ตอนที่ 179 แฟนเก่าของฉินหงเหยียนมาแล้ว

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

อีกอย่างเขาไม่ได้อยากจะเป็นประธานบริษัทแม้แต่น้อย เหมือนที่คุณหม่าไม่ได้สนใจในตัวเงินอย่างไรอย่างนั้น

คุณปู่ของเย่เฉินรู้เรื่องฉินหงเหยียนจากพ่อบ้านฟาง

ก่อนนี้หญิงสาวยอมลงจากตำแหน่งประธานบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปเพื่อเย่เฉิน

ปู่ของเย่เฉินชื่นชมหญิงสาวผู้นี้มาก และดีใจมากที่ในที่สุดหลานชายตนเองก็ได้เจอผู้หญิงที่ไม่หลงใหลในทรัพย์สินเงินทอง

ปู่ของเย่เฉินกล่าวต่อ “ได้ แต่ว่าบริษัทไป๋ลี่มีมูลค่าตลาดเกินกว่าหมื่นล้าน จะให้ฉินหงเหยีนเป็นประธานบริษัทเลยคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ถ้าทำแบบนี้ต่อให้หลานอยากจะปกปิดสถานะ ทำตัวเป็นคนธรรมดา คิดว่าก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ปู่จะให้น้องสี่ของหลานมารับตำแหน่งประธานบริษัทก่อน ให้หล่อนบริหารงานไปพักหนึ่งแล้วจากนั้นค่อยๆ ให้ส่งมอบบริษัทให้ฉินหงเหยียนแล้วกัน”

เย่เฉินรู้สึกว่าปู่ของตนเองวางแผนถี่ถ้วน บวกกับที่เขาก็ไม่ได้เจอน้องสาวคนที่สี่ของตนเองนานแล้ว หวังอย่างมากว่าหญิงสาวจะมาที่เทียนไห่

“ครับ ขอบคุณนะครับคุณปู่”

วางสายเสร็จเย่เฉินก็เดินกลับไปที่ห้องนอนอีกครั้ง เขามองฉินหงเหยียนที่กำลังหลับสนิท เอื้อมมือไปลูบผมยาวสลวยของหญิงสาวขณะมองเสี้ยวหน้าที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนของสตรีเพศแล้วกล่าวกับตัวเอง

“หงเหยียนคุณจะได้เป็นประธานบริษัทไป๋ลี่ในเร็วๆ นี้แล้วนะ คุณจะได้กลายเป็นท่านประธานหญิงที่สวยที่สุดในเทียนไห่แล้ว ช่วยอดทนต่ออีกหน่อยนะครับคนดี คุณคือผู้หญิงของผม ผมจะทำให้คุณได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ!”

……

ริมทะเล แสงอาทิตย์ หาดทราย ต้นมะร้าว ชุดแต่งงาน และช่อบูเกต์

เย่เฉินในชุดสูทกำลังจูงมือหวังเจียเหยา หวังเจียเหยาใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวฟูฟ่องเป็นครั้งที่สามแล้ว

“ที่รักในที่สุดพวกเราก็ได้แต่งงานกันอีกครั้งแล้ว ฉันรู้ว่าคุณรักฉันที่สุด ชนาดฉันแต่งงานกับฟางเชากับหลิ่วอวี่เจ๋อแล้ว คุณยังยินยอมจะแต่งงานกับฉันเลย”

ซูหลานที่แต่งตัวเต็มยศวิ่งโร่มาหาเขาแล้วส่งยากรดโฟลิคให้เขา กล่าวพลางระบายยิ้ม

“ลูกเขยคนดี นี่คือกรดโฟลิคช่วยป้องกันระบบบประสาทและสมองให้กับเด็กทารก ลูกคนแรกของพวกเธอเป็นลูกสาวไม่ใช่เหรอ? สู้ๆ เข้านะจะได้มีลูกชายอีกสักคน จะได้มีคนสืบทอดทรัพย์สินมูลค่าแสน้านของตระกูลเย่ของเธอไง ฮ่าๆ”

หวังยหวนหยวนเองก็สวมชุดเกาะอกสีชมพู เหยียบทรายด้วยเท้าเปล่าช้าๆ ด้วยใบหน้าหงอยๆ

“ฮึ พี่เขย พี่น่ะรักแค่พี่เจียเหยา ฉันไปศัลยกรรมให้สวยเท่าพี่เจียเหยาที่เกาหลีมาก็แล้ว แต่พี่ก็ยังไม่ยอมเลือกฉัน แต่งงานกับพี่สาวฉันอีกแล้ว”

เย่เฉินมองหวังหยวนหยวนใบหน้าของหล่อนสวยงามกว่าที่ผ่านมาจริงๆ แต่รูปร่างทรวดทรงนั้นก็ยังสวยเหมือนที่ผ่านมา

เขามองไปรอบๆ พลันรู้สึกว่าโลกตรงหน้าเลือนลาง แสงอาทิตย์จู่ๆ ก็ทิ่มแทงดวงตาแต่กลับสามารถลืมตามองได้อย่างง่ายดาย

เขาพบว่าหวังเจียเหยา ซูหลาน หวังจื้อหย่วนและคุณนายหวัง ใบหน้าพวกเขาต่างก็แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม

ซ่งหงเย่เองก็กำลังยิ้มแย้ม!

รอยยิ้มของหญิงสาวทำให้สัมผัสได้ถึงความเจ้าเล่ห์ อีกทั้งคนที่มาส่งหล่อนเข้าร่วมงานแต่งงานคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเจิ้งปินอดีตสามีของหล่อน!

พวกเขาสองคนจูงมือกันเหมือนว่าจะคืนดีกันแล้ว!

เย่เฉินลนลาน จู่ๆ เขาก็สะบัดมือหวังเจียเหยาทิ้งแล้วตะคอก “ทำไมผมต้องแต่งงานกับคุณอีกรอบด้วย? ฉินหงเหยียนล่ะ? แฟนของผมคือฉินหงเหยียน!”

“หล่อนตายแล้ว!” หวังเจียเหยาตะคอกเย่เฉิน “หล่อนโดนคนตระกูลหลิ่วทำร้ายจนตายแล้ว พวกนายไม่มีทางได้อยู่ด้วยอีกตลอดไป!”

“ไม่! ไม่! ไม่!”

เขาตะโกนจนสุดเสียง

เย่เฉินลุกขึ้นจากเตียง เหงื่อแตกพลั่ก

ในครรลองสายตาของเขามืดสนิท เย่เฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู นี่เป็นเวลาตีสอง ส่องโทรศัพท์ที่สว่างน้อยๆ ไปที่ฉินหงเหยีนที่กำลังตกอยู่ในห้วงนิทรา

“ฟู่ว…ที่แท้ก็แค่ฝันไป”

เย่เฉินหอบหายใจถี่กระชั้น ยังคิดว่าภาพที่ตนเองเห็นเมื่อครู่เป็นเรื่องจริง

เขาเดินลงจากเตียงแล้วมาที่ห้องรับแขก รินน้ำเปล่าใส่แก้วยกดื่มจนหมด จากนั้นก็รินแก้วที่สองต่อ

“ทำไมถึงได้ฝันประหลาดแบบนี้นะ! ฉันไม่แต่งงานกับหวังเจียเหยาอีกรอบหรอก กระทั่งมองหน้ายังไม่อยากจะเห็นเลย”

เย่เฉินถือแก้วน้ำ หยิบโทรศัพท์แล้วเปิดวีแชท ทันใดนั้นเองก็เห็นโมเมนท์วีแชทของฉินหงเหยียน!

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? บล็อคผมไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”

ก่อนนี้ในวันแต่งงานของหลิ่วอวี่เจ๋อและหวังเจียเหยา หญิงสาวก็บล็อคเขาเอาไว้ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเย่เฉินก็ไม่เคยเห็นโมเม้นท์วีแชทของหญิงสาว และไม่สามารถส่งข้อความหาหญิงสาวได้

แต่ว่าวันนี้จู่ๆ เย่เฉินก็เห็นโมเม้นท์วีแชทของหวังเจียเหยาขึ้นมา

นี่แปลว่าหวังเจียเหยาเลิกบล็อคเขาไปแล้ว

“หวังเจียเหยาเพิ่มเพื่อนกลับมาแล้วเหรอเนี่ย?”

เย่เฉินรีบร้อนดูโมเม้นท์ของหวังเจียเหยาอย่างรวดเร็ว

โมเม้นท์วีแชทนี้เพิ่งแชร์เมื่อ 10 นาทีก่อน ดูไปแล้วว่าหวังเจียเหยายังไม่นอนหลับ

หญิงสาวแชร์คลิปวีดีโอ เขากดเปิดดู คิดไม่ถึงว่าจะเป็นภาพห้องนอนในวิลล่าของเย่เฉินที่อวิ๋นโจว นั่นคือห้องที่พวกเขาสองคนเคยใช้

ภาพที่อยู่ตรงด้านหน้าก็คือกลอนการรอคอยบทนั้นของสีมู่หรง

“ที่จริงแล้ว สิ่งที่ฉันรอคอยก็เป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ฉันไม่เคยอ้อนวอนขอให้เธอยกทั้งชีวิตให้ฉัน”

เสียงในคลิปวีดีโอยังเป็นทำนองของเครื่อง NEXUS เพลง ANXIANG ที่เย่เฉินทำเอาไว้

ส่วนคลิปของหวังเจียเหยานั้นมีแคปชันบรรยายเอาไว้ว่า “วันเวลาที่ได้อยู่ในห้องนี้เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตฉัน”

คิดไม่ถึงว่าหวังเจียเหยาจะแชร์คลิปอะไรแบบนี้ในคืนวันแต่งงาน!

ดูแล้วหลังจากที่หญิงสาวรู้ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อไม่ใช่แฟนดีเด่นอะไรก็เริ่มหวนคิดถึงอดีต

ส่วนแย่เฉินหลังจากที่เขาเห็นแล้วกลับอยากจะบอกหญิงสาวว่า “สมน้ำหน้า!”

ถ้ารู้แบบนี้ก็คงไม่ทำตั้งแต่แรก!

เย่เฉินไม่มีทางคิดถึงหวังเจียเหยาอีก เพราะหวังเจียเหยาเคยใช้ชีวิตร่วมกับเย่เฉินมาก่อนสามปี ส่วนที่หวังเจียเหยาย้อนคิดถึงช่วงเวลาในอดีตที่เคยอาศัยอยู่ในวิลล่า หรือว่าเวลาอื่นเจ้าหล่อนไม่มีความสุขแล้วหรือ!

พูดไปที่สุดแล้วที่หวังเจียเหยาคิดถึงนั้นก็ยังเป็นเย่เฉินที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เย่เฉินที่ล้มเหลว!

เย่เฉินไม่ได้กดไลก์และไม่ใส่ความคิดเห็นอะไรกับโมเม้นท์วีแชทนี้

เขาไม่ได้ลบเพื่อนหวังเจียเหยาทิ้ง และไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้น

ถ้าหากว่าเขาไม่อยากจะเห็นโมเม้นท์วีแชทของหวังเจียเหยาก็แค่กดปิดการมองเห็นไปก็จบแล้ว

ตอนนี้เขาแค่อยากจะทำดีกับฉินหงเหยียนให้มากๆ คนเดียว สำหรับหวังเจียเหยานั้นหญิงสาวไม่มีที่ยืนในหัวใจเขาตั้งนานแล้ว!

พอย้อนนึกถึงฝันเมื่อครู่เย่เฉินหัวเราะน้อยๆ เรื่องในฝันไม่มีทางเกิดขึ้น เขารู้ใจตัวเองดีที่สุด!

ต่อให้เย่เฉินไปแต่งงานกับหวังหยวนหยวน ก็ไม่มีทางแต่งหญิงสามชายอย่างหวังเจียเหยา!

ในเวลาสองวันต่อมา เย่เฉินก็ไม่ได้ไปทำงาน เขาอยู่เป็นเพื่อนฉินหงเหยียนทุกวัน ไปเดินห้างสรรพสินค้า ซื้อข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน ซื้อเสื้อผ้า ดูภาพยนตร์ทุกวัน

น้องสาวคนที่สี่ของเย่เฉินเป็นคนยุ่งมาก ตอนนี้มีบริษัทอยู่ที่ต่างประเทศ มารับตำแหน่งประธานบริษัทไป๋ลี่ รวมไปถึงเรื่องที่ตระกูลเย่ซื้อหุ้นบริษัทไป๋ลี่ของคุณเซี้ยะก็จำเป็นต้องใช้เวลา

ผ่านไปหลายวันเย่เฉินก็เริ่มทำงานแล้ว เขาส่งของอยู่ที่ไป๋ลี่ ได้เงินเดือนเดือนละ 5000 หยวน

เขาอยากจะลองสัมผัสสายงานขนส่งในประเทศ โดยเริ่มต้นจากการทำงานเป็นพนักงานส่งของที่ถือเป็นขั้นต่ำที่สุดในบริษัท

……

เทียนไห่ในเดือนกรกฎาคม ถือได้ว่าเข้าสู่ช่วงที่ร้อนที่สุดของปี

หลังจากที่ฉินหงเหยียนกินข้าวแล้วในตอนเที่ยงก็ขับรถไปที่ร้านหนังสือชื่อฮั่นหยวนเพื่อหาซื้อหนังสือตลอดทั้งบ่าย

เหมือนกับที่จางกั๋วหรงดาราที่หญิงสาวชื่นชอบเคยทำ

วันนี้เป็นเวลา 5 โมงเย็น ฉินหงเหยียนก็เดินออกมาจากห้องหนังสือ หล่อนเตรียมกลับไปทำอาหารที่วิลล่า รอเย่เฉินกลับมาเพื่อที่ทั้งสองคนจะได้กินข้าวเย็นด้วยกัน

ฉินหงเหยียนเพิ่งจะหยิบกุญแจรถของตนเองออกมาแล้วชี้ไปที่รถพอร์ชพาราเมร่าของตนเอง ทันใดนั้นเองก็มีชายในเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแลคเดินตรงมา

“คุณฉินหงเหยียนครับ คุณสวี่เชิญให้ไปพบครับ”

ฉินหงเหยียนมองชายแปลกหน้าอย่างประหลาดใจ

จากนั้นก็มองไปที่รถ Mercedes-AMG S65 สีดำที่จอดอยู่ด้านหลังตนเองคันนั้น

“ป้ายทะเบียนเมืองเสินเฉิง!”

ฉินหงเหยียนตกตะลึงแล้วสาวเท้าขึ้นไป

กระจกในเก้าอี้ด้านหลังค่อยๆ ลดลงมาแล้วมีเสียงผู้ชายดังลอดออกมา “หงเหยียน”

ในวินาทีที่หญิงสาวเห็นชายผู้นั้นก็ตัวแข็งไปทันที

ผู้ชายคนนี้ก็คือผู้ชายที่เลี้ยงดูหล่อนมาเป็นระยะเวลา 3 ปี!