“เยี่ยนอวี่ เจ้าลองชิมอันนี้ดู นี่เป็นขนมตำรับชาววังไส้กุหลาบที่เจ้าชื่บชอบ”
“เยี่ยนอวี่ เจ้าลองชิมลูกไหนนี้ไม่เปรี้ยวแม้แต่น้อย”
“หย่าอวิ้น ดูแลพี่รองของเจ้าให้ดี ห้ามชมแต่การแสดงอย่างเดียว!”
“เยี่ยนอวี่ เจ้าอย่าเห็นพวกเราเป็นคนนอกเลย มาที่นี่ก็เหมือนอยู่จวนของตัวเองมิใช่หรือ! กลับจากเมืองหลวงครั้งนี้ดูเจ้าเงียบขรึมไปมาก ตอนเด็กไม่ใช่เช่นนี้นี่!”
“เยี่ยนอวี่…”
“เยี่ยนอวี่…”
จิ้งหนานกั๋วฮูหยินพูดข้างหูเหยาเยี่ยนอวี่ไม่หยุด ทำให้สมองของนางเกือบระเบิดแล้ว
เหยาเชวี่ยหวาที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็พูดคุยกับซ่งหย่าอวิ้นอย่างแผ่วเบาไปไม่กี่คำแล้วเหยียดตัวลุกขึ้นจากไป เหยาเยี่ยนอวี่ที่สังเกตทุกการเคลื่อนไหวของนางมาตลอดก็ส่งสายตาให้กับชุ่ยผิง ชุ่ยผิงจึงแอบเดินตามนางไป
ไม่นาน เหยาเชวี่ยหวาก็กลับมา หลังจากนั้นชุ่ยเวยก็ตามกลับมาด้วย เหยาเยี่ยนอวี่วางเมล็ดทานตะวันในมือลงพร้อมเอ่ยพูด “มือของข้ามีเหงื่อซึม ขอตัวไปล้างมือก่อน”
ซ่งหย่าอวิ้นจึงเหยียดกายลุกขึ้นทันที เหยาเยี่ยนอวี่จึงพูดด้วยรอยยิ้ม “มีเหล่าสาวใช้ติดตามไปก็พอ เจ้าชมการแสดงของเจ้าไปเถอะ”
ใต้ชายคาระเบียงด้านหลัง ชุ่ยผิงรับกะละมังที่สาวใช้คนหนึ่งยื่นมาพลางปรนนิบัติรับใช้เหยาเยี่ยนอวี่ล้างมือ เหยาเยี่ยนอวี่เอ่ยถามเสียงต่ำ “สังเกตเห็นอะไรหรือไม่”
ชุ่ยผิงพูดเสียงต่ำ “พวกเขานัดเจอกันที่หลังสวนไห่ถังด้าหลังเจ้าค่ะ”
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มอย่างเย็นชา “เป็นจริงอย่างที่คาด” กล่าวจบก็สะบัดหยดน้ำบนมือแล้วเอาผ้ามาเช็ด
ชุ่ยผิงส่งกะละมังคืนสาวใช้คนนั้นพร้อมสั่งการ “เจ้าไปเถอะ” จากนั้นพอกวาดมองโดยรอบว่าไม่มีใครแล้วจึงเอ่ยถามอีกครั้ง “คุณหนูเจ้าคะ พวกเราควรทำอย่างไรดี”
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ “ทำตามที่พวกเราเคยตกลงกันไว้ ประเดี๋ยวเจ้ากลับไปบอกชุ่ยเวยให้นางไปจัดการเรื่องนั้นได้เลย”
“เจ้าค่ะ” ชุ่ยผิงพยักหน้าอย่างแน่วแน่
จากนั้นเหยาเยี่ยนอวี่ก็กลับไปชมการแสดงต่อ นางนั่งลงพูดคุยพอเป็นพิธีกับซ่งหย่าอวิ้นและเหยาเชวี่ยหวา พูดอะไรไร้สาระไปสักพัก ชุ่ยผิงก็แอบผลักชุ่ยเวยหนึ่งที ชุ่ยเวยกัดฟันกรอดแล้วแอบถอยออกไปข้างนอก
ชุ่ยเวยไม่ได้มาจวนจิ้งหนานกั๋วสามปีกว่าแล้ว ทว่าเรือนที่พักด้านในยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปมาก
หลังจากออกจากด้านใน ชุ่ยผิงก็เจอกับสาวใช้ที่คอยทำหน้าที่รินน้ำชาพอดีจึงเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “คุณหนูของพวกเราเจ็บคอ สั่งให้ข้าชงชาแก้ร้อนในที่พกมาเอง น้องสาวเอาถ้วยชาที่มีฝาและน้ำร้อนให้ข้าหน่อยได้ไหม”
“พี่สาวรอสักครู่” สาวใช้คนนั้นเชื่อฟังมาก นางหันหลังเดินไปในเรือนเล็กด้านข้างพร้อมกับเอาถ้วยชาสะอาดออกมาให้ชุ่ยผิงแล้วเอ่ยบอก “น้ำร้อนอยู่ฝั่งนั้น ข้าไปยกมาให้พี่สาวเอง”
ชุ่ยเวยพูดอย่างรื่นเริง “ไม่ต้องแล้ว ข้าไปเอง”
ชุ่ยเวยเดินไปตรงหน้าผัวจื่อที่คอยต้มน้ำร้อน จากนั้นก็ขอน้ำต้มพลางชงให้เสร็จ นางหาถาดมายกออกไป ขณะที่กำลังเดินก็กวาดสายตามองไปทั่ว เพิ่งจะเปลี่ยนทิศทางเดินบนระเบียงยาว ซ่งเหยียนชิงก็โผล่ออกมาอย่างกะทันหันแล้วขวางทางชุ่ยเวยด้วยยิ้มเบิกบาน
ชุ่ยเวยถอยไปสองก้าวด้วยสีหน้าเย็นชา “น้อมทำความเคารพคุณชายซ่งเจ้าค่ะ”
“อืม” ซ่งเหยียนชิงหรี่ตายิ้ม “รู้จักมีมารยาทกว่าแต่ก่อ นติดตามคุณหนูรองของพวกเจ้าเข้าเมืองครานี้ช่างไม่เหมือนเดิม ข้าให้มองเจ้าที…โตเป็นสาวขึ้นมายิ่งโตก็ยิ่งงดงามแล้ว! เปลี่ยนจากเด็กน้อยไปเป็นสาวงามแล้ว”
ชุ่ยเวยหลบเลี่ยงแล้วก้มหน้าก้มตา “คุณชายใหญ่เลิกพูดเล่นเสียที คุณหนูยังรอดื่มชาอยู่เจ้าค่ะ”
“ชาอะไร ข้ากำลังหิวกระหายพอดี ให้ข้าดื่มก่อนเถอะ” ซ่งเหยียนชิงพูดไปก็ยกมือกำลังจะหยิบถ้วยชาบนถาด
“นี่เป็นของคุณหนูเจ้าค่ะ!” ชุ่ยเวยรีบยกถาดหลบไปทางอื่น
ซ่งเหยียนชิงเป็นบุรุษ มือไม้เลยยาวเป็นพิเศษ รวมไปถึงความพยายามแย่งถ้วยชา สุดท้ายชุ่ยเวยก็หลบเลี่ยงเขาไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น นางก็ไม่ได้คิดจะหลบจริงๆ
“แหมนี่มันชาอะไรกันแน่ กลิ่นหอมยิ่งนัก” ซ่งเหยียนชิงแย่งถ้วยชาพลางเปิดฝาออกแล้วสูดดมเบาๆ จึงถูกกลิ่นหอมที่อัศจรรย์นี้ดึดดูด น้ำชาด้านในมีเพียงใบชาทั่วไปไม่กี่ใบที่ถูกแช่จนคลายออก ไม่ได้แปลกประหลาดอะไร แค่กลิ่นชาคล้ายดอกกล้วยไม้และดอกกุ้ยฮวา กลิ่นหอมเย้ายวนใจยิ่งนัก
คุณชายใหญ่ตระกูลซ่งพูดไปก็เป่าน้ำชาพลางจิบหนึ่งคำ รู้สึกหวานชื่นดี จึงเอ่ยถามอีกครั้ง “คุณหนูของพวกเจ้าเอาชาชั้นดีนี้มาจากไหน”
ชุ่ยเวยคลี่ยิ้มเย็นชา “จะเป็นชาชั้นดีได้อย่างไร นี่ก็แค่ใบชาในจวนเท่านั้นเจ้าค่ะ” กล่าวจบก็หันหลังเดินกลับไป
ซ่งเหยียนชิงดื่มอีกหนึ่งคำแล้วรีบขวางทาง “อื้ม…อย่าไป!”
ชุ่ยเวยถลึงตาไม่เป็นมิตรมองซ่งเหยียนชิง “คุณชายใหญ่ยังมีคำสั่งอะไรอีก ทางโน้นมีสาวใช้และผัวจื่ออยู่มากมาย คุณชายใหญ่ไปสั่งการพวกนางเถอะ บ่าวยังต้องรินน้ำชาให้คุณหนูของพวกบ่าว”
“อย่ารีบสิ!” ซ่งเหยียนชิงดื่มชาจนหมดแล้วส่งถ้วยชาให้ชุ่ยเวย
พอชุ่ยเวยยกมือรับ เขาก็ดึงกลับไปด้วยรอยยิ้มเบิกบาน
ชุ่ยเวยแค่นเสียง ‘เหอะ’ พลางแย่งถ้วยชามา “ได้โปรดคุณชายใหญ่หลีกทาง บ่าวยังมีธุระ”
ซ่งเหยียนชิงยังอยากพูดอะไรต่อ คนที่อยู่ข้างๆ กลับตะโกนขึ้น “ชุ่ยเวย! คุณหนูรอดื่มชาอยู่ เหตุใดเจ้าถึงยังไม่มาอีก”
“อ๊ะ ข้ามาแล้ว” ชุ่ยเวยรีบผลักซ่งเหยียนชิงออกแล้วเดินไปอย่างเร่งรีบ
ยัยหนูคนนี้หนีพ้นหนนี้หนีไม่พ้นหนหน้าหรอก ซ่งเหยียนชิงลูบคางแล้วมองแม่นางชุดสีตะไคร้ที่ยืนอยู่ตรงระเบียงฝั่งโน่นด้วยยิ้มมั่นหน้า
ชุ่ยเวยเอาถ้วยชาใบนั้นจากไปอย่างเร่งรีบ พอเดินไปถึงโรงผงชา จู่ๆ ก็เดินสะดุดจนถ้วยชาหล่นแตกบนพื้น
ผัวจื่อได้ยินจึงออกมาดูชุ่ยเวยพร้อมเอ่ยถาม “เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม”
“เมื่อครู่นี้ข้าไม่ระวังจนเดินสะดุด จอกชาเลยหล่นแตกเจ้าค่ะ” ชุ่ยเวยจับราวระเบียงพร้อมพูดคิ้วขมวด
ผัวจื่อคนนั้นจึงสั่งให้คนมาพร้อมพูดขึ้น “รีบเก็บเศษกระเบื้องเหล่านี้แล้วพยุงแม่นางคนนี้มานั่งฝั่งนี้ที”
ชุ่ยเวยอาศัยมือของสาวใช้คนหนึ่งพยุงตัวไว้พลางนั่งบนราวกันระเบียง พอหันกลับไปก็เห็นซ่งเหยียนอี้เดินผ่านประตูพระจันทร์พลางเดินไปฝั่งโน้น นางจึงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยแล้วแอบคลี่ยิ้มน้อยๆ เพียงชั่วพริบตา
เหยาเยี่ยนอวี่ยังคงชมละครเพลงอยู่ทางโน้น ชุ่ยผิงยกถ้วยชาไปพร้อมพูดเสียงต่ำ “คุณหนูเจ้าคะ ดื่มชาเจ้าค่ะ”
“อืม” เหยาเยี่ยนอวี่แหงนมองชุ่ยผิง ชุ่ยผิงส่งยิ้มจางๆ เหยาเยี่ยนอวี่จึงรู้ว่าชุ่ยเวยเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว
แค่ว่า…วันนี้เหตุใดเหยาเชวี่ยหวาถึงได้เงียบขรึมเช่นนี้ หรือว่านางยอมแพ้แล้ว เหยาเยี่ยนอวี่กำลังพร่ำบ่นในใจอยู่ดีๆ เหยาเชวี่ยหวาก็หันหน้ามาแล้วพูดด้วยกับเหยาเยี่ยนอวี่เสียงเบา “พี่สาวข้าอยากล้างมือ ท่านไปกับข้าที”
สุดท้ายก็มา เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจาง วางถ้วยชาในมือลง “ได้” ขณะที่พูดก็เหยียดกายลุกขึ้น
“พวกเจ้าไปทำอะไร” ซ่งหย่าอวิ้นหันมาเอ่ยถาม
“ออกไปล้างมือ จะรีบกลับมา” เหยาเชวี่ยหวายิ้มไร้เดียงสาแล้วคล้องแขนเหยาเยี่ยนอวี่พลางออกจากงานอย่างเงียบๆ
สองพี่น้องออกจากหลังประตู เหยาเชวี่ยหวาจูงเหยาเยี่ยนอวี่เดินผ่านระเบียงไปยังเรือนข้าง เหยาเยี่ยนอวี่ก็ไม่มากความ แค่เดินตามนางไป