รินจังเริ่มงอแงขึ้นมาแล้ว เธอสู้พี่ชายสองคนไม่ได้ เด็กสาวขี้กลัว บวกกับเมื่อก่อนพวกพี่ๆมักจะพูดต่อหน้าเธอว่าแด๊ดดี้นิสัยแย่อย่างไร รังแกหม่ามี๊อย่างไร
ดังนั้นตอนนี้ เธอจึงเริ่มกลัวขึ้นมา
เส้นหมี่ได้สติคืนมาทันที ทันใดนั้น เธอก็กอดลูกสาวของตัวเองไว้แน่น เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด กลัวจนตัวสั่นเล็กน้อย
“เธอ……”
“เธอเป็นลูกสาวคุณจริงๆเหรอ?!!เส้นหมี่ คุณนี่สุดยอดเลยนะ ตอนเที่ยงยังแสดงออกต่อหน้าผมว่าคุณบริสุทธิ์มากแค่ไหน พริบตาเดียว จู่ๆก็มีลูกสาวนอกสมรสกับคนอื่นจนโตขนาดนี้แล้วด้วย คุณนี่มันจ่าขยะแขยงเสียจริง?!”
คิดไม่ถึงว่า เธอยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆผู้ชายคนนี้ก็ด่าขึ้นมา
ใบหน้าเขามีแต่ความเหยเก ระหว่างคิ้วดูเยือกเย็น เต็มไปด้วยความเฉียบคมและน่ารังเกียจ เวลานี้ ประธานผู้ยิ่งใหญ่ที่ตอนนี้มีกองกำลังเป็นหมื่นๆพันๆยังไม่เคยเปลี่ยนสีหน้าในโลกธุรกิจ ก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีก
เส้นหมี่ตะลึงเล็กน้อย
ลูกสาวนอกสมรส?
เขา……คิดว่าเด็กคนนี้เป็นของเธอกับคนอื่น?
เส้นหมี่หดหู่ไปทันที ขณะเดียวกัน เธอก็มองผู้ชายคนนี้ อย่างยากที่จะอธิบายได้
เธอไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือร้องไห้ดี?ผู้ชายคนนี้ตาบอดแบบนี้ แล้วเป็นคนมีอำนาจอันดับหนึ่งในธุรกิจของเขาได้อย่างไรกัน?
“พูดสิ?ทำไมคุณไม่พูด?”
“ฉันจะพูดอะไร?ลูกสาวนอกสมรสอะไร?แสนรัก ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับคุณตั้งนานแล้ว คุณคบกับยัยแพศยาแป้งร่ำได้ แล้วฉันจะไปหาผู้ชายอื่นไม่ได้เหรอ?คลอดลูกสาวคนเดียวแล้วไง ถึงฉันคลอดลูกกับคนอื่นเป็นคอก!ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณทั้งนั้น!!”
“……”
ในที่สุด ประโยคนี้ก็ก่นด่าไปที่ผู้ชายระยำคนนี้ตรงนั้น!
นิ้วมือบีบจนดังออกมา ใบหน้าหล่อเหลานั้นซีดขาวดูเหยเก แต่ว่า เขาก็พูดอะไรไม่ออกอีก
เถียงกับเธอเกี่ยวกับเรื่อง?
แส่หาเรื่องให้ตัวเองชัดๆ!
เส้นหมี่ด่าเขาเสร็จ ก็ไม่อยากสนเขาอีก เห็นลูกชายออกมาจากห้องตรวจ ทันใดนั้น เธอก็จูงลูกสาวไป:“หมอคะ เขาไม่เป็นไรใช่ไหม?ไปได้ยังคะ?”
เธอต้องรีบพาเด็กคนนี้ไป ไม่อย่างนั้น จากนิสัยของผู้ชายระยำคนนี้แล้ว เมื่อกี้บังเอิญรู้ว่าเธอมีลูกสาวนอกสมรสกับคนอื่น ถ้ารู้ว่ายังมีลูกชายฝาแฝดอีกคนอยู่ในมือเธอ เขาได้เล่นงานเธอแน่!
เส้นหมี่เตรียมจะพาลูกชายกลับ
แต่ตอนนี้เอง จู่ๆมือใหญ่ข้างหนึ่งก็แทรกมาตรงกลาง ตอนที่เธอยังอุ้มลูกชายมาไม่ได้ของเธอ มือนี้ก็ดึงเด็กชายคนนี้ไป แรงมหาศาลนั้นทำให้เธอไม่อาจสู้ได้เลย
“แสนรัก คุณทำอะไร?”
“เอามือสกปรกคุณออกไป อย่าแตะต้องเขา คุณไม่คู่ควร!”
ผู้ชายคนนี้อีกแล้ว เขาแย่งลูกไป ไม่ให้เส้นหมี่แตะต้อง
เส้นหมี่โกรธมาก!
นี่คือคิวคิวของเขา ไม่ใช่ชินชินของเขา เขามีสิทธิ์อะไรไม่ให้เธอแตะต้อง?ตอนนี้เธอเหลือแค่ลูกชายคนนี้คนเดียว
เส้นหมี่กลัวมาก ในที่สุดก็เสียการควบคุมเล็กน้อย เธอตาแดงก่ำ แทบจะไปแย่งลูกกลับมา แต่จู่ๆ เด็กที่ถูกแสนรักแย่งไป ก็พูดว่า:“แด๊ดดี้ แด๊ดดี้ทำอะไร?”
เส้นหมี่ตะลึงงันทันที!
แด๊ดดี้?
คิวคิวของเธอ……เรียกผู้ชายคนนี้ว่าแด๊ดดี้?
แสนรักกลับไม่มีการตอบสนองมากนัก เพราะตั้งแต่แรก ตอนที่โรงพยาบาลนี้แจ้งให้เขามา บอกว่าชินจังลูกชายเขาอยู่นี่
ดังนั้นเขาจึงก้มหน้าลง มองไปที่เด็กชายคนนี้:“แด๊ดดี้พาลูกกลับบ้านเอง”
“ไม่กลับ ผมจะไปโรงเรียนอนุบาล”
จากนั้นชินจังก็สลัดออกจากแขนของแด๊ดดี้ เดินไปที่หม่ามี๊
เส้นหมี่เห็น ก็ดีใจทันที ไม่มีอารมณ์ไปคิดอย่างอื่นแล้ว เธอเดินเข้าไปสองก้าวแล้วเอาลูกชายของตัวเองมากอดไว้ในอ้อมแขน
“โอเคๆ พวกเราไม่กลับบ้าน พวกเราไปโรงเรียนอนุบาล แสนรัก ฉันไม่พาเขาไปที่อื่นหรอก จะพาเขากลับโรงเรียนอนุบาลเฉยๆ ในเมื่อเขาต้องการแบบนี้เอง พวกเราก็อย่าให้เรื่องของผู้ใหญ่ ส่งผลต่อเขาเลย”
เส้นหมี่พูดไป ก็รีบอุ้มลูกชายขึ้นมา
จากนั้น ภายใต้สถานการณ์ที่ชายหนุ่มคนนี้ยังไม่ตอบสนองคืนมา ก็พาลูกทั้งสองคนออกไปแล้ว ความเร็วนั้น เหมือนกับกระต่าย แป๊บเดียวก็ไม่เห็นเงา
จากนั้นแสนรักก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟตรงห้องตรวจนี้!
เส้นหมี่!!!
——
เส้นหมี่พาลูกสองคนนี้วิ่งไปตลอดทาง จนเธอโบกรถแล้วขึ้นแท็กซี่ สามคนแม่ลูกตื่นตระหนกตกใจมาก กลับมาถึงโซนเมืองเก่า เธอจึงพาเด็กทั้งสองคนลงจากรถ
จากนั้นนั่งลงไปในสวนสาธารณะที่อยู่ใกล้ๆจนยืนไม่ขึ้นอีก
“หม่ามี๊?”
รินจังเป็นเด็กผู้หญิง ความคิดและจิตใจจึงค่อนข้างละเอียดอ่อน พอเห็นหม่ามี๊ลงจากรถแล้วนั่งตรงนั้นไม่ขยับ เธอก็โน้มตัวไปทันที ใบหน้าเล็กๆที่มีเนื้ออ้วนๆอยู่ด้านข้างหม่ามี๊ ถามอย่างเป็นห่วง
เส้นหมี่เห็น ก็กอดยัยตัวเล็กนี้ไว้
แป๊บหนึ่ง ในสายตาก็เห็นลูกชายของเธอที่ยืนตาปริบๆอยู่ข้างๆ จึงยื่นมือไป แล้วกอดเขาไว้ด้วยเช่นกัน
“หม่ามี๊ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลนะ หม่ามี๊เหนื่อยเล็กน้อย นั่งตรงนี้สักพักก็ดีขึ้น”