บทที่ 209 ก็...ไม่ได้แพงเลยนี่

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

เผยเชียนเดินมองไปรอบๆ พลางครุ่นคิดอย่างหนัก

หลายร้านในละแวกนี้กำลังปรับปรุงใหม่ หมายความว่าถ้าเปิดภัตตาคารระดับสูงที่นี่ก็มีโอกาสสูงที่คนอื่นจะมาเจอ

ดังนั้นทำเลทั้งหมดที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้จึงกลายเป็นใช้ไม่ได้สักที่

เผยเชียนเดินไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณใกล้ๆ ย่านพักอาศัยหมิงหยุนวิลล่าโดยไม่รู้ตัว

พอเห็นวิลล่าที่ตั้งอยู่ห่างออกไปบนเนินเขา ชายหนุ่มก็เริ่มครุ่นคิด

หมิงหยุนวิลล่าตั้งอยู่ที่เขาไร้ชื่อ (หรือก็แค่กองหินกองทราย) นอกเมืองจิงโจว วิลล่าส่วนมากจะอยู่ตรงตีนเขา มีบางส่วนที่ตั้งเหนือขึ้นไปเกือบครึ่งเขา วิลล่าเหล่านี้มีชื่อเรียกว่า ‘วิลล่ายอดเขา’

เท่าที่เผยเชียนรู้มา หมิงหยุนวิลล่าขายวิลล่าออกไปได้ไม่มาก โดยเฉพาะหลังที่อยู่ไกลขึ้นไปบนยอดเขา

ที่เป็นอย่างนั้นหลักๆ มาจากสองเหตุผล

เหตุผลแรกคือวิลล่าเหล่านี้ไม่มีมูลค่าด้านการลงทุน ราคาของมันสูงเกินไป มีไม่กี่คนที่จ่ายไหว

หมิงหยุนวิลล่าถือว่าอยู่เขตนอกเมืองจิงโจว คนที่จะซื้อวิลล่าที่นี่ ส่วนใหญ่มักมีอสังหาริมทรัพย์ในเมืองที่ราคาเท่าๆ กันอยู่แล้ว แถมคนส่วนใหญ่ยังไม่อยากอาศัยอยู่นอกเมืองด้วย

ถ้าจะซื้อวิลล่าไว้เป็นบ้านพักตากอากาศเผื่อนานๆ ทีแวะมาพัก อัตราความคุ้มค่าต่อราคาก็ถือว่าต่ำมาก

ดังนั้นวิลล่าพวกนี้จึงสูญเสียมูลค่าไปอย่างง่ายดายหลังจากซื้อไป เว้นเสียแต่ว่าจะมีเศรษฐีที่มีเงินมากจนไม่รู้จะเอาไปทำอะไรมาซื้อเล่นๆ ส่วนคนทั่วไปไม่มีใครคิดจะซื้อวิลล่าที่นี่

เหตุผลที่สองคือวิลล่ายอดเขาของหมิงหยุนวิลล่าสร้างโดยอ้างอิงมาตรฐานวิลล่ายอดเขาของต่างประเทศ ทุกหลังถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังที่ลงมาดูงานด้วยตัวเอง ดังนั้นราคาจึงแพงกว่าวิลล่าบริเวณตีนเขามาก

ด้านบนมีกระทั่งสระน้ำไร้ขอบ รอบบริเวณจัดตกแต่งอย่างหรูหรา

หลังจากประกาศขาย หลายคนมองว่าไม่รู้จะซื้อไปทำไม

ส่วนหนึ่งเพราะแพงเกินไป อีกส่วนมาจากการที่พวกไฮโซที่คิดจะซื้อวิลล่านั้นมักอยากออกแบบวิลล่าตามใจตัวเอง บางคนไม่ชอบงานออกแบบนี้และยืนกรานจะให้ทำทุกอย่างแบบที่ตัวเองต้องการ

แบบวิลล่าของพวกไฮโซอธิบายได้ยากมาก บางคนอยากให้สร้างโดยอิงสถาปัตยกรรมแบบบาโรก มีโต๊ะหินอ่อนแบบสมัยก่อนที่นั่งได้แปดคน บางคนอยากได้วิลล่าสไตล์ฝรั่งเศสแต่งด้วยเครื่องเรือนไม้สีแดง บางคนอยากได้วิลล่าสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่มีรูปปั้นสิงโตประดับอยู่หน้าทางเข้า บางคนอยากได้เป็นวิลล่าแนวคอตเทจมีสระปลาคาร์ฟ บางคนอยากได้วิลล่าสไตล์จีนผสมสไตล์สถาปัตยกรรมฟื้นฟูคลาสสิกของทางยุโรป

ที่ไล่มาทั้งหมดถือว่าเป็นแบบพื้นฐาน

พอซื้อวิลล่ามา สิ่งแรกที่พวกไฮโซทำคือทุบนั่นเปลี่ยนนี่ จากนั้นก็จ้างคนมาช่วยแปลงวิลล่าให้เป็นบ้านแบบที่ต้องการ แถมยังยืนกรานจะต่อเติมส่วนที่ไม่สามารถทำได้เพิ่มเข้าไปอีก

ไม่ใช่ว่าไฮโซทุกคนจะมีรสนิยมดี แต่พวกเขาล้วนมีวิลล่าแบบที่อยากได้ในใจแตกต่างกันไป

ด้วยเหตุนี้วิลล่ายอดเขาที่หมิงหยุนวิลล่าจึงตกอยู่สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

แต่ละหลังถูกออกแบบและปรับปรุงให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อที่จะขายได้ราคาแพงๆ แต่พวกไฮโซกลับไม่ซื้อ

ถ้าซื้อวิลล่าที่นี่ไป พวกเขาก็ต้องมาแก้ทุกอย่างใหม่ ต้องใช้เงินล้านถึงสองล้านหยวน แทนที่จะทำแบบนั้น สู้ไปซื้อหลังที่ใกล้สมบูรณ์น่าจะดีกว่า

ถ้าคิดตามนี้อัตราคุณภาพต่อราคาจึงเท่ากับศูนย์

ดังนั้นวิลล่ายอดเขาจึงมียอดขายแย่ที่สุดในหมิงหยุนวิลล่า เรียกได้ว่าเป็นที่สุดของความล้มเหลว

ที่แย่ที่สุดคือ มีที่ดินผืนหนึ่งในบริเวณวิลล่ายอดเขาที่กำหนดไว้ว่าจะใช้เพื่อการพาณิชย์และที่อยู่อาศัย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ส่วนเล็กๆ ในวิลล่าที่เอาไว้ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ตามแผนเดิมวิลล่ากึ่งพาณิชย์นี้จะตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แยกตัวออกจากส่วนที่เป็นวิลล่าเพื่อการพักอาศัยล้วนๆ สภาพจึงดูย่ำแย่เข้าไปอีก

แต่เผยเชียนกลับคิดว่าทำเลตรงนั้นไม่เลวเลย

ถ้าตั้งภัตตาคารตรงนั้น คนอื่นๆ ก็น่าจะหาเจอได้ยากกว่าเดิม

เทียบกับทำเลที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้ ทำเลตรงนั้นน่าจะดีกว่า!

ในทางปฏิบัติวิลล่ากึ่งพาณิชย์สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างเดียวได้ ขอแค่ติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงและปรับให้ถูกสุขลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด

เนื่องจากเผยเชียนจะเปิดภัตตาคารระดับสูง เขาจึงต้องทำให้ได้ตามมาตรฐานนี้

นอกจากนั้นเขายังต้องให้ความสำคัญเรื่องผลกระทบต่อผู้อาศัยในละแวกเดียวกันด้วย

ภัตตาคารอาจสร้างมลภาวะทางเสียง ก่อให้เกิดความไม่สะดวก เกิดปัญหาเรื่องการจัดการที่จอดรถ และอื่นๆ ที่อาจกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้อาศัย

แต่เรื่องนี้น่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร

นั่นก็เพราะวิลล่ากึ่งพาณิชย์ตั้งแยกออกมาจากวิลล่าเพื่อการอาศัยโดยเฉพาะ แถมวิลล่ายอดเขายังตั้งอยู่โดดๆ ไม่ได้ติดกับหลังอื่น

ตามแผนโครงการ วิลล่ากึ่งพาณิชย์มีทางเข้าออกส่วนตัว ทำให้ง่ายต่อการขับรถเข้าออก

อีกทั้งภัตตาคารก็ไม่น่าจะมีลูกค้ามากนัก อยากมากก็แค่ตอนเผยเชียนพาพนักงานมากินเลี้ยง พวกเขามาเพื่อกินอย่างเดียวไม่ได้ทำกิจกรรมอื่น เช่น การร้องเพลง พอสองทุ่มก็แยกย้าย เพื่อที่จะได้ไม่รบกวนผู้อาศัยในละแวก

เทียบกันกับทำเลที่เลือกไว้ก่อนหน้า ทำเลตรงนั้นตั้งอยู่ลึกกว่า น่าจะหาเจอยากยิ่งกว่าเก่า!

ใครจะไปคิดเล่าว่าจะมีภัตตาคารซ่อนตัวอยู่ในเขตวิลล่ากัน

เผยเชียนดีใจมาก ดูสิ นี่แหละโชคดีในโชคร้าย!

ฉันต้องทิ้งทำเลที่เลือกไว้ แต่ก็บังเอิญไปเจอทำเลใหม่ที่ดีกว่าเดิม!

คำถามคือจะเช่าได้ไหมและราคาจะเท่าไหร่ ถ้าเช่าไม่ได้ ซื้อเลยได้รึเปล่านะ

ตามกฎของระบบ เผยเชียนไม่สามารถซื้อและลงทุนในสินทรัพย์ขนาดใหญ่ได้

แต่เขาแค่จะใช้เงินทุนระบบเพื่อซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์มาเปิดเป็นภัตตาคารระดับสูงภายใต้ชื่อบริษัท ไม่ได้คิดจะกว้านซื้อหรือเอาไปลงทุนเก็งกำไร เพราะงั้นก็ไม่น่ามีปัญหาใช่ไหม

คิดอย่างนั้นเผยเชียนก็พาหม่าหยางกับจางหยวนเข้าไปในหมิงหยุนวิลล่า

จางหยวนงงยิ่งกว่าเดิม

บอสเผยคิดจะทำอะไร

บอสเห็นวิลล่าในหมิงหยุนวิลล่าแล้วเกิดอยากซื้อไว้เป็นของตัวเองเหรอ

ดูจากรายได้ของบอสแล้ว จะซื้อสักหลังก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงอะไร

จางหยวนไม่ได้คิดอะไรมากนักระหว่างที่เดินตามหลังเผยเชียนไป

พอไปถึงสำนักงานขาย เผยเชียนก็อธิบายจุดประสงค์ที่มา พนักงานสาวตรงโต๊ะรับรองโทรศัพท์หาใครสักคน จากนั้นก็ยกชามาเสิร์ฟทั้งสาม ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้จัดการชุยก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา

ระหว่างทางผู้จัดการชุยนึกสงสัยว่าทำไมวันนี้ลูกค้าถึงเข้ามาหาถึงสำนักงานขายเอง ถือเป็นเรื่องที่แปลกมาก

แปลกเหมือนมีคนเดินเข้าไปซื้อประกันที่บริษัทเอง

หมิงหยุนวิลล่าเปิดขายวิลล่ามาเกือบปีแล้ว เศรษฐีที่สนใจพากันจับจองวิลล่าเป็นของตัวเองไปนานแล้ว ทำไมยังมีคนรอจนถึงตอนนี้อีก

แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ถือเป็นเรื่องดีที่ลูกค้าเข้ามาหาเอง ถึงจะไม่ได้ตั้งใจมาซื้อ แค่อยากเข้ามาดู ผู้จัดการชุยก็ต้องไปต้อนรับ

หลังจากทักทายผู้จัดการชุย เผยเชียนก็เข้าเรื่องทันที

“ผู้จัดการชุย ผมเช่าวิลล่ายอดเขาได้รึเปล่าครับ”

ผู้จัดการชุยที่เพิ่งจะนั่งลงแทบสำลักชาที่ยกขึ้นจิบตอนได้ยินคำถาม

ชายหนุ่มตรงหน้าสวมสูทสั่งทำ ดูแล้วไม่น่าจะจนอะไร แต่กลับมาขอเช่า ไม่ได้จะซื้อเนี่ยนะ

ตามกฎแล้ว ถ้าเจ้าของโครงการถือเป็นเจ้าของวิลล่า สามารถปล่อยเช่าได้

แต่ใครจะเช่าไหว

ถ้าปล่อยเช่าตามราคาตลาดก็จะตกอยู่ที่ประมาณสองถึงสามหมื่นหยวนต่อเดือน ใครมันจะว่างขนาดมาเช่าวิลล่าในละแวกปลอดผู้คนแบบนี้ ที่แถวนี้ไม่เหมาะจะพักอาศัยเลย

อีกอย่างถึงจะมีคนคิดอยากเช่า เจ้าของโครงการก็ไม่อยากปล่อยอยู่ดี

วิลล่าในโครงการตกแต่งเป็นเอกลักษณ์ สระน้ำและเครื่องเรือนต่างๆ ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี พวกเขาเข้าไปทำความสะอาดและซ่อมแซมอยู่เป็นพักๆ เผื่อว่าจะมีไฮโซคนไหนสนใจ จะได้ปล่อยขายได้เลย

นอกจากปัญหาเรื่องการรักษาสภาพวิลล่าแล้ว ถึงจะปล่อยเช่าไป เจ้าของโครงการก็ได้เงินแค่เดือนละสองถึงสามหมื่นหยวน ซึ่งพวกเขาไม่ได้สนใจเลย

ผู้จัดการชุยดูลำบากใจ “ขอโทษจริงๆ ครับ เราปล่อยขายอย่างเดียว ไม่ได้ปล่อยเช่า”

เผยเชียนพยักหน้า เขากะเอาไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ “งั้นเหรอครับ เสียดายจัง

“ถ้างั้นก็คงต้องซื้อ”

เขาพูดให้ระบบได้ยิน ดูสิ ฉันพยายามประหยัดเงินบริษัทแล้วนะ ฉันเจอวิลล่าที่เหมาะจะเอามาทำเป็นภัตตาคารระดับสูง แต่เจ้าของปล่อยขายอย่างเดียว ไม่ยอมให้เช่า!

ผู้จัดการชุยตะลึงงันไป

ที่บอกว่า เสียดายจัง ถ้างั้นก็คงต้องซื้อ นี่หมายความว่ายังไงกัน

ทำไมฟังดูไม่เต็มใจเลย

เผยเชียนยกชาขึ้นจิบแล้วถามเรื่องราคา

ผู้จัดการชุยรีบตอบ “ถ้าสนใจวิลล่ายอดเขาของเรา พื้นที่ใช้สอยประมาณหกร้อยตารางเมตร มีลิฟต์ส่วนตัว สระว่ายน้ำ สวน พร้อมบริการดูแล ราคาอยู่ที่ตารางเมตรละหนึ่งหมื่นสองพันหยวน รวมแล้วตกประมาณหกล้านสามแสนหยวนครับ”

เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่ง “ก็…ไม่ได้แพงเลยนี่”