ตอนที่ 361 ค้อนที่เที่ยงธรรมที่สุด
เวลาเก้าโมงเช้า ทางผู้จัดของงาน ‘โอเชี่ยนซาวด์คัพ’ ได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านทางเวยป๋ออย่างเป็นทางการ โดยได้กล่าวขอโทษสำหรับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมเมื่อหกปีก่อนด้วยความจริงใจ! ทั้งยังแสดงความขอโทษต่อสิ่งที่เฉินฝานซิงได้รับในปีนั้น นอกจากนี้เนื่องด้วยเป็นกรณีพิเศษ ถ้วยรางวัล ‘โอเชี่ยนซาวด์คัพ’ ที่ได้มอบให้ไปเมื่อหกปีก่อนได้ถือว่าเป็นโมฆะ ไม่มีความหมายใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งยังสั่งให้ยึดคืนถ้วยรางวัลที่เป็นโมฆะนี้ด้วย!
และในเวลาเดียวกันนี้เอง ผู้จัด ‘โอเชี่ยนซาวด์คัพ’ ก็เดินทางมาถึงหลานอวิ้น
ในตอนนี้เฉินเชียนโหรวสงบลงมากแล้ว เดิมทีเธอตั้งใจจะไปหาซูเหิงที่สกุลซูเลย แต่ทว่าดันไปดึงดูดคนกลุ่มหนึ่งที่มีท่าทางน่ากลัวเข้า
แน่นอนว่าเฉินเชียนโหรวต้องรู้จักพวกเขา หลายปีมานี้เพื่อที่จะสรรหาบุคคลใหม่ๆ เข้าบริษัท หลานอวิ้นจึงให้ความสนใจกับการแข่งขัน ‘โอเชี่ยนซาวด์คัพ’ อยู่ไม่น้อย
“พวกคุณจะทำอะไร” สัญชาตญาณบอกเธอว่าการมาของพวกเขาในครั้งนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องดีแน่ๆ
“พวกเรามาเพื่อยึดถ้วยโอเชี่ยนซาวด์คัพที่คุณได้ไปเมื่อหกปีก่อนคืนครับ ทางการได้ประกาศชี้แจงว่าถ้วยโอเชี่ยนซาวด์คัพเมื่อหกปีก่อนถือเป็นโมฆะ ถ้วยรางวัลนี้ไม่คู่ควรกับคุณ ช่วยคืนมันให้พวกเราด้วยครับ!”
สีหน้าที่เพิ่งฟื้นตัวดีได้ไม่นานของเฉินเชียนโหรวกลับไปซีดขาวในชั่วพริบตา “ยึดคืน? รางวัลที่ฉันได้มาจากความสามารถของฉัน พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมายึดคืน!”
“ทำให้ย่าของคุณติดสินบนกรรมการได้ ความสามารถของคุณนี่ใช่ย่อยจริงๆ นะครับ”
ท่าทีเย้ยหยันอย่างโจ่งแจ้งนั้นทำเอาเฉินเชียนโหรวสั่นสะท้านไปทั้งตัว “ต่อให้ไม่ใช้เงิน ยังไงถ้วยรางวัลนั่นก็เป็นของฉันอยู่ดี การแข่งขันในปีนั้นพวกคุณไม่เห็นกันรึไง หรือจะบอกว่าฉันเล่นไม่ดี คนให้ความสนใจการแข่งขันเยอะกันขนาดนั้น ถ้าฉันไม่สมควรจะได้ ก็คงมีคนไม่น้อยที่ตั้งคำถามกันแล้ว แต่ก็ไม่มี! นั่นก็เป็นเครื่องยืนยันแล้วว่าฉันสมควรที่จะได้รับมัน!”
“ไม่ครับ ถึงการเล่นของคุณจะไม่มีปัญหา แต่การเล่นของคนอื่นก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน แต่ข้อแตกต่างของคุณกับคนอื่นๆ ก็คือ ‘ย่า’ คนเดียว คุณหนูเฉิน ทางผู้จัดของเรายินดีที่จะจ่ายค่าเสียหายสำหรับการตัดสินที่ไม่รอบคอบในปีนั้นเพื่อยืนยันว่าการแข่งขันโอเชี่ยนซาวด์คัพในประเทศของเรานั้นยุติธรรมและโปร่งใส! ส่วนถ้วยรางวัลนั้น ทางการได้ประกาศให้เป็นโมฆะแล้ว คุณจะเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
“พวกคุณ…” เฉินเชียนโหรวหน้าเขียวปั๊ด
สุดท้ายผู้จัดก็ยึดถ้วยรางวัลกลับไปสำเร็จ ขณะที่ออกมาจากหลานอวิ้น นักข่าวที่ออกันอยู่ที่หน้าประตูก็ได้กลิ่นตุๆ เข้า จึงพากันเข้ามาล้อมพวกเขาไว้ในทันที
ผู้จัดจึงถือโอกาสนี้พูดต่อหน้านักข่าวด้วยความจริงใจ
“พวกเราต้องขอโทษอย่างสุดซึ้งแทนทีมงานทุกคนในงานแข่งขันเรื่องการตัดสินการแข่งขันโอเชี่ยนซาวด์คัพ โปรดอภัยที่พวกเราชดใช้ให้พวกคุณไม่ได้ แต่ว่าในครั้งนี้พวกเราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเองกับทุกคน หวังว่าจะทำให้พวกคุณพอใจได้บ้างนะครับ”
พูดจบพวกเขาก็โค้งคำนับให้กับสื่อมวลชน ตามมาด้วยการใช้ค้อนเหล็กทุบทำลายถ้วยรางวัลที่เพิ่งยึดมาได้จากเฉินเชียนโหรวตรงหน้าประตูบริษัทหลานอวิ้นจนมันแหลกไม่เหลือชิ้นดี!
“ค้อนที่เที่ยงธรรมที่สุด” เกิดเป็นกระแสร้อนแรงขึ้นบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง
เฉินฝานซิงดูคลิปแล้วรู้สึกได้ว่าหัวใจเธอได้ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความรู้สึกหน่วงๆ
เพราะคิดว่าการกระทำของผู้จัดของโอเชี่ยนซาวด์คัพจะดูเกินไปหน่อย ว่ากันตามเหตุผล แค่แถลงการณ์เพื่อประกาศจุดยืนก็เพียงพอแล้ว นี่เล่นทุบถ้วยที่เพิ่งไปยึดมาตรงหน้าประตู เอาเข้าจริงมันไม่จำเป็นเลยสักนิด
พอคาดเดาไปในใจว่าเรื่องนี้อาจมีใครคนนั้นคอยอยู่เบื้องหลัง ความอบอุ่นก็พลันแผ่ซ่านไปทั้งใจ
–
ณ สกุลซู เพราะตอนนี้เฉินเชียนโหรวกำลังเป็นกระแสอย่างมาก ในฐานะที่เป็นนักปรุงน้ำหอมของบริษัท พวกเขาสกุลซูจึงพลอยติดร่างแหไปด้วย
บรรยากาศในการประชุมผู้บริหารระดับสูงเป็นไปอย่างกดดันอย่างถึงที่สุด
กรณีของเฉินเชียนโหรวทำเอาผู้บริหารระดับสูงทุกคนถึงกับหมดคำพูด
ต่างก็หน้านิ่วคิ้วขมวดไม่พูดจา
คำพูดอะไรที่เสียหาย พวกเขาก็พูดกันไปหมดแล้ว
ปากของทุกคนปิดกันสนิท แต่ก็เหยียบข่าวฉาวของเฉินเชียนโหรวที่เกิดขึ้นมาเป็นระลอกไม่ได้!
ตอนที่ 362 ต่างฝ่ายต่างยืนกราน
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องในครั้งนี้ยังเกี่ยวข้องกับเฉินฝานซิงที่พวกเขาชื่นชมเป็นที่สุดอีกด้วย
“มีของดีอยู่ในมือแล้วแท้ๆ ยังทำให้หลุดมือ ตอนนั้นดึงดันจะบีบให้เฉินฝานซิงออกไป แล้วเอาเฉินเชียนโหรวมาแทน หึๆ ไม่สนข่าวฉาวของเธอ เห็นว่าเฉินเชียนโหรวกำลังดังเลยคิดว่าเป็นของดี ชื่อเสียงอื้อฉาวของสกุลเฉินก่อนหน้านี้ที่ว่าเป็นเรื่องโกหก แต่ตอนนี้เรื่องพวกนั้นกลับเป็นเรื่องจริงขึ้นมา ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าสกุลซูของเราเนี่ย เป็นที่รองรับเรื่องอื้อฉาวรึยังไง พวกที่มีมลทินติดตัวถึงได้ชอบแห่กันมาที่สกุลซูนัก”
“งานแข่งเปียโนก็คืองานแข่งเปียโน เกี่ยวอะไรกับสกุลซูของเรากันล่ะ นี่ไม่ใช่ผลกระทบ และก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรไม่ใช่หรอ เฉินเชียนโหรวเป็นนักปรุงน้ำหอมที่รู้จักกันทั่วโลกในชื่อ Rosanna ส่วนเฉินฝานซิงก็เป็นแค่นักปรุงน้ำหอมที่เคยมีประวัติขโมยความคิดคนอื่น อะไรมันหนักหนากว่ากันล่ะ ต่อให้พี่เชียนโหรวไม่อยู่ในวงการบันเทิง มีแค่ชื่อของ Rosanna แค่นี้ก็ข่มใครบางคนได้สบายๆ”
อันลี่น่าพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเย็น เธอไม่ชอบเฉินฝานซิงที่ข่มเธอเป็นประจำตอนที่อยู่ในบริษัท ตอนนี้เธอออกไปจากบริษัทซะได้ก็ดี ตอนที่เฉินเชียนโหรวไม่อยู่บริษัท สิทธิ์ที่เป็นของเธอทั้งหมดก็ถูกยกมาให้อันลี่น่า ตอนนี้เรียกได้ว่าเธอแทบจะเป็นใหญ่ในแผนกวิจัยพัฒนา
“นั่นฉันก็ยอมรับ เธอคือ Rosanna ก็ถือว่าเธอเก่งใช่ย่อย ว่าแต่เธอเก่งพอที่จะหาเงินเข้าสกุลซูได้สักเหมา[1]ไหมล่ะ”
“วิสัยทัศน์แคบเสียจริง แค่ต่อไปเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสกุลป๋อได้ ใครจะไปสนเงินไม่กี่เหมาพวกนั้นล่ะ”
“เธอ!…เหอะ ถ้าเป็นฉัน แค่เธอใช้กิริยาแบบนี้ ต่อให้เธอป็น Rosanna หรือ selinna ก็เชิญไสหัวไปไกลๆ เลย!”
ซูเหิงนอนไม่หลับมาทั้งคืน ความอ่อนล้าปรากฏให้เห็นเด่นชัดบนใบหน้าหล่อเหลา เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ประธานด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“ใครก็คิดว่าตัวเองเก่งกันทั้งนั้น ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ถ้าแน่จริงก็ลองไปแข่งปรุงน้ำหอมแล้วคว้าตำแหน่งกลับมาให้ได้สักตำแหน่งสิ!”
“เธอ!…”
“พอได้แล้ว!”
คนที่นิ่งเงียบมาตลอดอย่างซูเหิงยกมือขึ้นคลึงหว่างคิ้วก่อนจะคำรามออกมาเสียงต่ำ!
คนที่เหลือตกใจจากเสียงที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นมาจนพากันเงียบกริบ สีหน้าเองก็ดูไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
“ยังปวดหัวกันไม่พอเลยคิดจะเปลี่ยนที่นี่ให้เป็นตลาดสดไปเลยรึยังไง”
“…”
“…”
ทุกคนเงียบกริบ
ซูเหิงสูดหายใจเข้าอย่างหนักหน่วง ก่อนจะทิ้งตัวลงกับเก้าอี้
“ทางสกุลป๋อมีท่าทียังไงบ้าง”
“หนังสือและเอกสารต่างๆ ทั้งสมุดแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ ประสิทธิภาพการขายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์ อีกทั้งการวางแผนที่แม่นยำและสมบูรณ์แบบที่สุดของเรา ผู้รับผิดชอบโครงการที่ดูแลเรื่องธุรกิจของสกุลป๋อได้แจ้งมาว่าต้องเป็นสกุลซูของเราอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแต่ว่างานเลี้ยงครบรอบของตระกูลเฉินครั้งก่อนดันสร้างบาดแผลไว้เล็กน้อย ประธานจางผู้รับผิดชอบจึงเสนอให้เพิ่มคอมมิชชั่นของห้างขึ้นเป็นยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเราไม่เคยมีมูลค่าเท่านี้ในตลาดไหนๆ ของเรามาก่อน และไม่มีผลิตภัณฑ์ไหนที่มีคอมมิชชั่นสูงขนาดนี้ ดังนั้นตอนนี้เราจึงยังไม่ได้ตอบตกลง…”
ซูเหิงขมวดคิ้วแน่น ยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์?
ลดค่าประกัน ค่าโฆษณา ค่าสนับสนุนงานครบรอบ ค่าบริหารจัดการ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าบัญชีโทรศัพท์…และค่าภาษีต่างๆ อีกมากมายแล้ว พวกเราจะไปเหลือกำไรที่ไหนอีก?
อีกฝ่ายกำลังใช้วิธีไฟไหม้แล้วปล้นซ้ำเห็นๆ การตลาดแบบพวกพ่อค้าน่าเลือด หากเป็นเขา เขาเองก็คงไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปเช่นกัน
เรื่องสำคัญอย่างการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสกุลป๋อ สกุลซูเองก็จะเสียโอกาสนี้ไปไม่ได้เช่นกัน
เขาพ่นลมหายใจออกเฮือกหนึ่ง ท่าทางเขาดูอ่อนล้าอยู่ไม่น้อย
“ตอบตกลงไปเถอะ”
–
ในขณะเดียวกัน ที่ห้องประชุมของสมาคมสกุลป๋อ
ป๋อจิ่งชวนกำลังมองหนังสือออกแบบสองฉบับในมือด้วยความเยือกเย็น
“ท่านประธานครับ เมื่อเทียบกันแล้ว จือชิ่นกับสกุลซูแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน แค่เรื่องขนาดอย่างเดียว จือชิ่นก็ไม่เข้าเกณฑ์แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องชื่อเสียง สกุลซูเหนือกว่าจือชิ่นเห็นๆ”
“แต่ล่าสุดพรีเซนเตอร์ที่จือชิ่นหามาได้เป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ระดับนานาชาติ เห็นได้ว่าในวันข้างหน้าชื่อเสียงของจือชิ่นจะไม่ด้อยไปกว่าสกุลซูแน่นอน และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาทุ่มไม่อั้นกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์!
ยิ่งไปกว่านั้น หัวหน้านักปรุงน้ำหอมของสกุลซูก่อนหน้านี้อย่างเฉินฝานซิงเองตอนนี้ก็อยู่ที่จือชิ่น อีกอย่าง ชื่อเสียงของสกุลซูก็แยกจากผลิตภัณฑ์ไม่ออก นี่ก็ต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้เฉินฝานซิงที่เป็นคนสร้างรากฐานเอาไว้ แถมตอนนี้สิ่งที่เรียกเงินให้กับสกุลซูก็ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่เฉินฝานซิงเป็นคนวิจัยและพัฒนาขึ้นในตอนแรกอีก หากพูดถึงศักยภาพแล้ว ฉันคิดว่ายังไงจือชิ่นก็กินขาด!”
“แต่นักปรุงน้ำหอมของสกุลซูในตอนนี้คือเฉินเชียนโหรว เธอเป็นนักปรุงน้ำหอมที่ทั่วโลกรู้จักกันในนาม Rosanna แน่นอนว่าศักยภาพของเธอก็ไม่ด้อยไปกว่าใคร เมื่อพิจารนาดูดีๆ แล้ว ฉันคิดว่ายังไงสกุลซูก็เหมาะสมกว่า”
“แต่ตอนนี้ภาพลักษณ์ของเชียนโหรวไม่ค่อยดีนัก…”
ป๋อจิ่งชวนนั่งอยู่บนเก้าอี้ประธาน เขามองเอกสารการวางแผนสองฉบับตรงหน้าอย่างไร้อารมณ์ นัยน์ตาลึกล้ำทอแสงอ่อนๆ
[1]เหมา สกุลเงินหนึ่งของจีน