บทที่ 244 ลงโทษ

หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่รู้ว่าคนตระกูลจางจะพูดอะไรสุดโต่งออกมาอีกบ้าง

นี่มันเป็นการราดน้ำมันลงกองเพลิงแห่งโทสะของคนตระกูลโจวชัด ๆ

“ไม่ได้!” จางต้าเหอปฏิเสธทันควัน

แม่เถาโวยวายเช่นกัน “ข้าก็ไม่ยอม!”

ในตอนนี้เองจางเป่าเกินได้เอะอะขึ้นมาเสียงดัง “ในท้องแม่โจวเป็นตัวขาดทุน แต่ข้าเป็นหลานชายคนโตของตระกูลจางนะ! มีสิทธิ์อะไรมาโบยข้า!”

จากเหตุผลที่จางเป่าเกินอ้าง เขาหมายความว่าชีวิตของเขามีค่ากว่าแม่โจวและตัวขาดทุนในท้องแม่โจวมาก ไม่สมควรจะลงโทษเขาเลย

ทว่าผู้ใหญ่บ้านซ่งไม่ฟังสามคนนี้ แต่มองไปที่โจวหู่

โจวหู่มองหยางชุ่ยฮวา หยางชุ่ยฮวาพยักหน้าและเสริม “เช่นนั้นก็ได้ แต่ 20 ทีนี้พวกเราขอเป็นคนโบยเอง ไม่อย่างนั้นอาจจะมีคนปกป้องไม่ลงแรงจริงก็ได้?”

“ได้!” ผู้ใหญ่บ้านซ่งคิดว่าถึงอย่างไรการโบย 20 ทีก็ไม่ถึงแก่ชีวิตหรอก ขอเพียงคนตระกูลโจวหายโมโห และเขาไม่ได้เจ็บตัวเอง ทุกอย่างคุ้มค่าทั้งนั้น

เวลานี้มีคนชอบแส่ไปหาไม้มาแล้ว

จางเป่าเกินถูกจับกดลงบนม้านั่ง ผู้ใหญ่บ้านซ่งสั่งคนอีกสองสามคนให้จับตัวจางเป่าเกินไว้

ถึงคนเหล่านี้จะชอบดูเรื่องสนุก แต่ก็ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ ทว่าช่วยไม่ได้ที่ผู้ใหญ่บ้านซ่งเจาะจงพูดชื่อให้พวกเขาช่วย ถ้าพวกเขาไม่ช่วยแล้วทำให้ผู้ใหญ่บ้านซ่งไม่พอใจจะทำอย่างไร?

ผู้ใหญ่บ้านซ่งมีอำนาจจัดการหลายอย่างในหมู่บ้านนะ!

ถ้าผู้ใหญ่บ้านซ่งเจ้าคิดเจ้าแค้นหาเรื่องพวกเขา จะเป็นเรื่องไม่น่าอภิรมย์ขนาดไหน?

อย่างไรเสียคนตระกูลจางก็ไร้ซึ่งอำนาจ ล่วงเกินก็ส่วนล่วงเกิน ไม่ใช่เรื่องใหญ่

โจวหู่หยิบท่อนไม้ขึ้นมาและกระแทกลงบนพื้นอย่างแรงด้วยกำลังมหาศาล

จากนั้นเขาจึงยกท่อนไม้ขึ้นและฟาดลงบนตัวของจางเป่าเกิน

ป้าบ!

เสียงหนักอึ้งดังขึ้น…..

เสียงร้องโหยหวนของจางเป่าเกินดังตามมา

อ๊าก!

โจวหู่ด่าเสียงกราดเกรี้ยว “ข้าสั่งสอนเจ้าแทนพ่อแม่ของเจ้า! เจ้าจำไว้ให้ดีนะ! น้องสาวข้าไม่ใช่ว่าจะมารังแกได้ง่าย ๆ!”

ป้าบ!…..ป้าบ!

เขาฟาดลงไปอีกหลายที โจวหู่ไม่สนเสียงโหยหวนของจางเป่าเกินเลยสักนิด กลับด่าต่อ “ข้าจะบอกพวกเจ้าให้นะ ถ้าใครกล้ารังแกน้องสาวข้าอีก! ก็จะพบจุดจบเช่นนี้!”

ตอนแรกจางเป่าเกินยังพอด่าสู้ได้บ้าง แต่หลัง ๆ มากลับเหลือเพียงเสียงร้องโหยหวน

จนในที่สุด เสียงร้องนั้นก็แผ่วลงมาก

โจวหู่นับว่าเป็นแรงงานสำคัญของตระกูลโจว เขาทำงานทุกอย่าง จึงเป็นธรรมดาที่จะมีกำลังวังชา ยิ่งเวลานี้เขามีโทสะอยู่ในใจ ตอนโบยจึงใช้แรงยิ่งกว่าปกติ

ครั้นโบยครบ 20 ที จางเป่าเกินก็มีเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ในตอนนี้เขากำลังขบฟันกรอดและมองทุกคนอย่างเคียดแค้น

จนกระทั่งสายตาของจางเป่าเกินเบนไปที่จางซิ่วเอ๋อ จางซิ่วเอ๋อก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย การกระทำนี้ทำให้จางเป่าเกินโมโหแทบตายขึ้นมาอีกครั้ง

“ลูกข้า! พวกเจ้าลงมือหนักเช่นนี้ได้อย่างไร!” แม่เถารีบวิ่งไปอยู่ข้างจางเป่าเกินและกอดจางเป่าเกินไว้

หยางชุ่ยฮวาพูดด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหน “โทษผู้อื่นไม่ได้หรอก! พวกเจ้าลงมือก่อนนี่!”

ผู้ใหญ่บ้านซ่งเอ่ยขึ้น “เอาล่ะ เรื่องนี้ให้จบตามนี้ ถ้าไม่มีอะไรแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันเถอะ”

จางซิ่วเอ๋อมองโจวหู่และหยางชุ่ยฮวาพลางบอก “ท่านลุงใหญ่ ท่านป้าใหญ่ ไปนั่งที่บ้านข้าเถอะ”

จางซิ่วเอ๋อเชิญชวนไปพลางคิดว่าอีกเดี๋ยวตัวเองต้องเดินให้ไว ต้องรีบกลับไปดูว่าตอนนี้หนิงอันและเถี่ยเสวียนอยู่หรือไม่ ถ้าอยู่ก็ต้องขอให้พวกเขาหลบไปสักพัก

ถ้าโจวหู่และหยางชุ่ยฮวาเห็นว่าบ้านตัวเองมีบุรุษอยู่ค้างคืนจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน?

ทว่าหยางชุ่ยฮวากลับพูดขึ้นในตอนนั้น “ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น ไม่ได้มาบ้านตระกูลจางตั้งหลายปี อย่างไรคนตระกูลจางก็ต้องต้อนรับเราอย่างดีเสียหน่อยไม่ใช่หรือ?”

พูดมาถึงตรงนี้หยางชุ่ยฮวาเสริมขึ้นอีก “อีกเดี๋ยวท่านพ่อท่านแม่ข้าก็จะมา อย่างไรเราก็เกี่ยวดองกันแล้ว ไปมาหาสู่กันบ้างถือว่าเป็นเรื่องสมควร”

ผู้คนที่มุงดูอยู่ฟังความหมายของหยางชุ่ยฮวาออกหมด

หยางชุ่ยฮวาจะใช้โอกาสนี้สร้างบารมีให้แม่โจว ให้คนตระกูลจางไม่กล้ามองข้ามแม่โจวที่มีครอบครัวอีกต่อไป

“แม่เฒ่าจาง….ตามหลักแล้วข้าต้องเรียกเจ้าว่าท่านป้า ท่านป้าจาง ท่านคงไม่คิดจะผลักไสพวกเราใช่ไหมเจ้าคะ?” หยางชุ่ยฮวาถามด้วยรอยยิ้มกว้าง

เวลานี้แม่เฒ่าจางจะพูดอะไรได้อีก นางเป็นฝ่ายผิดอยู่แล้ว ต่อหน้าคนตั้งมากมายในตอนนี้ นางไล่คนพวกนี้ออกไปไม่ได้หรอก

“พวกเรามาครั้งหนึ่งไม่ได้ง่าย ท่านป้าจะต้อนรับพวกเราด้วยอาหารหยาบ ๆ อย่างผักป่าไม่ได้นะเจ้าคะ!” หยางชุ่ยฮวาเสริม

แม่เฒ่าจางโดนผู้คนมองจนหน้าร้อนผ่าว จึงเอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว “จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไรเล่า?”

“ผู้ใหญ่บ้านซ่ง วันนี้ท่านผดุงความยุติธรรมให้พวกเรา เช่นนั้นข้าขอยืมดอกไม้ถวายพระเลี้ยงข้าวท่านสักมื้อ แน่นอนว่าต้องรบกวนท่านป้าจางเตรียมอาหารมื้อนี้ไว้ให้ด้วย” หยางชุ่ยฮวาพูดต่อ

พฤติกรรมของหยางชุ่ยฮวาที่เลี้ยงข้าวในบ้านคนอื่นแปลกดีจริง ๆ และตรงกับนิสัยก่อนหน้านี้ของนางด้วย

แต่การกระทำของหยางชุ่ยฮวาในตอนนี้กลับไม่ได้น่ารังเกียจ

จางซิ่วเอ๋อได้ยินแล้วลอบปรบมือให้ มีผู้ใหญ่บ้านซ่งอยู่ที่นี่ ไม่ว่าอย่างไรแม่เฒ่าจางก็ไม่มีทางทำกับข้าวมื้อนี้ส่ง ๆ หรอก

“เรื่องนั้น……” แม่เฒ่าจางลังเลนิดหน่อย นางไม่อยากรับปากเลย

หยางชุ่ยฮวากล่าวต่อ “เมื่อครู่นี้แม่เถาบอกว่าท่านจงใจทำร้ายลูกในท้องของน้องสาวข้า ข้าได้ยินแล้วโมโหถึงได้วู่วามทำร้ายท่าน ท่านป้าคงไม่คิดแค้นใจเรื่องนี้ใช่ไหมเจ้าคะ ถ้าท่านแค้นข้าจะได้ขอโทษท่านตอนนี้เลย…..”

พูดมาถึงตรงนี้หยางชุ่ยฮวาก็ชะงักไปนิดหน่อย “ถ้าเราปรองดองกันได้จะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นอีกเดี๋ยวพ่อแม่ข้าจะมาแล้ว เกิดเข้าใจท่านป้าผิดเหมือนดั่งข้าคิดว่าท่านป้าตั้งใจยุ่งเรื่องนี้จริง ๆ ล่ะก็……”

หยางชุ่ยฮวาพูดถึงตรงนี้แล้วยิ้มอย่างมีความหมาย

แม่เฒ่าจางสะดุ้งขึ้นมาทันที ความหมายของหยางชุ่ยฮวาชัดเจนมาก นั่นก็คือถ้านางไม่ตามน้ำหยางชุ่ยฮวาไป อีกประเดี๋ยวบิดามารดาของแม่โจวมาอาจจะมีการอาละวาดอีกรอบก็เป็นได้!

ขนาดหนนี้มีแค่โจวหู่และหยางชุ่ยฮวา พวกเขายังตั้งรับไม่ไหว รอให้บิดามารดาของแม่โจวมาจะไม่เละเทะไปมากกว่านี้หรือ?

แม่เฒ่าจางรีบบอก “เจ้าเป็นเด็ก ข้าย่อมไม่ถือสาเจ้า”

หยางชุ่ยฮวาตบมือและเอ่ยยิ้ม ๆ “ดีเลย เรื่องวันนี้ข้ามองออกแล้วว่าแม่เถาเป็นคนยุให้เกิดขึ้น ท่านป้าไม่ผิดหรอก…..สิ่งที่นางพูดก็เชื่อไม่ได้ ข้าจะไม่เก็บไปใส่ใจ และจะไม่ให้พ่อแม่ข้าเก็บไปใส่ใจ”

สิ่งที่หยางชุ่ยฮวาทำอยู่คือการตบหัวแล้วลูบหลังชัด ๆ

ตอนนี้จะบีบคั้นคนตระกูลจางให้จนตรอกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดคนตระกูลจางยอมให้เกิดเหตุการณ์ปลาตายตาข่ายขาด*แล้วจะแย่เอา ในท้องแม่โจวมีลูกอยู่ จะให้แม่โจวพาลูกออกจากตระกูลจางไปเลยไม่ได้

*ต่อสู้กันจนเสียหายทั้งสองฝ่าย

ถึงหยางชุ่ยฮวาจะดุ แต่ก็เป็นคนมีสมอง หลังจากระบายอารมณ์ทวงความยุติธรรมได้แล้ว พริบตาเดียวต่อมาก็รักษาสัมพันธ์ปรองดองกับคนตระกูลจางไว้ได้

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

นึกเสียดายจริง ๆ ว่าทำไมหยางชุ่ยฮวาถึงไม่มาตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นพวกคนบ้านจางโดนสั่งสอนไปนานแล้ว

ไหหม่า(海馬)