บทที่ 246 เจ็บใจ

ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่โจวและหยางชุ่ยฮวาไม่ได้ดีเท่าใดนัก จึงก่อให้เกิดการคาดเดาไปในทางที่ไม่ดีได้

ถึงการที่แม่โจวไม่อยากให้หยางชุ่ยฮวามาจะเป็นเพราะคำนึงถึงตระกูลโจว อยากจะแบกรับทุกอย่างไว้เอง แต่การกระทำเช่นนี้ย่อมไม่เป็นที่เข้าใจของหยางชุ่ยฮวา กลับจะทำให้หยางชุ่ยฮวารู้สึกว่าน้องสามีคนนี้คบยาก จึงจงใจมีระยะห่างกับนาง

หยางชุ่ยฮวาจึงเกิดความรู้สึกเกลียดชังต่อแม่โจวขึ้นมา และแม่โจวก็คิดว่าหยางชุ่ยฮวาไม่มีทางออกหน้าให้ตัวเอง

ไป ๆ มา ๆ ความสัมพันธ์ของสองครอบครัวจึงห่างเหินกันไป

ถ้าไม่ใช่ว่าคราวก่อนจางซิ่วเอ๋อกลับไปกับแม่โจว ป่านนี้แม่โจวก็คงยังไม่อยากข้องแวะกับครอบครัวตัวเองเท่าใดนัก

จางซิ่วเอ๋อรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาให้แม่โจว “ท่านแม่ อย่าร้องไห้ไปเลยเจ้าค่ะ หลังจากนี้ท่านไม่ต้องกลัวพวกเขาแล้ว คนพวกนี้ชอบรังแกผู้อ่อนแอแต่เกรงกลัวผู้แข็งแกร่ง หลังจากนี้ท่านย่าคงไม่กล้ารังแกท่านแม่แบบนั้นอีกแล้ว!”

อย่างน้อย ๆ หลังจากนี้แม่เฒ่าจางคงไม่กล้าทำเรื่องที่ถึงแก่ชีวิตแม่โจวแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเพลา ๆ ลงบ้าง

แม่โจวพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว”

ครั้นถึงเวลาบ่าย โจวชุนซ่างและแม่เฒ่าโจวรวมถึงโจวเหวินต่างก็เร่งรีบเดินทางมา

หลังจากมาถึงบ้านตระกูลจาง โจวชุนซ่างและแม่เฒ่าโจวก็ไปดูแม่โจวก่อน หลังจากนั้นจึงมองแม่เฒ่าจางตาขวาง จะยิ้มแย้มและพูดจานุ่มนวลต่อเมื่อคุยกับผู้ใหญ่บ้านซ่งและแม่เฒ่าซ่งเท่านั้น

แม่เฒ่าจางรู้สึกอัดอั้นตันใจอย่างเหลือแสน

หยางชุ่ยฮวายึดครองห้องครัวไปแล้ว จนแม่เฒ่าจางกังวลว่าหยางชุ่ยฮวาจะใช้น้ำมันของตนจนหมดหรือไม่ ครั้นนึกถึงเนื้อ 2 ชั่งที่ตัวเองซื้อมา นางก็อยากแอบเก็บไว้สักเล็กน้อย

จากนั้นก็ร้อนใจที่แม่ไก่ของตนโดนจับตุ๋นอยู่ในหม้อ

สรุปก็คือ ตอนนี้แม่เฒ่าจางรู้สึกว่าตนเป็นมดบนกระทะร้อน นั่งไม่ติดที่เลย

“โอ๊ย ท่านป้ามาทำไมอีก? ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ? ว่างานพวกนี้ให้คนสาวอย่างข้าทำดีกว่า ท่านไปคุยเป็นเพื่อนพ่อแม่ข้าเถอะ!”

“นั่นน่ะสิ ครอบครัวแม่โจวมาทั้งทีเจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนเถอะ บ้านเจ้าไม่มีบุรุษเป็นเสาหลัก เวลานี้ต้องเป็นเจ้านี่แหละที่อยู่ต้อนรับ” แม่เฒ่าซ่งดึงแม่เฒ่าจางที่กำลังเดินไปห้องครัวไว้และบอกยิ้ม ๆ

แม่เฒ่าจางนึกฉุนอยู่ในใจ ไม่มีบุรุษเป็นเสาหลักอะไรกัน

ที่แม่เฒ่าซ่งพูดเช่นนี้ก็ต้องการบอกว่านางไม่มีสามีใช่ไหม?

คิดมาถึงตรงนี้แม่เฒ่าจางก็ปวดแปลบขึ้นมาในใจ!

เรื่องสามีของแม่เฒ่าจางหรือก็คือปู่ของจางซิ่วเอ๋อ เป็นเรื่องที่ปวดใจที่สุดของแม่เฒ่าจางแล้ว พวกเด็ก ๆ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แม่เฒ่าซ่งเป็นใครกันเล่า?

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ในหมู่บ้านนี้ แม่เฒ่าซ่งต่างรู้มาไม่น้อยเลย

สุดท้ายแม่เฒ่าจางก็โดนลากตัวออกไป แม่เฒ่าซ่งมองหยางชุ่ยฮวาที่ยุ่งอยู่ในห้องครัวด้วยความพอใจสุดขีด

จะให้แม่เฒ่าจางทำกับข้าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด เกิดถึงเวลาใส่เครื่องมาน้อยคงไม่ต้องพูดถึง คนสกปรกอย่างแม่เฒ่าจางจะทำกับข้าวดี ๆ อะไรออกมาได้?

ส่วนแม่เถายิ่งหวังอะไรไม่ได้ใหญ่ เวลานี้จางต้าเหอและแม่เถาพาตัวลูกชายสองคนกลับเข้าไปนั่งโมโหอยู่ในห้องตัวเองแล้ว ตอนนี้ไม่มีใครอยากพูดถึงพวกเขา และตั้งใจหลงลืมพวกเขาไป

ตอนที่ฟ้าใกล้มืด โต๊ะอาหารก็ถูกนำออกมาตั้งในสวนลาน

จางซิ่วเอ๋อช่วยหยางชุ่ยฮวายกกับข้าวขึ้นโต๊ะทีละจาน

เริ่มที่ถั่วฝักยาวผัดเนื้อมันย่องนั่นก่อน ตามด้วยมันฝรั่งตุ๋นเนื้อ และเนื้อแดดเดียวผัดพริก

เนื้อแดดเดียวนี้หยางชุ่ยฮวานำลงมาจากคานบ้านตระกูลจาง ตอนแรกแม่เฒ่าจางยังไม่รู้ พอตอนนี้ได้เห็นเนื้อแดดเดียวแล้วแม่เฒ่าจางก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกกรีดเฉือน

“เนื้อแดดเดียวนี่……” แม่เฒ่าจางเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ

ถ้าให้เทียบกันเรื่องหน้าหนา หยางชุ่ยฮวาก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน นางทำเหมือนฟังที่แม่เฒ่าจางพูดไม่ออก ขัดแม่เฒ่าจางทันควันพร้อมกล่าว “เรื่องนั้น ถึงแม้เนื้อแดดเดียวนี้จะดูเก็บมานานแล้ว แต่พวกเราไม่รังเกียจหรอก เจ้าไม่ต้องห่วง”

แม่เฒ่าจางแค้นจนกัดฟันกรอด แต่ในเวลาแบบนี้ได้แต่ฝืนกลั้นเอาไว้

หยางชุ่ยฮวาทำกุยช่ายผัดไข่ด้วย ครั้งนี้ไข่เยอะกุยช่ายน้อย

นอกเหนือจากนี้นางยังตุ๋นแม่ไก่อีกหนึ่งตัว ส่วนขาไก่และอกไก่นั้นหยางชุ่ยฮวายกเข้าไปในห้องแม่โจว

หลายฝูหลายเป่าก็มาด้วย ที่แม่โจวกินไม่หมดก็ให้หลายฝูหลายเป่ากินได้

อาหารเจมีอย่างเดียวคือผัดผักกาดขาว ซึ่งในนั้นใส่น้ำมันทอดพริกไปด้วย

อาหารมื้อนี้อุดมสมบูรณ์และดูดีมาก

แม้แต่แม่เฒ่าซ่งผู้ช่างเลือกยังรู้สึกอยากอาหารหลังจากเห็นกับข้าวเหล่านี้

“โอ๊ยท่านป้าจาง คนมาอยู่ที่นี่กันตั้งเยอะ อย่างไรท่านก็ต้องเอาเหล้าออกมาดื่มกันหน่อยสิ” หยางชุ่ยฮวาเอ่ยขึ้นอีก

แม่เฒ่าจางสีหน้าเย็นเยียบลง “บ้านข้าไม่มีเงินแล้วจริง ๆ”

“ไม่มีเงินไม่เป็นไร บ้านท่านมีแม่ไก่อีกไม่ใช่หรือ นำแม่ไก่ไปแลกเหล้าต้องแลกได้บ้างสิ” หยางชุ่ยฮวาช่วยแม่เฒ่าจางออกความคิดเห็นอย่าง ‘หวังดี’

แม่เฒ่าจางหมดหนทาง นึกอย่างแค้นเคืองว่าต้องรีบส่งพวกตัวซวยนี่ออกจากบ้านไปให้เร็ว จึงยื่นเงินให้จางอวี่หมิน 3-4 เหรียญให้นางไปซื้อเหล้ากับแม่หม้ายหลิว

จางอวี่หมินออกจากบ้านไปนานโขกว่าจะอิดออดเดินกลับมา

นางซื้อเหล้ามาแค่ครึ่งโถ หลังผสมน้ำลงไปแล้วถึงเอากลับมา

เป็นเพราะคิดว่าแม่เฒ่าจางเองก็ต้องดื่มเหมือนกัน จางอวี่หมินจึงไม่ได้ถุยน้ำลายลงไป ไม่อย่างนั้นสิ่งที่จางอวี่หมินนำกลับมาก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรบ้าง

“ทุกคนรีบกินกันเถอะ ท่านป้า กินเนื้อเยอะ ๆ เลยนะเจ้าคะ” หยางชุ่ยฮวาคีบเนื้อชิ้นหนึ่งใส่ลงไปในถ้วยแม่เฒ่าซ่ง

แม่เฒ่าซ่งมองหยางชุ่ยฮวาอย่างพอใจ

หลายฝูหลายเป่าไม่ได้มากินข้าวที่โต๊ะ หยางชุ่ยฮวาตักกับข้าวแยกให้เด็กทั้งสองคน และให้พวกเขาไปกินข้าวเป็นเพื่อนแม่โจวในห้อง

จางซิ่วเอ๋อและจางชุนเถารวมถึงจางต้าหูได้กินข้าวตรงนี้ ส่วนพวกจางต้าเหอไม่มีใครไปเรียก และไม่มีใครไปส่งข้าว หยางชุ่ยฮวายิ่งไม่อยากนึกถึงพวกเขา เวลานี้พวกเขาจึงได้แต่นั่งโมโหอยู่ในห้อง

โดยเฉพาะเมื่อได้กลิ่นหอมของอาหารลอยมาจากข้างนอก และคิดว่าไม่มีคนมาเรียก พวกเขาก็อัดอั้นตันใจอย่างสุดแสน

สือโถวสูดจมูกและเอ่ย “ท่านแม่ ข้าหิวแล้ว ข้าอยากกินข้าว”

หลังวุ่นวายกันมาตั้งแต่เที่ยงจนถึงบัดนี้ สือโถวที่นอกจากแอบกินขนมไปไม่กี่ชิ้นก็ไม่ได้กินอะไรอย่างอื่นเลย

จางเป่าเกินนอนร้องโอดโอยอยู่บนเตียง พอเห็นสือโถวเป็นแบบนี้เขาก็นึกฉุน คราแรกยังพอแถไปได้ แต่เป็นสือโถวนี่แหละที่บอกทุกอย่าง เขาถึงต้องโชคร้ายขนาดนี้

จางเป่าเกินจึงพูดขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด “กิน ๆๆ! ไอ้คนตะกละเห็นแก่กิน! กินเป็นอย่างเดียว! ข้าหายดีเมื่อใดจะเล่นงานเจ้าให้ตายเลย!”

สือโถวร้องไห้ลั่น “ท่านแม่ พี่ด่าข้า!”

“ข้าด่าเจ้า? ข้าไม่ใช่แค่ด่าเจ้า แต่ข้าจะอัดเจ้าด้วย!” จางเป่าเกินพูดอย่างดุร้าย

แม่เถาคลึงขมับอย่างเหนื่อยหน่าย เอ่ยขึ้นด้วยความไม่สบอารมณ์ “พวกเจ้าสองคนทำตัวดี ๆ กันบ้างได้ไหม? ตีกันเองให้ได้อะไร? แน่จริงออกไปกร่างข้างนอกสิ!”

“เป่าเกิน สือโถวยังเด็กไม่รู้เรื่อง เจ้าโตขนาดนี้แล้วก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันรึ? เรื่องครั้งนี้ผิดที่น้องชายเจ้าหรือ? เพราะนังต่ำช้าอย่างจางซิ่วเอ๋อไม่ใช่รึ!” แม่เถาพูดอย่างเคียดแค้น

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เจอคนจริงเข้าเป็นอย่างไรล่ะ หงอจนไปไม่ถูกเลยทีเดียวเนอะแม่เฒ่าจางเนอะ

ไหหม่า(海馬)