ตอนที่ 869-870

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 869 + 870 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 869 มิเทียบเท่าคุณชายน้อยผู้สำราญ

ตี้ฝูอีกล่าวต่อว่า “วันนี้เจ้าอาการจ้าไม่ดี การไม่ได้เมื่อคืนส่งผลยิ่งนัก ประกับช่วงเช้าวันนี้หักโหมเกินไป ดังนั้นยามนี้เลือดลมของเจ้าจึงรับการโคจรพลังของวิชาเหินหาวไม่ไหวอยู่บ้าง”

เขาหยิบผลไม้สีแดงฉ่ำวาวผลหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อดั่งเล่นกล “นี่มอบให้เจ้า”

นั่นคือผลชาดเทวะลูกหนึ่ง ทั้งสดทั้งใหญ่กว่าทุกผลที่เขานำออกมาก่อนหน้านี้

กู้ซีจิ่วไม่ได้รับไว้  ส่ายหน้าพลางตอบว่า “ผลไม้นี้คือของรางวัล ข้าไม่มีความชอบอะไร ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไม่จำเป็นต้องมอบสิ่งนี้ให้ข้า”

พลันหยิบโอสถฟื้นกำลังเม็ดหนึ่งออกมาจากถุงเก็บของตน โอสถชนิดนี้มีประโยชน์ยิ่งนักในการคลายความอ่อนล้าฟื้นฟูพละกำลัง กู้ซีจิ่วจะใช้มันฟื้นฟูทุกครั้งที่เหนื่อยล้า

ผลไม้ในมือตี้ฝูอีค่อยๆ หดกลับไป เขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ เขามองออกว่าโอสถของกู้ซีจิ่วไม่เลวจริงๆ ต่อให้สรรพคุณสู้ผลไม้ของเขาไม่ได้ แต่ก็ฟื้นฟูกำลังของนางได้แน่นอน

ตี้ฝูอีใบหน้าที่ซีดเซียวของนาง ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “วันนี้เจ้าอาการไม่ดี กลับไปพักก่อนเถิด! พรุ่งนีค่อยมารับโทษอีกครั้ง”

กู้ซีจิ่วก็รู้สึกว่าอาการของตนไม่ค่อยดีนัก ถึงอย่างไรเธอไม่ได้พักผ่อนมาสองวันหนึ่งคืนแล้ว แถมยังเข้าร่วมการฝึกซ้อมที่เข้มงวดถึงเพียงนี้อีก…ในเขายืดเวลาให้อีกวัน เช่นนั้นเธอก็หายใจได้คล่องแล้ว

เธอตอบรับคราหนึ่ง “เจ้าค่ะ ขอบพระคุณมาก!” แล้วหันหลังจากไปอย่างว่องไวทันที

ตี้ฝูอียืนอยู่ตรงนั้นมองแผ่นหลังของห่างไกลออกไป เหม่อลอยไปชั่วขณะ

เดิมีเขาคิดจะอธิบายแก่นาง ทว่าคิดไปคิดมาก็ยอมแพ้อีกครั้ง

เขาหลุบตามองมือตน สุขภาพของกู้ซีจิ่วดูเหมือนจะอ่อนแอกว่าที่เขาคาดไว้ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่านะ?

….

“นายท่าน ทำไมท่านกลับมาเร็วขนาดนี้ล่ะขอรับ?” มู่อวิ๋นเข้ามาต้อนรับ “ท่านคงมิได้ปล่อยให้นางฝึกฝนอยู่ที่นั่นพียงลำพังใช่ไหมขอรับ? นายท่าน ยากนักที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดนางเช่นนี้ ท่านจะปล่อยไปไม่ได้นะขอรับ”

ตี้ฝูอีปรายตามองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าตามข้ามา!”

ด้วยเหตุนี้มู่อวิ๋นจึงรีบตามตี้ฝูอีเข้าไปในเรือน

หลังจากเข้ามาแล้วตี้ฝูอีก็ไม่พูดไม่จาอยู่พักหนึ่ง และเพ่งพิศเขาขึ้นๆ ลงๆ ไม่หยุด มู่อวิ๋นถูกเขามองจนขนลุกแล้ว ค้อมกายเอ่ยขึ้น “นายท่าน?”

“มู่อวิ๋น แผนแสร้งปล่อยเพื่อจับของเจ้าเคยประสบความสำเร็จกับเด็กสาวมาแล้วกี่นาง พวกนางมีนิสัยอย่างไรบ้าง?”

“นี่…ข้าน้อยประสบความเสร็จมาแล้วสองนาง เย็นชานางหนึ่ง หยิ่งทะนงนางหนึ่ง”

“มา เล่าเรื่องเฉพาะของเจ้ากับสองนางนั้นให้ข้าฟังหน่อย ข้าจะฟังแก้เบื่อ”

ด้วยเหตุนี้มู่อวิ๋นจึงเล่า มู่อวิ๋นผู้นี้ความจริงแล้วเจ้าชู้อย่างยิ่ง ตอนที่เขายังไม่ได้ติดตามตี้ฝูอี ก็เคยเป็น ‘ยอดอาชาเลิศล้ำ เสื้อขนสัตว์เลอค่า มิเทียบเท่าคุณชายน้อยผู้สำราญ’ เป็นคุณชายเจ้าชู้ที่เคยเกี้ยวพาหญิงสาวมาแล้วมากมาย เขามีนิสัยประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง ยิ่งเกี้ยวพาสตรีได้ง่ายดายเท่าไหร่ก็เบื่อหน่ายง่ายขึ้นเท่านั้น ละทิ้งอย่างรวดเร็ว

มีอยู่ปีหนึ่งเขาไปดื่มสุรา ณ ที่แห่งหนึ่ง ผลคือที่นั่นมีหญิงบ่มสุราอยู่นางหนึ่ง เขาดึงดูดด้วยสารพัดวิธี ผลคือหญิงบ่มสุรานางนั้นเย็นชากับเขาเสมอ

เดิมทีเขาพียงอยากหยอกเย้าหญิงบ่มสุรานางนี้ตามประสาคนเจ้าชู้เท่านั้น หากอีกฝ่ายตอบรับง่ายๆ ยอมพลีกายให้เขา เขาก็คงละทิ้งในชั่วข้ามคืน แต่เนื่องจากหญิงบ่มสุรานางนี้ไม่ติดกับเขาเลย ทำให้หัวใจเขาคันยุบยิบ ยิ่งได้มาครองยากเท่าไหร่ก็ยิ่งสนใจอีกฝ่ายมากขึ้นเท่านั้น

เดิมทีหญิงบ่มสุรานางนี้กมิได้งามล่มเมืองถึงเพียงนั้น แต่เขากลับยิ่งมองยิ่งเห็นนางขัดเคืองนัยน์ตา ยิ่งไม่ได้มาครองก็ยิ่งอึดอัดคับข้อง รู้สึกเพียงว่านางเป็นโฉมงามอันดับหนึ่งในใต้หล้านี้ คนงามที่เขาประสบพบเจอนำมารวมกันแล้วยังงามสู้นางไม่ได้เลย

————————————————————————————-

 บทที่ 870 ดาบนั้นคืนสนอง

ด้วยเหตุนี้เขาจึงกลายเป็นลูกค้าประจำของหอสุราแห่งนั้น หาโอกาสไปหยอกเย้าโฉมงามนางนั้น แต่โฉมงามช่างมีจิตใจเข้มแข็งนัก ไมสนใจใยดีเขาเลย…

จนกระทั่งวันหนึ่งเขารู้สึกว่าโฉมงามนางนี้เกี้ยวพาไม่ได้จริงๆ ไม่คิดจะสิ้นเปลืองกำลังอีกต่อไป ดังนั้นจึงควบคุมตัวเองงดไปที่นั่นหนึ่งดือน หนึ่งเดือนผ่านไปเขาเตรียมการจะไปที่นี่เป็นครั้งสุดท้าย ถือว่าเป็นการบอกลาความรักข้างเดียวให้ตน ไม่นึกเลยว่าพอเขาไปถึงโฉมงามนางนั้นก็นัยน์ตาแดงก่ำ ถามเขาว่าเพราะเหตุใดถึงไม่มานานขนาดนี้ ยามนั้นเขาค่อนข้างทึ่มอยู่บ้าง เอ่ยถามสตรีนางนั้นไปประโยคเดียว “เจ้าคิดถึงข้าหรือ?”

ผลคือสตรีนางนั้นโผเข้าใส่อ้อมอกเขานเกิดเสียงดังตุบ!

กลายเป็นเรื่องราวอันงดงามของเขา

แน่นอนว่ามู่อวิ๋นผู้นี้เจ้าชู้มาตั้งแต่กำเนิด หลังจารักใคร่กับแม่งนางผู้นี้ไปได้ระยะหนึ่ง ก็พบ่าสตรีนางนี้มิได้ยอดเยี่ยมอย่างที่เขาจินตนาการไว้ เพียงแต่เนื่องจากได้มาครองอย่างยากลำบากทำให้สิ้นเปลืองความคดไปมากมายนัก ยามนี้พอได้มาครองแล้ว ขอเสียของอีกฝ่ายก็เผยของมาทันที

อย่างเช่นเท้าของอีกฝ่ายใหญ่ไปหน่อย ดั้งของอีกฝ่ายไม่มีสันอยู่บ้าง นิสัยใจคอของอีกฝ่ายค่อนข้างแย่เป็นต้น…

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเลิกรากับแม่สาวอดีตภูเขาน้ำแข็งนางนี้

นี้คือการใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับครั้งแรกของเขา แน่นอนว่าเป็นการทำลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ยังคงยอดเยี่ยมนัก ดังนั้นเขาจึงสรุปผลประสบการณ์ที่ได้รับมา ต่อมาก็นำไปใช้กับหญิงสาวรายที่สอง

หญิงสาวรายที่สองคือจอมยุทธ์หญิงนางหนึ่ง หยิ่งผยองย่างยิ่ง ประหนึ่งบุปผาบนยอดดอย แม้จะดึงดูวีรบุรุษนับไม่ถ้วนให้แข่งขันกันหมอบราบอยู่ใต้ชายกระโปรงนางได้

นางมีความลุ่มหลงอันพิสดารอย่างหนึ่ง นางคาดหวังให้ยอดบุรุษทั้งหมดในใต้หล้านี้ชมชอบนาง ต่อสู้กันเพื่อนางได้จะดีที่สุด สู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อนาง วิธีที่นางใช้หว่านบุรุษเหล่านี้ก็เป็นกลยุทธ์ปล่อยเพื่อจับเช่นกัน ไม่สนิทชิดเชื้อกับผู้ใดจริงๆ แต่ทำราวกับนางกำลังตกผู้อื่นอยู่ ไม่ให้ความหวังผู้อื่นแต่ก็ไม่ทำให้ผู้อื่นหมดความหวัง มักจะทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าเพียงก้าวเดียวก็จะไล่ตามนางทันแล้ว…

ในช่วงที่บุรุษเหล่านั้นถูกดึงดูดเสมือนบ้าคลั่งไป

สหายสนิทคนหนึ่งของมู่อวิ๋นก็เป็นหนึ่งในนั้น ทำการต่อสู้กับบุรุษอีกคนด้วยความหึงหวงในตัวนาง แทบจะเอาชีวิตไมอด จากนั้นก็ถูกสตรีนางนั้นเตะทิ้งเยี่ยงสุนัข

เมื่อเรื่องนี้ถูกมู่อวิ๋นทราบเข้า เขาจึงตัดสินใจล้างแค้นให้สหายสนิท ใช้วิธีดาบนั้นคืนสนอง

เริ่มแรกก็ตามเกี้ยวสตรีนางนั้นอย่างบ้าคลั่งอยู่หลายวันเช่นเดียวกับบุรุษคนอื่นๆ เขารูปโฉมหล่อเหลางามสง่า เมื่ออยู่ในหมู่บุรุษเหล่านั้นก็ดูราวกับต้นหยกสะโอดสะอง ย่อมดึงดูดความสนใจจากสตรีนางนั้นได้ สตรีนางนั้นสนิทชิดเชื้อกับเขามากก่าบุรุษคนอื่นๆ เล็กน้อย แต่ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น

มู่อวิ๋นเองก็ไม่รีบร้อน หลังจากตามเกี้ยวพาอย่างบ้าคลั่งอยู่หลายวันก็รามือ ไม่ปรากฏตัวต่อหน้าสตรีนางนั้นเลยหนึ่งเดือน ต่อมายามที่ปรากฏตัวอีกครั้งข้างกายเขาก็พาคนรู้ใจนางอื่นมาด้วย…

สตรีนางนั้นไม่ยินยอมอย่างยิ่ง เมื่อเห็นเขาดีต่อหญิงอื่นก็คับข้องหมองใจนัก ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มเข้าใกล้เขาจริงๆ คงอยากเอาชนะเขา

แต่เขาก็เฉยเมยอยู่ตลอด ทำให้สตรีนักตกผู้นั้นคันหัวใจยุบยิบ ปล่อยวางจากเขาไม่ได้มากยิ่งขึ้น ต้องการครอบครองหัวใจของเขา ต้องการให้เขาประคองนางไว้กลางฝ่ามืออีกครั้งเฉกเช่นก่อนหน้านี้…

ในท้ายที่สุด สตรีนางนั้นแทบจะมอบกายถวายชีวิตให้เขา มิใช่เขาก็ไม่แต่ง เขาจึงหยิบยื่นไมตรีให้แก่อีกฝ่าย ด้วยเหตุนี้สตรีนางนั้นจึง…จึงกลายเป็นหนึ่งในบรรดาคนรู้ใจมากมายของเขา

หลังจากได้นางมาครองแล้วขาก้สลัดสตรีนางทิ้งอย่างง่ายดายทันที ให้นางได้ลิ้มรสการอยู่มิสู้ตายหลังถูกบุรุษทอดทิ้ง…

เมื่อมู่อวิ๋นเล่าประสบการณ์ที่พบเจอในยามเยาว์สองเรื่องนี้จบ ก็รู้สึกว่ายังไม่เต็มอิ่ม ต่อมาจึงสรุปข้อคิดเห็นให้ด้วย…

————————————————————————————-