บทที่ 208 ดวงตามืดบอด![รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 208 ดวงตามืดบอด![รีไรท์]

แม้มันจะเป็นเพียงการลอบโจมตีจากจิ่วโยว แต่ราชันย์โลหิตก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

สัตว์ร้ายที่บาดเจ็บจะน่ากลัวและบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าจะให้จิ่วโยวเข้าไปสังหารราชันย์โลหิต ต้องใช้พลังอีกไม่น้อยและถ้าไม่ระวังอาจถึงตาย!

ด้วยเหตุนี้ ฉู่ชวิ๋นจึงเลือกที่จะอยู่เฉย ๆ ดีกว่า จิ่วโยวไม่อยากอยู่เฉย ๆ ราชันย์โลหิตได้รับบาดเจ็บสาหัส จิ่วโยวอยากจะเข้าไปสังหารให้ตายสิ้น

“ฉู่ชวิ๋น ผู้ชายคนนี้มีพลังแกร่งกล้า ตอนนี้พลังของเจ้ากำลังลดน้อยลงเรื่อย ๆ อีกไม่นานมันจะฟื้นตัวขึ้นมา ตอนนี้มันยังบาดเจ็บอยู่ ถือเป็นโอกาสดีที่พวกเราจะจัดการมันนะ” เสียงเด็กน้อยของจิ่วโยวเต็มไปด้วยความอำมหิต

ฉู่ชวิ๋นคิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าจิ่วโยวพูดถูกต้อง ศัตรูของพวกเขาเป็นถึงปรมาจารย์ระดับเก้า ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือตอนไหนก็ถือว่า เป็นตัวปัญหาสำหรับพวกเขาอยู่ดี อีกอย่างในตอนนี้คงมีศัตรูรอเล่นงานเขาอยู่เป็นจำนวนมาก

ถ้าสังหารราชันย์โลหิตเสียตอนนี้ มันก็จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูทำให้คนอื่น ๆ ไม่กล้ามาลองดีกับเขาอีกอย่างน้อยก็สักพัก

“งั้นก็ฆ่าเขาซะ” นี่คือการตัดสินใจของฉู่ชวิ๋น จิ่วโยวเลื้อยลงไปจากหัวไหล่ของเขา ตรงเข้าไปหาราชันย์โลหิต เตรียมทำการโจมตีอีกครั้ง

จิ่วโยวมีลำแสงเปล่งประกายแวววาวออกมาจากลำตัวและเข้าไปถึงตัวราชันย์โลหิต โดยที่อีกฝ่ายหนึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

ขวับ!

จิ่วโยวโจมตีอีกครั้งด้วยการดีดตัวขึ้นกลางอากาศและหมายฟาดหางใส่ศีรษะของราชันย์โลหิตอย่างแรง ราชันย์โลหิตเสียเลือดหนักมาก เมื่อเห็นแสงเปล่งประกายแวววาวข้างตัว รู้ตัวอีกทีสัญชาตญาณก็สั่งให้เขาเอียงหัวหลบหนี

ฟู่!

เลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณ ราชันย์โลหิตส่งเสียงร้องโหยหวน เขาเอียงหัวหลบหางงูได้ แต่หางงูก็ฟาดลงบนหัวไหล่ของชายชราอย่างแรง จนกระดูกหัวไหล่แตกหัก

ราชันย์โลหิตเสียสติไปแล้วมือของเขาเต็มไปด้วยมวลพลังสีแดง ชายชราประกบมือเข้าด้วยกันอย่างแรง

ปัง!

เปลวไฟสาดกระจายเต็มท้องฟ้า จิ่วโยวที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศถูกพลังลมปราณกระแทกเข้าอย่างจัง พลังลมปราณจากฝ่ามือกระแทกเข้ากับตัวงู เกิดเสียงเหล็กถูกปะทะดังกังวาน

สิ่งที่ทุกคนควรรู้ก็คือลำตัวของจิ่วโยวมีเกล็ดที่แข็งแกร่งเหมือนกับเหล็กกล้า จิ่วโยวลอยกระเด็นไปตกอยู่ในพุ่มไม้ข้างทาง

โครม!

ราชันย์โลหิตกระโดดตามหวังฆ่าให้ตายในฝ่ามือเดียวเขาซัดพลังใส่ต้นไม้ต้นขนาดใหญ่จนหักโค่น

ฉู่ชวิ๋นแอบเข้ามาอยู่ด้านหลังราชันย์โลหิต ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ในตอนที่ชายชราตามติดเข้าเล่นงานจิ่วโยว ชายหนุ่มก็ลงมือแล้ว! แต่น่าเสียดายที่พลังลมปราณของฉู่ชวิ๋นอ่อนแอมากเกินไป เขาจึงทำได้เพียงซัดราชันย์โลหิตกระเด็นไปเท่านั้นไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงอะไรมากไปกว่านั้น

ราชันย์โลหิตบ้าคลั่งไปแล้ว เขาคือปรมาจารย์ระดับเก้า ถูกโจมตีต่อเนื่องจนหัวแทบระเบิด ในตอนนี้เลือดยังคงไหลออกมาจากศีรษะของเขาไม่หยุด

“ฉู่ชวิ๋น วันนี้คือวันตายของเจ้า!” ราชันย์โลหิตดีดตัวกระโดดขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว เขาประกบมือเสียงดัง

“ปัง” ก่อนที่จะปล่อยพลังลมปราณออกมาจากฝ่ามือ

ฉู่ชวิ๋นกัดฟันกรอดและซัดพลังลมปราณโต้ตอบกลับไป

เปรี้ยง!

พลังลมปราณของราชันย์โลหิตกระแทกฉู่ชวิ๋นเข้าอย่างจัง

ฉู่ชวิ๋นกระอักเลือดออกมาจากปาก ในขณะที่ตัวคนลอยกระเด็นไปไกล กระแทกจนต้นไม้โค่นล้มลงไปหลายต้น

ในเวลาเดียวกันนี้ เกิดลำแสงเป็นประกายแวววาวขึ้นอีกครั้ง

ตุบ!

ราชันย์โลหิตยังไม่ทันได้ดีใจที่เห็นฉู่ชวิ๋นลอยกระเด็นไปไกลจากพลังของตนเอง ศีรษะของเขาก็ถูกกระแทกอย่างแรงอีกครั้ง ส่งผลให้ร่างลอยกระเด็นไปอีกทาง เลือดสาดกระจายเต็มอากาศ

“อ๊าก…”

ราชันย์โลหิตตกกระแทกพื้น ยกมือกุมหัว ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

ชายชราไม่อยากจะเชื่อ นี่เขาฝีมือตกลงไปหรือยังไง ? ทำไมถึงโดนฟาดหัวได้อีกแล้ว เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาจากหัวของราชันย์โลหิตเหมือนกับน้ำพุ บาดแผลขยายออกไปอีกหลายเซนติเมตร จนมองเห็นกะโหลกศีรษะที่อยู่ด้านใน

ถ้าถูกฟาดที่ศีรษะอีกครั้ง สมองคงไหลออกมาแน่นอน!! ใบหน้าของราชันย์โลหิตถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉาน ผมเผ้าของเขายุ่งเหยิงเหมือนกับวิญญาณเร่ร่อน แต่มันแปลกตรงที่เริ่มมีเลือดไหลซึมออกมาตามรูขุมขนของราชันย์โลหิตแล้ว

ฟู่!

เป็นฉู่ชวิ๋นมันพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่ก็กระอักเลือดออกมาอีกคำใหญ่

“ฉู่ชวิ๋น…เจ้าต้องตาย!”

ราชันย์โลหิตใบหน้าบิดเบี้ยว ความเกลียดชังที่เขามีต่อ  ฉู่ชวิ๋นพุ่งทะลุจุดเดือด แม้จะมีเลือดไหลจนเต็มศีรษะ แต่ชายชราก็ยังเดินตรงเข้าใส่ ฉู่ชวิ๋นอย่างไม่คิดชีวิต

ฉู่ชวิ๋นยิ้มด้วยความขมขื่น ร่างกายของเขาอ่อนล้า ชายหนุ่มกัดฟันกรอดและโคจรพลังเรียกเส้นไหมวิญญาณออกมา เพื่อใช้เป็นโล่ป้องกันตนเอง

สีหน้าของราชันย์โลหิตเต็มไปด้วยความดุร้ายอำมหิต เขาประกบมืออย่างรุนแรงและปล่อยมวลพลังสีแดงพุ่งออกไป

เปรี้ยง!

มวลพลังสีแดงพุ่งกระแทกเข้าใส่หน้าอกของฉู่ชวิ๋น เลือดกระเด็นเป็นสายน้ำพุ่งออกมาจากปากของฉู่ชวิ๋น ในขณะที่ชายหนุ่มพยายามตะเกียกตะกายหาที่ซ่อนตัวจากราชันย์โลหิต ในเวลาเดียวกันนี้ เส้นไหมวิญญาณ ก็พุ่งเข้าไปหมายรัดพันลำคอของราชันย์โลหิต

ดวงตาของราชันย์โลหิตเบิกกว้าง นี่คือลอบโจมตีที่รวดเร็วเกินไป สัญชาตญาณของเขาบอกให้เอียงศีรษะหลบ

ขวับ!

เลือดเป็นสายพุ่งออกมาจากต้นลำคอของชายชรา สาดกระจายเหมือนกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน ลำคอถูกเส้นไหมวิญญาณบาดเกิดเป็นแผลยาวลึก

ราชันย์โลหิตร้องโหยหวน หากเมื่อสักครู่นี้มันตัดสินใจช้าไปเพียงชั่ววินาที หัวของมันคงหลุดออกจากบ่าไปแล้ว

ฉู่ชวิ๋นลอยกระเด็นไปไกลสิบกว่าเมตร กระแทกเข้ากับก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง เสื้อผ้าของเขาเต็มไปด้วยเลือดสีแดงสด

ชายหนุ่มจ้องมองไปยังราชันย์โลหิตด้วยความเยือกเย็น การสังหารปรมาจารย์ระดับเก้าไม่ใช่เรื่องง่าย

แม้จะถูกเส้นไหมวิญญาณโจมตีเข้าไปแบบนั้น ก็ยังสามารถหลบจุดตายมาได้อย่างร้ายกาจ ถ้าเปลี่ยนเป็นปรมาจารย์ระดับเจ็ดหรือระดับแปด ป่านนี้คงคอขาดตายไปแล้ว

ในขณะที่เส้นไหมวิญญาณไม่สามารถเอาชีวิตราชันย์โลหิตได้ จิ่วโยวก็พุ่งเข้ามาโจมตีอีกครั้ง จิ่วโยวสะบัดหางอย่างแรง

โครม!

ราชันย์โลหิตส่งเสียงร้องโหยหวนเมื่อร่างหล่นวูบมาจากกลางอากาศ กระแทกพื้นจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ เลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากศีรษะของเขาเหมือนกับน้ำพุ กระดูกก็แตกหักไปอีกหลายท่อน

ราชันย์โลหิตส่งเสียงคำรามในขณะที่ลุกขึ้นยืน แต่ความเจ็บปวดที่ศีรษะทำให้เขามองอะไรไม่เห็นอีกแล้ว แม้แต่ยืนก็ยังยืนอย่างไม่มั่นคงด้วยซ้ำ

“ฉู่ชวิ๋น ข้าจะฉีกเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ …”

พลั่ก!

พลัน ลำแสงเจ็ดสีพุ่งกระแทกเข้าใส่เต็มใบหน้าของชายชรา ทำให้เขาลอยกระเด็นไปไกลอีกสิบกว่าเมตร ในเมื่ออีกฝ่ายอ่อนกำลังและบาดเจ็บสาหัส จิ่วโยวจึงไม่อยากปล่อยให้โอกาสดีหลุดมือไป

เจ้างูเหลือมเลื้อยเข้าไปเตรียมสังหารราชันย์โลหิต แต่ไม่คิดเลยว่าในตอนนั้นเอง ร่างของมันจะถูกมวลพลังกระแทกจนต้องลอยกระเด็นกลับมา มวลพลังสีแดงเลือดถูกซัดออกมาอย่างบ้าคลั่ง

เปรี้ยง!

จิ่วโยวลอยอยู่กลางอากาศ ถูกพลังกระแทกเข้าใส่อย่างจัง เพราะหาที่หลบไม่ทัน

ฉู่ชวิ๋นอยากจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่เขาอ่อนล้ามากเกินไป นอกจากไม่อาจโคจรพลังลมปราณได้แล้ว แม้แต่การสื่อสารกับจิ่วโยว เขาก็ยังทำไม่ได้

“ฉู่ชวิ๋น ไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร แค่ก ๆ ! เจ้าแก่นี้มือหนักไม่ใช่เล่น” จิ่วโยวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตึงเครียด

เสียงของเด็กน้อยฟังดูสั่นเครือเล็กน้อย ฉู่ชวิ๋นเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย จิ่วโยวได้รับบาดเจ็บและเขาไม่รู้เลยว่าจิ่วโยวได้รับบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน

“ฉู่ชวิ๋น ออกมารับความตายเดี๋ยวนี้นะ…” ราชันย์โลหิตร้องคำราม ปล่อยพลังลมปราณออกมาอย่างดุเดือด

เปรี้ยง!

ต้นไม้ใหญ่ขนาดสองคนโอบถูกโค่นล้มลงไป

เปรี้ยง!

ก้อนหินขนาดใหญ่ถูกพลังซัดใส่จนแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี มวลพลังสีแดงเลือดพุงกระจายเต็มท้องฟ้า พลังลมปราณถูกซัดออกมาจากฝ่ามือไม่หยุดยั้ง

เปรี้ยง!

ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้หรือก้อนหินที่อยู่ภายในรัศมีร้อยเมตรรอบตัวราชันย์โลหิต ต่างก็ถูกทำลายไปหมดสิ้น

แม้แต่พื้นดินก็ยุบตัวลงไปแล้วอย่างน่าหวาดกลัว ฉู่ชวิ๋นถึงกับตกตะลึง ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ความคิดอย่างหนึ่งก็วาบเข้ามาในสมองว่า ราชันย์โลหิตตาบอด

“ฉู่ชวิ๋น ตาแก่คนนี้ตาบอดไปแล้ว” เสียงของจิ่วโยวดังขึ้น

ฉู่ชวิ๋นไม่สามารถสื่อสารกลับไปได้ จึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจิ่วโยวมองเห็นหรือเปล่า

“ฉู่ชวิ๋น ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปตาแก่นี่ จะปล่อยพลังจนลมปราณหมดตัวไปเอง ถึงตอนนั้นเราค่อยเข้าไปจัดการก็ได้” จิ่วโยวพูดกับเขาผ่านทางพลังจิต ฉู่ชวิ๋นพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดของจิ่วโยว

เปรี้ยง!

ทั้งป่าสั่นสะเทือนไปด้วยพลังลมปราณของราชันย์โลหิต เขาเอาแต่ซัดพลังลมปราณใส่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวไม่สนอะไรทั้งสิ้น ฉู่ชวิ๋นใช้โอกาสนี้ค่อย ๆ ฟื้นฟูพลังลมปราณของตนเองขึ้นมา

เขาไม่รู้เหมือนกันว่าราชันย์โลหิตตาบอดได้ยังไง ? แต่น่าจะเกี่ยวข้องกับการลงมือของจิ่วโยว ร่างกายของเจ้างูเหลือมแข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้า แม้แต่ก้อนหินใหญ่เมื่อถูกหางฟาดเข้าไปก็ยังแตกกระจาย กะโหลกศีรษะของราชันย์โลหิต ก็ต้องแตกร้าวอยู่ไม่น้อย

สมองมีเส้นประสาทอยู่เป็นจำนวนมากบางทีเส้นประสาทดวงตาอาจได้รับความเสียหาย ส่งผลให้เกิดอาการตาบอดขึ้นอย่างฉับพลัน

แต่อย่างไรก็ตาม ถือว่าโชคยังคงเข้าข้างฉู่ชวิ๋นและความโชคดีก็ถือเป็นความแข็งแกร่งอย่างหนึ่งเช่นกัน!