ตอนที่ 171.1 อารมณ์พลุ่งพล่าน (1)

สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?!

ประจวบเหมาะที่เวลานี้จะใช้มันออกมา!

เหลิ่งจวิ้นอวี๋คิดในใจ ความจริง ในใจยังกังวล

เพราะครั้งแรกเขาอยู่ในสภาพเมามาย จึงอาศัยสัญชาตญาน

เวลานี้เขาอยู่ในสภาพสติครบถ้วน กลับเห็นชัดว่าไม่รู้จะรับมือเช่นไร

ทว่าเขาเป็นบุรุษปกติ ตอนนี้ใต้ร่างตนคือหญิงสาวที่ตนชื่นชอบที่สุด

เวลานี้ พวกเขาสองคน ‘ต่างใจตรงกัน’ เปลือยกายล่อนจ้อน อาวุธด้านล่างของเขาก็ชูชันพร้อบรบแล้ว หากตอนนี้ ยังไม่ทำเรื่องพรรค์นั้นอีก เขาคงสงสัยว่าต่อไปตนจะกลายเป็นคนไร้ความสามารถหรือไม่!

พอคิดถึงตรงนี้ เหลิ่งจวิ้นอวี๋จุมพิตน้ำตาที่ไหลรินของเล่อเหยาเหยาอย่างอ่อนโยน ก่อนเอ่ยอย่างอ่อนหวานว่า

“เชื่อใจเปิ่นหวาง”

“ไม่ อา…”

เล่อเหยาเหยายังเอ่ยไม่จบ หน้าอกของตนก็ถูกเหลิ่งจวิ้นอวี๋ดูดกลืนอีกครั้ง

เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงหน้าอกของตนร้อนผ่าว เวลานี้ด้านบน กำลังถูกลิ้นร้อนดูดกลืนไม่หยุด ทำให้เล่อเหยาเหยาเขินอาย

แต่ภายในความเขินอาย มีความรู้สึกแปลกประหลาดทะลักขึ้นมาในใจ

ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึก

เห็นชัดว่าเธอควรผลักเขา แต่สองมือกลับจับกุมที่เส้นผมของเขาอย่างลืมตัว และในใจมีความปรารถนา ราวกับอยากได้ อยากได้มากขึ้นอีก…

เล่อเหยาเหยาไม่รู้ตนเป็นสิ่งใดกันแน่ หรือจะเจ็บป่วย

แต่เธอรู้สึกเพียง ความรู้สึกตอนนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก คล้ายกับเวลานี้ตนกำลังค่อยๆ ล่องลอยอยู่บนปุยเมฆ รอบกายเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์

ขณะเล่อเหยาเหยาคิดในใจ สองแก้มตนอดปรากฎสีแดงเข้มงดงามขึ้นมา

ดวงตาคู่งามน่ามองนั้น เอ่อล้นด้วยน้ำตา แต่แววตายังคงแฝงด้วยความพร่ามัว

แต่เธอเวลานี้ไม่ได้เสียใจอีกแล้ว สำหรับความรู้สึกตนเวลานี้มีเพียงลุ่มหลง แปลกประหลาด

แต่สวรรค์รู้ว่าท่าทางเธอเวลานี้ ในสายตาของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ดึงดูดใจ กระตุ้นเย้ายวนใจมากเพียงใด

ผมยาวสยายอยู่ข้างใบหน้า ด้านหลัง ทำให้ใบหน้าเรียวหมดจดของเธอ งดงามน่าหลงใหล

ร่างกายเปลือยเปล่านั้น เค้าโครงเล็กบอบบาง ส่วนที่ควรกลมก็กลม ส่วนที่ควรบางก็บางไร้ไขมันส่วนเกิน

ผิวเรียบเนียนนั้น เมื่อลูบไล้ดุจลูบไล้ผ้าไหมชั้นดี ทำให้คนอาลัยอาวรณ์ยากลืมเลือน

จากสัมผัสอ่อนนุ่นบนมือ และเม็ดจูอวี่ที่ยิ่งชูชันเพราะถูกริมฝีปากตนดูดกลืน ทำให้เหลิ่งจวิ้นอวี๋รู้สึกเพียงความอดทนของตนได้ถึงจุดขีดสุดแล้ว เขาอยากปลดปล่อยไฟปรารถนาเข้มข้นของตนออกไปเสียจริง

แต่เขาก็รู้ว่าคนตัวเล็กกำลังหวาดกลัว ดังนั้นจำต้องแสดงตัวอย่าง เขายังต้องรอทั้งหมด เขาต้องรอให้เธอเตรียมพร้อม

ดังนั้นเหลิ่งจวิ้นอวี๋จึงข่มกลั้นสัตว์ร้ายบนร่างตน จุมพิตร้อนแรงนั้น ค่อยๆเคลื่อนไปบนผิวเนียนนุ่มของคนตัวเล็กใต้ล่างอย่างอ่อนโยนไม่หยุด ทำให้ทั่วร่างกายของเธอถูกจุมพิตหมดทุกส่วน ก่อนฝากรอยปากที่ชุ่มชื้นไว้

และจากจุมพิตของชายหนุ่ม เล่อเหยาเหยารู้สึกเพียงทั่วร่างกายดุจถูกจุดไฟขึ้น ทำให้เธอยากข่มไฟปรารถนา มีเพียงความต้องการมากขึ้นไปเรื่อยๆ

จนกระทั่ง ริมปากอ่อนโยนของชายหนุ่มวนเวียนอยู่บนหน้าท้องแบนราบของตน และร่างกายท่อนล่างของเขามีของแข็งชูชัน เตรียมพร้อมออกมาจากเสื้อผ้า

เล่อเหยาเหยาที่กำลังตกอยู่ในอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน สมองพลันเกิดปฏิภาณได้สติขึ้นมา

“ไม่ ครรภ์ ข้าตั้งครรภ์”

ก่อนหน้านี้ไม่รู้ผู้ใดเคยเอ่ย หญิงสาวที่ตั้งครรภ์ ตอนตั้งครรภ์ไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นตอนหญิงสาวตั้งครรภ์ ชายหนุ่มต้องอดทนจนกระทั่งบุตรคลอดออกมา

โดยเฉพาะสามเดือนแรกที่ตั้งครรภ์ เป็นช่วงเริ่มแรกของตัวอ่อน ในรกยังไม่มีรูปร่าง ตัวอ่อนที่อยู่ในมดลูกของแม่ยังไม่ปลอดภัย หากเวลานี้ทำเรื่องพรรค์นั้น จะแท้งได้ง่าย

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาตกใจจนเหงื่อไหล

เพราะเด็กคนนี้ แม้จะมาเหนือความคาดหมาย แต่กลับเป็นบุตรของเธอและอวี๋ เธอต้องปกป้องคุ้มครองเอาไว้ให้ดี!

หลังคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาพลันผลักชายหนุ่มที่คร่อมทับบนตัวเธอออก ก่อนเอ่ยอย่างกังวลว่า

“อวี๋ ข้า ข้าตั้งครรภ์ หากตอนนี้ท่านทำสิ่งนั้นกับข้า เรื่องประเภทนั้น เด็กจะแท้งได้ง่าย”

พอนึกถึงต้องสูญเสียเด็กคนนี้ไป เล่อเหยาเหยาวิตกกังวล น้ำตาที่หยุดไหลพลันทะลักออกมาจากเบ้าตาอีกครั้ง

ดวงตาที่มีน้ำตาแวววาวกระจ่างใส เกินคำบรรยาย ท่าทางน้ำตาเอ่อคลอนั้น ดุจสุนัขตัวน้อยน่าสงสารกำลังหลงทาง น่าสงสารเห็นใจยิ่งนัก

เห็นเช่นนั้น แม้คนที่ใจแข็งได้เห็น ต่างต้องใจอ่อนลง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหลิ่งจวิ้นอวี๋

เมื่อเห็นใบหน้าเล็กน่าสงสารใต้ร่าง และคำพูดของเธอนั้น เหลิ่งจวิ้นอวี๋ที่ส่วนล่างชนกับร่างกายท่อนล่างของคนตัวเล็ก พลันหยุดชะงักทั้งตัว แม้เขาจะไม่อยากให้หยุดลงเช่นนี้ แต่…

“น่าตายนัก!”

หลังคำรามอย่างหงุดหงิด เพื่อดับไฟปรารถนาบนกาย เหลิ่งจวิ้นอวี๋กระโดดขึ้นจากตัวเล่อเหยาเหยาทันที จากนั้นพลิกตัวกระโดดลงไปในทะเลสาบที่อยู่ด้านข้าง

เสียงน้ำ ‘ตูม’ ดังขึ้น ทันใดนั้นน้ำก็กระเซ็นไปรอบทิศ ยังสาดไปที่กายของเล่อเหยาเหยาด้วย

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ เล่อเหยาเหยาก็ถือว่าโล่งอก

แม้เธอจะรู้ว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋เวลานี้ลำบากใจอย่างมาก เพราะหากเป็นชายอื่น ในเวลาเช่นนี้ต่างไม่ยอมหยุดมือลงแน่

แต่เขากลับทำได้ ดูแล้วเขาก็ชื่นชอบเด็กน้อยผู้นี้เช่นกัน!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นหญ้า จากนั้นก้มหน้าลงเล็กน้อย ใช้มือลูบไล้หน้าท้องที่ยังไม่นูนออกมาของตน ยกมุมปากยิ้มอย่างดีใจมีความสุขออกมา ก่อนเอ่ยเบาๆ ว่า

“ลูกรัก เจ้าเห็นหรือไม่ ท่านพ่อเจ้าก็ชื่นชอบเจ้ายิ่งนัก!”

เมื่อเห็นเหลิ่งจวิ้นอวี๋เพราะประโยคเดียวของตน จึงข่มไฟความปรารถนาของตนและโดดลงทะเลสาบเพื่อดับไฟ เล่อเหยาเหยาอดยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมาไม่ได้

ชายผู้นี้ ภายนอกดูเย็นชาไร้ความรู้สึกอย่างมาก ทว่าความจริงเอาใจใส่ผู้อื่นอย่างยิ่ง!

พอคิดถึงตรงนี้ รอยยิ้มที่มุมปากเล่อเหยาเหยากว้างยิ่งขึ้น

ทันใดนั้นสายตาสอดส่องไปที่ทะเลสาบ ทว่ากลับเห็นเพียงผิวน้ำที่เงียบสงบ ไม่มีผู้ใดอยู่ตรงนั้น!

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาอดลนลานไม่ได้ และนึกได้ว่าเหลิ่งจวิ้นอวี๋ว่ายน้ำไม่แข็ง เช่นนั้นเมื่อครู่เหตุใดเขาจึงกระโดดลงไปในทะเลสาบ

ตอนนี้เขาอยู่ที่ใด หรือว่า…

พอคิดถึงตรงนี้ เล่อเหยาเหยาพลันร้อนใจ ใจพลันเต้นระรัว

ทันใดนั้นรีบกระโดดลงไปในทะเลสาบโดยไม่คิด

เพราะเป็นฤดูร้อน ตอนกลางวันพระอาทิตย์เจิดจ้า ดังนั้นแม้ตอนนี้จะดึกแล้ว ทว่าน้ำในทะเลสาบยังคงอบอุ่น เมื่อแช่อยู่ด้านใน ดุจแช่อยู่ในน้ำพุร้อน จึงรู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง

แต่เวลานี้ เล่อเหยาเหยาไม่มีอารมณ์ผ่อนคลายนั้น เพราะเธอเวลานี้จิตใจเตลิดเปิดเปิง

เพียงนึกถึงเหลิ่งจวิ้นอวี๋อาจจมน้ำ เธอตกใจจนแทบหายใจไม่ออก

ดังนั้น เล่อเหยาเหยาหลังจากกระโดดลงมาในทะเลสาบ ดำลงไปใต้น้ำ เบิกตากว้างสอดส่องค้นหาเงาร่างของเหลิ่งจวิ้นอวี๋ไปทุกที่

แต่เวลานี้ดึกมากแล้ว แม้ทะเลสาบในยุคโบราณจะใสกระจ่างจนเห็นก้นบึ้ง ทว่าเมื่อตกกลางคืน ก็มองไม่เห็นสิ่งใดเช่นกัน

ใต้น้ำมีเพียงความมืดมิด ไม่ว่าเล่อเหยาเหยาจะเบิกตากว้าง ก็มองไม่เห็นเงาร่างที่ตนต้องการ

สุดท้ายเล่อเหยาเหยาเพราะหายใจไม่ออก จึงโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ก่อนหอบหายใจอย่างหนัก ใจยิ่งร้อนรน

หลังหายใจสะดวก คิดจะตามหาอีกครั้ง

คิดไม่ถึง เวลานั้นด้านหลังพลันมีเสียง ‘ซ่า’ ดังขึ้นมา พร้อมกับเขาที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำ ทำให้เล่อเหยาเหยาตกตะลึงไปชั่วขณะ หลังได้สติ ร่างกายเล็กบอบบางของตนพลันถูกรวบเข้าสู่หน้าอกอุ่นที่แข็งแรง

“อวี๋ เป็นท่าน เป็นท่านจริงๆ ดียิ่งนัก เมื่อครู่ข้าคิดว่า คิดว่าท่าน…”

ประโยคสุดท้ายยังเอ่ยไม่จบ เล่อเหยาเหยาก็หยุดเสียงไป

ภายในลำคอคล้ายถูกอุดด้วยของบางอย่าง ทำให้เธอพูดออกมาไม่ได้

เพราะเพียงเธอนึกถึงชายหนุ่มผู้นี้อาจจมน้ำเสียชีวิต ใจเธอเจ็บปวดอย่างมาก เพราะเธอกลัวว่าต่อไปจะไม่เห็นหน้าเขาอีก

ยิ่งคิด เล่อเหยาเหยายิ่งเสียใจ สุดท้ายกลับคล้ายเด็กน้อยคนหนึ่งร้องไห้ ‘ฮือๆ’ ดังขึ้นมา