ดังนั้นเธอจึงเตะโจวหลิง ให้กระเด็นออกไปด้วยสีหน้ารังเกียจ

“อย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก!!”

“ฉัน…ฉันขอโทษจริงๆ…”

เมื่อเห็นแววตารังเกียจของอีกฝ่าย โจวหลิงรู้สึกโศกเศร้าเป็นอย่างมาก

ทำไมก่อนหน้านี้ฉันถึงต้องพูดจาดูถูกผู้ชายคนนี้ด้วย? ทำไมฉันถึงพยายามเอาตัวรอดด้วยการขายเพื่อนแบบนั้นด้วย?

ฉันมันโง่จริงๆ!

ถ้าฉันไม่ทำแบบนั้น หลังจากผ่านเหตุการณ์เป็นตายแบบนี้ด้วยกันความสัมพันธ์ของเธอกับเฉิงชิวอวี้จะต้องแน่นแฟ้นขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่าแน่นอน…

เมื่อถึงเวลานั้นฉันอาจจะสามารถอาศัยสถานะของเฉิงชิวอวี้ได้ไปอยู่ในสังคมชนชั้นสูง!

แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันกลับพังทลายลงไปทั้งหมดเพราะความโง่เขลาของตัวเธอเอง!