ตอนที่ 367 แหกกฎได้แล้ว
“งั้นที่เมื่อกี้คุณอยู่ห่างผมขนาดนั้นก็เพราะกลัวผมจะทำอะไรคุณ?”
เฉินฝานซิงพยักหน้ารับ สีหน้าของเขาดูขรึมลงในทันตา
“คุณไม่ชอบให้ผมแตะต้องคุณ”
เฉินฝานซิงนิ่งไปก่อนจะส่ายหน้า “เปล่า…”
ป๋อจิ่งชวนค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้เธอ เสียงเย็นเอ่ยถามตามไปว่า “แล้วทำไมต้องหลบผมด้วย”
เฉินฝานซิงยกมือขึ้นม้วนผม ก่อนจะยอมเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมาท่ามกลางแรงกดดันที่แผ่ขยายออกมาจากร่างของป๋อจิ่งชวน
“ก็ฉันโดนล้างสมองไปก่อนหน้านี้แล้วไม่ใช่รึไง ฉันก็แค่กลัวว่าหากคุณโดนตัวฉันแล้วเกิดควบคุมตัวเองไม่ได้ขึ้นมา…แล้วฉันจะทำยังไง”
ป๋อจิ่งชวนชะงักไปอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ลูกกระเดือกสวยขยับขึ้นลงสองครั้ง แล้วค่อยๆ พูดขึ้นว่า
“ผมจะไม่ขัดขืน”
เฉินฝานซิงนิ่งเงียบลง ก่อนที่สองแก้มจะขึ้นสีแดงระเรื่อ ทั้งเขินทั้งรู้สึกขำ
“คุณ…ฮึ…พอเลยนะ!”
เห็นเขาพูดประโยคนั้นออกมาด้วยท่าทางจริงจัง เฉินฝานซิงก็ห้ามตัวเองไว้ไม่ไหวจริงๆ
ไม่ขัดขืน…
ทำอย่างกับว่าเธอจะใช้กำลังขืนใจเขาอย่างนั้นแหละ!
เธอกล้าซะที่ไหน!
“จะดูอัลปากาอีกไหม”
“หืม?”
ป๋อจิ่งชวนขยับยิ้มแล้วก้มลงไปอุ้มเธอขึ้นมา “ค่อยดูพรุ่งนี้เช้า เราควรเข้านอนกันได้แล้ว”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฉินฝานซิงหายไปในชั่วพริบตา สองแขนยกขึ้นเกาะไหล่ของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
“ขอโทษนะ ป๋อจิ่งชวน…”
“หืม?”
เฉินฝานซิงเข้าไปใกล้ใบหูเขาแล้วพูดอะไรบางอย่าง
ทำเอาเท้าของเขาที่กำลังก้าวเดินอยู่เสียหลักลงทันทีในขณะที่เขายังอุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมกอด
เขาก้มหน้าลงมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของหญิงสาว ก่อนจะลอบกัดฟันแน่น
“ผมแทบจะกลืนคุณลงไปอยู่แล้ว”
ดอกไม้ร่วงหล่น เขายังคงอุ้มเฉินฝานซิงเดินเข้าคฤหาสน์ไป
จางมาและคนอื่นๆ กำลังสาละวนกันอยู่ในห้องรับแขก เมื่อเห็นป๋อจิ่งชวนอุ้มเฉินฝานซิงเดินเข้ามา ทุกคนก็ต่างตะลึงงันจนสติหลุดไปชั่วขณะ
จนกระทั่งทั้งคู่พากันขึ้นชั้นบนไป บ่าวรับใช้ทั้งหลายก็ค่อยๆ ได้สติกลับมาอีกครั้ง
“พระเจ้า คุณผู้ชายเขา…ก็มีสาวเป็นกับเขาด้วย?”
“เธอเพิ่งจะรู้รึไง”
“ไม่ๆ ไม่ ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แค่นึกไม่ออกว่าคุณผู้ชายที่เย็นชาและสูงศักดิ์อย่างกับเทพเซียนที่กินอาหารแดนมนุษย์แบบนี้ เมื่อถึงเวลาแบบนั้นจะเป็นยังไง…”
ห้องรับแขกถูกความเงียบเข้าปกคลุม ก่อนที่จะมีใครสักคนได้เอ่ยขึ้นมา
“ได้ยินมาว่ายิ่งถ้าเป็นผู้ชายแบบนี้ก็มักจะ…”
ดุเดือด…
ประตูห้องนอนถูกเตะให้เปิดออก เฉินฝานซิงโดนป๋อจิ่งชวนวางลงบนเตียงในทันที ตามมาด้วยร่างกายสูงสง่าอันหนักอึ้งที่กดทับลงมา
เฉินฝานซิงถูกกดลงไปบนเบาะนุ่ม เธอเงยหน้ามองอีกฝ่ายด้วยท่าทีที่ติดจะลนลานนิดๆ ก่อนที่วินาทีต่อมา ริมฝีปากของเธอจะถูกครอบครองโดยชายหนุ่ม
“เมื่อกี้คุณหมายความว่าผมแหกกฎได้แล้วใช่ไหม” ป๋อจิ่งชวนถามย้ำอีกครั้ง นัยน์ตาราวกับสีหมึกเข้มข้นกำลังโชติช่วง
“ฉันว่า…ที่แม่ตู้พูดก็มีเหตุผลดี”
ดวงตาลุ่มหลงคู่นั้นมองเปลวเพลิงที่ลุกโชนขึ้นในดวงตาของป๋อจิ่งชวน หัวใจของเธอทำงานอย่างหนักหน่วง
ชายหนุ่มเปล่งเสียงหัวเราะชวนให้หลงใหลออกมาจากลำคอ
เฉินฝานซิงจับเสื้อเชิ้ตตัวแพงที่แนบกับแผ่นอกเขาเอาไว้แน่น เสื้อเชิ้ตที่ถูกรีดเรียบถูกเธอขยำจนยับยู่ยี่
ชายหนุ่มลดจูบลงไปยังใบหูนิ่ม เฉินฝานซิงย่นไหล่ขึ้นในทันที
“ป๋อจิ่งชวน”
เธอหอบเบาๆ ความอุ่นซ่านที่เป่ารดลงมาบนใบหูและเสียงหายใจทุ้มต่ำของเขาทำเธอตัวเกร็งอย่างไม่รู้ตัว
ตอนที่ 368 จะเลยเถิดไปกันใหญ่
เธอข่มความตื่นเต้นที่ถูกปลุกออกมาจากภายในกายพร้อมทั้งความสั่นเทิ้มไว้อย่างสุดแรง “พอแล้ว…พอแล้ว…”
ฝ่ามืออุ่นร้อนกดทับลงบนเอวของเธอ ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยขยับชายเสื้อเธอให้เปิดออก ก่อนจะทาบลงบนเอวที่ไร้สิ่งกั้นขวาง
เฉินฝานซิงหัวใจหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ดวงตาสวยเบิกกว้าง
ผิวเนียนนุ่มทำให้ป๋อจิ่งชวนถูกใจเป็นที่สุด
“พอเถอะ…ขืนทำต่อไปจะเลยเถิดไปกันใหญ่…”
เฉินฝานซิงหอบเบาๆ มือของเธอกดลงไปบนหลังมืออีกฝ่ายผ่านเนื้อผ้า
“กล้าถอนตัวในตอนที่ผมคอยให้ท้ายแบบนี้ เฉินฝานซิง คุณอย่าให้ผมจับคุณได้ก็แล้วกัน!”
สิ้นเสียงทุ้มต่ำนั้น เขาก็ก้มลงมากัดเข้าที่ริมฝีปากของเธออย่างจัง
เฉินฝานซิงกะพริบตาปริบ แรงกัดที่ดุดันทำเอาเธอเผลอใจเต้นแรงอย่างตื่นตระหนก
เธอมีลางสังหรณ์ว่าหากถึงตอนนั้นจริงๆ เธอเองก็ไม่กล้าฟันธงว่าตัวเองจะตายไปกี่ครั้ง
“คุณไปอาบน้ำก่อน”
เมื่อสงบจิตใจลงได้ เฉินฝานซิงก็ถอนตัวออกมาจากใต้ร่างของเขา ทั้งยังแอบมองดวงตาของเขาอย่างหวาดๆ อยู่เล็กน้อย
นาทีที่ลุกขึ้นจากเตียง ป๋อจิ่งชวนก็ดึงข้อมือเธอไว้อีกครั้ง เสียงนุ่มทุ้มเป็นดั่งแอลกอฮอล์ที่ทำให้หัวใจสั่นไหวอย่างห้ามไม่ได้
“อาบที่นี่”
เฉินฝานซิงชะงักนิ่ง สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในสมองคือข้อความที่ป๋อจิ่งชวนส่งมาให้เมื่อบ่ายวันนี้
ตอนนี้ก็เหลือแค่ ‘นอนด้วยกัน’ แล้ว
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พยักหน้ารับ
“ไปสิ ใส่เสื้อของผม” ป๋อจิ่งชวนกระตุกมุมปากพร้อมเดินไปหยุดลงตรงหน้าตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเชิ้ตตัวหนึ่งออกมายัดใส่แขนเธอ
“นี่มัน…” เฉินฝานซิงมองเสื้อในอ้อมกอดด้วยความลังเล
“ทำไม”
ป๋อจิ่งชวนลดตาลงมองเธอ นัยน์ตาสีนิลลึกล้ำและเสียงทุ้มนุ่มนั่นราวกับพร้อมที่จะกระชากเธอเข้าไปหรือไม่ก็กระโจนเข้ามาได้ทุกเมื่อ ทำเอาเธอจำต้องส่ายหน้าปฏิเสธ
“เปล่าค่ะ”
ก่อนจะกอดเสื้อในมือแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมใบหน้าที่ร้อนฉ่า
อาบน้ำเสร็จแล้วเธอจึงถือโอกาสสระผมเสียด้วยเลย เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเธอก็หยิบเสื้อเชิ้ตของป๋อจิ่งชวนขึ้นมา
ในตอนแรกเธอยังแอบกังวลว่าเสื้อแค่ตัวเดียวคงจะคลุมทั้งตัวไม่มิดแน่
แต่เมื่อเธอมองไปยังกระจกซึ่งสะท้อนให้เห็นชายเสื้อที่คลุมเลยช่วงต้นขาไปได้อย่างพอดิบพอดี ดูเหมือนว่าเธอจะคิดมากไป
เห็นๆ กันอยู่ว่าเธอเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ตัวเล็กน่ารักขนาดนั้น ไม่นึกว่าเมื่อนำเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มมาสวมบนร่างกายแล้วมันจะดูตัวโตได้ขนาดนี้
ประตูห้องน้ำเปิดออก เฉินฝานซิงดึงเสื้อแล้วย่างเดินออกมาพร้อมเส้นผมที่เปียกชื้น
ป๋อจิ่งชวนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น เขาวางแท็บเล็ตในมือไว้อีกทาง ดวงตาคู่สีดำนิลไล่ไปตามเรือนร่างของเธอ เขามองเสื้อของตัวเองที่เธอสวมอยู่ก่อนที่เธอจะเดินมาหยุดลงตรงหน้าเขาแล้วนั่งลงเช็ดผมบนเตียง สองขาเรียวขาวเนียนละเอียดจนแทบสะท้อนแสงได้รวบเข้าหากันแน่นไม่ไหวติง แต่ทว่ายังคงดูเย้ายวนสายตา
แค่ได้กลิ่นก็รู้ว่าเธอใช้ครีมอาบน้ำของเขา แต่เมื่อมันอยู่บนร่างของเธอ กลิ่นหอมสดชื่นที่โชยออกมากลับแตกต่างออกไป มันถูกผสมไปด้วยกลิ่นของหญิงสาว และล่องลอยเข้าไปวนเวียนอยู่ที่ปลายจมูกของเขา
ชายหนุ่มลุกยืนขึ้น ร่างกายสูงใหญ่ทำให้บรรยากาศในห้องนอนเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา
เขาหยิบผ้าขนหนูในมือของเธอและเช็ดผมให้เธอแทน
นิ้วมือของเธอกระชับแน่น เธอเงยศีรษะขึ้นมองเขาก่อนที่สายตาของคนทั้งคู่จะสบประสานเข้าด้วยกัน นัยน์ตาลึกล้ำสะท้อนภาพของเธอแจ่มชัดราวกับหมู่ดาวนับพันที่สะท้อนบนผืนทะเลสาบ
เธอค่อยๆ กะพริบตาเบาๆ แล้วพยักหน้ารับอย่างจำนน “ค่ะ”