เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของเธอที่เงยหน้าเหม่อมองเขาเฟเรสก็เอียงคอเล็กน้อยมองหน้าเธอ
และในตอนนั้นเอง
“อ๊ะ! ขออภัยครับ คุณหนูลอมบาร์เดีย!”
คู่ที่เต้นรำอยู่ใกล้ๆ พลิกกายมาทางฝั่งพวกเรา ทำให้ไหล่ของเด็กผู้ชายคนนั้นกระทบกับหลังเธอเล็กน้อย
“ขะ ข้าไม่มีสติ เลยไม่ทันได้มองครับ…”
คงจะเหนื่อยเพราะเต้นรำจริงๆ ภาพยามอีกฝ่ายเหงื่อไหลย้อยขอโทษขอโพย ถึงได้ทำให้เธอเผลอหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ชนแค่เบาๆ เองค่ะ ข้าไม่เป็นอะไรค่ะ คุณเพย์แลนต่างหากล่ะคะ เป็นอะไรมั้ยคะ”
เด็กผู้ชายเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เขาคงคิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้จักชื่อของเขาด้วย
“พยายามเข้านะคะ คุณเพย์แลน”
ดูจากเมื่อกี้แล้ว เหมือนจะถูกเหยียบเท้าบ่อยมากเลย
รอยช้ำนั่นทำเอาเธออยากบอกให้เขาใช้ยาขี้ผึ้งเอสทีร่าจริงๆ
หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มให้เขาแทนความหมายให้สู้ๆ เข้าไว้ แต่ปฏิกิริยาของเด็กผู้ชายตรงหน้ากลับแปลกไปเล็กน้อย
อีกฝ่ายเหม่อมองเธอ ใบหน้าที่แดงระเรื่อเพราะเหนื่อยจากการเต้นรำกลับยิ่งขึ้นสีแดงก่ำมากกว่าเดิม
ในจังหวะที่ตั้งใจจะบอกให้เขาไปพักเสียหน่อย ก็พลันได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเฟเรสดังขึ้น
“ให้มองข้าคงดีกว่า”
“หืม? ว่าไงนะ”
“ให้คนอื่นๆ มองข้าดีกว่า”
“จู่ๆ พูดอะไรพิลึกแบบนั้นเนี่ย”
นี่กำลังบอกความจริงว่า อยากได้รับความสนใจจากคนอื่นๆ มากกว่าให้พวกเขาสนใจเธอที่ตั้งใจจะเปิดตัวในงานอย่างนั้นหรือไง
เฟเรสจ้องเขม็งไปยังที่หนึ่งแทนคำตอบ
เด็กผู้ชายคนที่ชนกับเธอเมื่อครู่นี้
ผู้ชายคนนั้นเริ่มซ้อมเต้นรำกับพาร์ตเนอร์อีกรอบแล้ว เขาเอาแต่เหลือบมองมาทางเฟเรสด้วยใบหน้าหวาดกลัว ร่างกายสั่นเทาดูหมิ่นเหม่จะล้มอยู่แล้ว นั่นไง
“กรี๊ด!”
พอตัวเองเซจะล้ม สุดท้ายก็พาเอาพาร์ตเนอร์ล้มไปด้วย
“เฮ้ เฟเรส?”
พอเธอสะกิดไหล่เขา เฟเรสถึงค่อยหันมาก้มหน้ามองเธอ แล้วตอบ
“ไม่มีอะไรหรอก มาฝึกกันต่อเถอะ”
หลังจากนั้นตลอดระยะเวลาซ้อม ก็ไม่เกิดเรื่องให้เธอชนเข้ากับใครอีกเลย
* * *
“ปีนี้ทุกคนต่างก็พยายามกันอย่างแข็งขันเลยสินะ”
จักรพรรดิโยบาเนสก้มลงมองโถงงานเลี้ยงชั้นล่างในขณะที่พูดอย่างผ่อนคลาย
ทั้งๆ ที่ทำแบบนั้น แต่สายตากลับเอาแต่มองตามคู่ของฟีเรนเทียกับเฟเรสไม่ห่าง
โถงงานเลี้ยงที่ทุกคนกำลังฝึกซ้อมสำหรับงานเลี้ยงเปิดตัวแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยมีชั้นลอยด้านบนอยู่ด้วย
บริเวณชั้น 2 ตรงนี้แทบไม่เคยถูกใช้งาน แต่มันสามารถเข้าออกได้ผ่านทางบันไดด้านนอก จักรพรรดินีกับจักรพรรดิเองก็เข้ามาด้านในนี้โดยไม่ได้แจ้งให้ใครทราบ พวกเขากำลังเฝ้ามองทุกคนอยู่
ก่อนหน้าที่เหล่าคาวาเลียร์จะปรากฏตัว ราวีนี่กำลังเฝ้ามองเหล่าคุณหนูที่กำลังฝึกซ้อมอยู่อย่างสนุกสนาน
ถึงแม้นางจะไม่ชอบใจนังเด็กตระกูลลอมบาร์เดียนั่น แต่ก็ตั้งใจไว้แล้วว่า หากกลายเป็นสมาชิกในแวดวงสังคมเมื่อไหร่ นางจะสั่งสอนเด็กนั่นให้รู้สำนึกจะได้หลาบจำเสียบ้าง
แต่ปัญหาคือ ในบรรดาคาวาเลียร์ที่เข้ามาหลังจากนั้น ดันมีเฟเรสรวมอยู่ด้วย
“นะ นั่นมันอะไรกัน…”
จักรพรรดินีราวีนี่ตกใจจนหันไปมองโยบาเนสและเพียงแค่พริบตานางก็สามารถรู้ได้ในทันที
ความจริงที่ว่าองค์จักรพรรดิทราบดีอยู่แล้วว่าเฟเรสจะกลายมาเป็นหนึ่งในคาวาเลียร์
เหตุผลที่พานางมาที่นี่ทันทีหลังจากร่วมรับประทานมื้อกลางวันด้วยกัน ที่แท้ก็เป็นเพราะไอ้เด็กชั้นต่ำนั่นนี่เอง!
เรื่องทั้งหมดนี้ต้องเป็นแผนของนังหัวหน้านางกำนัลอิมพีกร้า ที่ทุกวันเอาแต่จิกกัดนางไม่หยุดนั่นเป็นแน่
‘นังเฒ่านั่น..! ’
ราวีนี่ถลึงตาจ้องหัวหน้านางกำนัลอิมพีกร้าเขม็งในทันที
และนางก็พลันสบตาเข้ากับหญิงชรา
ดูเหมือนหัวหน้านางกำนัลจะสังเกตเห็นอยู่ก่อนแล้วว่าจักรพรรดินีกับจักรพรรดิกำลังเฝ้ามองการฝึกซ้อมอยู่ตรงนี้
“ไม่นึกเลยนะว่าเจ้าชายลำดับที่สองจะมีสีหน้าแบบนั้นเป็นกับเขาด้วย”
จักรพรรดิโยบาเนสเอนกายพิงราวระเบียงด้วยความสนใจในขณะที่พูดขึ้น
เฟเรสมักจะมีสีหน้าไร้อารมณ์เสมอ หรือไม่ก็โกรธเคืองหน้าบึ้งตึงเขาเคยเห็นแค่ภาพลักษณ์สองอย่างนั่นเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนั้นกำลังยิ้มผ่อนคลายยามมองบุตรสาวของแคลอฮัน
“เฮ้อ เหมาะสมกันดีนะ”
ตอนที่สั่งให้ทั้งสองคนเป็นสหายร่วมเล่นกัน พระองค์ก็เคยคิดเช่นนั้น แต่นี่ดูแล้วช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากจริงๆ
“ฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วนะ จักรพรรดินี”
“…”
จักรพรรดินีราวีนี่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ
โยบาเนสเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้คาดหวังในคำตอบอยู่แล้ว พระองค์เอาแต่พึมพำอยู่คนเดียว
“แคลอฮัน แคลอฮัน ลอมบาร์เดีย…”
จักรพรรดินีทราบดีกว่าใครว่าตอนนี้ในหัวของจักรพรรดิกำลังยุ่งกับการดีดลูกคิดคำนวณ
โยบาเนสกำลังคิดคำนวณว่า หากพระองค์สานสัมพันธ์ให้เฟเรสกับฟีเรนเทียเป็นคู่หมายกัน เขาจะได้รับอะไรจากแคลอฮัน ลอมบาร์เดียบ้าง
กรอด
จักรพรรดินีราวีนี่ลอบกัดฟันแน่นอยู่เงียบๆ
หากเฟเรสได้รับเลือกให้เป็นคาวาเลียร์ก็ไม่มีวิธีใดให้นางห้ามเด็กคนนั้นไม่ให้ปรากฏตัวในงานราตรีเปิดตัวได้อีกแล้ว
ดังนั้นนางต้องขัดขวางไม่ให้เด็กนั่นเป็นพาร์ตเนอร์กับนังเด็กลอมบาร์เดียนั่นเท่านั้น
หากวันหนึ่งไม่ได้มีแค่จักรพรรดิโยบาเนสเท่านั้น หรือแม้กระทั่งพวกชนชั้นสูงในสังคมต่างก็เริ่มคิดที่จะจับคู่ระหว่างเฟเรสกับฟีเรนเทียแล้วละก็ ถึงตอนนั้นนางจะไม่สามารถควบคุมอะไรได้อีก
และถ้าหากจักรพรรดิเริ่มปรารถนาอยากได้ของของแคลอฮัน ลอมบาร์เดียขึ้นมาจริงๆ แล้วละก็!
หากเป็นเช่นนั้น ในวันที่ตั้งใจจะสั่งให้สองคนนั่นเป็นคู่หมั้นกัน ย่อมเท่ากับเฟเรสจะได้รับกำลังสนับสนุนมากยิ่งขึ้น
แคลอฮัน ลอมบาร์เดียคนนั้น อำนาจของเขายิ่งใหญ่เกินไปแล้ว
ในสถานการณ์ที่คู่หมั้นของอาสทาน่ายังไม่ได้ถูกกำหนด นางไม่มีทางปล่อยให้เด็กชั้นต่ำนั่นได้รับการสนับสนุนจากแคลอฮัน ลอมบาร์เดีย โดยไม่ลงมือทำอะไรเลยอย่างเด็ดขาด
“หนึ่ง สอง สาม… หนึ่ง สอง สาม…”
เสียงกัดฟันกรอดของราวีนี่ถูกเสียงจังหวะเต้นรำที่ดังขึ้นจากไกลๆ ฝังกลบไปเสียจนไม่มีใครได้ยิน