ด้านใน เหยาเชวี่ยหวาผูกกระโปรงเสร็จนานแล้ว นางปิดฝาส้วม เวลานี้กำลังนั่งอยู่บนฝาส้วมเพื่อรอคอยเวลา
ชุ่ยผิงเข้ามาอย่างกะทันหัน นางสะดุ้งตกใจจนรีบลุกขึ้น “เจ้า…ใครสั่งให้เจ้าเข้ามา”
“อุ๊ย คุณหนูสาม ท่านไม่เป็นเช่นไรใช่ไหม” ชุ่ยผิงเอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา
“ออกไป!” เหยาเชวี่ยหวาตวาดอย่างโมโห
ชุ่ยผิงจึงยิ้มจางๆ “หากท่านไม่เป็นไรแล้วก็ออกมาเถอะ คุณหนูรองยังรอท่านกลับไปชมการแสดงด้วยกันเจ้าค่ะ”
“เหอะ!” เหยาเชวี่ยหวาถลึงตามองชุ่ยผิงอย่างโมโหแล้วสาวเท้าออกมาด้านนอก
ชุ่ยผิงสะบัดผ้าเช็ดหน้าในมือ กลิ่นหอมบางเบาฟุ้งกระจายตรงหน้าเหยาเชวี่ยหวา
“ฮัดชิ้ว!” เหยาเชวี่ยหวาจามแรงๆ หนึ่งที รู้สึกวินเวียนศีรษะจนยืนไม่นิ่ง
ชุ่ยผิงยกมือไปดึงเหยาเชวี่ยหวาไว้ นางย่อตัวลงพลางแบกเหยาเชวี่ยหวาและเดินออกจากที่นี่โดยเร็ว นางเป็นสาวใช้ที่มีอายุสิบเจ็ดสิบแปดปีแล้ว แบกสาวน้อยอายุราวๆสิบปีไม่เป็นปัญหาหรอก
สวนแห่งนี้อยู่ใกล้กับโรงแสดงละครมาก ผัวจื่อที่เฝ้าเวรตรงสุขาเมื่อครู่นี้เพิ่งถูกชุ่ยเวยสั่งให้ถอยห่างไปไกล บริเวณโดยรอบไม่มีผู้ใด เหตุเพราะบ้างก็ยุ่งกับงานของตนเอง บ้างก็ไปแอบชมการแสดงละครแล้ว
ชุ่ยผิงแบกเหยาเชวี่ยหวามุ่งหน้าไปยังสวนไห่ถัง จากนั้นส่งนางเข้าไปในศาลาขนาดเล็กแห่งหนึ่ง พอเข้าไปแล้วกวาดตามองศาลาจึงรู้ว่าคนพวกนี้เตรียมแผนการไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว
รอบทิศของศาลามีม่านไม้ไผ่ห้อยระย้าเพื่อบดบังการมองเห็น ด้านในกลับมีตั่งไม้แคบ บนตั่งไม้มีผ้าห่มปูอยู่หนึ่งผืน นี่จะไม่ใช่สถานที่เกิดการการล่วงประเวณีได้อย่างไร เหยาเยี่ยนอวี่ได้มาดูสถานการณ์ที่นี่ก่อนหน้านี้แล้ว ภายในใจรู้สึกโมโหเลือดพล่าน
ชุ่ยเวยกลับบอกว่าตนได้ยินคำพูดของเหยาเยี่ยนอวี่จึงเดินตามทางที่มาเมื่อครู่นี้ นางเลยได้พบเจอกับซ่งเหยียนชิงอีกครั้งดั่งที่คาดไว้ไม่มีผิด
ซ่งเหยียนชิงชำเลืองมองชุ่ยเวยเพียงชั่วพริบตาแล้วยื่นมือไปขวางนางไว้พร้อมยิ้มอย่างได้ใจ “ชุ่ยเวย! จุ๊ๆ! เจ้าว่าพวกเราสองคนมีบุญวาสนากันหรือไม่”
“เชิญหลีกทาง! ใครอยากจะมีบุญวาสนาอะไรกับท่าน!” ตอนชุ่ยเวยพูดถ้อยคำนี้ น้ำเสียงคล้ายจะร้องไห้
“เอ๊ะ เหตุใดต้องร้องไห้” ซ่งเหยียนชิงเอ่ยถามอย่างอัดอั้นใจ
ชุ่ยเวยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พูดอย่างลำบากใจ “ไม่รู้คุณหนูไปไหนแล้ว บ่าวเดินตามหาทั่วแล้วแต่ก็ยังไม่พบ!”
ซ่งเหยียนชิงมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา เขากำลังครุ่นคิดว่าแผนการที่วางไว้คงสำเร็จแล้ว ดังนั้นจึงยิ้มระรื่นกว่าเดิม “นี่มีอะไรน่าร้องไห้ อย่างไรก็ต้องอยู่ในจวนนี่แหละ หรือว่านางจะหนีกลับจวนตามลำพัง?”
“ท่านหลีกไป บ่าวจะไปตามหาคุณหนู” ชุ่ยเวยผลักซ่งเหยียนชิงออกแล้ววิ่งจากไปอย่างเร่งรีบ
ซ่งเหยียนชิงมองชุ่ยเวยที่วิ่งหนีไปด้วยความดีอกดีใจอย่างยิ่ง จึงรีบเดินไปทางฝั่งสวนไห่ถังอย่างรวดเร็ว
เหยาเยี่ยนอวี่กับชุ่ยผิงจัดการกับเหยาเชวี่ยหวาเสร็จก็แอบถอยออกมาด้านนอก เพิ่งจะหลบอยู่ข้างต้นไห่ถังไม่นานก็เห็นซ่งเหยียนชิงเดินมาใกล้ศาลาเล็กอย่างรีบร้อนพร้อมกับมองซ้ายขวาไปทั่ว พอสังเกตเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติจึงค่อยๆ เข้าไปด้านใน
ชุ่ยผิงดึงเหยาเยี่ยนอวี่เดินย่องเท้าจากไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชุ่ยเวยจึงพาหวางฮูหยินมาอย่างเร่งรีบ ด้านหลังยังมีจื่อหลิงที่กระวนกระวายจนทำตัวไม่ถูก พวกนางมุ่งหน้ามาที่สวนไห่ถัง หวางฮูหยินเห็นศาลาเล็กที่มีม่านไม้ไผ่ปิดไว้ หลังม่านไม้ไผ่มีเงาคน จึงชะงักฝีเท้า สีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“ฮูหยินเจ้าคะ?” ชุ่ยเวยที่น้ำตาคลอ พยุงแขนของหวางฮูหยินไว้ด้วยท่าทีลังเล
หวางฮูหยินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางผลักชุ่ยเวยออกและเดินขึ้นหน้าพร้อมกับเลิกม่านไม้ไผ่ขึ้น
“ใคร!” ซ่งเหยียนชิงหันหน้าไป หลังจากที่เห็นว่าเป็นหวางฮูหยินและคนอื่นๆ จึงนิ่งงันไปทันที
ในศาลา ชุดคลุมชั้นนอกของเหยาเชวี่ยหวาถูกถอดออกเหลือเพียงชุดชั้นกลางสีม่วงอมชมพูนางนอนหลับอยู่บนตั่งไม้ ดวงหน้าแดงระเรื่อ ขนตางอนยา วริมฝีปากแดงอันงดงามบวมเป่งเล็กน้อย
“เดียรัจฉาน!” หวางฮูหยินเครียดจนคล้ายจะเป็นลม ชี้หน้าซ่งเหยียนชิงสบถหยาบ “เจ้ามันไอ้สัตว์เดียรัจฉาน! เจ้าคนสารเลว!”
“คุณหนูสามเจ้าคะ!” ชุ่ยเวยขานเรียกด้วยความตกตะลึงแล้วพุ่งเข้าไปด้านหน้าพร้อมยกมือตบหน้าซ่งเหยียนชิงไปหนึ่งทีพลางสบถอย่างโมโห “ท่านมันสัตว์เดียรัจฉาน!”
ฝ่ามือนี้ของชุ่ยเวยเป็นความโมโหที่สะสมมาสามปี นางจึงตบไปสุดฤทธิ์เต็มแรงเหวี่ยง
ซ่งเหยียนชิงถูกตบจนตัวเซเกือบจะล้มลงบนพื้น ตวาดด้วยความโมโห “เจ้าต่างหากที่เป็นคนชั้นต่ำ!” ขณะนั้นเขายังคิดจะเอาคืน
ชุ่ยเวยป้องกันตัวไว้แต่เนิ่นๆ จะปล่อยให้เขาเอาคืนได้อย่างไร ดังนั้นจึงใช้มือทั้งสองข้างดันใต้กระบังลมของเขา เขาที่ยืนยังไม่นิ่งก็ล้มลงบนพื้น ซ้ำศีรษะยังไปโขกเสาที่ด้านหลัง
“โอ๊ย…” ซ่งเหยียนชิงกรีดร้องออกมาแล้วเอามือไปกดท้ายทอยไว้ทั้งๆ ที่รู้ว่าอาการไม่ได้สาหัสอะไร แค่รู้สึกเจ็บมาก ทว่าไม่เห็นว่ามีเลือดไหล
เยี่ยมจริงๆ! ชุ่ยเวยแค่นเสียงปลื้มปริ่มออกมาจากใจอย่างอดไม่ได้ หากเห็นเลือด ตัวเองคงจะหนีไม่พ้นความผิด
ตอนนี้หวางฮูหยินได้สติจากอารมณ์ที่โมโหแล้วตวาดใส่คนข้างกาย “ยังไม่รีบจับกุมตัวเจ้าคนสารเลวนี่อีก! ไปเชิญซ่งฮูหยินมาเดี๋ยวนี้!”
ผู้ที่ติดตามหวางฮูหยินออกจวนต่างเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลม ตอนนี้จะกล้าชักช้าได้อย่างไร ผัวจื่อสองคนเอาที่คาดเอวมัดซ่งเหยียนชิงไว้ และสาวใช้อีกคนก็กลับไปเชิญจิ้งหนานปั๋วฮูหยินมา
เดิมทีจิ้งหนานปั๋วฮูหยินอยู่เป็นสหาย พูดคุยกับฮูหยินจากจวนต่างๆ พอเห็นสาวใช้ตระกูลเหยาทำสีหน้าไม่ดี ภายในใจจึงตกตะลึง ยังไม่ทันได้เอ่ยถาม สาวใช้คนนั้นก็ขยับเข้ามาพูดขึ้นไม่กี่คำที่ข้างหู สีหน้าของจิ้นหนานปั๋วฮูหยินเปลี่ยนไปทันที รีบผุดลุกขึ้นพลางติดตามสาวใช้คนนั้นออกจากงาน แล้วทิ้งให้ฮูหยินจากจวนต่างๆรออยู่ตรงนั้น
ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นถึงจะทำให้จิ้นหนานปั๋วฮูหยินเป็นเช่นนี้
ตอนที่จิ้นหนานปั๋วฮูหยินรีบเดินตามสาวใช้ของหวางฮูหยินไปถึงสวนไห่ถัง ถูกจื่อหลิงและชุ่ยเวยสวมชุดคลุมชั้นนอกให้เหยาเชวี่ยหวาแล้ว แค่ยังคงหลับใหลไม่ตื่น
ไม่ต้องถามก็มองออกว่าสถานการณ์เช่นนี้นั้นทำให้จิ้นหนานปั๋วฮูหยินรู้สึกใจไม่ดียิ่งนัก จึงหันไปตบหน้าบุตรชายตนเองแรงๆ พร้อมสบถหยาบขึ้น “เจ้าคนสารเลว! ความชั่วบดบังใจของเจ้าหรือ! เจ้าถึงได้ทำเช่นนี้ได้! ว่ามา! ใครวางแผนเช่นนี้ให้เจ้า?! ข้าจะถลกหนังของคนๆ นั้นเสีย!”
ตอนแรกซ่งเหยียนชิงเจอกับเรื่องดีๆ จึงทำให้เขาเผลอทำอะไรลงไปอย่างขาดสติ หลังจากนั้นก็ถูกชุ่ยเวยตบหน้าทำให้เขาโมโหจนอยากตีคน หลังจากนั้นก็ถูกคนของหวางฮูหยินจับตัวไว้สมองถึงจะค่อยๆ ได้สติกลับมาบ้าง ตอนนี้พอถูกมารดาของเขาตบหน้าแล้วยังเอ่ยถามคำพูดเหล่านั้นเขาจึงได้สติกลับมาจริงๆ
เวลาเช่นนี้เขาพูดอะไรออกมาก็ผิด ดังนั้นทำได้เพียงสารภาพความผิดก้มโขกศีรษะต่อหน้าหวางฮูหยิน “หลานดื่มสุรามากไปหน่อยจึงเผลอทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ ยังดีที่ไม่ได้ทำความผิดร้ายแรงอะไรลงไป ฮูหยินได้โปรดยกโทษด้วยขอรับ”
“ตอนนี้เจ้ามาพูดเรื่องพวกนี้กับข้า?!” หวางฮูหยินโมโหเจียนจะขาดใจ ต่อให้เหยาเชวี่ยหวาเป็นบุตรีอนุภรรยา ทว่าก็ยังเกี่ยวพันกับชื่อเสียงของตระกูลเหยาอยู่ดี วันข้างหน้าบุตรีของตระกูลเหยาจะออกเรือนอีกได้อย่างไร! เรื่องเช่นนี้หากลือกันถ้วนหน้า บุตรีเอกของตนที่อยู่ในจวนติ้งโหวจะวางตัวอย่างไร!
จิ้นหนานปั๋วฮูหยินรีบน้อมคำนับเพื่อเป็นการขอโทษ “ฮูหยินอย่าโกรธเลย เรื่องนี้ไม่มีวันแพร่งพรายออกไปแน่นอน โชคดีที่มีแค่พวกเราเท่านั้น สำหรับเรื่องนี้จะแก้ไขอย่างไร พวกเราล้วนทำตามความต้องการของท่านทั้งหมด ตอนนี้พาคุณหนูสามเข้าไปอยู่ในเรือนก่อนเถอะ รอนางตื่นค่อยว่ากันเถอะ?”