ตอนที่ 224 เนรเทศ

ปฏิญญาค่าแค้น

​ผล​ที่​ตามมา​ของ​การ​หลงระเริง​ไป​กับ​การปลดปล่อย​ก็​คือ​การ​หลับใหล​อย่าง​หมดสภาพ​ความ​เป็น​คน​อย่าง​สิ้นเชิง​ ​ใน​วันรุ่งขึ้น​ ​หลิน​หลัน​นอนหลับ​จน​ตื่นขึ้น​ตาม​สัญชาตญาณ​ ​นาน​มาก​แล้ว​ที่​ไม่ได้​นอนหลับ​อย่าง​เต็มอิ่ม​เพียงนี้​ ​นาง​จึง​รู้สึก​สดใส​กระปรี้กระเปร่า​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ทันทีที่​ดวงตา​คู่​กลม​โตก​ลอก​ไป​ด้าน​ข้าง​ ​ปรากฏ​ว่า​ไม่เห็น​เงา​เจ้าของ​เรือนร่าง​ข้าง​กาย​เสีย​แล้ว​ ​ม่าน​มุ้ง​ที่​ยังคง​ปิด​สนิท​ ​เห็น​แสงสว่าง​ด้านนอก​รำไร​ ​หลิน​หลัน​จึง​นอน​ต่อ​อีก​ชั่วครู่​อย่างสบายใจ​ ​ภายใน​ม่าน​มุ้ง​ดูเหมือน​ยังคง​คลุ้ง​ไป​ด้วย​กลิ่นอาย​ของ​ความ​เหือด​กระหาย​ ​เรือนร่าง​รู้สึก​ได้​ถึง​ความปวด​เมื่อย​หลัง​ผ่าน​การเคลื่อนไหว​อัน​หนักหน่วง​ ​ทันใดนั้น​หลิน​หลัน​รู้สึก​ได้​ถึง​ความร้อน​ผ่าว​บน​ใบหน้า​ ​นาง​คว้า​หมอน​หนุน​ของ​เขา​มา​โอบกอด​ไว้​และ​เผย​รอยยิ้ม​ไร้เดียงสา​ตามลำพัง

​เมื่อ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่ายั​งมี​เรื่อง​อีก​มากมาย​ที่​ต้อง​สะสาง​ ​หลิน​หลัน​จึง​จำเป็นต้อง​กลั้นใจ​พยุง​เรือนร่าง​ปวดเมื่อย​ลุกขึ้น​จาก​เตียงนอน​ ​เมื่อ​เลิก​ม่าน​มุ้ง​เปิด​ดู​จึง​เห็น​ว่า​หน้าต่าง​ภายใน​ห้อง​ชั้นใน​ถูก​ปิด​ไว้​อย่าง​สนิท​มิดชิด​ ​มิน่าล่ะ​ ​แสงสว่าง​นั่น​ถึง​ได้​ดู​สลัว​ๆ​ ​เพียงนั้น​ ​นาง​ตระหนกตกใจ​อย่างยิ่ง​ทันทีที่​ชำเลือง​สายตา​ไป​มอง​ยัง​นาฬิกาทราย​ที่​เพิ่ม​ระดับ​ขึ้น​มา​ไม่รู้​กี่​ขีด​แล้ว​ ​สวรรค์​!​ ​นี่​มัน​เกือบจะ​เป็นช่วง​กลางวัน​เสีย​แล้ว​ ​พ่อ​หนุ่ม​นี่​ก็​ไม่รู้​จัก​ปลุก​นาง​บ้าง​เลย​ ​เล่น​รังแก​นาง​จน​นอน​ดึกดื่น​เพียงนั้น​ ​ทุกคน​ไม่ต้อง​คาดเดา​ก็​รู้​ได้​ทันที​ว่า​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​แล้ว​ ​ยาม​นี้​คง​ต้อง​กำลัง​หัวเราะเยาะ​นาง​อยู่​เป็นแน่​ ​หลิน​หลัน​อับอาย​จน​กลายเป็น​ความโกรธเคือง​ ​อยาก​จะ​หา​ปี๊บ​มาค​ลุม​ศีรษะ​ให้​มัน​รู้แล้วรู้รอด

​หลัง​เร่งรีบ​สวมใส่​เสื้อผ้า​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​นาง​รู้สึก​กระด้างกระเดื่อง​เกิน​กว่า​จะ​เอ่ยปาก​เรียก​หยิน​หลิ่ว​เข้ามา​ปรนนิบัติ​ ​จึง​จัดการ​จัดเก็บ​เตียงนอน​ด้วย​ตนเอง​แล้วจึง​ไป​เปิด​หน้าต่าง​ ​จะ​ได้​ทำให้​กลิ่นอาย​ของ​สิ่ง​ที่​ชวน​อับอาย​นั่น​มลาย​หาย​ไป

​ภายใน​ห้อง​ปรากฏ​เสียง​เคลื่อนไหว​ ​หยิน​หลิ่ว​ที่​คอย​เฝ้า​อยู่​ด้านนอก​ประตู​จึง​เคาะ​ประตู​ก่อน​เดิน​เข้ามา

​“​เอ้อร​์​เส้า​หน่าย​นาย​ ​ท่าน​ตื่น​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​หยิน​หลิ่ว​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ราบเรียบ​ ​ทว่า​สีหน้า​ค่า​ตา​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​อัน​อบอุ่น

​หลิน​หลัน​ทำได้​เพียง​แสดงออก​อย่างใจ​กล้า​หน้าหนา​เข้า​ไว้​ ​โดย​การ​แสร้งทำ​เป็น​มองไม่เห็น​และ​เอ่ย​ถาม​อย่างสงบ​นิ่ง​ ​“​เอ้อร​์​เส้า​เหยี​ยละ​”

​“​เอ้อร​์​เส้า​เหยีย​ตื่นนอน​แต่เช้า​ตรู่​แล้ว​ ​เอ่ย​ว่า​จะ​ไป​บ้าน​ตระกูล​เยี​่​ยสั​กหน​่อย​ ​แล้ว​จะ​กลับมา​รับประทาน​มื้อ​กลางวัน​เจ้าค่ะ​”​ ​หยิน​หลิ่ว​เอ่ย​ด้วย​รอยยิ้ม​ระรื่น​ ​และ​พูดเส​ริม​ขึ้น​มา​อีก​ประโยค​ ​“​เอ้อร​์​เส้า​เหยี​ยสั​่​งการ​ไว้​ว่า​ห้าม​มิ​ให้​ผู้​ได้​รบกวน​เอ้อร​์​เส้า​หน่าย​นาย​จน​ตื่นนอน​เจ้าค่ะ​”​ ​ความหมาย​อัน​ลึกซึ้ง​ภายใต้​ดวงตา​นั่น​เผย​ให้​เห็น​เด่นชัด​มากยิ่งขึ้น

​ต่อให้​หลิน​หลัน​พยายาม​ทำ​หน้าหนา​เข้า​สู้​ก็​ยัง​แบกรับ​ไม่ไหว​อยู่ดี​ ​นาง​จึง​แสร้ง​ส่งเสียง​กระแอม​ออกมา​สองครั​้ง​ ​“​ช่วย​เตรียม​น้ำอุ่น​ให้​ข้า​ที​สิ​ ​ข้า​ต้องการ​สระผม​”

​หยิน​หลิ่ว​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เตรียม​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​เอ้อร​์​เส้า​เหยี​ยสั​่​งการ​ไว้​ว่า​เมื่อ​เอ้อร​์​เส้า​หน่าย​นาย​ตื่น​แล้ว​ให้​ช่วย​เตรียม​น้ำ​สำหรับ​แช่​อาบ​ให้​เอ้อร​์​เส้า​หน่าย​นาย​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

​ใบหน้า​ของ​หลิน​หลัน​ปรากฏ​สีแดง​ระเรื่อ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​นาง​รีบ​ก้มหน้า​และ​พยายาม​เอ่ย​ด้วย​ท่าที​เคร่งขรึม​ ​“​ไม่ต้อง​มาก​เรื่อง​ขนาด​นั้น​หรอก​”

​ทาง​ด้าน​นี้​เพิ่ง​จัดการ​เรียบร้อย​ก็ได้​ยิน​เสียง​ของ​หรู​อี้​ดัง​ขึ้น​มาจาก​ด้านนอก​ ​“​เอ้อร​์​เส้า​เหยี​ยก​ลับ​มา​แล้ว​เจ้า​ค่า​…​”

​เมื่อ​เห็น​ตัวการ​ผู้​นี้​เดิน​เข้ามา​ด้วย​ใบหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​ความสดชื่น​สบาย​อก​สบายใจ​ ​หลิน​หลัน​ถึงกับ​กัดฟัน​แน่น​ด้วย​ความขุ่นเคือง​ ​พ่อ​หนุ่ม​นี่​ ​จะ​แสดงให้เห็น​ว่า​ตนเอง​อึด​ถึก​หรือ​ไร​กัน​ ​ตนเอง​ตื่นนอน​แต่เช้า​ตรู่​แล้วยัง​ ​‘​เอาใจใส่​’​ ​สั่งการ​ทุกคน​ไม่​ให้​ปลุก​นาง​ ​จะ​ได้​ทำให้​ผู้คน​คิด​ว่า​เขา​เป็น​เทพบุตร​ผู้​กล้าหาญ​และ​แข็งแกร่ง​มากมาย​เพียงใด​เช่นนั้น​หรือ

​หลิน​หลัน​ส่งสัญญาณ​ให้​หยิน​หลิ่ว​ออก​ไป​ ​หลังจากนั้น​จึง​กลอกตา​มอง​บน​ใส่​หลี่หมิง​อวิน​แล้ว​จ้อง​เขา​เขม็ง

​หลี่หมิง​อวิน​เห็นท่า​ที​ของ​นาง​เช่นนี้​จึง​รู้​ได้​ทันที​ว่านา​งกำ​ลัง​หงุดหงิด​อัน​ใด​ ​เขา​ถึงกับ​อมยิ้ม​ ​“​เป็นไร​ไป​หรือ​ ​ยัง​นอน​ไม่​เต็มอิ่ม​หรือ​ไร​”

​หลิน​หลัน​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​ขุ่นเคือง​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ไม่​ปลุก​ข้า​”

​หลี่หมิง​อวิน​เข้าไป​โอบกอด​นาง​แล้ว​จรด​จุมพิต​ลง​ไป​บน​พวง​แก้ม​เนียน​นุ่ม​สีแดง​ระเรื่อ​ ​“​นี่​มิใช่​เพราะ​ข้า​เป็นห่วง​เจ้า​หรือ​ไร​ ​ก็​ข้า​เห็น​ว่า​ระยะนี้​เจ้า​ไม่ได้​นอน​ให้​เต็มอิ่ม​อย่างสบายใจ​”

​ลูกไม้​นี้​มัน​ช่าง​เจ้าเล่ห์​เกินไป​แล้ว​ ​ไย​ถึง​ไม่​พูดว่า​เป็น​ตนเอง​ต่างหาก​ที่​เป็นต้นเหตุ​ ​หาก​มิใช่​เพราะ​เมื่อคืน​เขา​ไม่ได้​คืบ​ก็​จะ​เอา​ศอก​ ​นาง​หรือ​จะ​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​เช่นนี้​ไป​ได้

​หลิน​หลัน​ใช้​สอง​มือ​ยัน​แผง​อก​ของ​เขา​เพื่อ​รักษา​ระยะห่าง​ ​และ​เพื่อ​ง่าย​ต่อ​การ​ใช้​สายตา​แสดงออก​ถึง​การ​ต่อต้าน​ของ​นาง

​หลี่หมิง​อวิน​หุบ​ยิ้ม​แล้ว​เกลี้ยกล่อม​ ​“​เอาละ​ๆ​ ​ข้า​ผิด​เอง​ ​เรา​สามีภรรยา​เพิ่ง​ได้​พบ​เจอกัน​หลัง​แยกจาก​ ​เรื่อง​อย่างว่า​นั่น​…​ทุกคน​ต่าง​เข้าใจ​ได้​ ​ก็​แค่นอน​ตื่น​สาย​ไป​นิดหน่อย​เอง​มิใช่​หรือ​ ​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​โต​เสียหน่อย​”

​หลิน​หลัน​เอ่ย​ด้วย​ความหงุดหงิด​ ​“​คนที​่​รู้สึก​ถูก​นำ​ไป​พูด​เป็นเรื่อง​ขำขัน​มิใช่​เจ้า​นี่​”

​เขา​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เกิน​จริง​ ​“​ใคร​กล้า​นำ​ไป​พูด​เป็นเรื่อง​ขำขัน​หรือ​ ​ข้า​จะ​ไล่ออก​ไป​เดี๋ยวนี้​เลย​”

​“​พวก​นาง​มิได้​พูด​ออกมา​ ​แต่​นั่น​ก็​มิได้​หมายความว่า​ไม่ได้​นึกคิด​เป็นเรื่อง​ขำขัน​กัน​อยู่​ใน​ใจ​ ​ข้า​…​ข้า​ไม่มี​หน้า​ไป​พบ​เจอ​ใคร​แล้ว​…​”​ ​หลิน​หลัน​กำหมัด​แล้ว​ทุบ​ลง​ไป​ที่​เขา​อย่างแรง

​หลี่หมิง​อวิน​หัวเราะ​ร่า​ ​ปล่อย​ให้​นาง​ระบาย​อารมณ์​โกรธ​ตามอำเภอใจ​ ​เห็นท่า​ทาง​ที่​เขินอาย​จน​กลายเป็น​ความโกรธเคือง​ของ​นาง​เช่นนี้​ยิ่ง​รู้สึก​น่ารัก​น่า​ทะนุถนอม​เสีย​ยิ่ง​อะไร​ดี

​“​เรา​เป็น​สามีภรรยา​ ​การ​ที่สามี​ภรรยา​จะ​มี​อะไร​กัน​ล้วน​เป็นเรื่อง​ธรรมชาติ​ที่​ฟ้า​ดิน​กำหนด​มา​แล้ว​ ​ใคร​จะ​กล้า​หัวเราะเยาะ​หรือ​ ​อีก​อย่าง​หาก​ต้องการ​หัวเราะเยาะ​ก็​ต้อง​หัว​เรา​เยาะ​ข้า​ก่อน​ถึง​จะ​ถูก​ ​เอาละ​ๆ​ ​อย่า​โกรธ​ไป​เลย​ ​กุ้ย​ซ่าว​เตรียม​มื้อ​กลางวัน​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ ​รีบ​ไป​กิน​อะไร​รองท้อง​กัน​หน่อย​เถอะ​ ​เดี๋ยว​ช่วง​บ่าย​พวกเรา​ไป​จวน​จิ้งปั​๋ว​โหว​์​กัน​”​ ​หลี่หมิง​อวิน​ปลอบประโลม

​หลิน​หลัน​ถึง​เป็นอัน​ยอม​ปล่อย​ผ่าน​ ​หลัง​รับประทาน​มื้อ​กลางวัน​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ ​ทั้งสอง​พากัน​ไป​จวน​จิ้งปั​๋ว​โหว​์​ ​หมิง​อวิน​เอ่ย​การ​ไป​ครั้งนี้​เพื่อ​ไป​กล่าว​ขอบคุณ​ ​แต่​หลิน​หลัน​คิด​ว่า​หมิง​อวิน​ไป​เพื่อ​ขอ​คำแนะนำ​ใน​ปัญหา​ที่​ต้อง​ระมัดระวัง​เป็นพิเศษ​สำหรับ​การ​ไป​หลาง​ซาน​ใน​ครานี​้​ ​หลาย​ปีก่อน​ ​จิ้งปั​๋ว​โหว​์​เคย​ทำสงคราม​สู้รบ​กวน​ชาว​ทู่​เจ​วี​๋ย​ที่​ตะวันตกเฉียงเหนือ​เป็นระยะ​เวลา​หลาย​ปี​ ​จึง​ค่อนข้าง​เข้าใจ​สถานการณ์​ของ​ผู้ปกครอง​ทู่​เจ​วี​๋ย​ ​ตลอดจน​ความเคยชิน​ของ​ชาว​ทู่​เจ​วี​๋ย​ ​และ​สถานการณ์​การสู้​รบ​ของ​ทาง​ด้าน​ตะวันตกเฉียงเหนือ​เป็น​อย่างดี​ ​ดังนั้น​การ​รู้​เขา​รู้​เรา​จะ​ช่วย​ให้​วาง​กลยุทธ์​รับมือ​ได้​ง่ายดาย​ยิ่งขึ้น

​หมิง​อวิ​นกับ​โหว​์​เหยีย​ไป​ห้อง​หนังสือ​เพื่อ​พูดคุย​ ​หลิน​หลัน​จึง​ไป​หยอกล้อ​อยู่​กับ​หรง​เอ๋อร​์​ ​เวลา​ผ่านพ้น​ไป​อย่างรวดเร็ว​ ​ไม่ทัน​ไร​เวลา​ช่วง​บ่าย​ก็​หมด​ลง​ไป​เสีย​แล้ว

​ช่วงเวลา​ที่​เดินทาง​กลับ​ ​หลิน​หลัน​กำลัง​คิด​เหลือ​เวลา​อีก​ไม่​กี่​วันก่อน​ออกเดินทาง​ ​ทว่า​ยัง​มีเรื่อง​ราว​มากมาย​ที่​ยัง​ไม่ได้​สะสาง​จึง​รู้สึก​กระวนกระวายใจ

​หลี่หมิง​อวิน​เห็น​นาง​ใจ​ไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​ ​จึง​กล่าว​ขึ้น​ ​“​เมื่อเช้า​ข้า​ไป​บ้าน​ตระกูล​เยี​่ย​ ​ได้​ปรึกษาหารือ​กับ​ท่าน​ลุง​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​อวี​้​หลง​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ ​อวี​้​หลง​อาศัย​อยู่​ที่​ตระกูล​เยี​่ย​เป็นเวลา​สอง​เดือน​กว่า​ ​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​เป็นอย่างมาก​ ​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​เอ่ย​ว่า​เดิมที​อวี​้​หลง​ก็​เป็น​คน​ของ​ตระกูล​เยี​่ย​ ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​นาง​ก็​ให้​ตระกูล​เยี​่ย​เป็น​ผู้จัดการ​แล้วกัน​ ​ถึง​จะ​ไม่​หรูหรา​อัน​ใด​มากมาย​แต่​ก็​จะ​จัด​ไม่​ให้​น้อยหน้า​ ​ไว้​ถึง​ตอนนั้น​ ​เจ้า​รับผิดชอบ​แค่​เพิ่ม​เงิน​สินเดิม​ให้​นาง​สักหน่อย​ก็​เป็น​พอ​”

​หลิน​หลัน​เป็นกังวล​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​อวี​้​หลง​ ​อวี​้​หลง​ติดตาม​นาง​มา​เป็นระยะ​เวลา​ปีก​ว่า​แล้ว​ ​นาง​เป็น​ผู้​ที่​จงรักภักดี​และ​ซื่อสัตย์​ ​สำหรับ​หลิน​หลัน​ ​อวี​้​หลง​กับ​หยิน​หลิ่ว​ไม่ใช่​เพียง​สาวใช้​ใน​ฐานะ​ธรรมดา​ทั่วๆ​ ​ไป​เฉกเช่น​คนอื่นๆ​ ​นาง​จึง​ไม่​อยาก​กระทำ​ใน​สิ่ง​ที่​ไม่​ยุติธรรม​ต่อ​อวี​้​หลง​ ​แต่​เรื่อง​การ​จัด​พิธี​งานแต่งงาน​ประเภท​นี้​นาง​ไม่​ถนัด​เอา​เสีย​เลย​ ​ขนาด​งานแต่ง​ของ​ตนเอง​ยัง​ทำ​พอเป็นพิธี​ไป​เท่านั้น​ ​จึง​เรียก​ได้​ว่า​ไร้​ประสบการณ์​ทาง​ด้าน​นี้​ ​นาง​เลย​ไม่รู้​ว่า​ควร​เริ่ม​จาก​ตรงไหน​ ​ตอนนี้​กลายเป็น​ว่า​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​ช่วย​ดึง​เรื่อง​นี้​ไป​จัดการ​ให้​ ​และ​เชื่อ​ว่า​ลุง​และ​ป้า​สะใภ้​จะ​ต้อง​ทำได้​ดีกว่า​นาง​เป็นแน่​ ​หลิน​หลัน​จึง​รู้สึก​วางใจ

​“​ส่วน​หุย​ชุน​ถาง​ ​เจ้า​ก็​วางใจ​ส่งมอบ​ให้​ศิษย์​พี่​รอง​กับ​ศิษย์​พี่​ห้า​จัดการ​เถอะ​ ​อีกทั้ง​ยัง​มี​เหล่า​อู๋​กับฝู​อาน​ ​คง​ไม่น่า​มีปัญหา​อัน​ใด​หรอก​ ฮู​หยิน​ขอรับ​ ​นอกจาก​สอง​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ​ท่าน​ยัง​มีเรื่อง​อัน​ใด​อื่น​สั่งการ​อีก​หรือไม่​ขอรับ​”​ ​หลี่หมิง​อวิน​ประจบประแจง

​หลิน​หลัน​กลั้น​หัวเราะ​ขณะ​ชำเลืองตา​มอง​เขา​ ​“​ไว้​อีก​เดี๋ยว​ค่อย​สั่งการ​เจ้า​แล้วกัน​”

​หลี่หมิง​อวิ​นม​อง​ดู​นัยน์ตา​และ​สีหน้า​สุขสันต์​ของ​นาง​ ​อารมณ์ดี​มาก​นัก​ ​เขา​จึง​แสดงท่าทาง​คารวะ​ให้​นาง​แล้ว​กล่าว​ ​“​สามี​น้อม​รับ​บัญชา​ขอรับ​!​”

​หลิน​หลัน​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​จนได้​ ​นาง​ทุบ​หมัด​ลง​ไป​ที่​หัวไหล่​ของ​เขา​อย่างเบามือ​แล้ว​เอนกาย​ซบ​ลง​ใน​อ้อมอก​ของ​เขา​ ​ภายในใจ​รู้สึก​อิ่มเอม​ ​การ​มีสา​มีที​่​พึ่งพิง​ได้​นี่​มัน​เป็น​รสชาติ​ที่​ยอดเยี่ยม​จริงๆ​!

​หลัง​หลี่หมิง​อวิ​นก​ลับ​ออกมา​ได้​ ​เขา​วิ่ง​วุ่น​ทางนู้น​ที​ทาง​นี้​ที​อยู่​ทุกวัน​ ​ทว่า​ใน​ทุกๆ​ ​มื้อ​กลางวัน​จะ​รีบ​กลับมา​รับประทาน​มื้อ​กลางวัน​เป็นเพื่อน​นาง​ให้​ได้​ ​และ​ได้​บอกกล่าว​รายงาน​ถึง​สิ่ง​ที่​ไป​ทำ​มา​ ​ส่วน​หลิน​หลัน​อยู่​บ้าน​ตระเตรียม​สัมภาระ​สำหรับ​ไป​หลาง​ซาน​แล้วยัง​เตรียม​สิ่ง​ต่างๆ​ ​สำหรับ​งานแต่ง​ของ​อวี​้​หลง​อีกด้วย

​หลิน​หลัน​ให้​แม่​โจว​ไปร​้าน​เครื่องประดับ​ที่​มีชื่อเสียง​มาก​ที่สุด​ใน​เมืองหลวง​เพื่อ​สั่งทำ​เครื่องประดับ​เงิน​เครื่องประดับ​ทอง​อย่าง​ละ​ชุด​ไว้​ให้​อวี​้​หลง​ ​นอกจากนั้น​ยัง​สมทบ​เงิน​จำนวน​ห้าสิบ​ตำลึง​เงิน​ให้​นาง​เพื่อ​ใช้​สำหรับ​เสื้อผ้า​หน้า​ผม​ ​บรรดา​สาวใช้​เห็น​ดังกล่าว​จึง​พากั​นอิจ​ฉา​ตาร​้อ​นอย​่าง​ยิ่ง

​หลิน​หลัน​เห็น​พวก​นาง​แต่ละคน​มอง​กันตา​เขียวปั​๊ด​ ​จึง​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ขอ​เพียง​พวก​เจ้า​ตั้งใจ​ทำงาน​ให้​ดี​ๆ​ ​ใน​ภายภาคหน้า​พวก​เจ้า​ออกเรือน​ ​ข้า​ก็​จะ​ทำ​เช่นนี้​ให้​พวก​เจ้า​คนละ​ชุด​เช่นกัน​”

​ทุกคน​ต่าง​รู้สึก​ดีอกดีใจ​ ​รีบ​กล่าว​ขอบคุณ​เป็นอัน​ดับ​แรก​ ​หลังจากนั้น​แต่ละคน​ต่าง​พากัน​ทำงาน​อย่าง​ขยันขันแข็ง​มากยิ่งขึ้น

​เห็นที​ว่าการ​กระตุ้น​ด้วย​วัตถุ​ล้ำค่า​จะ​เป็น​สิ่ง​ที่​ให้​ประสิทธิผล​ชั้นดี​เยี่ยม​ได้​เสมอๆ

​ตอนนี้​เป็นช่วง​ปลาย​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​กว่า​จะ​เคลื่อน​พล​ไป​ยัง​หลาง​ซาน​ก็​เข้า​ฤดูหนาว​เสีย​แล้ว​ ​ทาง​ด้าน​ตะวันตกเฉียงเหนือ​สภาพอากาศ​หนาวเย็น​และ​มี​ลม​พัด​แรง​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ปกติ​แล้ว​ลำพัง​เสื้อผ้า​กัน​หนาว​ทั่วไป​ไม่​อาจ​รับมือ​ได้​ ​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​ต้อง​นำ​เสื้อผ้า​ขนสัตว์​ติด​ไป​ด้วย

​ตระกูล​เยี​่ย​ทำ​กิจการค้า​ขาย​ผ้าไหม​ ​พวก​เสื้อผ้า​ขนสัตว์​อะไร​นี่​จึง​ไม่มี​กับ​เขา​ ​หลิน​หลัน​ทำได้​เพียง​ไป​เฟ้นหา​จาก​สถานที่​อื่น​ ​แต่​แล้ว​หลินฮู​หยิน​กลับ​ให้​คน​ส่ง​หนัง​สัตว์​มา​ให้​หลาย​ผืน​ทีเดียว​ ​จึง​ช่วย​เบาแรง​หลิน​หลัน​ไป​ได้​ไม่น้อย

​ติง​หลั​้ว​เหยี​ยน​มีทั​กษะ​ใน​ด้าน​งานเย็บปักถักร้อย​ ​จึง​อาสา​ช่วย​นาง​ตัดเย็บ​ให้​ ​เวลานี้​หลิน​หลัน​จึง​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​ให้​จัดการ​ ​ว่างงาน​จนได้​คิด​ฟุ้งซ่าน​ไป​เรื่อยเปื่อย

​ใน​ช่วง​สาม​วันก่อน​ออกเดินทาง​นี้​เอง​ ​ในที่สุด​ทาง​ราชสำนัก​ก็​ประกาศ​บทลงโทษ​ต่อ​หลี​่​จิ้ง​เสียน​ออกมา​ ​หลี​่​จิ้ง​เสียน​ถูก​เนรเทศ​ไป​ยัง​สถานที่​ถิ่นทุรกันดาร​อัน​หนาวเหน็บ​ ​ทั้ง​ยัง​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ใน​วันเดียวกัน​นั้น​ทันที​ ​ส่วน​หลี่หมิง​เจ๋อ​ถูก​ถอด​จาก​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ ​ลด​ฐานันดร​ให้​เป็น​เพียง​บุคคล​ชั้น​สามัญชน​และ​ปล่อยตัว​ออกมา

​หลี่หมิง​อวิน​ได้รับ​ข่าวคราว​ดังกล่าว​ใน​ช่วง​หัว​วัน​แรก​ ​หลังจากนั้น​จึง​ไปรับ​หมิง​เจ๋อ​ออกมา​จาก​ห้องขัง​ใน​เช้าตรู่​ของ​วันรุ่งขึ้น

​ช่วงเวลา​ที่​หมิง​เจ๋อ​อยู่​ใน​ห้องขัง​ถูก​ตัดขาด​จาก​โลก​ภายนอก​ ​จึง​ไม่รู้​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​ภายนอก​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​เขา​ไม่กล้า​เชื่อ​ว่า​ตนเอง​จะ​ถูก​ปล่อย​ออกมา​ได้​ ​ยาม​ที่​ผู้คุม​ขัง​เรียก​ให้​เขา​ออกมา​ ​เขา​ยัง​คิด​ว่า​ตนเอง​กำลัง​ฝัน​ไป​ด้วยซ้ำ​ ​จนกระทั่ง​เห็น​หมิง​อวิน​ถึง​มั่นใจ​ได้​ว่า​ตนเอง​ไม่ได้​ฝัน​ไป

​หลี่หมิง​เจ๋อ​ที่​หลุดพ้น​ออกมา​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ต่างๆ​ ​นานา​ ​เขา​โอบกอด​น้องชาย​และ​เกือบ​น้ำตาไหล​ริน​ลงมา

​หลี่หมิง​อวิ​นก​ล่าว​ปลอบใจ​เขา​สอง​สาม​ประโยค​แล้วจึง​พยุง​เขา​ขึ้นรถ​ม้า​ ​ระหว่างทาง​นำ​เรื่องราว​ที่เกิด​ขึ้น​บอกเล่า​ให้​เขา​ฟัง​ ​หมิง​เจ๋อ​ถึง​เป็นอัน​เข้าใจ​ได้​ว่า​ ​การ​ที่​ตนเอง​ออกมา​ได้​ทั้งหมด​เป็น​เพราะ​หมิง​อวิน

​รถม้า​ไม่ได้​มุ่ง​กลับบ้าน​โดยตรง​ ​แต่​เป็นกำลัง​มุ่งหน้า​ออก​ไป​ยัง​ศาลา​อู๋​หลี​่​ถิง​ใน​ตอน​ใต้​ของ​เมืองหลวง

​ภายใน​ศาลา​ ​เจ้าหน้าที่​ขุนนาง​ทั้งสอง​กำลัง​ควบคุม​ผู้กระทำผิด​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ถูก​โซ่ตรวน​รัดตัว​ไว้​และ​กำลัง​มอง​ไป​เบื้องหน้า​ ​ปรากฏ​รถม้า​คัน​หนึ่ง​เคลื่อน​เข้ามา​แต่ไกล​ ​เจ้าหน้าที่​ขุนนาง​ทั้งสอง​จึง​ส่งสายตา​ให้​กันและกัน​เป็น​สัญญาณ

​หลี่หมิง​เจ๋อ​ลง​จาก​รถม้า​ ​เห็น​บิดา​ที่​กำลัง​ถูก​โซ่ตรวน​ล่าม​เอาไว้​ ​เขา​จึง​เดิน​เข้าไป​อย่างเร่งรีบ​แล้ว​คุกเข่า​ลง​บน​พื้น​ตามด​้ว​ยม​อบ​คารวะ​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ลูก​มาช​้า​ไป​เสีย​แล้ว​”

​หลี​่​จิ้ง​เสียน​รู้ดี​ว่าการ​จากไป​ของ​ตนเอง​ครานี​้​เกรง​ว่า​จะ​กลับมา​เมืองหลวง​ไม่ได้​อีกแล้ว​ ​ภายในใจ​เต็มไปด้วย​ความรู้สึก​มากมาย​ ​เขา​คิด​ว่า​หาก​สามารถ​พบ​บุตรชาย​ได้​อีก​สักครั้ง​ก็​เพียงพอ​แล้ว​ ​ทว่า​ยาม​ที่​เขามอง​เห็น​หมิง​เจ๋อ​ที่​ปลอดภัย​ดี​แล้วยัง​มี​หมิง​อวิน​ใน​ชุด​ฮั่น​ยืน​อยู่​ด้วย​ ​ภายในใจ​จึง​เกิด​ความหวัง​หนึ่ง​แทรก​เข้ามา

​“​ลูก​พ่อ​…​”​ ​หลี​่​จิ้ง​เสียน​เอ่ย​เรียก​ด้วย​น้ำเสียง​สะอึกสะอื้น​ ​ทันใดนั้น​หยาดน้ำ​ตาก​็​พรั่งพรู​ออกมา​ ​เขา​คิด​จะ​ดึง​หลี่หมิง​เจ๋อ​ให้​ลุกขึ้น​ยืน​แต่​เพราะ​โซ่ตรวน​ที่​ผูกมัด​ไว้​จึง​ไม่​อาจ​ขยับเขยื้อน​ได้

​“​ท่าน​พ่อ​ ​ลูก​…​มาส​่ง​ท่าน​ขอรับ​”​ ​เมื่อ​เห็น​บิดา​เป็น​เช่นนี้​ ​หลี่หมิง​เจ๋อ​จึง​สะอึกสะอื้น​ขึ้น​มา​เช่นกัน​ ​เขา​ไม่ได้​รู้สึก​โกรธแค้น​อัน​ใด​ต่อ​บิดา​ ​เพราะ​ถึงอย่างไร​เขา​ก็​เป็น​บิดา​ ​ผู้ให้​เลือดเนื้อเชื้อไข​ ​เมื่อ​เห็น​บิดา​ที่​เคย​สง่าผ่าเผย​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​ชวน​เวทนา​เช่นนี้​ ​ภายในใจ​จึง​รู้สึก​ย่ำแย่​อย่างยิ่ง

​หลี่หมิง​อวิน​เดิน​เข้ามา​ ​เขา​ยืน​มองดู​บิดา​อยู่​ด้าน​ข้าง​อย่าง​เงียบงัน

​เมื่อ​เห็น​หมิง​อวิน​เผย​สีหน้า​อารมณ์​ที่​สงบนิ่ง​เพียงนี้​ ​หลี​่​จิ้ง​เสียน​จึง​รู้สึก​สับสน​อย่าง​น่าประหลาด​ ​เขา​รู้สึก​จงเกลียดจงชัง​ ​หาก​ตอนนั้น​หมิง​อวิน​ช่วย​เขา​สักครั้ง​ ​โดย​การ​ตอบ​ตกลง​ความต้องการ​ของ​ไท่​โฮ​่ว​ ​มี​หรือ​เขา​จะ​ต้อง​ถูก​เนรเทศ​ไป​ยัง​เฉียน​ซี​และ​ยัง​ไม่รู้​เลย​ว่า​จะ​ต้อง​ทน​ลำบาก​ตรากตรำ​มากมาย​เพียงใด​ ​ทว่า​เขา​ไม่​อาจ​เผย​สีหน้า​ที่​แสดงให้เห็น​ถึง​ความโกรธ​เกลียด​นี้​ได้​ ​เขา​รู้​มาโดยตลอด​ว่า​หมิง​อวิน​ไม่ธรรมดา​ ​และ​จะ​ต้อง​มีสัก​วันที่​จะ​เจริญรุ่งเรือง​ ​ใน​ภายภาคหน้า​คง​ต้อง​ยัง​พึ่งพา​หมิง​อวิน​ ​ซึ่ง​ไม่แน่​ว่า​จะ​มีโอกาส​ได้​กลับมา​อีกครั้ง​ ​เมื่อ​ลอง​ชั่งน้ำหนัก​ดูแล​้ว​ ​เขา​จึง​สะกด​กลั้น​ความโกรธ​เกลียด​ที่​มีต​่อ​หมิง​อวิน​ไว้​และ​ปั้นหน้า​ชวน​เวทนา​มากยิ่งขึ้น​ ​มือ​ข้าง​หนึ่ง​จับ​ไป​ที่​หมิง​เจ๋อ​ ​อีก​ข้าง​หนึ่ง​คิด​จะ​จับ​ไป​ที่​หมิง​อวิน​ ​แต่​ด้วย​ความ​ที่​หมิง​อวิน​เอา​มือ​ไพล่หลัง​ไว้​ ​แสดงให้เห็น​อย่างชัดเจน​ว่า​ไม่​ประสงค์​จะ​จับมือ​กับ​เขา

​หลี​่​จิ้ง​เสียน​รู้สึก​ผิดหวัง​ ​เขา​จึง​กล่าว​ออก​ไป​ด้วย​ความรู้สึก​เสียใจ​และ​อับอาย​กว่า​ครั้งไหน​ๆ​ ​“​เป็น​พ่อ​เอง​ที่​กระทำ​ผิด​ต่อ​พวก​เจ้า​ ​ทำให้​พวก​เจ้า​ต้อง​ลำบาก​ไป​ด้วย​ ​ยาม​นี้​พ่อ​เห็น​พวก​เจ้า​ปลอดภัย​ดี​ ​ภายในใจ​ก็​โล่ง​มากขึ้น​แล้ว​ ​การ​จากไป​เฉียน​ซี​ของ​พ่อ​ใน​ครานี​้​ ​เกรง​ว่า​พวกเรา​พ่อ​ลูก​ชั่วชีวิต​นี้​คง​ไม่​อาจ​ได้​พบ​เจอกัน​อีกแล้ว​ ​พ่อ​…​พ่อ​…​”​ ​หลี​่​จิ้ง​เสียน​พร่ำ​เอ่ย​ทั้ง​น้ำตา

​หมิง​เจ๋อ​กล่าว​ด้วย​ความเศร้า​โศก​ ​“​ท่าน​พ่อ​ ​ไว้​เรื่องราว​ผ่านพ้น​ไป​จน​สงบ​แล้ว​ ​ลูก​จะ​คิด​หาวิ​ธีรั​บท​่า​นพ​่​อก​ลับ​มา​ให้​ได้​ ​ท่าน​พ่อ​จากไป​ใน​ครั้งนี้​จะ​ต้อง​ดูแล​ตนเอง​ให้​มาก​ๆ​ ​นะ​ขอรับ​”

​หลี่หมิง​อวิน​ไม่​อยาก​เอ่ย​ร่ำลา​กับ​ผู้​เป็น​บิดา​ ​จึง​ส่งสายตา​ให้​เจ้าหน้าที่​ขุนนาง​ทั้งสอง​เป็น​สัญญาณ​ ​เจ้าหน้าที่​ขุนนาง​ทั้งสอง​ตระหนัก​ได้​จึง​เดินตาม​เขา​ไป​อีก​ด้าน​หนึ่ง

​หลี่หมิง​อวิน​หยิบ​ตั๋วเงิน​ปึก​หนึ่ง​ออกมา​เพื่อ​รบกวน​ให้​พวกเขา​ช่วยดูแล​หลี​่​จิ้ง​เสียน​ให้​ดี​ ​ไม่ใช่​เพราะ​เขา​เห็นใจ​บิดา​ ​แต่​เพราะ​เขา​ไม่​อยาก​ให้​บิดา​ทน​ความลำบาก​ระหว่าง​เดินทาง​จน​ไป​ไม่​ถึง​เฉียน​ซี​ ​ชะตากรรม​นี้​ ​เขา​ต้องการ​ให้​อีก​ฝ่าย​ได้​ลิ้มรส​มัน​ให้​เต็มที่​ ​ชีวิต​ที่​สิ้นหวัง​ ณ​ ​ถิ่นทุรกันดาร​ ​ชีวิต​ที่​ดำ​ดิ่ง​ลง​เสมือน​สุนัข​ตัว​หนึ่ง