กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 7
เมื่อมองไปที่พ่อแม่ของเธอที่คอยแต่จะเหยียดหยามชาร์ลีนั้น แคลร์ก็ถอนหายใจและพูดว่า “คุณพ่อคุณแม่คะ อย่าโทษชาร์ลีสำหรับเรื่องนี้เลยค่ะ มันเป็นความคิดของหนู หนูไม่ต้องการให้ครอบครัวของเราถูกดูถูกอีกต่อไป ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราทุกข์กันไม่มากพออีกเหรอ?”
แม่ของแคลร์สวนกลับว่า “แต่ถึงยังไง ลูกก็ไม่ควรรับงานนี้ ไม่ใช่แค่ลูกนะ ถึงจะเป็นคุณยายของลูก เอ็มแกรนด์ กรุ๊ปก็จะไม่ให้ความสำคัญที่จะมาต้อนรับอะไรพวกเราหรอก! ”
ชาร์ลียิ้มอย่างพึงพอใจในขณะเฝ้าดูการถกเถียงกัน เขาพนันได้เลยว่าพวกเขาจะไม่มีทางเชื่อว่าเขาเป็นเจ้าของที่แท้จริงของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป
ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“กำลังไปค่ะ…”
เอเลนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายในขณะที่เธอเดินไปที่ประตูและเปิดมันออก
ชาร์ลีเลื่อนสายตาไปที่ประตูและเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งสวมชุดอาร์มานียืนอยู่ที่ประตู ชายหนุ่มคนนี้ดูมีเสน่ห์และน่าหลงใหลด้วยนาฬิกาสุดหรู ปาเต็ก ฟิลิปป์ ที่ข้อมือซึ่งดูเหมือนจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าสี่ล้านดอลลาร์
เอเลนร้องเสียงหลงอย่างตื่นเต้น “อ้าว เวนเดลล์! ทำไมคุณถึงมาที่นี่คะ?”
ชายคนนี้คือเวนเดลล์ โจนส์ ลูกชายของตระกูลโจนส์ที่ตามจีบแคลร์อย่างไม่ลดละ
เวนเดลล์ยิ้มและพูดว่า “คุณป้าครับ ผมได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการเจรจาของแคลร์กับพวกเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ผมเลยมาที่นี่เพื่อเสนอไอเดียครับ”
“ว้าว คุณช่างเป็นผู้ช่วยชีวิตครอบครัวของเราจริง ๆ !”
เอเลนรู้สึกตื่นเต้นและตื้นตันใจเป็นอย่างมาก และเธอก็มองเขาประหนึ่งว่ากำลังมองลูกเขยของเธออย่างภูมิใจ เธอรีบต้อนรับเขาเข้าไปในบ้านและพูดว่า “เวนเดลล์คะ คุณจะช่วยแคลร์ตกลงสัญญาของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ปได้ไหม?”
เวนเดลล์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ เขาไม่สนใจชาร์ลีโดยสิ้นเชิงและยังปฏิบัติกับเขาเหมือนแมลงตัวหนึ่ง เขาเดินตรงไปที่แคลร์และพูดเบาๆ ว่า “แคลร์ทำไมคุณไม่บอกอะไรผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี้เป็นเรื่องใหญ่นะครับ แต่ไม่ต้องกังวลนะ ครอบครัวของผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ผมว่าจะลองคุยกับคุณพ่อผม มาดูกันว่าผมจะช่วยคุณอย่างไรได้บ้าง ”
บอกตามตรงว่าคุณพ่อของเวนเดลล์นั้นไม่ได้มีอิทธิพลมากเท่าที่เขาอ้างถึง แต่เขาก็แค่อ้างไว้เพื่ออยากพยายามเอาชนะใจแคลร์เท่านั้นเอง
แคลร์รู้ดีว่าเวนเดลล์แอบชอบเธอมาตลอด เธอจึงพูดอย่างตัดบทไปว่า “เวนเดลล์คะ ฉันซาบซึ้งกับข้อเสนอของคุณนะคะ แต่ฉันขอหาทางด้วยตัวฉันเองดีกว่าค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”
เอเลนอ้าปากค้างด้วยความงงงวย “แคลร์ นี่ลูกบ้าไปแล้วเหรอ? คุณโจนส์เป็นคนดีและมีน้ำใจเขาต้องการช่วยเหลือลูก แล้วลูกจะพูดแบบนั้นได้อย่างไร”
แคลร์ยังคงเลือกที่จะเงียบ แต่ชาร์ลีกลับถามเวนเดลล์อย่างสนใจว่า “นี่ คุณโจนส์ ผมอยากรู้ว่าคุณจะช่วยแคลร์ด้วยวิธีไหนเหรอครับ? เพราะเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่มาก และผมไม่คิดว่าคุณจะมีอิทธิพลกับพวกเขาขนาดนั้นไหมครับ และที่สำคัญตอนนี้คุณอ้างว่าคุณมีวิธีที่จะช่วยให้แคลร์ชนะในครั้งได้อย่างนั้นเหรอครับ?”
เวนเดลล์หัวเราะเยาะอย่างดูถูกและพูดว่า “แล้วคุณจะไปรู้อะไร? ตระกูลโจนส์และเอ็มแกรนด์ กรุ๊ปเป็นพาร์ทเนอร์มาตลอดหลายปี และในครั้งนี้ตระกูลของผมจะได้ส่วนแบ่งจากโครงการนี้อย่างน้อยหนึ่งในสามของสองพันล้านดอลลาร์! ระหว่างนั้นผมก็จะขอให้คุณพ่อช่วยจัดสรรเงินซักสิบล้านดอลลาร์เพื่อร่วมงานกับแคลร์แค่นี้ภารกิจก็สำเร็จแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
ชาร์ลีอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ “ว้าว! ผมไม่รู้เลยว่าตระกูลโจนส์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ขนาดนี้!”
เวนเดลล์หัวเราะเยาะ “แน่นอนสิครับ! ทุกคนในโอลรัส ฮิลล์ต่างก็รู้ดี!”
จากนั้นเขาก็มองไปที่ชาร์ลีอย่างดูถูกเหยียดหยามและพูดว่า “ชาร์ลี เวดขอให้ฉันได้แนะนำนายซักนิดนะ นายก็ไม่ต่างอะไรกับกบไร้ค่าที่โดนปล่อยในบ่อน้ำ ปล่อยแคลร์ไปเถอะ ผู้ชายที่ไร้ค่าอย่างนายไม่สามารถทำให้เธอมีความสุขได้ นายจะเป็นแค่เพียงภาระของเธอเท่านั้น”
แคลร์พูดอย่างเย็นชา “ขอโทษนะคะคุณโจนส์ ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ และโปรดช่วยระวังคำพูดของคุณด้วย!”
เวนเดลล์พูดด้วยความไม่เชื่อว่า “แคลร์นี่ผมกำลังช่วยคุณอยู่นะครับ แล้วทำไมคุณถึงยังเข้าข้างไอ้ขี้แพ้คนนี้อีก ทำไมคุณถึงปกป้องเขาได้ถึงขนาดนี้?”
แคลร์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เขาไม่ใช่คนขี้แพ้ เขาเป็นสามีของฉัน!”
เสมือนมีเมฆสีดำมืดมนลอยอยู่เหนือใบหน้าของเวนเดลล์ เขาตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว “โอเค! ถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณต้องการ! ผมก็อยากรู้ว่าคุณจะแก้ปัญหานี้อย่างไร! อย่ามาร้องไห้ขอความช่วยเหลือใส่ผมตอนคุณพังไม่เป็นท่าก็แล้วกัน!”
จากนั้นเวนเดลล์ก็หันหลัง กระแทกประตูและเดินจากไป
เอเลนรีบเดินตามเวนเดลล์ไปอย่างรวดเร็ว แต่เขาหายไปเสียแล้ว เธอตบต้นขาของเธออย่างไม่พอใจชี้ไปที่จมูกของชาร์ลีแล้วตะโกนสุดเสียงว่า “แก! กล้าดียังไง! คนอย่างแกจะทำอะไรได้อีกนอกจากเป็นภาระของลูกสาวฉัน คุณโจนส์ใจดีพร้อมให้ความช่วยเหลือ แต่แกกลับไล่เขาออกไป!”
ชาร์ลีพูดอย่างเรียบ ๆ ว่า “คุณแม่ครับเราคุยกันหมดแล้ว ตัวเขาเองไม่สามารถชนะสัญญากับเอ็มแกรนด์ได้ แล้วเขาจะช่วยแคลร์ได้อย่างไรครับ?”
“หยุดพล่ามซะที!” เอเลนตวาด “รู้อะไรไว้ก็ดีนะเจ้าโง่! ตระกูลโจนส์จะได้เงินหนึ่งในสามของสองพันล้านดอลลาร์!”
ชาร์ลีนิ่งเงียบ ไม่แม้แต่แสดงอาการใด ๆ แต่ในใจลึก ๆ เขาแสยะยิ้มและคิดว่า “ผมไม่รู้ว่าหรอกว่าตระกูลโจนส์มีอำนาจมากแค่ไหน แต่ที่รู้คือเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ของผมจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับพวกเขาอีกต่อไป! แม้ว่าพวกเขาจะเคยทำงานร่วมกันในหลายโครงการก่อนหน้านี้ แต่จากนี้ไปข้อสัญญาทั้งหมดนี้จะถูกยกเลิก!
แน่นอนว่าแคลร์ไม่สามารถอ่านใจสามีได้ เธอจึงหันไปหาแม่แล้วพูดว่า “คุณแม่คะ ขอร้องล่ะอย่าโทษชาร์ลี รอจนกว่าหนูจะกลับจากเอ็มแกรนด์ กรุ๊ปก่อนแล้วกันค่ะ!”
“ฮะ!” เอเลนถอนหายใจด้วยความตกใจรู้สึกว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรมกับเธอ เธอแต่งงานกับสามีที่ไร้ประโยชน์ และลูกสาวของเธอก็ได้แต่งงานกับผู้ชายที่ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่า!
เธอไปทำอะไรมาถึงเป็นได้ขนาดนี้!