บทที่ 169 ล่าสมบัติทั้งเซิร์ฟเวอร์

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

เซียวเฟิงตกใจกับดวงของเขาในวันนี้มาก ๆ นั่นเพราะของรางวัลที่เขาได้จากการเคลียร์ดันเจี้ยนเมืองร้างคืออุปกรณ์ระดับทอง 1 ชิ้น แย่หน่อยที่มันเป็นธนูขนาดใหญ่ที่ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับเขาเลย และตอนนี้มันก็ไปอยู่ในมือของซูถิงถิงแทนแล้ว อย่างน้อย ๆ มันก็น่าจะดีกว่าปล่อยทิ้งไว้

ซูถิงถิงมักจะถือว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญเสมอเพราะประสบการณ์การเล่นเกมของเธอเอง แต่ถึงอย่างนั้นฝีมือของหญิงสาวก็ยังห่างชั้นกับซือเยี่ยจิ๋งที่เป็นโปรเพลย์เยอร์อยู่พอควร ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอเก่งกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ หากไม่เทียบชั้นกับพวกมือโปร ทว่าถ้ายิ่งเทียบกับผู้เล่นระดับพระเจ้า งั้นแล้วเธอก็ยังถือว่าห่างชั้นกันอยู่ราว ๆ ล้านปีแสง!!!

หญิงสาวผู้นี้ไม่ได้แข็งแกร่งระดับสู้บอสตัวคนเดียวได้ ทั้งอุปกรณ์และอาวุธที่ติดตัวมาก็เป็นเพียงระดับทั่ว ๆ ไปไม่มีของระดับสูงเลย โดยเฉพาะอาวุธก่อนหน้านั้นเป็นเพียงธนูระดับขาวเท่านั้น ในสายตาของผู้เล่นทั่วไป เธออาจจะถูกยกย่องว่าเป็นมือโปร แต่ความจริงที่ว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซือเยี่ยจิ๋งเลยแม้แต่นิด นั่นก็ยิ่งตอกย้ำว่า ‘เธอไม่มีวันเทียบกับเซียวเฟิงตอนนี้ได้เลย’

ตามปกติแล้ว ซูถิงถิงจะไม่มีคนมาคอยช่วยแบบนี้บ่อย ๆ นัก อีกอย่างเธอไม่ได้ต้องการที่จะใช้ความสวยงามบนเรือนร่างเพื่อล่อลวงใครมาช่วยด้วย หลักฐานที่เห็นก็คือหน้ากากที่ปิดบังใบหน้าไว้นั่นเอง ถึงแม้ว่าซูถิงถิงจะเป็นเพื่อนสนิทของซือเยี่ยจิ๋ง แต่หญิงสาวก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ว่างตลอดเพราะต้องอยู่กับหลิวเฉียงเหว่ยแทบจะตลอด ซือเยี่ยจิ๋งจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อกิลด์มิดซัมเมอร์อยู่เรื่อย ๆ (อันที่จริงก็เพื่อหลิวเฉียงเหว่ยนั่นแหละ) พูดง่าย ๆ ก็คือซือเยี่ยจิ๋งไม่มีเวลามากพอที่จะปลีกตัวมาคอยดูแลปกป้องซูถิงถิงได้

หากพูดกันตามตรง อุปกรณ์และอาวุธของซือเยี่ยจิ๋งก็ไม่ได้สูงส่งอะไรขนาดนั้น (แน่นอนว่าเมื่อเทียบกับเซียวเฟิง) ไม่ว่าจะเป็นมีดคู่ที่เป็นระดับทอง หรือจะเป็นเซ็ตชุดเกราะระดับน้ำเงิน อุปกรณ์ส่วนใหญ่บนตัวเธอนั้นส่วนใหญ่จะมาจากหลิวเฉียงเหว่ยแทบทั้งสิ้น ทว่าในสายตาของผู้เล่นทั่วไปหรือแม้แต่ผู้เล่นระดับสูงรวมไปถึงซูถิงถิงต่างก็มองว่าอุปกรณ์ของซือเยี่ยจิ๋งนั้นดูหรูหราไม่น้อยเลย

ค่าประสบการณ์ที่ได้รับจากการเคลียร์ดันเจี้ยนเมืองร้างนั้นถูกแบ่งให้กับผู้เล่นทั้ง 3 คนที่เป็นปาร์ตี้เดียวกัน และค่าประสบการณ์ที่แต่ละคนได้รับจะถูกแบ่งกับสัตว์เลี้ยงอีกครึ่งหนึ่ง เพราะงั้นแล้วหลอดค่าประสบการณ์ของพวกเขาจึงเพิ่มกันขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น

เซียวเฟิงไม่ได้ออกไปทันทีหลังจากที่ออกมาจากดันเจี้ยนแล้ว กลับกันเขายังเดินนำผู้เล่นทั้งสองไปยังพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อเก็บเลเวลต่อด้วย นี่มันก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้ว และเมื่อเวลานั้นมาถึง ดันเจี้ยนก็จะรีเฟรชตัวเอง ชายหนุ่มเลยตั้งใจจะอยู่ที่นี่ต่อเพื่อจะได้ทำภารกิจดันเจี้ยนสำหรับวันพรุ่งนี้ต่อได้เลยเมื่อมันรีเฟรชแล้ว

การเก็บเลเวลเป็นไปได้ด้วยดีในแบบที่มันควรจะเป็น เซียวเฟิงนั้นนอนเหยียดแข้งเหยียดขาด้วยความขี้เกียจอยู่บนพื้น ในขณะที่ทั้งสองสาวต่างก็ไล่กำจัดมอนสเตอร์ในบริเวณนั้นอยู่เรื่อย ๆ แถมชายหนุ่มยังเรียกเสี่ยวเสวี่ยมาคอยรับค่าประสบการณ์ระหว่างที่เขานอนอิงเนื้อน่องขาหลังของมันสลับกับร่ายสกิลเวทโจมตีไปเรื่อย ๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เซียวเฟิงรู้สึกว่าการเป็นนักบวชนี่มันก็สนุกใช่ย่อยเหมือนกัน…

แค่อยู่กับที่เฉย ๆ ไม่ต้องขยับไปไหนก็สามารถเก็บค่าประสบการณ์ได้แล้ว อะไรมันจะง่ายและสบายขนาดนี้นะ จริงไหม? หรือว่าจะมีใครเถียง? มีอะไรสบายกว่าการนั่งเฉย ๆ ทำตัวให้ผ่อนคลายแล้วคอยแจกบัพให้ทั้งสองสาวที่เข้าปะทะกับมอนสเตอร์แทนตนบ้าง?

ด้วยท่าทีสบาย ๆ นั้น เซียวเฟิงมองเรือนร่างของทั้งสองสาวขณะเคลื่อนไหวต่อสู้อย่างไม่วางตา ซือเยี่ยจิ๋งนั้นสวมชุดดำแทบจะทั้งตัวจนเหมือนกับอีกา ดังนั้นแล้วเซียวเฟิงจึงไม่ได้จับจ้องไปที่เธอมากนักและหันไปให้ความสนใจกับซูถิงถิงแทน

ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าชุดเกราะหนังเหมาะกับผู้เล่นเพศหญิงมาก ๆ ซึ่งชุดเกราะนี้ถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย มันเพียงปกปิดส่วนสำคัญ ๆ บนร่างกายเท่านั้น ดังนั้นจึงเผยให้เห็นผิวที่ขาวนวล นุ่ม และเอวที่โค้งเว้าได้รูปเต็มสองตาของเซียวเฟิงเลย นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรียวขางามอันน่าลูบคลำนั้นอีก! …ทุกการเคลื่อนไหวของเธอเปรียบเสมือนการเต้นระบำที่งดงามไปเสียหมด

เขาเป็นผู้ชมที่ได้รับชมในที่นั่งสุดใกล้ชิดนี้มีแต่ได้กับได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าประสบการณ์ หรือภาพอันงดงามของสาว ๆ แน่นอนว่าชายหนุ่มจะไม่ปล่อยโอกาสอันหาได้ยากยิ่งแบบนี้ไปแน่ ๆ หากจะให้พูดกันตามตรง การที่ได้มีช่วงเวลาแบบนี้ในชีวิตนั้น ต้องขอบคุณจริง ๆ ที่เขาตัดสินใจเลือกที่จะมาเป็นนักบวช มันช่างเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดจริง ๆ

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกดี ๆ นั้นอยู่กับเขาได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น “เฮ้ย! ทำอะ…” เซียวเฟิงรีบขยับตัวหลบหินที่ซือเยี่ยจิ๋งเขวี้ยงใส่อย่างรวดเร็ว “ทำอะไรของเธอน่ะ? สติแตกไปอีกแล้วหรือไง? เกือบไปแล้วนะเฟ้ย!” ถ้าเมื่อครู่นี้เขาไม่ทันระวังตัวล่ะก็ อาจจะโดนหินก้อนใหญ่นั่นทับหน้าขณะชื่นชมความงามของเรียวขาของซูถิงถิงไปแล้ว

ซือเยี่ยจิ๋งพ่นลมหายใจก่อนจะหันไปบ่นกับซูถิงถิง “ถิงถิง ไอ้นักบวชตัณหากลับนี่กำลังมองเธอด้วยสายตาลามกอยู่นะ!”

ประโยคนั้นเรียกความสนใจจากซูถิงถิงได้เป็นอย่างดี และมันทำให้เธอหันกลับไปมองยังผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนักบวชตัณหากลับทันทีด้วย “อาจารย์เซียวกลายเป็นคนลามกตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” เธอพูดขณะหรี่ตามองเซียวเฟิงด้วยความดูถูกไปด้วย

จากนั้นสาวเจ้าก็หยิบเอาชุดแฟชั่นอย่างผ้าคลุมออกมาปกปิดร่างกายของเธอตั้งแต่ช่วงเอวลงมา ตั้งแต่มาที่นี่ เธอต้องตั้งสมาธิอยู่กับการต่อสู้กับมอนสเตอร์ตลอดเลย จึงไม่ได้รับรู้ว่ามีสายตาที่ลามกจ้องมองเธออยู่ที่ด้านหลัง

“ฮึ่ม!” เซียวเฟิงถอนหายใจอย่างไม่พอใจและหลบสายตา ในขณะที่เขากำลังพยายามสงบสติอารมณ์ บางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดฝันก็ปรากฏขึ้นมา บนท้องฟ้าเหนือหัวนั้น เสียงระบบได้ดังขึ้นพร้อมประกาศว่า กิจกรรมเซิร์ฟเวอร์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

“ผู้เล่นทุกคนโปรดทราบ! ตอนนี้จำนวนผู้เล่นที่ถึงเลเวล 10 นั้นมีเกินกว่า 90% ของผู้เล่นทั้งหมดแล้ว! ดังนั้นจึงเป็นเวลาที่เราจะได้ประกาศเปิดอีเวนท์เสียที! ‘อีเวนท์ทั่วทั้งเซิร์ฟเวอร์ : ล่าสมบัติ!’ เริ่มต้นแล้วตั้งแต่ตอนนี้! ทวารบาลปีศาจ ผู้ครอบครองตั๋วสำหรับเข้าร่วมอีเวนท์จะปรากฏตัวขึ้นมาสถานที่หลัก ๆ ในแผนที่! เมื่อใดที่ทวารบาลถูกโค่นลงก็จะดร็อปตั๋วอีเวนท์ล่าสมบัติให้! ผู้เล่นคนไหนที่มีตั๋วนี้ก็จะถูกเทเลพอร์ตเข้าสู่พื้นที่อีเวนท์ทันที! ผู้เล่นสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของอีเวนท์ได้ที่หน้าเว็บไซต์ทางการของเกมได้เลย! ผู้ใดก็ตามที่เข้าร่วมอีเวนท์เซิร์ฟเวอร์ จะได้รับของรางวัลมากมายตามความสำเร็จที่ทำได้ รางวัลใหญ่ที่สุดเป็นอาร์ติแฟคท์สวรรค์! สำหรับผู้ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของทั้งเซิร์ฟเวอร์!”

“ผู้เล่นทุกคนโปรดทราบ!…”

“ผู้เล่นทุกคนโปรดทราบ!…”

“ผู้เล่นทุกคนโปรดทราบ!…”

“ผู้เล่นทุกคนโปรดทราบ!…”

ประกาศเตือนแบบเดิม ๆ ดังซ้ำอยู่อย่างนั้น 5 ครั้ง พอประกาศจบลงทุกอย่างก็เงียบสงบราวกับสายฟ้าที่ฟาดลงมาแล้วหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงความตกตะลึงของเซียวเฟิง ซือเยี่ยจิ๋งและซูถิงถิงเท่านั้น ทั้งสองสาวลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าพวกเธอกำลังยืนอยู่ท่ามกลางดงมอนสเตอร์ จนพลังชีวิตของทั้งสองลดฮวบแทบจะเหลือ 0 ถึงจะได้สติกลับมาตีมอนสเตอร์รอบ ๆ ตัวให้ตายเสียก่อนจะกลับมาคิดต่อ

“อีเวนท์ทั้งเซิร์ฟเวอร์ที่มีอาร์ติแฟคท์ศักดิ์สิทธิ์เป็นของรางวัลใหญ่สุดงั้นเหรอ?” เซียวเฟิงยังคงงุนงงกับสิ่งนั้นอยู่ขณะที่เขากำลังเข้าสู่เว็บไซต์ของเกมอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่หน้าเพจมันก็มีประกาศเรื่องกิจกรรมนี้อยู่จริง ๆ สองสาวที่จัดการมอนสเตอร์รอบ ๆ ตัวเสร็จเองก็รีบเข้าเว็บไซต์ตามไปด้วยด้วยเช่นกัน

ประกาศดังกล่าวปรากฏขึ้นในเว็บไซต์มากกว่าครึ่งค่อนชั่วโมงที่แล้ว ที่พวกเขาทั้ง 3 ไม่รู้ก็เพราะกำลังง่วนอยู่กับการลงดันเจี้ยนอยู่พอดี พลันเมื่อได้เห็นอีเวนท์เซิร์ฟเวอร์ถูกประกาศเริ่มเช่นนี้มันเลยทำให้พวกเขาเพิ่งจะตระหนักได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันตึงเครียดขนาดไหน

อีเวนท์เซิร์ฟเวอร์!

รายละเอียดของแผนที่สำหรับอีเวนท์นั้นยังไม่ถูกเปิดเผย ดูเหมือนว่าอีเวนท์นี้จะใช้แผนที่พิเศษที่ออกแบบโดยระบบและไม่ใช่ดินแดนแห่งพระเจ้าที่เซียวเฟิงเปิดไว้ด้วย

ตัวอีเวนท์หลักจะเริ่มในอีก 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ หรือก็คือเที่ยงคืนของวันพรุ่งนี้ ผู้เล่นทุกคนที่ครอบครองตั๋วเข้าร่วมเอาไว้จะถูกเคลื่อนย้ายไปยังแผนที่อีเวนท์ในทันที ในครั้งนี้จะไม่มีการแบ่งเขตแดนใด ๆ ซึ่งนั่นหมายถึงผู้เล่นทั้งหมดจากทั่วทุกเขตจะถูกเทเลพอร์ตไปยังแผนที่เดียวกัน!

ภารกิจของอีเวนท์เองก็ยังไม่เปิดเผย สิ่งที่รู้ทั้งหมดก็มีเพียงผู้ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดเท่านั้นที่จะได้ครอบครองอาร์ติแฟคท์ศักดิ์สิทธิ์! แต่แค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้ผู้เล่นต่างพากันเป็นบ้าไปหมดแล้ว!

รายละเอียดเดียวที่รู้และดำเนินการได้ตอนนี้เลยก็คือ ข้อกำหนดสำหรับการเข้าร่วมอีเวนท์ ตั๋วเข้าร่วมหรือที่เรียกกันว่าโทเคนล่าสมบัตินั้น จะถูกดร็อปจากมอนสเตอร์ที่ชื่อว่าทวารบาลปีศาจ โดยทวารบาลปีศาจเหล่านี้จะเกิดอยู่ตามจุดสำคัญ ๆ ใหญ่ ๆ ของแผนที่ทั่วทั้งหมดหลังจากที่ประกาศจบลง

แววตาของซูถิงถิงเปล่งประกายออกมาทันทีหลังจากที่เธอไตร่ตรองเรื่องนี้เสร็จแล้ว “ฉันไม่ได้ฟังอะไรผิดไปใช่ไหม? อาร์ติแฟคท์ศักดิ์สิทธิ์เลยนะ? นี่มันอะไรกันเนี่ย!!” เธออุทานออกมาด้วยความตกใจ “รางวัลจากอีเวนท์เซิร์ฟเวอร์นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว! ทั้ง ๆ ที่ท่ามกลางผู้เล่นหลายพันล้านคนยังมีอุปกรณ์ระดับเทพเจ้ากันไม่กี่ชิ้นเอง! แต่อีเวนท์นี้กลับให้อาร์ติแฟคท์ศักดิ์สิทธิ์เป็นของรางวัลเลยงั้นเหรอ!?”

“อีเวนท์นี่น่าจะทำให้ทุกคนเป็นบ้ากันไปหมดแน่ ๆ ” ซือเยี่ยจิ๋งพูดเบา ๆ ด้วยความหนักใจ “อาร์ติแฟคท์ศักดิ์สิทธิ์นั่นมากพอจะทำให้คนเสียสติกันได้เลย”

เซียวเฟิงส่ายหน้าแล้วพูด “มันไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอกที่จะได้อาร์ติแฟคท์ศักดิ์สิทธิ์นั่น ฉันพนันได้เลยว่าแค่ไอ้วิธีการได้ตั๋วมานี่ก็น่าจะคัดผู้เล่นออกไปได้เยอะแล้ว อย่าลืมสิว่าตั๋วเข้าร่วมอีเวนท์น่ะจะได้มาหลังจากที่ปราบทวารบาลปีศาจได้นะ เราไม่รู้แม้กระทั่งจำนวนครั้งที่มอนสเตอร์ตัวนี้จะเกิดใหม่ซะด้วยซ้ำ แต่ฉันก็มั่นใจว่าไม่บ่อยนักหรอก และมันไม่น่าพอที่จะส่งผู้เล่นเข้าร่วมอีเวนท์ได้ถึงหลักหมื่นคนด้วย”

เขาเข้าใจดีว่าการได้มาซึ่งบัตรผ่านมันยากขนาดไหน ดังนั้นจำนวนผู้เล่นต้องไม่เยอะถึงหลักล้านแน่ ๆ อันที่จริงตอนนี้น่ะลืมเรื่องของรางวัลไปก่อนยังได้ เพราะสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าคือเหล่าทวารบาลปีศาจ และนี่น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่ล้มตายกันด้วย

“เป็นนายก็พูดง่ายสิ!” ซือเยี่ยจิ๋งขึ้นเสียง “นายรู้ไหมอาร์ติแฟคท์แต่ละชิ้นน่ะดึงดูดผู้เล่นได้มากขนาดไหน? ใช่สิ นายคงมองว่ามันไม่สำคัญใช่ไหมล่ะ? ในเมื่อนายเองก็ครอบครองอาร์ติแฟคท์ถึง 2 ชิ้นจากทั้งเซิร์ฟเวอร์ไปแล้วนี่” เธอจ้องมองเซียวเฟิงด้วยความโกรธ ใจหนึ่งเธอก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนแบบเขาถึงได้มีอาร์ติแฟคท์ดี ๆ เป็นของตนเองถึง 2 ชิ้นเช่นนี้

เสียงของซูถิงถิงดังขึ้นเพื่อขัดไม่ให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน “หยุดก่อน ทั้งสองคนเลย! ดูมอนสเตอร์ตัวนั้นสิ!” นิ้วเรียวชี้ไปยังมอนสเตอร์รูปทรงมนุษย์ที่เห็นได้คลุมเครือไม่ไกลจากพวกเขานัก ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยผิวสีดำหากแต่สูงและใหญ่ราวกับตึก ที่หัวมีเขาขนาดใหญ่งอกออกมาใน ขณะที่ไหล่ทั้งสองข้างมีปีกขนาดใหญ่งอกยาวออกมาจนเป็นจุดเด่นอยู่

“บังเอิญอะไรขนาดนี้เนี่ย” เซียวเฟิงอุทานเบา ๆ ด้วยความประหลาดใจ

สิ่งนั้นไม่น่าจะเป็นอย่างอื่นไปได้นอกจาก ‘ทวารบาลปีศาจ’ ! เพราะในบริเวณนี้นอกจากพวกซอมบี้แล้ว หากมีสิ่งใดที่ไม่ใช่พวกมันเกิดขึ้น จะกลายเป็นเป้าสายตาได้อย่างง่ายดาย และจากประกาศล่าสุด มันก็น่าจะเป็นเจ้าตัวนั้น

ทวารบาลปีศาจ

เลเวล : 20

ระดับ : สูง

ธาตุ : ปีศาจ

พลังชีวิต : 12,000 / 12,000

พลังโจมตีกายภาพ : 110-130

พลังโจมตีเวทมนตร์ : 100-110

พลังป้องกันกายภาพ : 98-108

พลังป้องกันเวทมนตร์ : 98-108

สกิล : เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวด ฝันร้าย คลุ้มคลั่ง ทำลายล้าง คลื่นสั่นสะเทือน ร่างปีศาจ ความแข็งแกร่งของปีศาจ

คำอธิบาย : ‘ทวารบาลผู้อยู่ระดับล่างสุดในเผ่าพันธุ์ปีศาจ ถึงอย่างนั้นก็แข็งแกร่งระดับที่ไม่ได้ล้มกันได้ง่าย ๆ ดร็อปโทเคนยามที่มันตายลง’

“อะไรนะ? มันเป็นบอสระดับสูงเลเวล 20 งั้นเหรอ!?” ซูถิงถิงจ้องมองไปยังมอนสเตอร์ที่เพิ่งเกิดใหม่นั้นด้วยความตกใจ ชื่อของมันชัดเจนแล้วว่าเป็น ‘ทวารบาลปีศาจ’ และชื่อมันก็ไม่ได้ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อความเท่ด้วย ใครจะไปคิดว่าไอ้สิ่งที่ครอบครองโทเคนอยู่นั้นจะเป็นบอสที่มีความสามารถสุดแกร่งแบบนี้ได้!

ทางด้านเซียวเฟิงก็เพียงพยักหน้าเบา ๆ ไม่ได้พูดอะไร เขาคิดถูกมาตั้งแต่แรกแล้ว ที่ว่าแค่หาทางเข้าร่วมอีเวนท์ก็แทบจะทำให้ผู้เล่นหายกันไปเยอะแน่ ๆ เห็นได้ชัดเลยว่ามีเพียงผู้เล่นระดับสูงเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมอีเวนท์ได้ ผู้เล่นทั่วไปเพียงแค่จะเดินผ่านมันไปโดยไม่ให้ตัวแตกซะก่อนก็ถือว่าใช้โชคของทั้งวันไปแล้ว นับประสาอะไรกับการที่จะโค่นมันแล้วชิงเอาตั๋วเข้าร่วมอีเวนท์มาได้

สิ่งที่เซียวเฟิงสนใจอยู่จริง ๆ เกี่ยวกับทวารบาลปีศาจตนนี้ อยู่ที่ธาตุของมันต่างหาก นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ต้องเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ที่มีธาตุเป็น ‘ปีศาจ’ แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็รับรู้ได้อีกว่าธาตุปีศาจนั้น อยู่ตรงกันข้ามกับธาตุศักดิ์สิทธิ์ของเขาด้วย

หากจะแบ่งธาตุโดยอิงจากแสงสว่างและความมืดเป็นเกณฑ์ ธาตุแสงจะประกอบด้วย ธาตุธรรมชาติ ธาตุความรู้และธาตุศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเผ่าพันธุ์ที่สามารถใช้ธาตุเหล่านี้ได้ก็จะเป็นพวก เอลฟ์ มนุษย์และเหล่าทวยเทพตามลำดับ

ในขณะที่ฝั่งของธาตุความมืด จะประกอบไปด้วยธาตุอันเดด คำสาปและปีศาจ ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้กันหมดแล้วว่าธาตุปีศาจนั้นแข็งแกร่งระดับไหนเมื่อเทียบกับลำดับที่เรียบเรียงมา

“เร็วเข้า! รีบกำจัดเจ้าทวารบาลปีศาจนั่นก่อนคนอื่นจะมากันเถอะ!” ซูถิงถิงตะโกนขึ้นด้วยความร้อนใจหลังจากที่ฟื้นจากอาการตกใจได้

ขณะที่เธอกำลังเตรียมจะวิ่งเข้าไปนั้นเอง ซูถิงถิงก็ตระหนักได้ว่าทั้งสองที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอนั้นต่างก็เป็นยอดฝีมือกันทั้งคู่ และมันทำให้เธอค่อนข้างมั่นใจเลยว่าบอสเลเวล 20 ตรงหน้านั้นไม่ได้ยากเกินความสามารถพวกเขาแน่ ๆ

ทว่านี่มันก็ดูจะช้าเกินไป เพราะตำแหน่งที่ทั้ง 3 อยู่นั้นอยู่ใกล้กับดันเจี้ยนเมืองร้าง ซึ่งตามปกติก็มักจะมีผู้เล่นมารอเวลาให้ดันเจี้ยนรีเฟรชช่วงเที่ยงคืนอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเซียวเฟิง ซือเยี่ยจิ๋ง และซูถิงถิงไปถึงจุดที่บอสเกิด ทวารบาลปีศาจตนนั้นก็โดนห้อมล้อมด้วยกลุ่มผู้เล่นกลุ่มหนึ่งเสียแล้ว…

กลุ่มผู้เล่นที่ล้อมบอสตัวใหญ่อยู่นั้นมีมากกว่า 10 คน ดูแล้วน่าจะเป็นปาร์ตี้ที่เตรียมมาเพื่อลงดันเจี้ยนชัด ๆ เหล่าสมาชิกที่อยู่ในปาร์ตี้ประกอบไปด้วยนักรบ นักเวท นักธนู รวมไปถึงฮิลเลอร์ก็ยังมี เรียกได้ว่าเป็นปาร์ตี้ที่ครบครันสุด ๆ เมื่อพิจารณาด้วยสายตาแล้วพบว่ามีจำนวนคนไม่ถึง 20 ทั้ง ๆ ที่เกิน 10 คน เช่นนั้นแสดงว่าจะต้องมีพวกมือสังหารเร้นกายอยู่อีกหลายคนแน่นอน เพราะตามกฎแล้ว…นี่ควรจะเป็นปาร์ตี้แบบ 20 คน

หัวหน้าของปาร์ตี้ นักรบโล่ รีบเดินถอยออกมาทันทีเมื่อรับรู้ได้ว่าพวกเซียวเฟิงเดินเข้ามาใกล้ “เฮ้ สหาย พวกเราเจอทวารบาลปีศาจตัวนี้ก่อน เพราะงั้นได้โปรดเคารพความจริงเรื่องนี้ด้วย พวกเรามาก่อนนะ” เขาพูดอย่างใจเย็น

นักรบโล่ผู้นี้รู้ดีว่าปาร์ตี้ของเขานั้นช่ำชองและทรงพลัง นอกจากนี้เขายังมั่นใจด้วยว่าพวกตนสามารถกำจัดทวารบาลตรงหน้านี้ได้ จากสายตาของเขานั้น ปาร์ตี้ของเซียวเฟิงที่มีเพียง 3 คนนั้นไม่มีอะไรเทียบเท่าได้เลย

“แล้วแบบนี้จะเอายังไงต่อ? พวกเราทำอะไรได้บ้าง? หรือพวกเราควรจะใช้กำลังเข้าแย่ง?” ซูถิงถิงที่อยู่ในอาการกึ่งตื่นเต้นกึ่งไม่มั่นใจนั้นไม่ได้ใส่ใจระดับความดังของเสียงที่ตนเองพูดออกมาเลย เพราะงั้นเสียงของเธอจึงดังพอที่จะทำให้ผู้เล่นอีก 10 กว่าคนตรงหน้าซึ่งกำลังเปิดโหมดต่อสู้กันอยู่พลอยได้ยินไปด้วย

“การลงมือสังหารใครสักคนหรือจะเป็นการสังหารหมู่ถือเป็นเรื่องเลวร้าย” เซียวเฟิงพูดก่อนจะถอยหลังออกไปเผยให้เห็นร่างของซือเยี่ยจิ๋งที่อยู่ด้านหลัง “ฉันคิดว่านี่คงถึงเวลาเฉิดฉายของเธอแล้ว” จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นกอดอกราวกับว่าวางแผนที่จะไม่ยุ่งกับการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้

ซือเยี่ยจิ๋งเหลียวมองเซียวเฟิงด้วยความหงุดหงิดก่อนที่จะเดินขึ้นมาด้านหน้า จากนั้นเธอก็หยุดใช้งานคำสั่งปกปิดชื่อผู้เล่น ทันทีที่คำสั่งหายไป ตัวหนังสือสองตัวก็ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน ‘ไนท์ คูนเนอร์’

“นะ…ไนท์ คูนเนอร์!?”

“พระเจ้า! นั่นมันนายท่านไนท์ คูนเนอร์!?”

“อะไรวะเนี่ย!? ไม่อยากจะเชื่อเลย นี่พวกเราเผลอหาเรื่องกับไนท์ คูนเนอร์งั้นเหรอ!?”