บทที่ 210 ทำเลภัตตาคารเหรอ เลือกไปแล้วไง

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ผู้จัดการชุยอ้าปากค้างเล็กน้อย ดูเหมือนจะพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

ก็ไม่ได้แพงเหรอ

ถ้าไม่ได้แพง ทำไมถึงขายไม่ออกมานานขนาดนี้ล่ะ!

จริงๆ แล้วราคาวิลล่าที่นี่สูงกว่าวิลล่าหลายแห่งในเมืองจิงโจว จุดขายของที่นี่อยู่ที่การออกแบบ การตกแต่งอย่างประณีต และการที่เป็นวิลล่าหลังเดี่ยวตั้งบนเนินเขา

ที่เผยเชียนคิดว่าไม่แพงเพราะเขาเผลอไปเทียบกับราคาในความทรงจำ

แค่เจ็ดล้านหยวนก็ซื้อวิลล่าหลังโตขนาดนี้ได้แล้วเหรอ ถือว่าไม่แพงเลย!

ถ้าไปซื้อวิลล่าหลังขนาดนี้ที่ปักกิ่ง เซียงไฮ้ หรือกวางโจวในอีกสิบปีข้างหน้า ราคาอาจพุ่งไปแตะหลักสิบถึงร้อยหยวนเลยทีเดียว

นอกจากนั้นเผยเชียนยังได้รับการอนุมัติแล้วว่าสามารถใช้เงินทุนระบบซื้อวิลล่าได้!

แต่วิลล่าที่ซื้อมาจะถือเป็นทรัพย์สินของบริษัท เอาไปทำเป็นภัตตาคารได้ แต่ใช้เป็นที่พักอาศัยไม่ได้

พูดอีกอย่างคือ เขาจะต้องใช้วิลล่าที่ซื้อมาในการประกอบธุรกิจและแสวงหาประโยชน์ในฐานะทรัพยากรอย่างหนึ่ง

นอกจากนั้นแล้ว การใช้เงินทุนบริษัทซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น เขาจะต้องจ่ายเงินมากกว่าการซื้อในนามของตัวเอง เพราะต้องจ่ายภาษีโรงเรือนและไม่ได้ส่วนลดเงินกู้ ถ้าจะขายในภายหลังก็ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าแสตมป์อากร และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมต่างๆ ทำให้การขายสินทรัพย์แบบนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก

แต่เรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้สำคัญสำหรับเผยเชียน แค่ระบบอนุญาตให้เขาใช้เงินทุนระบบซื้อวิลล่ามาทำเป็นภัตตาคารก็ถือเป็นเรื่องน่าแปลกใจมากแล้ว!

เผยเชียนเหลือบมองจำนวนเงินทุนระบบที่เหลืออยู่

หลังสรุปบัญชี เงินทุนระบบมีตั้งต้นแปดล้านหยวน ตอนนี้ผ่านมาสามสัปดาห์แล้ว แค่รายได้จากเกมฐานทัพกลางทะเลก็ปาไปหกล้านกว่าหยวนแล้ว

ตอนต้นเดือน ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูมีรายได้ก้อนโตจากยอดขายเครื่องดื่ม ค่าเช่าต้องจ่ายทุกสามเดือน ตอนนี้จึงไม่ได้อยู่ในสภาพขาดทุน รายได้ทั้งหมดของร้านโอนเข้าระบบโดยตรง

เผยเชียนเอาเงินไปทุ่มลงทุนกับโปรเจ็กต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน ฉางหยางเกมส์ และจุดบริการนี่เฟิง ตอนนี้จึงเหลือเงินทุนระบบอยู่ประมาณแปดล้านกว่าหยวน

พอเพียงสำหรับการซื้อวิลล่า แต่เขาก็ต้องกันเงินไว้ให้เถิงต๋ากับฉางหยางเกมส์ด้วย

งบสร้างเกมกลับใจคือฟากฝั่งอยู่ที่ยี่สิบล้านหยวน ใช้เวลาสามเดือนในการทำ ดูจากรายได้จากเกมอื่นๆ แล้ว เผยเชียนคิดว่าน่าจะมีงบพอสำหรับสร้างเกม

แต่ถ้าซื้อวิลล่าไปหกล้านหยวนก็จะเหลือเงินไม่พอ

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ต้องทำอาวุธในตำนานมาขายเพิ่มในเกมฐานทัพกลางทะเล!

อาวุธในตำนานราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน คำนวณอัตราส่วนแบ่งกำไร 70:30 พวกเขาต้องขายหนึ่งหมื่นชิ้นเพื่อให้ได้เงินหกล้านหยวน

ถ้างั้นเขาจะทำอาวุธลิมิเต็ด จำกัดจำนวนขายแค่หนึ่งหมื่นชิ้น พอขายหมดก็จะได้เงินมาคืนที่ใช้จ่ายในส่วนนี้ไป

คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็ส่งข้อความไปบอกเลขาซินให้มาจัดการเรื่องต่างๆ ให้

จากนั้นก็บอกให้ผู้จัดการชุยช่วยพาไปดูวิลล่า

หมิงหยุนวิลล่ามีวิลล่ายอดเขาอยู่แปดหลัง แต่ละหลังตั้งแยกห่างกันไกลพอสมควร มั่นใจได้ว่าบรรยากาศรอบๆ จะเงียบสงบ

เผยเชียนจงใจเลือกดูวิลล่าที่อยู่ชิดเขตตะวันตกเฉียงเหนือที่สุด หลักๆ เพราะกลัวว่าตอนพาพนักงานมากินเลี้ยง รถที่สัญจรเข้าออกจะไปรบกวนผู้พักอาศัยคนอื่นๆ

พวกเขาจะเข้าภัตตาคารจากฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือ กินเสร็จก็กลับออกไปเลย น่าจะสะดวกกว่า

วิลล่าหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณห้าร้อยแปดสิบตารางเมตร มีสามชั้น หกห้องนอน สามห้องนั่งเล่น สามห้องน้ำ เพดานห้องนั่งเล่นสูงเจ็ดเมตร ตกแต่งภายในและลงเฟอร์นิเจอร์ครบเรียบร้อย

แน่นอนว่าเผยเชียนไม่ได้ต้องการเฟอร์นิเจอร์ เพราะเขาตั้งใจจะทำที่นี่เป็นภัตตาคาร การตกแต่งภายในส่วนใหญ่คงไว้แบบเดิมได้ แต่ต้องเปลี่ยนแผนผังห้องต่างๆ รวมถึงห้องครัว ห้องน้ำ และอื่นๆ ด้วย

สระน้ำไร้ขอบกับวิวจากด้านบนเนินเขาให้บรรยากาศที่ดีเลยทีเดียว

เผยเชียนเดินไปรอบๆ ในใจรู้สึกท่วมท้น

เป็นคนรวยนี่มันดีจริงๆ!

ถ้ารอบบัญชีหน้าขาดทุนได้สักเจ็ดล้านหยวน ฉันจะซื้อวิลล่าแบบนี้อีกหลังไว้อยู่เอง!

คนเรามีความฝันได้ และทุกความฝันมีโอกาสเป็นจริงได้

ผู้จัดการชุยพยายามขายตรงวิลล่าหลังนี้อย่างเต็มที่

เขาเป็นคนขายเก่งอยู่แล้ว แถมวิลล่าก็ออกแบบมาเป็นอย่างดี นอกจากเรื่องราคาแล้ว ทุกอย่างดีสุดๆ ใครได้มาดูก็ต้องหลงเสน่ห์

หม่าหยางกับจางหยวนเดินตามเผยเชียนไปรอบๆ วิลล่า

ทั้งสองคิดเหมือนเผยเชียนเป๊ะ

เป็นคนรวยนี่มันดีจริงๆ!

หลังจากเดินชมจนทั่ว จางหยวนก็หันไปพูดกับเผยเชียน “บอสเผยอยู่ดูวิลล่าต่อกับบอสหม่าก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมไปหาทำเลเปิดภัตตาคารต่อ”

เผยเชียนหันไปหาอีกฝ่าย “ภัตตาคารเหรอ ได้ทำเลแล้ว ที่นี่ไง”

จางหยวนอึ้งไป

ที่นี่เหรอ

ที่ตรงนี้มีคนสัญจรผ่านไปมาน้อยมาก ทำไมบอสเผยถึงคิดจะเปิดภัตตาคารระดับสูงในที่ร้างผู้คนแบบนี้

เผยเชียนไม่ได้สนใจอาการตกใจของจางหยวน เขาหันไปพูดกับผู้จัดการชุย “ผู้จัดการชุย ผมอยากซื้อวิลล่ายอดเขากึ่งพาณิชย์มาทำเป็นภัตตาคารส่วนตัว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ”

ผู้จัดการชุยอึ้งไป “อยากซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์เหรอครับ เอ่อ… ได้อยู่แล้วครับ!

“วิลล่าแบบที่ว่าสามารถใช้พักอาศัยหรือใช้ในเชิงพาณิชย์ก็ได้ เดี๋ยวผมแจ้งเจ้าของโครงการเรื่องนี้ให้ครับ”

ผู้จัดการชุยรู้สึกแปลกใจ เขาไม่คิดว่าบอสเผยจะอยากซื้อวิลล่ากึ่งพาณิชย์

วิลล่ากึ่งพาณิชย์นั้นขายยากที่สุด เพราะตั้งอยู่ในละแวกที่ไม่ค่อยมีคนสัญจรผ่านไปมา มันตั้งแยกออกมาจากวิลล่าสำหรับพักอาศัยและตั้งอยู่ในเขตที่ร้างผู้คนมากๆ ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เทียบกับวิลล่ากึ่งพาณิชย์แล้ว เลือกอาศัยอยู่ที่วิลล่าแบบพักอาศัยจะดีกว่า

แน่นอนว่าการเปิดภัตตาคารตรงนี้ก็อาจมีปัญหาได้ เช่น เรื่องการจราจรและการจัดระเบียบผู้คน

วิลล่ากึ่งพาณิชย์ตั้งแยกห่างจากที่อื่น มีทางให้รถเข้าออกส่วนตัว ดังนั้นจึงไม่น่าจะสร้างปัญหาให้ผู้พักอาศัยในวิลล่าอื่น

อีกอย่างเผยเชียนก็วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะให้บริการภัตตาคารแบบสั่งจองล่วงหน้าและแบบสมัครสมาชิก พวกเขาจะคุมจำนวนคนอย่างเข้มงวดไม่ให้ไปรบกวนผู้พักอาศัยอื่น โดยจะพยายามระมัดระวังให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้อื่นให้น้อยที่สุด

ส่วนเรื่องการเปิดภัตตาคารในที่ปลอดผู้คนแบบนี้จะทำกำไรได้หรือไม่นั้น…

ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเจ้าของโครงการหมิงหยุนวิลล่าคือการขายวิลล่าและรับเงินมา บอสเผยจะขาดทุนหรือเปล่าไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะต้องกังวล เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบถึงตัวเอง ยังไงพวกเขาก็เป็นฝ่ายที่ได้ประโยชน์

และสำหรับเผยเชียน การขาดทุนคือสิ่งที่เขาต้องการ

ถ้าระหว่างทางเจอปัญหาอะไร เขาก็สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ ยังไงเงินที่ใช้ก็เป็นเงินทุนระบบ ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว!

ไม่นานเลขาซินก็มาถึง

เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็แปลกใจอยู่ไม่น้อย

ทำไมจู่ๆ บอสเผยถึงอยากซื้อบ้านขึ้นมา แถมยังเลือกซื้อวิลล่ายอดเขาที่มีอัตราคุณภาพต่อราคาอยู่ในระดับต่ำ ตั้งอยู่นอกเมือง อีกทั้งยังซื้อเป็นวิลล่ากึ่งพาณิชย์ในนามบริษัทด้วย

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แต่เลขาซินก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย เธอทำงานตามที่เผยเชียนสั่ง ต่อรองราคา เซ็นสัญญา และจัดการเรื่องต่างๆ เรียบร้อย

เผยเชียนจิบชาอย่างสบายใจ จากนั้นก็ส่งข้อความไปหาลู่หมิงเหลียง

“แบ่งเวลาไปสร้างอาวุธในตำนานชิ้นใหม่สำหรับเกมฐานทัพกลางทะเลที ขายจำนวนจำกัดที่หนึ่งหมื่นชิ้น ครบจำนวนแล้วจะไม่วางขายอีก อาวุธชิ้นนี้จะเป็นอาวุธลิมิเต็ด”

เขาจะไม่หาเงินให้ได้เกินกว่าที่ต้องการ

เผยเชียนไม่มีวันฆ่าห่านทองคำของตัวเอง

เกมฐานทัพกลางทะเลกำลังไปได้สวย ที่มีคนเข้ามาเล่นเกมเพิ่มขึ้นมากมายก็เป็นเพราะมีอาวุธหายากและมีมูลค่าทางการตลาด

ถ้าไม่จำกัดการขายปืนบาร์เร็ตมรณะก็จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสภาพการเงินของเกม

ดังนั้นหลังจากคิดๆ ดู เผยเชียนก็ตัดสินใจว่าการจะทำให้เกมฐานทัพกลางทะเลทำเงินต่อไปได้เรื่อยๆ อย่างเป็นระบบ เขาจะขายอาวุธแค่สามประเภท

ประเภทแรกคือปืนบาร์เร็ตมรณะที่จำกัดการขายแค่ห้าร้อยชิ้นต่อเดือน เดือนถัดไปก็เปิดขายใหม่ ทำแบบนี้จะช่วยรักษามูลค่าของสินค้าและคนส่วนใหญ่ก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้

ประเภทที่สองคืออาวุธในตำนานที่กำลังจะทำขึ้นใหม่ เขาจะขายรวดเดียวหนึ่งหมื่นชิ้นแล้วไม่วางขายอีก ปล่อยให้มูลค่าค่อยๆ เพิ่มขึ้น

ส่วนอาวุธในตำนานแบบปืนกิเลนเพลิงที่เปิดวางขายตลอดนั้น เผยเชียนยังไม่คิดที่จะปล่อยอาวุธแบบนี้ออกมาเพิ่ม

ไม่อย่างนั้นรายได้ของเกมจะพุ่งขึ้นมา ไม่สามารถลดลงไปอยู่ในระดับเดิมได้อีก แถมยังจะทำให้ผู้เล่นใช้จ่ายเงินเกินกว่าปกติอีกด้วย

ขอแค่ขายอาวุธในตำนานชิ้นใหม่ได้ครบหนึ่งหมื่นชิ้นเพื่อหาเงินที่ใช้ซื้อวิลล่าไปคืน ก็จะไม่กระทบกับเงินทุนหมุนเวียน การค้นคว้าและพัฒนาเกม รวมถึงโปรเจ็กต์อื่นๆ

เผยเชียนจะซื้อสดเลย จะได้ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องกู้เงิน กระบวนการต่างๆ ก็จะไวขึ้น ใช้เวลาอย่างมากประมาณสามถึงห้าวัน

เผยเชียนคิดคำนวณในหัว เรื่องการจัดการ การวางแผน และการปรับปรุงร้านน่าจะเสร็จสมบูรณ์ช่วงต้นเดือนหน้า

ทันช่วงวันที่ 1 สิงหาคมที่จะเลือกพนักงานดีเด่นพอดี เขาจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างพาพนักงานมากินเลี้ยงและเฉดหัวพนักงานผู้โชคดีออกไปอย่างสุขใจ

แต่ก็ถือว่าน่าแปลกไม่น้อยที่ระบบยอมให้เผยเชียนใช้เงินทุนระบบซื้อวิลล่ามาทำเป็นภัตตาคาร

เป็นเพราะเผยเชียนเช่าที่ตรงนี้ไม่ได้เหรอ

หรือเพราะตอนนี้มีเงินทุนระบบพอให้ทำอย่างนั้น

ถึงจะทำได้แค่เปลี่ยนวิลล่าเป็นภัตตาคาร ไม่สามารถใช้อยู่อาศัยได้ แต่ระบบก็ดูจะผ่อนปรนเรื่องกฎให้นิดหน่อย ถือเป็นเรื่องดี!