งั้นเขาจะคืนลูกชายคนนี้ให้เธอไหม?
เส้นหมี่รีบร้อนจนเหมือนมดในรังร้อน ภายใต้การทำอะไรไม่ได้นั้น สุดท้ายเธอจึงพาลูกสาวรีบตามไปด้วย คิดว่าจะค่อยๆตามดู
เมื่อถึงเวลาจำเป็น คอยดูว่าถือโอกาสตอนที่คนกลุ่มนี้ไม่ทันสังเกต ค่อยพาลูกไปได้หรือไม่
แต่พอเธอพาลูกสาวมา ลูกชายที่ถูกอุ้มไปตรงหน้า ก็ถูกหมอเหล่านั้นพาเข้าไปในห้องตรวจแล้ว และก็ไม่ได้ถามอะไร ศาสตราจารย์แก่ๆคนนั้นก็พาเด็กไปตรวจ
“เดี๋ยวค่ะ!คุณหมอ ขอโทษนะคะ เด็กคนนี้ของฉันเขาไม่เป็นไร ไม่ต้องไปตรวจ”
เส้นหมี่ร้อนใจสุดๆ ในห้องตรวจที่แสนมิดชิดแบบนี้ เด็กตัวเล็กๆจะตรวจตามอำเภอใจได้ไง?คิวคิวของเธอก็ไม่ได้ป่วยอะไร เข้าไปมีแต่กลัวจนทำให้เขาตกใจได้
แต่ว่า หลังจากศาสตราจารย์คนนี้เห็นเธอ กลับดูเหมือนไม่ได้อะไรกับเธอ
“คุณคือใครเหรอ?”
“อ๋า?ฉัน……ฉันเป็นพี่เลี้ยงของเด็กคนนี้ค่ะ เพิ่งจ้างมา”เส้นหมี่ตอบกลับไปอย่างร้อนตัวเล็กน้อย
“ที่แท้ก็มาใหม่ งั้นคุณไม่รู้เหรอว่าทำไมคุณแสนรักนายจ้างพวกคุณถึงให้คุณมาเด็กมาที่นี่?เด็กคนนี้ โตมากับการหาหมอที่โรงพยาบาลตั้งแต่เด็ก เอาล่ะ ผมก็ไม่พูดอะไรกับคุณมาแล้ว คุณรออยู่ข้างๆละกัน ผมจะพาเขาไปตรวจตอนนี้”
จากนั้นศาสตราจารย์คนนี้ก็ไม่สนใจคำทักท้วงของเส้นหมี่ ให้ผู้ช่วยอุ้มเด็กเข้าไปในห้องตรวจโดยตรง
เส้นหมี่:“……”
ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่คุณหนูชินจังที่เขาพูดถึง แต่เป็นคิวคิวของเธอ
เส้นหมี่ทั้งโกรธทั้งร้อนใจ อยากเข้าไปอธิบาย แต่ตอนนี้ เด็กที่ถูกส่งไปนอนบนเครื่องตรวจนั้น คอมพิวเตอร์ด้านนอกค่อยๆปรากฏผลออกมา
“ส่วนปลายกระเพาะอาหารยังปิดไม่ดี และยังมีอาการบวม ช่วงนี้เกิดอะไรขึ้น?”
“น่าจะเป็นปัญหาด้านการกินอีกแล้ว เฮ้อ เด็กคนนี้”
พอศาสตราจารย์กับผู้ช่วยเขาเห็นภาพด้านบนที่โชว์มาแล้ว ก็เริ่มพูดคุยกันอย่างสงสาร
เส้นหมี่ได้ยิน ทันใดนั้นในหัวก็มีเสียง“หึ่ง——”อีกครั้ง
ปลายกระเพาะอาหารยังไม่ปิด?
จะเป็นไปได้ไง?คิวคิวของเธอแข็งแรงมาเสมอ ทำไมปลายกระเพาะอาหารยังไม่ปิดได้?เมื่อก่อนเธอไม่เคยพบว่าเขาเป็นเลย
เหมือนกับเธอดิ่งลงไปในโรงน้ำแข็งทันที หลังจากความกลัวถาโถมเข้ามาแล้ว จากนั้น เธอไม่สนอะไรอีก เหมือนคนบ้า ถลาเข้าไปอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ระหว่างหมอสองคนนี้
“เป็นไปไม่ได้ ปลายกระเพาะอาหารเขาจะไม่ปิดได้ไง?นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
“คุณพี่เลี้ยง มันจะเป็นไปไม่ได้ได้ไงกัน?คุณชายเล็กของพวกคุณ มีปัญหาด้านนี้มาเสมอ ไม่ใช่แค่นี้ เขายังมีลำไส้เล็กกว่าคนอื่น และประสิทธิภาพการทำงานของไตก็ยังไม่พัฒนาเต็มที่เหมือนคนอื่นๆด้วย พวกนี้ เจ้านายคุณไม่ได้บอกคุณเหรอ?”
ศาสตราจารย์เห็นเธอปฏิเสธอย่างกับคนบ้า ก็รู้สึกโกรธจนเคาะหน้าจอคอม!
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ไม่พูด
เพราะว่า เธอก็เป็นหมอ และก็เข้าใจของที่อยู่ในคอมนี้ แต่พอเธอมองไป เธอกลับพบว่า เป็นเหมือนที่ศาสตราจารย์คนนี้พูดเลย
เส้นหมี่ล้มลงไปในเก้าอี้ด้านหลังดัง“ตุบ”
ตอนที่แสนรักรีบมาที่นี่ ศาสตราจารย์แก่ๆคนนั้นก็ตรวจให้ชินจังเสร็จแล้ว
อาการของชินจังนี้ ที่จริงก็แค่ตอนนี้ ปกติมาก เพราะว่าเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก คลอดก่อนกำหนดทำให้เขามีปัญหาทางร่างกายมาก และสถานการณ์แบบนี้ แค่เขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรอีก ก็เท่ากับปกติ
หลังจากแสนรักฟังผลตรวจแล้ว ก็ไม่รู้สึกว่าอารมณ์เปลี่ยนไปมากนัก แต่พอเขาหันหน้าไป ก็เห็นเส้นหมี่ที่นั่งเหม่อลอยอยู่ตรงเก้าอี้
ใบหน้านั้น ซีดขาวมาก เหมือนกับคนตาย ท่าทางดูโศกเศร้าอย่างมาก สายตาว่างเปล่า เหมือนไม่มีสติ เขาเรียกอยู่สองสามครั้ง ก็ไม่ตอบสนองใดๆ
ผู้หญิงคนนี้ ทำอะไรน่ะ?
แสนรักมองไปที่เด็กสาวที่ยืนอยู่ข้างเธอ
กลับพบว่า เด็กสาวคนนี้ก็จ้องเขาอยู่ ตาโตๆเหมือนกับลูกปัด ทั้งดำทั้งกลม สวยและน่ารักอย่างมาก ก็แค่ เธอมองไปที่เขา แล้วก็จ้องอยู่อย่างนั้น บนใบหน้าที่มีเนื้ออ้วนๆกลับรีบหลบไปที่หลังหม่ามี๊ หลังจากเห็นเขาก็ต้องมาที่เธอด้วย แสดงท่าทีเขินอายออกมาทันที
นี่ลูกของใคร?
ทำไมดูแล้ว……หน้าเหมือนยัยนี่จัง?
แสนรักตะลึงอย่างไรเหตุผลทันที:“หนูคือใคร?ทำไมมาอยู่นี่ได้?”
รินจังที่จู่ๆถูกแด๊ดดี้ถามก็ตกใจกลัว หน้าเล็กๆนั้นก็หลบไปที่ตัวหม่ามี๊ทันที:“หม่ามี๊……”
หม่ามี๊?
เธอเรียกเธอว่าหม่ามี๊?!!
แสนรักรู้สึกว่าหน้าเหยเก ทันใดนั้น ใบหน้าหล่อเหลาก็หม่นลงไป ความเดือดดาลพุ่งเข้ามาจากอก
“เส้นหมี่ เธอคือใคร?ทำไมเธอเรียกคุณว่าหม่ามี๊?”
“อ๋า?”
เส้นหมี่ที่นั่งในเก้าอี้ ในที่สุดก็ถูกเรียกให้กลับมามีสติอีกครั้งจากเสียงถามอันโกรธเกรี้ยวของชายคนนี้ พอเงยหน้าขึ้น เธอก็มองชายที่เดือดจัดทั่วใบหน้า แล้วก้มลงมองลูกสาวที่กำลังจะซ่อนตัวไปที่เธอ ด้วยความคาดไม่ถึง——
“เธอ……เธอคือ……”
“หม่ามี๊ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ รินจังอยากกลับบ้านแล้ว”