ฝ่ายชายดูไปแล้วอายุน่าจะ 40-50 ปีเป็นอย่างน้อย เขาสวมแว่นตา แล้วรูปร่างค่อนข้างท้วม

เขาชื่อสวี่ฉู่หมิง เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดของเมืองเสินเฉิง เป็นผู้บริหารบริษัทมูลค่าแสนล้าน

ในวินาทีที่ฉินหงเหยียนเห็นสวี่ฉู่หมิง ก็ทำอะไรไม่ถูก

ในวินาทีนั้นเอง หญิงสาวหวนคืดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ตนเองเคยเป็นเด็กของเขาเมื่อเจ็ดปีก่อน

“ขึ้นรถสิ” สวี่ฉู่หมิงกดเสียงต่ำ น้ำเสียงเบาทว่าเป็นคำสั่งที่คนไม่อาจขัดขืนได้เลย

ฉินหงเหยียนเปิดประตู แล้วนั่งเข้าไปในรถโดยสัญชาตญาณ

หลังจากที่ฉินหงเหยียนขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว กลิ่นกลายหอมอบอวนของสตรีเพศก็ลอยอบอวลเต็มหลังรถ

สวี่ฉู่หมิงปิดกระจกรถใหม่อีกครั้ง แต่คนขับรถคนนั้นเมื่อครู่ก็ยังยืนอยู่ที่ด้านนอกรถ ไม่ได้เข้ามาข้างใน

ทั้งสองคนนั้นอยู่ริมถนนซ่าวซิงที่เงียบสงัด ฟิล์มที่ฉาบกระจกนั้นดำสนิทจนทำให้ไม่มีใครมองลอดเข้ามาเห็นเหตุการณ์ภายในรถ

สวี่ฉู่หมิงมองฉินหงเหยียน ชายสูงวัยที่เดิมดูโรยราไปตามวัย ทันใดนั้นเองก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

และเป็นไปอย่างที่คาดสิ่งที่สามารถทำให้ผู้ชายตื่นเต้นได้นั้นก็คือผู้หญิงเสมอ

“คุณก็ยังสวยเหมือนเคยแถมยังดูมีความเป็นผู้หญิงกว่าเดิมด้วย”

สวี่ฉู่หมิงกำมือขาวนวลเนีนของฉินหงเหยียน

ฉินหงเหยียนกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “คุณแก่ลงนะคะ”

ฉินหงเหยียนเหมือนเข้าใจว่าจะยั่วโมโหคนอย่างสวี่ฉู่หมิงได้อย่างไร หญิงสาวไม่ต้องสะบัดมือเขาทิ้งด้วยซ้ำไป เพียงแค่คำพูดเพียงประโยคเดียวก็สามารถทำให้สวี่ฉู่หมิงที่เป็นฝ่ายจับมือหญิงสาวก่อนต้องสลัดมือหญิงสาวทิ้งเอง

สวี่ฉู่หมิงหัวเราะขมขื่น “ใช่แล้ว ผมแก่ลงกว่าเมื่อเจ็ดปีก่อน มีผมหงอกมากขึ้นเยอะ ร่างกายก็ทรุดโทรมลงไปทุกปี”

ฉินหงเหยียนและสวี่ฉู่หมิงไม่เจอกันมาเจ็ดปีแล้ว เมื่อมองผู้ชายคนในอดีต คราวนี้ก็ดูโรยราลงไปมาก จิตใจฉินหงเหยียนสับสน

“คนทุกคนก็ต้องแก่” ฉินหงเหยียนปลอบ

ในอดีตที่ผ่านมาผู้ชายคนนี้สอนฉินหงเหยียนต่างๆ มากมาย เขาเองเป็นผู้ชายเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉินหงเหยียนรัก

เมื่อ 7 ปีก่อน สวี่ฉู่หมิงยังมีท่าทางองอาจอย่างมาก ตัวฉินหงเหยียนในตอนนั้นชอบผู้ชายมีอายุ

ดังนั้นเมื่อถูกเขาเลี้ยงเป็นระยะเวลาถึง 3 ปี จะเกิดชอบเขาขึ้นมาก็คงไม่แปลกประหลาด

“วันนี้คุณมาทำอะไรที่เทียนไห่? ประชุมเหรอ?” ฉินหงเหยียนถาม

สวี่ฉู่หมิงหันไปมองฉินหงเหยียนแล้วกล่าว “ฉันมาเพราะเธอ”

“เพื่อฉันเหรอ?” ฉินหงเหยียนเองก็ประหลาดใจอย่างมาก

สวี่ฉู่หมิงกล่าว “ได้ยินมาว่าหลังจากที่เธอมาเทียนไห่ก็เจอปัญหาใหญ่นี่ อยู่มานานขนาดนี้ยังไม่มีบริษัทไหนจ้างเธอเลย ทำไมเธอถึงได้ต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลหลิ่วด้วย? เมื่อก่อนฉันสอนเธอว่ายังไง? เธอเป็นผู้หญิง จะต้องหัดใช้ประโยชน์ในตัวที่เธอมีเอาอกเอาใจผู้บริหารสักคนในเทียนไห่ เมื่อเจ็ดปีก่อนเธอก็ได้ดิบได้ดีที่อวิ๋นโจวนี่ แต่ทำไมพอมาที่เทียนไห่เธอถึงได้ลืมทุกอย่างที่ฉันสอนไปล่ะ!”

เสียงของสวี่ฉู่หมิงดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนผู้สูงวัยกำลังสั่งสอนคนที่อ่อนวัยกว่า

ฉินหงเหยียนเป็นคนที่สวี่ฉู่หมิงสั่งสอน เขาย่อมมีสิทธิ์สั่งสอนฉินหงเหยียน

ฉินหงเหยียนหันไปมองอีกทางแล้วส่ายหน้า ด้วยท่าทางดื้อดึง “นี่เป็นเรื่องของฉันคุณไม่ต้องมาสนใจหรอกค่ะ”

สวี่ฉู่หมิงยื่นมือสองข้างออกมาจับหลังคอของฉินหงเหยียนแล้วบิดหน้าให้หญิงสาวหันหลับมา แล้วกล่าวกับหล่อนว่า

“ฉันจะไม่สนใจเธอได้ยังไง? ตอนนั้นถ้าฉันไม่สนใจเธอ แล้วปล่อยให้เธอโดนพวกสารเลวที่ไร้การศึกษาพวกนั้นตามจีบ ปล่อยให้น้องสาวเธอโดนรังแก เธอจะมีวันนี้เหรอ?”

ฉินหงเหยียนก้มหน้าลงมือทั้งสองข้างวางบนกระโปรงอย่างว่าง่าย

“ฉันมีแฟนแล้ว” ฉินหงเหยียนโพล่งออกมา

สวี่ฉู่หมิงคลายมือลงอีกครั้งแล้วแค่นเสียง “ฉันรู้แล้วชื่อเย่เฉินใช่ไหมล่ะ? เหมือนว่าจะอายุน้อยกว่าเธอมากทีเดียว เธอไปล่วงเกินคนตระกูลหลิ่วเข้าเพราะเขาล่ะสิ?”

ฉินหงเหยียนรู้ว่าด้วยศักยภาพของสวี่ฉู่หมิงหมิงแล้ว จะตามสืบเรื่องของเย่เฉินไม่ใช่ปัญหาอะไรเลย

“ค่ะ ฉันชอบเขามาก เรื่องของเขาก็คือเรื่องของฉัน” ฉินหงเหยียนกล่าว

สีหน้าสวีฉู่หมิงโกรธจัด ผู้ชายขี้หึงเหมือนๆ กันสินะ

“เลิกกับเขาเถอะ เขาไม่เหมาะกับเธอ!” สวี่ฉู่หมิงสั่ง

“ไม่!” ฉินหงเหยียนปฏิเสธทันควัน “คุณไม่มีสิทธิ์สั่งให้ฉันเลิกกับเขา! คุณสวี่ฉู่หมิงพวกเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว ฉันจะเป็นแฟนกับใคร ทำงานอะไรก็เป็นเรื่องของฉัน”

สวี่ฉู่หมิงกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เรื่องเธอคนเดียว? เธอคนเดียวจะทำอะไรได้? ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาถ้าไม่ได้ฉันคอยช่วยเธออยู่ลับๆ เธอคิดว่าเพียงตัวเธอลำพังคนเดียวที่หน้าตาสะสวยเรือนร่างงดงาม จะเป็นรองประธานบริษัทหัวเซิ่งได้โดยที่ไม่ได้นอนกับผู้บริหารคนไหนเลยอย่างนั้นเหรอ!”

ฉินหงเหยียนกัดริมฝีปาก ด้วยท่าทางไม่พอใจ

หล่อนเดาได้ตั้งนานแล้วว่าสวี่ฉู่หมิงลอบช่วยตนเองลับๆ

เพียงแต่หล่อนไม่อยากจะยอมรับ ไม่อยากจะติดต่อกับสวี่ฉู่หมิงอีก หล่อนอยากจะเรื่องราวในอดีตทั้งหมด

ฉินหงเหยียนกล่าวว่า “สวี่ฉู่หมิงฉันอยู่กับคุณสามปี นอนกับคุณ เที่ยวกับคุณ ทำเรื่องนั่นนี่กับคุณก็ตั้งมากมาย ต่อให้ตอนนี้ความสำเร็จที่ฉันมีเป็นเพราะคุณช่วย แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันควรได้รับ! ฉันไม่สามารถติดตามคุณไปได้ตลอดชีวิตหรอก! ฉันอยากจะมีความรักแบบเปิดเผยที่บอกใครต่อใครได้สักครั้งหนึ่ง!”

เห็นฉินหงเหยียนระเบิดอารมณ์ สวี่ฉู่หมิงย้อนคิดถึงช่วงเวลาที่ฉินหงเหยียนเปลี่ยนแปลงไปจากนักเรียนที่ใสซื่อกลายเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอิสตรีเพศ ก็เป็นเพราะเขาทั้งนั้น รู้สึกติดค้างหญิงสาวตรงหน้าไม่น้อย

สวี่ฉู่หมิงกำมือฉินหงเหยียนอีกครั้งแล้วกล่าว “หงเหยียนฉันรู้ว่าฉันบังคับให้เธอเป็นชู้ ทำเธอลำบากแล้ว 7 ปีก่อนเธอบังคับให้ฉันต้องแต่งงานกับเธอ ถ้าไม่ยอมเธอจะเลิกกับฉัน ตอนนั้นฉันไม่สามารถหย่ากับหล่อน เลยไม่สามารถแต่งงานกับเธอ ทว่าตอนนี้ฉันบอกเธอได้เลยว่าเธอแต่งงานกับเธอได้แล้ว หงเหยียนฉันสามารถทำให้เธอกลายเป็นภรรยาของฉันสวี่ฉู่หมิง”

สวี่ฉู่หมิงเป็นถึงเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเสินเฉิง มีทรัพย์สินมากกว่าแสนล้าน เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงกี่คนอยากจะครอบครอง

ฉินหงเหยียนตกใจ “คุณไม่กลัวภรรยาคุณแล้วหรือไง?”

สวี่ฉู่หมิงตอบ “หล่อนตายไปเมื่อปีก่อน”

ฉินหงเหยียนแค่นเสียง มิน่าล่ะสวี่ฉู่หมิงถึงได้กล้าแต่งงานกับตนเอง

เมื่อ 7 ปีก่อน ฉินหงเหยียนเคยยื่นคำขาดให้สวี่ฉู่หมิงแต่งงานกับหล่อนจริงๆ หล่อนต้องการสถานะ หล่อนไม่อยากจะเป็นกิ๊กที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไปแล้ว

แต่ว่าตอนนี้หล่อนไม่อยากจะเป็นภรรยาของสวี่ฉู่หมิงอีกแล้ว!

ฉินหงเหยียนกล่าวต่อ “ขอโทษด้วย ฉันมีผู้ชายที่ชอบแล้ว ฉันคงจะแต่งงานกับคุณไม่ได้”

สวี่ฉู่หมิงหัวเราะ “เขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงตั้งสามปีเนี่ยนะ? ได้ยินมาว่าตอนนี้คุณยังเป็นคนเลี้ยงเขาด้วยนี่? เหอะๆ หงเหยียนเธออยู่กับฉันมาตั้งสามปี ฉันจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเธอเป็นคนยังไง? เธอไม่มีทางชอบผู้ชายที่ไร้ประโยชน์แบบนี้แน่ๆ เธอชอบผู้ชายที่มีความสามารถกว่าเก่งกว่าและสูงส่งกว่าเธอ จุดนี้ฉันมั่นใจ 100% เลย!

ทว่าเธอพูดถูก ตอนเธออายุ 20 ปีก็อยู่กับฉันแล้ว แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีแฟนอายุเท่ากันเลย เย่เฉินยังอายุน้อยมาก เย่เฉินเองก็หล่อมาก นี่คือจุดที่ต่อให้ฉันมีเงินก็คงสู้ไม่ได้ แบบนี้แล้วกัน ฉันให้เวลาเธอครึ่งปี ครึ่งปีนี้เธอสามารถคบหากับเขาต่อไปได้ ไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ได้ในโลก

หลังจากครึ่งปี พอเธอเบื่อแล้ว ค่อยมาหาฉันที่เมืองเสินเฉิง แล้วมาเป็นภรรยาของฉัน!”