บทที่ 208 ตรวจสอบยึดทรัพย์

คู่ชะตาบันดาลรัก

ลูกน้องของฉีผิงจับกุมตัวผู้ติดตามทั้งสองคน ศพของเฉาหลางจงผู้นั้นถูกยกออกไปอย่างรวดเร็ว คราบเลือดถูกเช็ดจนสะอาด ของตกแต่งทั้งหมดถูกเปลี่ยน ใช้เวลาไม่นานภายในห้องก็ถูกเก็บกวาดจนสะอาด

กุ้ยเหนียงเองก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และยืนอยู่ข้างกายจี้เสียวอู่เงียบๆ

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฉีผิงน้ำเสียงของเขาดูอ่อนโยนมาก “พี่กัว กุ้ยเหนียงตกใจกลัวมาก ท่านอยู่เป็นเพื่อนนางสักพักได้หรือไม่”

จี้เสียวอู่เงยหน้าขึ้นแววตาของเขามีความงงงวยอยู่นิดหน่อย ฉีผิงยิ้มและตบไหล่เขาจากนั้นก็เดินจากไป

ก่อนจากไปเขายังเรียกตัวฝูไปด้วย ตัวฝูไม่ต้องการไป “ข้าอยากอยู่เป็นเพื่อนคุณชายเจ้าค่ะ”

ฉีผิงพูด “คุณชายของเจ้าตกใจมากปล่อยให้เขาอยู่เงียบๆ สักพักเถอะ”

ตัวฝูอ้าปาก แต่เมื่อเห็นจี้เสียวอู่มีท่าทางเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่างจึงเลิกดื้อแพ่งและเชื่อฟังอีกฝ่าย

แล้วภายในห้องก็เหลือเพียงจี้เสียวอู่และกุ้ยเหนียง กุ้ยเหนียงต้องการจะพูด แต่เมื่อเห็นสายตาของจี้เสียวอู่นางก็กลืนคำพูดกลับลงไป

จี้เสียวอู่พูดขึ้นก่อนว่า “พี่กุ้ยเหนียง สิ่งที่ข้าพูดก่อนหน้านี้ยังทำได้อยู่นะ ท่านยินดีให้ข้าซื้อตัวท่านหรือไม่ จากนั้นก็เปลี่ยนแปลงตัวตนเป็นสตรีในตระกูลที่ดี หาคนดีๆ แต่งงานด้วย ให้กำเนิดบุตรชาย อบรมบุตรสาว…”

กุ้ยเหนียงหันไปทางอื่นแววตาของนางเศร้าสร้อย “คุณชายกัว…”

“ท่านคิดว่าท่านจะผ่านแต่ละวันไปได้อย่างไร หากวันนี้ข้ากลับมาไม่ทัน ท่านคง…” กุ้ยเหนียงเงียบ

“อันที่จริง นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าฆ่าคน” จี้เสียวอู่ก้มหน้ามองมือของตนเอง “ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร…”

กุ้ยเหนียงยิ่งรู้สึกเศร้าใจมากขึ้น เดิมทีหัวหน้าฉีต้องการให้นางพัวพันกับคุณชายกัว ให้เขาพลั้งมือฆ่าเฉาหลางจงแล้วลากเขาเข้ามาเดือดร้อนด้วย อันที่จริงนางไม่อยากทำเช่นนี้ แม้ในวินาทีสุดท้ายนางยังคิดว่าแสร้งทำเป็นว่าตนไม่ได้ทำดีหรือไม่…

แต่คาดไม่ถึงว่านางยังไม่ทันได้ทำอะไร คุณชายกัวก็ลงมือเสียแล้ว…

กุ้ยเหนียงรู้สึกเหมือนตนเองยืนอยู่บนขอบหน้าผาเพียงแค่ผลักเบาๆ ก็ทำให้เขาตกลงไปได้ ตายโดยไร้ที่กลบฝัง

แน่นอนว่านางไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ผลที่ตามมาของการไม่ทำก็คือนางจะตายโดยไร้ที่กลบฝังแทน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใดนางคว้าแขนเสื้อของจี้เสียวอู่ เงยหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาแล้วพูดว่า “คุณชาย จากนี้กุ้ยเหนียงจะติดตามคุณชาย!”

จี้เสียวอู่มองนางอย่างลึกซึ้งเขาหลุบสายตาลงเพื่อปกปิดความผิดหวังที่เกิดขึ้นชั่วขณะ

แน่นอนว่านี่เป็นกับดักใช่หรือไม่

……….

ฉีผิงเดินเข้าไปในเรือนที่อยู่ข้างเคียง

“ผู้เฒ่าเก๋อ เด็กนั่นติดเบ็ดแล้วขอรับ” ผู้เฒ่าเก๋อพยักหน้า แต่สีหน้าของเขาดูไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย

ฉีผิงรู้สึกว่าบรรยากาศแปลกไปจึงเอ่ยถาม “ท่านผู้เฒ่า เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ”

ผู้เฒ่าเก๋อจิบสุราแล้วตอบไปว่า “รังหลายที่ของพวกเราที่อยู่ด้านนอกถูกกวาดล้างหมดแล้ว”

ฉีผิงตกใจ “เป็นไปได้อย่าง…”

“ได้ยินว่าหวงเฉิงซือยื่นมือเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ด้วย เรื่องในครั้งนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้ว” ผู้เฒ่าเก๋อขมวดคิ้วแน่น “ใครใช้ให้พวกมันไม่มีตาไปลักพาตัวคุณหนูจากจวนเฉิงเอินโหวกัน”

อันที่จริงคุณหนูจากตระกูลมั่งคั่งร่ำรวยนั้นเป็นเป้าหมายที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุด เพราะพวกนางมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีตั้งแต่เด็กจึงมีกิริยามารยาทที่ดี

เพียงแต่พวกเขาอยู่ในขอบเขตมาโดยตลอดสถานะเช่นนั้นสูงส่งเกินกว่าที่จะไปแตะต้องได้ ไม่คิดว่าครั้งนี้โจรที่ลักพาตัวจะประมาทไปลักพาตัวคุณหนูจากจวนเฉิงเอินโหวมา

นั่นไม่ใช่คุณหนูจากจวนธรรมดา แต่เป็นลูกพี่ลูกน้องของไท่จื่อ!

แต่เมื่อเขาทราบเรื่องนี้มันก็สายไปเสียแล้ว ต่อให้พานางส่งคืนไปก็อย่าคิดว่าพายุจะสงบลง หากหวงเฉิงซือยื่นมือเข้ามาแทรกแซงแล้วจะต้องจัดการให้สิ้นซากให้ได้แน่นอน

ในขณะที่เขากำลังพูดมีคนจากภายนอกรีบเข้ามารายงาน “ผู้เฒ่าเก๋อ ฐานที่มั่นที่ซอยผิงฝูถูกทำลายแล้วขอรับ!”

ฉีผิงตกใจ “อะไรนะ แม้แต่ซอยผิงฝูก็…”

ผู้คนที่อาศัยอยู่ในซอยผิงฝู มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าที่นั่นเป็นหนึ่งในฐานลับของกลุ่มยาจก

ผู้เฒ่าเก๋อขมวดคิ้วแน่น “แม้แต่ฐานลับที่ซอยผิงฝูพวกเขาก็ทราบงั้นหรือ”

ฉีผิงได้ยินเสียงกระวนกระวายของเขาก็รีบถามออกไป “ผู้เฒ่าเก๋อ หวงเฉิงซือก็คือหวงเฉิงซือ ขนาดซอยผิงฝูยังถูกเปิดเผย ถ้าเช่นนั้นที่นั่นก็…”

ผู้เฒ่าเก๋อลังเลอยู่นานรู้สึกอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย “รอก่อน คนที่รู้จักซอยคังเล่อมีน้อยมากพวกเขาไม่มีทางตรวจสอบพบได้หรอก”

………….

รถม้าติดตราสัญลักษณ์ของทางการจอดอยู่ด้านนอกซอยคังเล่อ ที่นี่มักมีเจ้าหน้าที่หรือขุนนางระดับสูงเดินทางมาแวะเวียนซึ่งไม่ได้เป็นที่น่าสังเกตเท่าไรนัก

ภายในรถม้าหมิงเวยที่ฟังคำรายงานจากงูขาวเสร็จอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว “พวกเขาคิดจะทำอะไรกัน”

หยางชูพูดอย่างเกียจคร้าน “เรื่องนี้ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วมิใช่หรือ ใช้สาวงามดึงดูดให้พี่ชายของท่านติดเบ็ดแล้วให้เขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม เพื่อปกป้องตนเองพวกเขาจึงค่อยๆ ทำให้พี่ชายท่านเข้าสู่กับดักทีละนิด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เรื่องนี้เพื่อให้ตระกูลกัวมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือใช้โอกาสนี้ในการโจมตีตระกูลกัวซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพวกเขา” แต่น่าเสียดายที่จี้เสียวอู่เป็นคุณชายกัวตัวปลอม

ดวงตาของหมิงเวยเป็นประกาย “นี่เป็นโอกาสที่ดีเลย พวกเขาต้องการผลักพี่ห้าลงหลุม พวกเราก็แค่แผนซ้อนแผน…”

หยางชูเคาะพัดกับฝ่ามือของตนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าเองก็คิดเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน”

เขาเลิกม่านขึ้นส่งสัญญาณทางสายตาให้องครักษ์เงาที่อยู่ด้านนอก รอให้อีกฝ่ายเคลื่อนเข้ามาใกล้แล้วกระซิบเสียงเบาเพื่อสั่งการออกไป องครักษ์เงาพยักหน้าและเดินจากไป

ทั้งสองรอเวลาไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของม้าดังขึ้นอีกครั้ง

…………

เจ้าหน้าที่เดินทางออกจากซอยผิงฝูอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขามาถึงซอยคังเล่อ ทางด้านผู้เฒ่าเก๋อก็เพิ่งได้รับข่าว

ฉีผิงได้ยินข่าวก็ตื่นตระหนก “ท่านผู้เฒ่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาจะรู้เรื่องที่นี่ด้วย”

ซอยผิงฝูถูกกวาดล้างแล้ว แต่ที่นี่เป็นฐานที่มั่นสำคัญสำหรับพวกเขาในการผูกมิตรกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและนางคณิการะดับสูงก็อยู่ที่นี่ด้วย

ผู้เฒ่าเก๋อเองก็ตกใจเช่นกัน แต่เขาก็ตอบสนองกลับไปอย่างรวดเร็ว “มัวแต่งงอะไรอยู่ ไป รีบย้ายไปที่อื่นเร็วเข้า!” นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องละทิ้งที่นี่

ฉีผิงไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก แต่เขาก็รู้ดีว่าการรักษาชีวิตสำคัญกว่า รอให้พายุผ่านพ้นไปค่อยกลับมาก็ไม่สาย

ดังนั้นเขาจึงรีบกลับไป

“พี่กัวๆ!” เขาผลักประตูห้องของกุ้ยเหนียงและเห็นว่าพวกเขาทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกัน ถึงจะยังกังวลอยู่แต่ก็แอบภูมิใจกับภาพที่เห็น คุณชายกัวผู้นี้ตกหลุมพรางอย่างง่ายดาย

ในใจเขาคิดเช่นนั้น แต่ไม่แสดงออกทางสีหน้าแม้แต่นิดเดียว เขาพูดด้วยความร้อนรนว่า “พี่กัว แย่แล้ว! เจ้าหน้าที่กำลังมาที่นี่”

“อา!” จี้เสียวอู่ตกใจจนตื่นตระหนก “เรื่องแดงออกไปแล้วหรือ ทำไมเร็วเช่นนี้”

“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” ฉีผิงจงใจไม่ชี้แจงอะไร

“ถ้าเช่นนั้นเราจะทำอย่างไรดี ไม่ได้ จะให้เจ้าหน้าที่จับกุมไม่ได้ กุ้ยเหนียง พวกเราหนีไปกันเถอะ!”

กุ้ยเหนียงคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นนางไม่รู้จะทำอย่างไรไปชั่วขณะ

ฉีผิงรีบคว้าตัวเขาไว้ “ไม่ได้! พวกเจ้าหน้าที่กำลังมาถึงที่นี่แล้ว หากพากุ้ยเหนียงไปด้วยท่านหนีไม่พ้นแน้”

“แล้วจะทำอย่างไรดี” จี้เสียวอู่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว

ฉีผิงตอบไปว่า “พี่กัวใจเย็นก่อน! พวกเราเป็นพี่น้องกันจะให้ท่านตกที่นั่งลำบากได้อย่างไร ท่านฟังข้านะห้องข้างๆ นี้มีทางลัด…”

“ได้ๆๆ!” จี้เสียวอู่ดีใจมากเขาจับมืออีกฝ่ายแน่น “พี่ฉียื่นมือช่วยข้าในครั้งนี้ ภายภาคหน้าข้าต้องตอบแทนท่านแน่นอน”

“พี่น้องกันจะมาตอบแทนอะไรกันเล่า เร็วเข้า ไม่ต้องเก็บของอะไรแล้ว รีบไปเร็ว!”

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้ามาในซอยคังเล่อ เรือนหลายหลังของที่นี่ก็ไม่มีคนเสียแล้ว…

……………